เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 309 ความไร้เดียงสา
บทที่ 309 ความไร้เดียงสา
จี้จิ่งเชินไม่ได้พูดอะไร
หากว่าเขาลงไปจริง ๆ เด็ก ๆ เหล่านั้นต้องกลัวเขาแล้ววิ่งกระเจิงแน่
เขากำลังจะพูดปฏิเสธ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พูดขึ้นมาก่อนว่า: “เชื่อฉัน พวกเขาชอบคุณมากจริง ๆ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วแล้วมองหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน และแล้วเขาก็ปฏิเสธไม่ลง
สุดท้ายเขาก็พยักหน้าตอบตกลง
“ถ้าอย่างนั้นผมลงไปดูหน่อยก็ได้ แต่ถ้ามันไม่โอเคผมกลับนะ”
“ได้สิ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า และจับมือเขาจากนั้นก็เดินไปด้วยกัน
ที่ลานกว้าง เด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนาน
แต่ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้เล่นปาหิมะกัน แต่พวกเขาปั้นตุ๊กตาหิมะกันอยู่
เด็ก ๆ ไปเก็บหิมะบนพื้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อปั้นเป็นรูปกลม ๆ
แต่เนื่องจากความสูงของพวกเขาไม่สูงมากนัก ก้อนหิมะก็เลยดูเล็ก ๆ ไปหน่อย
เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินมา เด็ก ๆ จำนวนหนึ่งก็วิ่งไปลากมือเธอมาเพื่อให้มาเล่นด้วยกัน
แต่เมื่อพวกเขาเห็นจี้จิ่งเชินพวกเขาก็หยุดนิ่งในทันที
เด็ก ๆ หันไปมองเขาด้วยความเก้ ๆ กัง ๆ จนกระทั่งไม่กล้าที่จะปั้นตุ๊กตาหิมะ และไม่มีใครกล้าพูดจาหรือเปล่งเสียงอะไรออกมาสักคำ
เดิมทีมีเสียงเจี๊ยวจ๊าวดงไปทั้งลาน แต่เมื่อจี้จิ่งเชินมา กลับเงียบสนิทลงในทันที
จี้จิ่งเชินมองปฏิกิริยาพวกเขา จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้น
ไหนบอกว่าชอบเขา จริง ๆ แล้วกลัวเขาต่างหาก
เขากำลังจะหันหลังเดินกลับไป แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับดึงเขาเอาไว้
เธอส่งสายตาให้จี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินจึงทำได้เพียงแค่หันไปมองเด็ก ๆ เหล่านั้นใหม่อีกครั้ง
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า: “ฉันมาเล่นกับทุกคน ปั้น……”
เขามองไปที่ก้อนหิมะก้อนเล็ก ๆ สองก้อน จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้น พร้อมทั้งพูดด้วยความยากลำบากว่า
“ปั้นตุ๊กตาหิมะ”
เขาพูดจบ แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเปล่งเสียงอะไรออกมา
แค่จี้จิ่งเชินเปล่งเสียงออกมาก็ไม่มีใครกล้าพูดแล้ว
เด็ก ๆ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาจ้องมองเขาด้วยความกลัว
จี้จิ่งเชินหันไปรอบ ๆ และพร้อมจะยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร
ทันทีที่เขายิ้มเด็กคนหนึ่งก็ร้องไห้ขึ้นมา
เมื่อเด็กคนหนึ่งร้อง เด็กคนอื่น ๆ ก็เริ่มแบะปากจะร้องไห้ตามไปด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนมองอยู่ข้าง ๆ ก็เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกคนที่ทำให้เด็กร้องไห้ได้ถึงขนาดนี้
เธอรับเข้าไปปลอบเด็กคนนั้นทันที
เห็นเช่นนี้แล้วจี้จิ่งเชินจึงยิ้มด้วยความเย็นชาเล็กน้อย และตอนนี้สีหน้าของเขานั้นไม่ดีนัก
เขาหันหน้ากลับด้วยความไม่พอใจ เป็นเหมือนที่เขาพูดไว้จริง ๆ เด็ก ๆ เหล่านี้กลัวเขา จะชอบเขาไปได้ยังไงกัน?
