เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 259 คุณยินดีที่จะแต่งงานกับผมไหม
บทที่259 คุณยินดีที่จะแต่งงานกับผมไหม
เวินเที๋ยนเที๋ยนลืมตา ยังไม่ทันจะมองภาพเบลอๆตรงหน้าให้ชัดเจนเลยนั้น เธอก็ได้ยินเสียงนกหวีดที่คุ้นเคยดังขึ้นเสียก่อน
และในทันนั้นเอง เธอก็เหมือนจะเดาอะไรบางอย่างได้แล้ว?
ครั้งที่แล้วที่ร้านอาหารTHALIA จี้จิ่งเชินก็พาเธอมาดูพลุที่นี่เช่นกัน
เมื่อเพิ่งจะคิดได้เช่นนี้ สายตาของเธอก็ค่อยๆชัดเจนขึ้นมา พลุลูกใหญ่ถูกจุดขึ้นตรงสายตาของพอดี!
พลุลูกใหญ่หลากสีใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะเต็มท้องฟ้า
ภาพแบบนี้ ไม่ว่าจะเห็นซักกี่ครั้ง ล้วนแต่ทำให้หัวใจเต้นแรงได้ทั้งนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับมา กำลังจะมองมายังจี้จิ่งเชิน
และตามมาด้วยพลุลูกที่สองที่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า!
ปัง!
พลุระเบิดออกมา และในวินาทีต่อมานั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เบิกตาโตขึ้น
ท่ามกลางพลุลูกใหญ่นั้น ค่อยๆลอยออกมาเป็นตัวอักษรสองตัว
เที๋ยนเที๋ยน
เธอมองตัวอักษรที่ลอยอยู่กลางท้องฟ้านั้นอย่างเหลือเชื่อ แม้กระทั่งลืมการกระทำของตัวเองเมื่อครู่นี้ไปเสียแล้ว
ตามมาด้วยพลุลูกอื่นๆที่ถูกจุดลอยขึ้นกลางอากาศ
จำนวนพลุที่นับไม่ถ้วนนี้ เบ่งบานอย่างเป็นระเบียบอยู่กลางท้องฟ้า
และในขณะเดียวกันตัวอักษรภาษาอังกฤษประโยคหนึ่งก็ลอยขึ้นมา
Would you marry me?
คุณยินดีที่จะแต่งงานกับผมไหม?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูตัวอักษรเหล่านี้แล้ว แทบหยุดหายใจ
เธอหันหน้ามา เห็นจี้จิ่งเชินที่กำลังคุกเข่าข้างหนึ่งลงข้างๆเธอ
มือหนึ่งของเขาถือกุหลาบสีแดงสวยสดงดงามเอาไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งนั้นในมือมีกล่องเล็กๆใบหนึ่งเปิดออกอยู่
แหวนเพชรวงหนึ่ง วางอยู่ในนั้น
การแสดงออกของจี้จิ่งเชินในเวลานี้จริงจังมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยน ในแววตาของเขานั้นมีเงาของเธอแค่เพียงคนเดียว
ในหัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นว่างเปล่า นัยน์ตาของเธอหลงเหลือเพียงแค่ลักษณะท่าทางของจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้างเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นมา จ้องมองเวินเที๋ยนเที๋ยน
“คุณเวินเที๋ยนเที๋ยนครับ คุณยินดีที่จะแต่งงานกับผมไหมครับ?”
“ไม่ว่าจะเกิดแก่เจ็บตาย ไม่ว่าจะยากจนหรือมั่งมี ผมจะอยู่ข้างๆคุณ จะปัดเป่าความทุกข์ให้คุณ จะกลายเป็นที่พึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดให้กับคุณ”
จี้จิ่งเชินสูดหายใจเข้า เพื่อให้ตัวเองดูไม่ตื่นเต้นมากขนาดนั้น
“ดังนั้น คุณเวินเที๋ยนเที๋ยน ครั้งนี้ คุณจะแต่งงานกับผมในฐานะที่คุณเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ไหมครับ?”
