เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 266 ยิ้มเข้าไว้
บทที่ 266 ยิ้มเข้าไว้
หมินอันเกออยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งวัน ไม่ง่ายกว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะดึงจิตใจของตัวเองกลับมาได้
แต่ในถัดมา ก็มีข่าวอีกข่าวหนึ่งแพร่กระจายไปทั่ว ทั้งในและนอกเมืองหลวง
มีข่าวลือว่า ตระกูลจี้กำลังจะจัดงานเลี้ยง ซึ่งงานเลี้ยงนี้จะจัดให้กับคู่หมั้นของจี้จิ่งเชิน
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้รู้ข่าวนี้ เธอกลับไม่ได้รับจดหมายเชิญใดๆ
จนในที่สุดคุณนายหล่อนก็สังเกตเห็นถึงความแปลก
เธอมองเห็นทุกท่าทีของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ในสายตาของเธอ เธอไม่ได้ถาม แต่พูดออกไป: “เที๋ยนเที๋ยน หนูจะไปร่วมด้วยเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้พูดอะไร
จนถึงวันนี้ เธอไม่ได้เจอจี้จิ่งเชินมานานมากแล้ว
แม้แต่งานเลี้ยงของคู่หมั้นของเขา ก็ไม่มีเธอ
เธอก้มหน้ามองแหวนในนิ้วมือของเธอ
คู่หมั้นของจี้จิ่งเชิน ไม่ใช่เธอเหรอ?
เมื่อคุณนายหล่อนเห็นการกระทำของเธอ ก็ยื่นมือไปจับเธอไว้ และรอให้สายตาของเธอมองมาที่ร่างของตัวเอง
“หมินอันเกอก็จะต้องไปร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วยเหมือนกัน และเขาก็ไม่มีคู่ควงพอดี งั้นหนูก็ถือว่าช่วยเขาแล้วกัน เป็นยังไง? ”
ถึงแม้คุณนายหล่อนพยายามจะพูดให้เธอรู้สึกดี แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความทุกข์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนน้อยลงเลย
เธออยากจะไปจริงๆ
บางทีเธออาจจะได้เจอจี้จิ่งเชินในงานเลี้ยงนี้ และเธอก็จะได้ถามเขาให้รู้เรื่อง
คิดอยู่สักพัก สุดท้ายเวินเที๋ยนเที๋ยนก็พยักหน้า
“ได้ค่ะ”
ตอนเย็น หมินอันเกอก็มาที่นี่ตามนัด
คุณนายหล่อนพาเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาส่งให้เขา
“ฉันไปงานด้วยไม่ได้ ยังไงก็ฝากหมินอันเกอช่วยดูและเที๋ยนเที๋ยนด้วยนะ”
หมินอันเกอพยักหน้า“วางใจได้เลยครับ คุณนายหล่อน”
คุณนายหล่อนยังคงยืนอยู่หน้าประตู มองดูรถที่ค่อยๆเคลื่อนออกไปจากบ้านตระกูลหล่อนด้วยสายตาที่กังวล
ภายในรถ เงียบสนิทเพราะไม่มีใครยอมพูด
หมินอันเกอหันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่มีท่าทางโดดเดี่ยว แม้แต่อารมณ์ก็ตามเธอหนักอึ้งขึ้นมา
วันนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนใส่เดรสสีเนื้อ ผมสีน้ำตาลแดงของเธอถูกหวีเก็บไว้อย่างเรียบร้อย เผยให้เห็นหน้าผากอันเนียนใส
บรรยากาศภายในรถอึมครึม ราวกับกำลังจะแข็งตัว
หมินอันเกอจึงยื่นมือออกไป แล้วเอานิ้วชี้จิ้มไปที่แก้มของเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รีบหันหน้ากลับมา
และหมินอันเกอก็ใช้นิ้วชี้คลี่มุมปากของเธอ
“ยิ้มหน่อยสิ”
“เธอเป็นผู้หญิงในงานเลี้ยงที่สวยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ จะไม่ยิ้มได้ยังไง”
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยิ้มไม่ออกจริงๆ“พี่หมิน ในวงการบันเทิงก็น่าจะมีผู้หญิงสวยๆเยอะนะคะ”
หมินอันเกอจึงพูดออกมาอย่างจริงจัง: “ใช่ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนมีแค่คนเดียวนิ”
“ไม่ว่ายังไง ก็ยิ้มเข้าไว้นะเที๋ยนเที๋ยน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ พยายามบังคับตัวเองให้ไล่ความเศร้าซึมที่อยู่ในหัวออกไป
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
รถก็ค่อยๆเคลื่อนมาจอดตรงหน้าคฤหาสน์ของตระกูลจี้
คฤหาสน์สว่างไสวทั้งหลัง และด้านนอกของคฤหาสน์ก็มีรถจอดอยู่เต็มไปหมด
หมินอันเกอลงจากรถ และเดินไปเปิดประตูรถให้กับเธอ แล้วก็ยื่นมือของเขาออกไปให้เธอ
“พวกเรามาถึงแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่ในรถสักพัก เพื่อปรับสีหน้าของเธอไม่ให้ดูแย่จนเกินไป เมื่อเรียบร้อยแล้วเธอจึงนำมือมาจับที่มือของหมินอันเกอ และลงมาจากรถ
หน้าประตูมีคนเฝ้าอยู่สองคน และเมื่อพวกเขาเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน พวกเขาก็มองหน้ากันอย่าเลิ่กลั่ก
“ทำยังไงดี? ขัดขวางหรือไม่ขัดขวางดี?”
