เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 258 หวังว่าคุณจะชอบ
บทที่258 หวังว่าคุณจะชอบ
ร้านอาหารTHALIAในใจกลางเมือง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมาที่นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว
แต่ครั้งนี้ จี้จิ่งเชินพาเธอขึ้นมายังชั้นดาดฟ้าที่เป็นห้องอาหารแบบเปิดโล่ง แต่กลับไม่ได้เข้าไป ทั้งยังขึ้นไปทางด้านบนอีกด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความประหลาดใจ
“ข้างบนยังมีห้องอาหารอีกหรือคะ?”
เธอคิดมาตลอดว่าที่นี่ห้องอาหารอยู่ชั้นบนสุดแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะยังสามารถเดินขึ้นไปได้อีก
จี้จิ่งเชินยกยิ้มมุมปากขึ้น ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “เดิมทีไม่มี แต่ตอนนี้มีแล้วล่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างสงสัย แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่อธิบาย แล้วก็พาเธอขึ้นไปยังด้านบนต่อ
ผ่านไปสักพักหนึ่ง ประตูลิฟต์จึงเปิดออก
สายลมพัดโชยเข้ามา
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ทันมองให้ชัดเจนว่าตรงหน้าของเธอนั้นคืออะไร ก็มีกลิ่นหอมจางๆของดอกไม้ที่ลอยมากับสายลม
ตอนนี้เป็นช่วงหนาวจัด จะมีกลิ่นหอมของดอกไม้ได้อย่างไรกัน?
อีกทั้งที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่กลิ่นหอมของต้นเหมยเพียงเท่านั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมามอง ดอกไม้สีแดงรับกับใบไม้สีเขียวปรากฏขึ้นในสายตาของเธอ
ดอกไฮยาซินธ์และดอกจัสมินของฤดูใบไม้ผลิ ดอกมะลิและดอกบัวของฤดูร้อน แม้กระทั่งดอกเบญจมาศและดอกโรสแมรีของฤดูใบไม้ร่วง และยังมีดอกเหมยของฤดูหนาวอีกด้วย
ดอกไม้ในสี่ฤดู ราวกับเบ่งบานพร้อมกันในเวลานี้
และบริเวณรอบๆดอกไม้นั้นก็ยังมีพุ่มไม้สูงๆอยู่อีกด้วย
ต้นไม้และดอกไม้ที่เสริมจุดเด่นกัน ราวกับอยู่ท่ากลางป่าดงดิบอย่างไรอย่างนั้น
ใครจะคิดว่าบนชั้นดาดฟ้าของร้านอาหาร THALIAในใจกลางเมือง จะมีความอบอุ่นเช่นนี้อยู่ด้วย ห้องกระจกที่มีดอกไม้ดูเป็นที่รวมอากาศดีๆในทุกฤดูเช่นนี้
ราวกับว่าได้รับรวมเอาความสวยงามของทุกคนมารวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน
กลิ่นหอมของดอกไม้หอมอบอวลไปทั่วทั้งห้อง เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็จะสามารถมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าผ่านทางกระจกนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้นด้วยความตกตะลึง : “ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าที่นี่จะมีห้องกระจกสวนดอกไม้แบบนี้ด้วย”
จี้จิ่งเชินยื่นมือออกมา แล้วดึงเธอให้เดินเข้าไปยังด้านใน
ก่อนหน้านี้ที่นี่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ห้องกระจกดอกไม้แห่งนี้เป็นเขาที่ให้คนมาออกแบบสร้างเอาไว้เอง
ดอกไม้แต่ละชนิดด้านใน การตกแต่งออกแบบทุกอย่างเขาเป็นคนออกแบบเองกับมือ นั่นก็เป็นเพราะต้องการจะเซอร์ไพรส์เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่นเอง
เขาดึงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปทางด้านหน้า
ทางคดเคี้ยวเล็กๆที่มีต้นไม้และดอกไม้ส่องแสงแพรวพราวต่อกัน ทุกๆทางโค้ง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้รู้สึกปลอดโปร่งเป็นอย่างมาก