พวกเขาเคยแต่งงานกันครั้งหนึ่งแล้ว ไม่มีการขอแต่งงาน ไม่มีการจัดงานแต่งงานใดๆ
แม้แต่สถานะของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นยังเป็นเรื่องโกหกเลยเสียด้วยซ้ำ
ครั้งนี้ มีเพียงแค่เธอที่อยู่ในฐานะเวินเที๋ยนเที๋ยนเพียงเท่านั้น
หลังจากที่จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดจบแล้วนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองเวินเที๋ยนเที๋ยน
ผู้หญิงคนที่ถูกเขายึดเป็นศูนย์กลางของโลกคนนี้ ผู้หญิงคนที่เขาอยากจะปกป้องไปตลอดชีวิต
คำพูดประโยคเดียวของเขา เป็นทั้งนรกและสวรรค์
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีความสุขท่วมท้น แต่กลับทำให้เธอแสบจมูกแสบตาไปหมด น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอ ส่องแสงเป็นประกายออกมาท่ามกลางแสงไฟและพลุที่จุดเหล่านี้
เธอชะงักไป แล้วถึงได้พยักหน้าลงในที่สุด
“ฉันยินดีค่ะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของจี้จิ่งเชินค่อยๆขยายกว้างขึ้น แม้แต่ดวงตาของเขาก็ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เขาจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แล้วสวมแหวนเพชรลงบนนิ้วกลางของเธอ
จี้จิ่งเชินลุกขึ้น มือทั้งสองข้างจับแก้มของเธอเอาไว้ แล้วประทับจูบลงไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อรับจูบของจี้จิ่งเชิน
ด้านนอกหน้าต่าง มีพลุอีกลูกหนึ่งที่จุดขึ้น เป็นหัวใจแห่งความรักที่สมบูรณ์แบบอยู่ท้องฟ้า
เวลานี้เอง หิมะที่รอคอยมานานนั้นก็ได้ตกลงมาแล้ว ค่อยๆปกคลุมลงบนพื้นทีละเล็กทีละน้อย
ด้านนอกอากาศหนาวมาก เวินเที๋ยนเที๋ยนกอดจี้จิ่งเชินเอาไว้แน่น
ส่วนที่นี่อบอุ่นเหมือนกับฤดูใบไม้ผลิ
การจุดพลุที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ทำให้เรื่องการขอแต่งงานของจี้จิ่งเชินนั้นแพร่กระจายไปทุกมุมทุกส่วน
แม้กระทั่งมีคนเอาเรื่องการขอแต่งงานของเขานั้นลงหนังสือพิมพ์ เผยแพร่ไปทั่วโลก
แต่ได้เผชิญหน้ากับการแต่งงานที่หวานชื่นแบบนี้ ใช่ว่าทุกคนจะรู้สึกพอใจ
จี้ยี่หยันเห็นการรายงานที่มืดฟ้ามัวดินในมือนั้น สีหน้ายิ่งดูแย่ขึ้นไปเสียอีก
เสียงปึงดังขึ้น เขาเอาหนังสือพิมพ์ในมือนั้นเขวี้ยงลงบนโต๊ะ
แล้วหันมามองฉวีช่วยฉินพลางเอ่ยขึ้น : “แม่ แม่ยังเตรียมไม่เสร็จอีกหรือ?”
“ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ตระกูลจี้จะไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆนะ!”
ฉวีช่วยฉินอ่านรายงานในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น แล้วขมวดคิ้วขึ้นด้วยเช่นกัน
ดูสถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้ แล้วดูจี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขเช่นนี้สิ ยิ่งทำให้จิตใจของเธอบิดเบือนมากยิ่งขึ้นไปอีก
เธอกัดฟันแล้วเอ่ยขึ้น : “วางใจเถอะ แม่ให้พวกเขาไปเอาของชิ้นนั้นมาแล้ว”
“เมื่อก่อนเพื่อไม่ให้จี้จิ่งเชินรู้ แม่เลยเอาไปซ่อนไว้ที่ต่างประเทศ เพียงแค่รอของมา พวกเราก็ไปหาจี้จิ่งเชินได้เลย”
ได้ยินเช่นนี้แล้ว ใบหน้าของจี้ยี่หยันถึงได้มีรอยยิ้มแห่งความพอใจปรากฏออกมา
แต่เมื่อหันกลับมาเห็นข่าวรายงานเรื่องของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินแล้วนั้น สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมอีกครั้ง
“ที่ผมอยากได้ ไม่ใช่แค่บริษัทเท่านั้น….”
เขายื่นมือออกมา แล้วพับหนังสือพิมพ์ เหลือเพียงแค่รูปของเวินเที๋ยนเที๋ยน
จี้ยี่หยันมองเธอพลางเอ่ยขึ้น : “คุณจะเป็นของผมเพียงเท่านั้น!”