และขณะที่เขากำลังจะเดินไปนั้น จี้จิ่งเชินก็รู้สึกได้ว่ามีมือเล็ก ๆ นุ่ม ๆ กำลังดึงเขาอยู่
เขาก้มหน้ามองก็เห็นว่าเด็กน้อยสองคนที่เอาดอกไม้ไปให้เขาเมื่อสักครู่นี้กำลังดึงมือเขาอยู่
“คุณลุงจี้ คุณลุงจี้ไปปั้นตุ๊กตาหิมะกับพวกเราได้ไหม? ”
จี้จิ่งเชินมองเขาด้วยความแปลกใจ
เมื่อตอนเช้าเด็กสองคนนี้เกรงกลัวเขาเหมือนกันคนอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด แค่เห็นก็กลัว แค่พูดก็ขาสั่นไปหมด
“ฉัน……”
เขาปฏิเสธไม่ออก
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กทั้งสองคนนี้จะลากจี้จิ่งเชินเข้าไปด้านใน
จี้จิ่งเชินหันกลับมามองเวินเที๋ยนเที๋ยน ส่งสายตาให้เธอก็เพื่อที่จะให้เธอช่วยเขาสักหน่อย
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะโบกมือให้เขา และดูเหมือนกับเธอเต็มใจให้เด็กสองคนนี้ลากเขาไปเล่น
จี้จิ่งเชินถูกทั้งสองลากเข้าเข้าไป และมาอยู่ตรงหน้าเด็กคนอื่น ๆ
ครั้งนี้ก็เหมือนกับครั้งที่ผ่าน ๆ มา เขาแค่เข้าไปใกล้ แต่สีหน้าของเด็ก ๆ เหล่านี้ก็ซีดเซียวขาวราวกระดาษ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา อย่าว่าแต่จะให้ปั้นตุ๊กตาหิมะเลย
จี้จิ่งเชินถูกเด็กคนนั้นลากไปยืนอยู่ตรงหน้าตุ๊กตาหิมะ
พวกเขาเพิ่งจะเริ่มปั้น บนพื้นข้าง ๆ มีหิมะที่ปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ วางอยู่สองก้อน
คำว่าใหญ่ของเด็ก ๆ เหล่านี้ใหญ่ถึงแค่ขาของจี้จิ่งเชินเท่านั้น
เด็กคนนั้นชี้ไปที่ก้อนหิมะอีกก้อนพร้อมทั้งพูดว่า: “คุณลุงจี้ช่วยผมวางด้านบนหน่อยได้ไหมครับ ?”
จี้จิ่งเชินมองดูจากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้น
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งว่า: “หิมะสองก้อนนี้ใหญ่เท่า ๆ กัน ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าก้อนไหนเป็นร่างกาย? หากจะปั้นร่างของมันต้องปั้นให้ใหญ่กว่านี้สักหน่อย”
หนุ่มน้อยพยักหน้า แต่กลับขมวดคิ้วพร้อมทั้งพูดด้วยความกลัดกลุ้มใจว่า: “แต่พวกเราปั้นไม่ถึงน่าหน่า”
จี้จิ่งเชินเดินเข้าไป เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย
“ยื่นหิมะมาให้ฉัน”
หนุ่มน้อยนิ่งไปครู่หนึ่ง ต่อมาใบหน้าก็เผยรอยยิ้มอันสดใสออกมา
“ครับ! ”
หนุ่มน้อยยื่นหิมะให้จี้จิ่งเชิน จากนั้นก็ไปเก็บหิมะที่อยู่รอบ ๆ มาให้กับเขา
จี้จิ่งเชินรับหิมะจากเด็ก ๆ เหล่านี้มาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ อย่างต่อเนื่องจนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
เด็กคนอื่น ๆ ที่กำลังยืนดูอยู่อีกทางด้านหนึ่งเห็นว่าจี้จิ่งเชินไม่ได้โกรธ และไม่ได้ดุด่า
ผ่านไปครู่หนึ่งก็ค่อย ๆ มีเด็กคนอื่น ๆ เข้ามาร่วมเล่นกับจี้จิ่งเชินด้วย
ไม่นาน เขาก็ปั้นร่างของตุ๊กตาหิมะได้ใหญ่กว่าของเด็กคนอื่น ๆ และยังสูงอีกด้วย
ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็หยุด สองมือของเขาหนาวเย็นจนแดงไปทั้งมือ
เขาย้ายตุ๊กตาหิมะมาอีกทางด้านหนึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเช่นนี้แล้วก็รีบวิ่งเข้ามาทันที
“ฉันช่วยนะ”
ทั้งสองร่วมแรงกันถึงจะย้ายตุ๊กตาหิมะมาได้
จากนั้นก็สวมหมวกให้ตุ๊กตาหิมะ และแต่งเติมใบหน้าให้ มันเป็นตุ๊กตาหิมะที่สูงกว่าจี้จิ่งเชินเล็กน้อย เมื่อนำมาวางตรงกลางลานแล้วทำให้ดูเป็นที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก
เด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังเบิกตากว้าง มองดูตุ๊กตาหิมะด้วยความประหลาดใจจนอ้าปากค้าง
“นี่เป็นตุ๊กตาหิมะที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย! ”
“ใหญ่กว่าตอนที่เราปั้นที่บ้านเด็กกำพร้าเยอะเลยนะ ใหญ่มาก! ”
เด็ก ๆ มองดูด้วยความตื่นเต้น และมุงดูรอบ ๆ ด้วยความดีใจ
จี้จิ่งเชินร่นตัวถอยหลังมาหนึ่งก้าว และตุ๊กตาหิมะยังคงทรงตัวอยู่ แต่เด็ก ๆ ตอนนี้กำลังจับมือกัน และล้อมรอบตุ๊กตาหิมะแถมยังวิ่งล้อมรอบ ๆ ตุ๊กตาหิมะนี้อีกด้วย ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ
แต่เขาร่นตัวถอยหลังมาแค่ก้าวเดียวยังไม่ทันได้หนีออกไป ในวินาทีต่อมาเวินเที๋ยนเที๋ยนก็จับมือเขาเอาไว้
จี้จิ่งเชินจึงหยุดชะงักลง และกันไปมองเธอด้วยความแปลกใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนกะพริบตาเล็กน้อย ดึงมือเขาไปข้างหน้า จากนั้นก็ไปวิ่งล้อมรอบตุ๊กตาหิมะกับเด็ก ๆ
จี้จิ่งเชินหน้าดำคร่ำเครียด แต่ก็ไม่กล้าที่จะสะบัดมือเวินเที๋ยนเที๋ยนออก
แต่ไม่นานนัก หนุ่มน้อยที่ดึงมือเขาก่อนหน้านี้ได้เดินเข้ามาพร้อมด้วยจับมือจี้จิ่งเชินอย่างระมัดระวังเดินออกมาทางด้านหนึ่ง
จี้จิ่งเชินหันไปมองหน้าเขา และหนุ่มน้อยคนนี้ก็ยิ้มกว้างให้เขาด้วยฟันที่หายไปของเขา(ฟันหลอ)
จี้จิ่งเชินถูกลากเข้าไปตรงกลาง อีกทั้งยังโดนบีบบังคับให้หมุนรอบสองสามรอบ
พ่อบ้าน และแม่ครัวเดินออกมาจากบ้านใหญ่ กำลังจะไปเรียกจี้จิ่งเชินมาเพราะถึงเวลารับประทานอาหารแล้ว
แต่เมื่อเดินออกมาทั้งสองก็เห็นฉากที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
จี้จิ่งเชิน และเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเด็ก ๆ ลากไปวิ่งรอบตุ๊กตาหิมะ
เด็ก ๆ ที่มีหน้าตายิ้มแย้มสดใส จี้จิ่งเชินถึงแม้ว่าเขาจะเม้มปากเล็กน้อย ใบหน้านิ่ง แต่ในดวงตาของเขานั้นแอบซ่อนรอยยิ้มอยู่ และอารมณ์ของเขาก็ดีมากอย่างเห็นได้ชัด
แม่ครัวเห็นเช่นนี้แล้วก็แปลกใจ และนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งถึงจะถามว่า: “แบบนี้จะไปเรียกให้คุณผู้ชายทานข้าวไหม?”
พ่อบ้านส่ายหน้า และยืนมองดูพวกเขา
“รออีกสักครู่เถอะ ดูไปแล้วตอนนี้คุณผู้ชายยังไม่หิว”
เขามองภาพที่ลานในตอนนี้ และสีหน้าก็ยิ้มด้วยความเบิกบานใจขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคุณผู้ชายที่เป็นแบบนี้