“คุณจี้บอกให้ขัดขวาง แต่ว่าคุณเจียงบอกไม่ให้ขัดขวาง……”
ทั้งสองคนเดินเข้าไปหาอย่างลังเล แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกหมินอันเกอขัดเอาไว้ก่อน
เขานำการ์ดเชิญออกมาและยื่นให้กับพวกเขา
“ทุกคนสามารถพาคู่ของตัวเองมาได้”
เมื่อพูดเสร็จ เขาก็พาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปในงาน
คนเฝ้าประตูทั้งสองคนมองไปที่แผ่นหลังของพวกเขาที่เดินเข้าไปในงานและขมวดคิ้ว
ทันทีที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกับหมินอันเกอเดินเข้ามาถึงในงานเลี้ยง สายตาของแขกในงานทุกคนก็มองมาที่เธอ แล้วก็เลื่อนไปมองทางอื่น
แต่ผ่านไปหนึ่งวิ ก็หันกลับมามองเธออีกครั้ง
ทุกคนกำลังสงสัย ว่าทำไมเวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้เข้ามาในงานกับหมินอันเกอ?
ได้ยินมาว่า งานเลี้ยงในวันนี้จัดให้กับคู่หมั้นของจี้จิ่งเชิน
แล้วทำไมเวินเที๋ยนเที๋ยนที่เป็นเจ้าของงานถึงมายืนอยู่ที่นี่ล่ะ?
พวกเขามองด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่อีกด้านหนึ่ง จี้จิ่งเชินมองเห็นทุกท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยน ที่ดูเหมือนเตรียมใจมาพร้อมสำหรับดูฉากแสดงของเขา
เดิมทีงานเลี้ยงเป็นงานที่เงียบสงบ แต่เพราะการปรากฏตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน จึงทำให้งานเลี้ยงเริ่มมีเสียงดังขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืดหลังตรง เม้มปากไว้แน่นแล้วหันไปมองสายตาของทุกคน
หมินอันเกอกำลังยืนอยู่ข้างหลังของเธอ และพาเธอเดินเข้าไปข้างใน
เขาเดินไปด้วย และพูดใส่ข้างหูของเธอไปด้วย: “รอให้จี้จิ่งเชินออกมาก่อน แล้วเดี๋ยวฉันจะพาเขาไปที่สวนดอกไม้ พวกเธอสามารถไปคุยกันที่นั่นได้”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินประโยคนี้ของเขา เธอก็ดึงสติของตัวเองกลับมา แล้วพยักหน้า
“ค่ะ”
ทั้งสองคนเดินมาอยู่ในมุมที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของทุกคน
แต่ก็ยังมีคนหันมามองทางเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่บ่อยๆ ส่วนหมินอันเกอก็ยืนอยู่ข้างๆของเธอ และคอยเล่าเรื่องน่าสนใจที่เกิดขึ้นตอนอยู่ฝรั่งเศสของตัวเองให้เธอฟัง
เวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งใจฟังมาก จนทำให้เธอลืมสายตาแปลกๆที่ทุกคนใช้มองเธอได้
ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงของท่านจางดังขึ้น
“สาวตัวน้อย ทำไมเธอถึงไม่อยู่กับจี้จิ่งเชินล่ะ?”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้น ก็เห็นท่านจางและท่านเปิงยืนอยู่ข้างหน้าของเธอ
ทั้งสองคนมองมาที่พวกเขาอย่างประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินมาว่า งานเลี้ยงนี้เป็นงานที่จัดให้กับจี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ใช่เหรอ
