เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 308 กลัวหรือชอบกันแน่
บทที่ 308 กลัวหรือว่าชอบกันแน่
จี้จิ่งเชินรู้สึกว่าในบรรดาเด็ก ๆ เหล่านี้มีเด็กสองคนที่ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่
บ่อยครั้งที่เขามาที่นี่ก็มักจะเห็นเด็กอยู่สองคนที่ทำตัวแปลก ๆ
ตอนแรก ๆ ก็คิดว่าพวกเขานั้นไม่ค่อยเหมือนคนอื่นสักเท่าไหร่
แต่หลังจากนั้นเมื่อมองไปสักพักเขาก็พบว่าเด็กสองคนที่ทำตัวแปลก ๆ นั้นเป็นเด็กที่เขาได้ช่วยออกมาจากป่า
เด็กน้อยทั้งสองคนค่อย ๆ หลบมุม และจ้องมองมาที่เขา
แต่เมื่อเขาหันไปมองทั้งสองก็ตกใจ และรีบหลบเขาอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าจี้จิ่งเชินจะเดินเข้าไป แต่ทั้งสองก็ไม่วิ่งหนีเขาแต่อย่างใด แต่กลับยืนจ้องมองเขาอยู่กับที่
จี้จิ่งเชินยังไม่ทันได้เปล่งเสียงพูดอะไรออกไป แต่ท่าทีของทั้งสองก็มองเขาแล้วเหมือนจะร้องไห้ ดูเหมือนกับว่าเขาเป็นคนรังแกทั้งสอง
จี้จิ่งเชินจ้องมองทั้งสอง และขมวดคิ้วขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอยู่ดี
แต่เด็กน้อยทั้งสองเมื่อเห็นจี้จิ่งเชินขมวดคิ้วเช่นนี้แล้วก็ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไป
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ไม่นานนักจี้จิ่งเชินก็พบว่าทั้งสองตอนนี้อยู่ข้าง ๆ เขา
หลังจากนั้นผ่านไปสองวัน จี้จิ่งเชินเริ่มสงสัยว่าเป็นเพราะวันที่พวกเขาหลงป่าในวันนั้นหรือเปล่า ถึงทำให้พวกเขาตกใจ และเกิดมีอาการแปลก ๆ แบบนี้ขึ้น เขาจึงคิดว่าควรจะติดต่อหมอจิตเวชให้มาดูอาการของพวกเขาสักหน่อย
ในวันนี้จี้จิ่งเชินได้เคลียร์งานในมือทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เขากำลังจะเก็บเอกสาร แต่ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เข้ามา”
พูดจบเสียงผลักประตูก็ดังขึ้นทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ที่ประตู
จี้จิ่งเชินเงยหน้าขึ้นมองเธอ พร้อมทั้งยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขากำลังจะเรียกให้เธอเข้ามาพอดี
แต่ทันใดนั้นเขาก็หันไปเห็นเงาสองเงาที่อยู่ด้านหลังเธอ
เป็นเด็กสองคนนั้นที่สองสามวันที่ผ่านมาที่แอบตามเขาอยู่ตลอดเวลา
ทั้งสองแอบอยู่ด้านหลังเวินเที๋ยนเที๋ยน และเอียงหน้ามามองเขา
เมื่อทั้งสองเห็นสายตาของจี้จิ่งเชินก็ตกใจจนหลบที่ด้านหลังเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง
แต่ก็เป็นเหมือนก่อนหน้านี้เช่นเดิม หลังจากที่หลบสายตาไม่นานก็แอบมองเขาอีกครั้ง
อยากมองแต่ก็ไม่กล้ามอง
จี้จิ่งเชินเริ่มขมวดคิ้วขึ้น
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจูงมือเด็กทั้งสองเดินเข้ามาในห้องพร้อมทั้งพูดให้กำลังทั้งสองเบา ๆ
เด็กน้อยทั้งสองคนค่อย ๆ เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง และมองดูจี้จิ่งเชินด้วยความขี้ขลาด
จี้จิ่งเชินรอดูว่าทั้งสองจะพูดอะไรออกมา
“คุณลุงจี้”
ทั้งสองเปล่งเสียงเรียกเขา
เยี่ยม เยี่ยมมาก แค่ประโยคแรกที่พูดออกมาก็เป็นคำที่เขาไม่ชอบแล้ว
แต่จี้จิ่งเชินก็ไม่ได้พูดตัดบทอะไรทั้งสองแต่อย่างใด
