เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 294 ผมกลัว
บทที่ 294 ผมกลัว
ชุดคนไข้ของจี้จิ่งเชินถอดออกมาแล้ว เปลี่ยนเป็นชุดสูท มองไปดูบางนิดๆ
ถึงแม้ตอนนี้หิมะจะหยุดแล้ว แต่อากาศยังคงหนาว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านนอก กำลังมีลมหนาวแรง
จี้จิ่งเชินยืนหันหน้าไปทางลมตรงนั้น เงยหน้าเล็กน้อย ยืนอย่างน่าสงสาร ไม่ขยับ และก็ไม่พูด
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วแน่น ถึงแม้จะทายออกว่าเป็นจี้จิ่งเชิน แต่พอคิดถึงภาพนี้ ในใจก็ถูกฉีกจนเจ็บ
เธอถอนหายใจ เดินเข้าไป
“ไม่ได้บอกให้คุณรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหรอกเหรอ?คุณมาทำอะไรที่นี่?”
จี้จิ่งเชินได้ยินเสียง ก็รีบเงยหน้าขึ้น
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน ทันใดนั้นสายตาก็เป็นประกาย และรู้สึกผิด
“ผมออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดตัดคำโกหกของเขาทันที
“แค่สี่ชั่วโมงก็ออกแล้ว?”
“กระดูกที่แตกกับแผลมีดแทงหายดีแล้วเหรอ?”
เพราะว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนโกรธ เสียงจึงดูสูง ฟังแล้วดูมีอำนาจ
เปรียบเทียบกับจี้จิ่งเชินที่ก้มหน้าลงเล็กน้อยตรงหน้า ตำแหน่งทั้งสองดูจะเปลี่ยนกัน
ก็เหมือนอาจารย์ กำลังสั่งสอนนักเรียนที่ไม่เชื่อฟัง
จี้จิ่งเชินพูดยืนหยัด “ดีหมดแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เชื่อ
“กระดูกแตกดีได้ง่ายขนาดนี้เชียว?หมอให้คุณพักสามเดือน ไม่ให้ถือของหนัก คุณพักสี่ชั่วโมง ใช่ไหม?”
หน้าของจี้จิ่งเชินแข็งขึ้นมา พร้อมกับเย็นชาเล็กน้อย เหมือนจะได้รับหารกัดเซาะของลมเย็น
แต่ตาคู่นั้น เอาแต่จ้องเที๋ยนเที๋ยน ลึกๆที่ดวงตามีความหวัง
“ผมกลัวคุณไป”เขาพูด
ทันใดนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็พูดด้วยอารมณ์ร้าย
“ฉันบอกแล้วไง สองสามวันนี้จะไปเยี่ยมคุณที่โรงพยาบาล ทำไมคุณไม่เชื่อฉัน?”
จี้จิ่งเชินพูดอย่างพยายาม “ผมกังวลว่าคุณจะจากไป ถ้าคุณไปจากผมอีก ผมจะไปหาคุณที่ไหน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว มองจี้จิ่งเชินตรงหน้า
ลมเย็นพัดเข้ามา แม้แต่เธอก็หนาวจนทนไม่ไหว
ยิ่งอย่าไปพูดถึงจี้จิ่งเชินที่เสื้อบางๆตรงหน้า
สักพักหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงพูด “คุณเข้ามากับฉันก่อนสิ ฉันจะหาเสื้อให้คุณ จากนั้นฉันจะให้จงหลีไปส่งคุณที่โรงพยาบาล”
จี้จิ่งเชินได้ยินประโยคหน้า ดวงตาก็เป็นประกายเล็กน้อย
แต่พอฟังประโยคหลัง สายตาก็หม่นลง
“ถ้าไปโรงพยาบาล คุณจะมาเยี่ยมผมไหม?”
เสียงนี้น่าสงสารเล็กน้อย ทำให้เท้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดลงอย่างควบคุมไม่ได้
“ฉันเคยบอกแล้ว รอให้ฉันคิดดีๆ ฉันจะไปเจอคุณเอง”
จี้จิ่งเชินพูดตรงๆ “ถ้าคุณไม่ไปโรงพยาบาล ผมสามารถไปหาคุณได้ที่ตระกูลหล่อน”
ได้ยินประโยคนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ขมวดคิ้วหันไปมองเขา
“คุณคิดว่าแผลที่ตัวคุณไม่หนักพอ?ถ้ายังวิ่งไปไหนมั่วอีก บางทีคุณอาจจะต้องพักถึงหนึ่งปีถึงจะฟื้นตัวได้ก็ได้”
จี้จิ่งเชินพึมพำเล็กน้อย
“ถ้าพักหนึ่งปีแล้วจะยังไง?”