เดิมทีคิดว่าถ้ามาแล้ว จะได้เห็นภาพที่มีความสุขของทั้งสองคน
แต่ไม่คาดคิดว่า เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยืนอยู่กับหมินอันเกอ และทั้งสองคนก็ยังคุยกันอย่างสนุกสนานด้วย
“ท่านเปิง ท่านจาง”เวินเที๋ยนเที๋ยนเรียกชื่อพวกเขาทั้งสองคน
ท่านจางมองไปที่หมินอันเกอแวบหนึ่ง แล้วตั้งใจเดินเข้าไปเบียดเขาออกและยืนคั่นกลางระหว่างพวกเขาสองคน
“จริงด้วยสิ สาวตัวน้อย ช่วงนี้เธอไม่ค่อยมาหาฉันเลย เธอรู้ไหมฉันได้เจอสิ่งของใหม่ๆมากมายเลยนะ”
เมื่อหมินอันเกอเห็นการกระทำที่ชัดเจนขนาดนี้ของเขา จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
แต่ก็ยังดีที่มีท่านจางกับท่านเปิงที่คอยคุยกับเวินเที๋ยนเที๋ยน จึงทำให้เธอดูไม่ได้คิดมากเหมือนเมื่อสักครู่แล้ว
เมื่อจี้จิ่งเชินลงมาจากตึก ภาพแรกที่เขาเห็นก็คือภาพที่เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนคุยกับท่านจางและท่านเปิง
และเมื่อเขาเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาก็ขมวดคิ้วทันที
ทั้งๆที่เขากำชับคนที่เฝ้าประตูไว้แล้ว ว่าถ้าเวินเที๋ยนเที๋ยน ให้ขัดขวางเธอไว้อย่าให้เธอเข้ามาในงานได้
แต่ทำไมเธอถึงเข้ามาอยู่ในงานเลี้ยงได้ล่ะ?
จี้จิ่งเชินหรี่ตาลงเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็เห็นหมินอันเกอที่ยืนอยู่ข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยน สายตาของเขาหม่นหมองขึ้นมาเล็กน้อย
ตอนแรกเจียงหยู่เทียนเดินตามหลังเขามา แต่เมื่อเธอมองตามสายตาของจี้จิ่งเชินเธอก็ได้เห็นคนที่ยืนอยู่ในมุม แล้วเธอก็ยิ้มออกมา
เธอก้าวไปข้างหน้า และจับมือของจี้จิ่งเชิน
“ไปค่ะ”
จี้จิ่งเชินอยากสะบัดมือของเธอออก แต่ก็ต้องควบคุมอารมณ์ไว้ และเดินลงไปข้างล่าง
เมื่อทั้งสองคนเดินออกมา แขกที่อยู่ในงานเลี้ยงก็มีเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที
พวกเขาหันไปมองจี้จิ่งเชินกับเจียงหยู่เทียน แล้วหันมามองเวินเที๋ยนเที๋ยนกับหมินอันเกอที่ยืนอยู่ในมุม ด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่……
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเห็นพวกเขา ตั้งแต่พวกเขาเดินลงมาแล้ว
ในตอนนั้น เธอไม่ได้ยินเลยว่าหมินอันเกอกับท่านจางที่ยืนอยู่ข้างๆเธอกำลังพูดอะไรอยู่
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองเขาทั้งสองคน รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าหุบลงทันที
สายตาของจี้จิ่งเชินจ้องมองอยู่ที่ร่างของเธอ
มือของเวินเที๋ยนเที๋ยนสั้นขึ้นมาเล็กน้อย แต่สักพักก็ถูกมือของหมินอันเกอจับไว้
“เที๋ยนเที๋ยน”
“เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหัวไปมา แล้วละสายตาจากพวกเขาสองคน”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”