เดินไปสักพักหนึ่ง จี้จิ่งเชินถึงได้พาเธอมาตรงด้านริมของห้องกระจกนี้ แล้วหันหน้าออกไปมองทั้งเมืองหลวงนี้
มองลงไปจากตรงนี้ สามารถมองเห็นทั้งเมืองหลวงนี้ได้
ตามองไป แสงไฟบนถนนและจากกาแลกซี่รวมเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกัน ราวกับเป็นภาพสะท้อนจากทะเลสาบอย่างไรอย่างนั้น
ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสะท้อนลงมาในเมือง และแสงไฟในเมืองนั้นก็ทำให้ดวงดาวบนท้องฟ้านั้นส่องแสงสว่างมากขึ้น
ดอกไม้ภายในห้องมีสีสันแพรวพราว กลิ่นหอมเบาบาง ทำให้มีความสุขและผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันมา เห็นอีกทางด้านหนึ่งมีโต๊ะที่จัดวางอุปกรณ์ทานอาหารและเทียนเอาไว้
เธอเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกเซอร์ไพรส์ : “เราจะทานข้าวกันที่นี่หรือคะ?”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า แล้วพาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปนั่ง
ข้างๆของพวกเขา ฝั่งหนึ่งคือความสวยงามของท้องฟ้าและตัวเมือง ส่วนอีกทางฝั่งหนึ่งนั้นก็คือดอกไม้สีแดงใบไม้สีเขียวๆที่อยู่ในห้องนี้
ส่วนพวกเขาก็นั่งอยู่ตรงกลาง
ไม่นานก็มีคนนำอาหารมื้อค่ำนี้ออกมา
ภายในห้องนั้นอบอุ่นเหมือนช่วงฤดูใบไม้ผลิ ไม่รู้สึกถึงความหนาวเหน็บเลยแม้แต่น้อย
แต่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในช่วงฤดูหนาวนี้กลับยิ่งดูสูงและกว้างกว่าเดิม
นี่เป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์เป็นอย่างมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ เห็นได้ถึงความตั้งใจของคนที่ออกแบบห้องกระจกแห่งนี้
ดอกไม้บางชนิดวางไว้ตรงตำแหน่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน แต่ก็มีบางชนิดที่จะต้องสำรวจให้ละเอียด ซ่อนอยู่ในใบไม้สีเขียวชอุ่มเหล่านั้น
การออกแบบเช่นนี้ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนมองด้วยความละลานตา มองหาความสวยงามที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างต่อเนื่อง จนลืมไปเสียแล้วว่าตัวเองจะต้องทานอาหารอีก
จี้จิ่งเชินเห็นว่าเธอจริงจังขนาดนี้ แม้แต่จะต้องทานอาหารเธอก็ลืมไปเสียอย่างนั้น เขาจึงดึงมือเธอมา
“เดี๋ยวต่อไปคุณจะมีเวลามากกว่านี้อีก ห้องดอกไม้นี้เป็นของคุณอยู่แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความตกตะลึง
“นี่คือของขวัญของพี่หรือคะ?”
จี้จิ่งเชินยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“นี่เป็นเพียงแค่หนึ่งในของขวัญเท่านั้นเอง”
พูดจบแล้วนั้น ก็เอาสเต็กที่หั่นแล้ววางลงตรงหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ทานก่อนครับ เดี๋ยวมีเวลาแล้วค่อยๆดูนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า แล้วถึงได้ละสายตาออกมา แล้วมาจดจ่ออยู่กับสเต็กตรงหน้า
แต่ไม่นาน สายตาของเธอก็ไม่สามารถควบคุมได้มองไปยังดอกไม้รอบๆอีกครั้ง เมื่อมองแล้วก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มเป็นอย่างมาก
แม้กระทั่งอยากจะลุกขึ้นไปเดินดูดอกไม้ทั้งหมดในห้องนี้เลยเสียด้วยซ้ำ
เธอหันมาแล้วจะลุกขึ้น สายตากลับมองเห็นใบหน้าของจี้จิ่งเชินอยู่ตรงหน้าของตัวเองแล้ว!