ถึงเขาจะพูดเบาๆ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้ยิน
เธอจ้องจี้จิ่งเชินอย่างไม่พอใจ เดินเข้าไปข้างใน
ในสวนก็เจอฉวีผิงพอดี เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเรียกเขาไว้
“พ่อบ้าน ที่บ้านมีเสื้อที่จี้จิ่งเชินพอจะใส่ได้ไหม?เอามาให้ฉันหนาๆหน่อย อากาศหนาวมาก”
พ่อบ้านมอง จี้จิ่งเชินที่ตามเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ด้านหลัง ยิ้มออกมา
เมื่อครู่จี้จิ่งเชินอยู่ที่หน้าประตู เขาก็พูดไปแล้ว อยากให้จี้จิ่งเชินเข้ามา
แต่จี้จิ่งเชินยังไงก็ไม่ยอม กังวลว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ยอม ไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าเธอ
สามารถสั่งสอนให้นักธุรกิจที่มีพรสวรรค์ เป็นความภาคภูมิใจของโลก เป็นแบบนี้ได้
คุณเวินมีความกล้าหาญของคุณนายหล่อนจริงๆ
ฉวีผิงพูด “เสื้อของผมคุณจี้น่าจะใส่ไม่ได้ แต่ผมไปถามคุณเวินให้ได้ครับ เสื้อผ้าของเขาน่าจะมีที่เหมาะสม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าพูด “งั้นก็รบกวนแล้ว ถ้าหาที่เหมาะสมได้ เอามาให้ที่ห้องฉันด้วย”
พอพ่อบ้านออกไป เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พาจี้จิ่งเชินเดินผ่านป่าต้นเมเปิ้ล มาที่ห้องตัวเอง
ปิดประตู เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หันไปมองจี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ตรงห้องนอนในตอนนี้
ท่าทางเขามองดูวุ่นวายจนทำตัวไม่ถูก
ถึงแม้คำนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่สามารถใช้คำนี้ที่จี้จิ่งเชินได้
แต่ตอนนี้ จี้จิ่งเชินเป็นแบบนี้จริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดตรงๆ “ถอดเสื้อนอกออก ไปพักที่เตียงดีๆ”
เธอพูด จี้จิ่งเชินก็รีบอย่างไว
แป๊บหนึ่งเขาก็ถอดเสื้อผ้า แล้วนอนอยู่บนเตียง
เวินเที๋ยนเที๋ยนช่วยเขาห่มผ้า พูดไปว่า “หมอเคยบอก กระดูกที่หักในกระดูกสันหลังของคุณ ไม่ควรจะเดินไปมา ควรพักที่เตียง เดินนานๆ การกดทับที่กระดูกสันหลัง แล้วแผลก็ยากที่จะฟื้นฟู”
“และทุกครั้งที่เดินก็จะเจ็บ หรือว่าคุณไม่เจ็บ?”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินขาวซีด
เมื่อครู่ที่อยู่ด้านนอก เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าแข็งแล้ว
แต่ตอนนี้นอนอยู่ที่เตียง สีหน้าก็ยังไม่ดี
มองดูที่ผมของเขา ก็เปียกเล็กน้อย
ชัดเจนมาก ว่ามันเปียกเหงื่อ
แค่ดูก็รู้ จี้จิ่งเชินเจ็บจนทนไม่ไหว แต่ไม่พูดอะไร
ถึงตอนนี้ จะได้ยินเวินเที๋ยนเที๋ยนถามแบบนี้
จี้จิ่งเชินก็พูด “ไม่เจ็บ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเข้าหากัน
“นอนพักดีๆ ก่อนจงหลีมา คุณห้ามลงไปไหน”
พูดจบ เธอก็หมุนตัวหยิบโทรศัพท์ โทรหาจงหลี ให้เขารีบมารับเขาไป
พอโทรเสร็จ เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้ามา ก็เห็นจี้จิ่งเชินมองตัวเองตลอด
เธอเดินเข้าไป พูด “ถ้าคุณง่วง ก็นอนสักพักก่อน”
“คุณจะพักกับผมไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า
“ฉันจะรอพ่อบ้านกับจงหลีมา แล้วค่อยส่งคุณไป”
สายตาจี้จิ่งเชินดูผิดหวัง เอาแต่มองเวินเที๋ยนเที๋ยน
ดวงตาคู่นี้ที่เอาแต่ใจเมื่อก่อน ค่อนๆมีอารมณ์ที่แตกต่างออกไป
และตอนนี้กลับมีความหวังที่ดูน่าสงสาร เวินเที๋ยนเที๋ยนใจเต้น ทันใดนั้นก็รู้สึกผิด
เธอยื่นมือไป ปิดตาของจี้จิ่งเชิน เหมือนที่เมื่อก่อนจี้จิ่งเชินเคยทำกับเธอไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดเสียงทุ้ม “อย่ามองฉันแบบนี้ จี้จิ่งเชิน”
“ให้เวลาฉันหน่อย ได้ไหม?”
เฮต้องการคิดดีๆ
จี้จิ่งเชินไม่ขยับ แต่พูด “คุณจะใช้เวลานานแค่ไหน?หนึ่งชั่วโมงหรือว่าสองชั่วโมง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูด “ไม่ไวขนาดนั้น”
จี้จิ่งเชินยกมือขึ้น ดึงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ปิดอยู่ที่ดวงตาของตัวเอง ค่อยๆละออก ตามองไปที่เธอ
“คุณต้องการนานแค่ไหน ไม่ว่านานแค่ไหนผมรอคุณได้ แต่ก่อนหน้านั้น ให้ผมอยู่ข้างๆคุณ”
ตาของเขามีความกลัวอยู่ลึกๆ
“ผมกลัว เที๋ยนเที๋ยน ผมรู้สึกกลัว”
“ผมกลัว ถ้าเวลานานไป คุณลืมผม ผมจะทำยังไง?”
“ผมกลัว คุณไปจากผมนาน คุณลืมที่พวกเราผ่านมาด้วยกันจะทำไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าพูด “จี้จิ่งเชิน บางเรื่องไม่มีทางลืมได้หรอก”