เขาสูดลมหายใจเข้า แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดโทรออกเบอร์หนึ่ง
สักพักหนึ่ง ปลายสายถึงได้กดรับ
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา
“จี้ยี่หยัน? ฉันไม่ได้บอกว่า ไม่ให้ติดต่อกับฉันไม่ใช่หรือ? ถ้าหากจี้จิ่งเชินรู้จะทำอย่างไร?”
จี้ยี่หยันเอ่ยขึ้นอย่างตรงประเด็น : “คุณเห็นข่าวรึยัง?”
“เห็นแล้ว”
“คุณก็ยอมรับชะตาชีวิตแบบนี้แล้วอย่างนั้นหรือ? คุณไม่ใช่ว่าอยากจะแต่งงานกับจี้จิ่งเชินหรอกรึไง? ตอนนี้ผมให้โอกาสนี้กับคุณ”
เจียงหยู่เทียนนั่งอยู่ตรงข้ามกับโทรศัพท์ ขมวดคิ้วขึ้นมา
“คุณอย่ามาล้อฉันเล่นนะ ตอนนี้ถ้าเพียงแค่ฉันออกไป จี้จิ่งเชินจะต้องหาเรื่องฉันอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น แม้แต่ว่าฉันจะตายอย่างไรก็ยังไม่รู้เลย”
“คุณไม่เชื่อผม?”
จี้ยี่หยันยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น : “รอหลังจากที่คุณกลับมาก่อน ผมมีวิธีที่จะทำให้จี้จิ่งเชินแต่งงานกับคุณ”
เจียงหยู่เทียนยังคงหาคำตอบไม่ได้
“ทำไม?”
“เพราะว่าในมือผมมีของที่เขาอยากจะได้อยู่น่ะสิ”
ว่าแล้ว จี้ยี่หยันกลับไม่ยอมที่จะพูดออกมาต่อ แล้วเอ่ยขึ้น : “คุณยอมที่จะกลับมาไหม?”
เจียงหยู่เทียนเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกไม่วางใจอยู่บ้าง : “คุณแน่ใจใช่ไหมว่าจี้จิ่งเชินจะไม่แก้แค้นฉัน?”
“แน่ใจสิ เขาไม่กล้าหรอก”
เจียงหยู่เทียนได้ยินแล้วจึงรู้สึกสับสน
ถึงแม้ว่าการแก้แค้นของจี้จิ่งเชินจะทำให้เธอรู้สึกกลัว แต่คิดว่าตัวเองสามารถหลุดพ้นชีวิตในตอนนี้ได้ จึงทำได้เพียงรับปากไป
สุดท้ายแล้วเธอจึงเอ่ยขึ้นมา : “ตอนนั้นที่ฆ่าเจี่ยงเนี่ยนเหยา ฉันก็ให้ความร่วมมือกับพวกคุณเป็นอย่างดี”
“ถ้าหากตอนนี้ ฉันเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา พวกคุณก็อย่าคิดว่าจะมีความสุขได้เลย!”
จี้ยี่หยันยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “วางใจเถอะ ผมพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว คุณรอข่าวดีได้เลย”
“โอเค”
พูดจบแล้ว ทั้งสองคนจึงวางสายกันไป
ผ่านไปไม่นาน ฉวีช่วยฉินรีบเดินออกมาจากในห้อง
เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินนั่งอยู่ในห้องรับแขกนั้น จึงเอ่ยขึ้นมาเบาๆ : “ของมาถึงแล้ว”
จี้ยี่หยันยืนตามขึ้นมาด้วย
“ผมไปกับแม่เอง”
ว่าแล้วนั้นทั้งสองคนก็หันกลับเดินออกไป
เมื่อพวกเขาเพิ่งจะออกไปนั้น ประตูทางด้านข้างก็ถูกเปิดออก
จี้คางเดินออกมาจากด้านใน
เขาขมวดคิ้วขึ้นมา แล้วมองตามเบื้องหลังของฉวีช่วยฉินและจี้ยี่หยันด้วยความกังวล
บนโต๊ะยังคงมีรูปถ่ายของจี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนวางเอาไว้ นึกถึงคำพูดที่เขาได้ยินเมื่อครู่แล้ว จี้คางก็รู้สึกลังเลขึ้นมาทันที
คิดแล้ว ก็ยังกดโทรออกต่อสายหาจี้จิ่งเชิน
เสียงสัญญาณดังขึ้นพักหนึ่ง แล้วในที่สุดก็มีคนรับ
“จิ่งเชินใช่ไหม?”