เด็กน้อยคนหนึ่งพูดขึ้นว่า: “ต้องขอโทษจริงนะครับ วันนั้นดอกไม้ในสวนกุหลาบขาวพวกเราเป็นคนทำหักเอง”
จี้จิ่งเชินได้ยินเช่นนี้แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน ต้องเป็นเด็กสองคนนี้แน่ที่เป็นคนบอกเธอ
สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นทันที แต่เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา
เด็กคนหนึ่งเห็นสีหน้าเขาแล้วก็เหมือนจะร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็มองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนและถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
เวินที๋ยนเที๋ยนหันไปพยักหน้ากับทั้งสองเพื่อให้กำลังใจ จากนั้นทั้งสองถึงจะมั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย
“ขอโทษครับ”
ทั้งสองกล่าวคำขอโทษพร้อมทั้งเอาขวดแก้วออกมาจากทางด้านหลัง
จี้จิ่งเชินหันไปมองพวกเขา และเมื่อเขาเห็นสิ่งของในขวดแก้วนั้นก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที
ภายในขวดแก้วใสนั้นมีดอกกุหลาบขาวหนึ่งดอกที่บานสะพรั่ง
สดสวยงดงามเป็นอย่างมาก
“หรือว่า……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปอธิบายว่า: “นี่เป็นดอกกุหลาบขาวในสวนที่ตอนนั้นยังไม่เบ่งบานดอกนั้น หลังจากที่พวกเขาพาฉันไปดูก็ปรากฏว่าในยังไม่เหี่ยวเฉา จากนั้นฉันก็ตัดออกเอามาใส่ในขวดแก้วนี้”
“หลายวันที่ผ่านมานี้เด็ก ๆ ทั้งสองคนเป็นคนดูแลมัน คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่ามันจะเบ่งบานออกมาได้ ดังนั้นฉันก็เลยพาพวกเขาทั้งสองนำดอกกุหลาบขาวดอกนี้มาให้คุณ”
ขณะที่พูดนั้นเธอก็หันไปมองเด็กน้อยทั้งสองด้วย
เด็ก ๆ ทั้งสองยื่นขวดแก้วนี้ให้กับจี้จิ่งเชินอย่างระมัดระวัง
“ให้ครับ”
เด็กสองคนที่อยู่ตรงหน้าเกรงกลัวเขาอย่างเห็นได้ชัด มือที่ถือขวดแก้วนั้นสั่นเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เด็กสองคนนี้เป็นเด็กที่เขาไม่ชอบเป็นอย่างมาก
เขาไม่ชอบคนที่อ่อนแอ
แต่ตอนนี้เมื่อเขามองเด็กสองคนนี้ จี้จิ่งเชินกลับโกรธทั้งสองไม่ลง
เขายื่นมือไปรับขวดแก้วมาพร้อมทั้งใช้สายตาที่จับผิดมองทั้งสอง
จากนั้นก็ติโน่นตินี่ไปเรื่อยว่า: “ใบเริ่มเหลืองแล้ว คงจะรับสารอาหารไม่เพียงพอ ส่วนกลีบก็ยังบานไม่หมด……”
เขาพูดติโน่นตินี่ไปเรื่อย ๆ จนสายตาของเด็ก ๆ ทั้งสองมองเขาด้วยความว่างเปล่า ทั้งสองเม้มปากเล็กน้อยอย่างน่าเอ็นดู ในดวงตามีน้ำใส ๆ คลั่งอยู่ซึ่งพร้อมที่จะไหลออกมาตลอดเวลา
จี้จิ่งเชินหันไปมองทั้งสอง จากนั้นก็พูดต่ออีกว่า: “แต่ดูไปแล้วก็สวยมากเหมือนกันนะ ขอบใจทั้งสองคนมาก”
เมื่อทั้งสองได้ยินเช่นนี้แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที ทั้งสองมองจี้จิ่งเชินด้วยความดีอกดีใจเป็นอย่างมาก
จากนั้นจี้จิ่งเชินยื่นขวดแก้วนี้กลับไปให้กับทั้งสอง พร้อมทั้งพูดกับทั้งสองว่า
“ช่วยฉันเอาไปให้พี่เที๋ยนเที๋ยนของพวกเธอหน่อยสิ”
ทั้งสองรับขวดแก้วจากมือเขามาด้วยความเต็มอกเต็มใจ และหันกลับไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง จากนั้นก็ยื่นให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสีหน้าที่ดีใจเป็นอย่างมาก
“พี่เที๋ยนเที๋ยน คุณลุงจี้มอบให้พี่เที๋ยนเที๋ยนครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับขวดแก้วมาพร้อมทั้งเอามือลูบหัวเด็กน้อยทั้งสองเบา ๆ ด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“เห็นไหม ตอนนี้จี้จิ่งเชินไม่โทษเราทั้งสองแล้วนะ ถ้าอย่างนั้นเรากลับบ้านไปเล่นกับเพื่อน ๆ กันเถอะ”
ทั้งสองพยักหน้าตอบรับ และก็หันไปยิ้มให้กับจี้จิ่งเชินด้วยความสดใสถึงจะกลับไปในที่สุด
เมื่อประตูห้องปิดลง เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปตรงหน้าจี้จิ่งเชิน และวางขวดแก้วลงบนโต๊ะทำงาน
กุหลาบขาวที่เพิ่งจะบานสะพรั่ง และมีหยดน้ำเล็ก ๆ เกาะอยู่บนกลีบ
เมื่อเทียบกับที่จี้จิ่งเชินเห็นมันในหิมะ ดอกกุหลาบขาวดอกนี้ที่ถูกทั้งสามคนดูแลอย่างดีดูมีชีวิตชีวามากกว่าเยอะ
ก่อนหน้านี้คิดว่าจะเป็นกุหลาบขาวที่เหี่ยวเฉา แต่ตอนนี้กลับกลายมาเบ่งบานสะพรั่งต่อหน้าเขาอีกครั้ง
จี้จิ่งเชินอดไม่ได้ที่จะโฟกัสสายตาไปที่ดอกกุหลาบขาวในขวดแก้วนี้
มิน่าล่ะว่าทำไมสองสามวันที่ผ่านมานี้เด็กทั้งสองถึงไปวนไปวนมาข้าง ๆ เขาตลอด เป็นเพราะพวกเขาเป็นคนทำดอกกุหลาบขาวนี้หักนี่เอง
ขณะที่จี้จิ่งเชินกำลังคิดอยู่นั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็นั่งลงตรงหน้าเขา เธอยิ้มเล็กน้อย
“พวกเขาชอบคุณมากนะ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้น และนึกถึงเด็กสองคนเมื่อสักครู่นี้ทันที
เมื่อนึกถึงตอนที่ตนเองนั้นทำให้พวกเขาตกใจกลัวจนตัวสั่น เขาก็นึกไม่ออกเลยว่าชอบเขาตรงไหน
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อว่า: “ขอบคุณนะที่คุณช่วยพวกเขาทั้งสองออกมาจากป่าได้”
“เป็นเพราะผมความสะเพร่าของผมเองถึงได้ทำให้พวกเขาเกือบจะหายตัวไป คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูกุหลาบขาวในขวดแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า: “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ดูกุหลาบดอกนี้บานไปพร้อมกับคุณ แต่รอให้ดอกไม้ในสวนบานสะพรั่ง ถึงตอนนั้นฉันไปดูด้วยได้ไหม?”
เมื่อจี้จิ่งเชินได้ยินคำพูดนี้ของเธอ เขาก็เงยหน้าไปมองเธอด้วยความแปลกใจทันที
ตอนนี้เป็นช่วงฤดูหนาว หากรอให้ดอกไม้ในสวนบานสะพรั่งหมดถึงตอนนั้นก็คงจะเป็นช่วงฤดูร้อนแล้ว
นี่เปรียบเหมือนคำสัญญาที่ทำให้จี้จิ่งเชินดีใจเป็นอย่างมาก
เขาพยักหน้าตอบรับ
“ได้อยู่แล้ว”
ขณะที่พูดนั้นก็มีเสียงดังมาจากนอกหน้าต่าง เป็นเสียงของเด็ก ๆ ที่กำลังเล่นกันอยู่
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้น และเวินเที๋ยนเที๋ยนก็พูดว่า: “คุณเสร็จงานแล้วใช่ไหม?”
จี้จิ่งเชินมองดูของในมือ
“วันนี้เสร็จแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มพร้อมทั้งพูดว่า: “ถ้าอย่างนั้นสนใจไปเล่นกับเด็ก ๆ ด้วยกันกับฉันไหม?”
จี้จิ่งเชินได้ยินเช่นนี้แล้วก็เงยหน้ามองเธอ เห็นเธอลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มกับเขา