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจนถอยหลังไป
“เป็นอะไรครับ?”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ทานข้าวก่อนครับ”
ทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังดูแลเด็กอยู่เลยอย่างไรอย่างนั้น ความจำใจนี้ปรากฏขึ้นตรงหว่างคิ้วของเขา
อีกทั้งตอนนี้เขารู้สึกเสียใจภายหลังบ้างแล้ว
ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ก็จะไม่พาเวินเที๋ยนเที๋ยนมาที่ห้องกระจกสวนดอกไม้แห่งนี้
อย่างน้อยๆ สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็คงจะอยู่ที่เขาตลอด
แต่ตอนนี้ สายตาของเธอกลับถูกดอกไม้เหล่านั้นดึงดูดไปแล้ว
แม้แต่จี้จิ่งเชินเองก็คงต้องยอมรับว่าเสน่ห์ของตัวเองไม่คิดว่าจะเทียบกับต้นไม้ดอกไม้พวกนี้ไม่ได้
แต่เห็นท่าทางที่ชื่นชอบของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว จี้จิ่งเชินก็รู้สึกว่าความพยายามของตัวเองนั้นคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
ในใจทั้งรู้สึกดีใจทั้งรู้สึกช่วยไม่ได้ ขณะนั้นใบหน้าของเขาจึงมีอาการที่แสดงออกมาอย่างหลากหลาย
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วขู่ขึ้นมา : “ถ้าคุณไม่ทานอีก ผมจะป้อนคุณเองแล้วนะ”
พูดจบแล้วจี้จิ่งเชินจึงพุ่งไปทางด้านหน้า แล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอ
“โดยใช้ปาก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอึ้งไปเสียแล้ว แก้มทั้งสองข้างแดงขึ้นมา
จี้จิ่งเชินเห็นแล้ว ดูจะมีสีสันมากกว่าดอกไม้ที่อยู่ข้างๆเสียอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจนรีบส่ายหน้า
“ไม่ต้องค่ะ ฉันทานเอง”
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นอย่างผิดหวัง : “จริงๆแล้วคุณจะดูต่อก็ได้นะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่รู้ความหมายของเขาได้อย่างไรกัน เธอจึงรีบส่ายหน้า
กลัวว่าจี้จิ่งเชินจะลงมือจริงๆ จึงรีบยัดสเต็กที่อยู่ในจานเข้าปากไป
แล้วมองจี้จิ่งเชินอย่างคอยระวัง
แล้วบอกเขาด้วยการกระทำ ว่าตัวเองจะตั้งหน้าตั้งตากินจริงๆแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนแก้มป่อง ท่าทางเช่นนั้นราวกับกระรอกน้อยที่กำลังปกป้องอาหารของตัวเองแล้วจ้องมองผู้รุกรานอยู่เช่นนั้น
จี้จิ่งเชินอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เขายื่นมือออกไปจิ้มแก้มของเธอ
เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเอ็นดู : “ไม่ได้จะแย่งคุณเสียหน่อย”
หน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งแดงขึ้นไปอีก แม้กระทั่งใบหูของเธอก็แดงไปด้วยเช่นกัน
ผ่านไปพักหนึ่ง ถึงได้จางหายไปเองในที่สุด
ครั้งนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่กล้าที่จะไม่ตั้งใจอีกแล้ว
ทานอาหารเสร็จ จี้จิ่งเชินเช็ดมุมปากแล้ว จึงลุกขึ้นยืน
“ยังมีของขวัญอีกอย่างครับ ที่ผมอยากจะให้คุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความสงสัย
จากที่เธอดูแล้ว ห้องกระจกดอกไม้ในวันนี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกเซอร์ไพรส์มากแล้ว
จี้จิ่งเชินไม่ได้อธิบายอะไร แต่กลับมาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินมายังท้ายห้องกระจกดอกไม้นี้
“ของอะไรหรือคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยถามด้วยความสงสัย
จี้จิ่งเชินปิดตาของเธอเอาไว้ แล้วจับเธอหันกลับไปเพื่อเผชิญกับวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนนี้
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ทางด้านหลังเธอ แล้วเอียงตัวลงเล็กน้อย ริมฝีปากพุ่งไปยังข้างๆใบหูของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เสียงของเขาทุ้มต่ำ หน้าอกสั่นสะเทือน ราวกับมีกระแสไฟผ่าน
“หวังว่าคุณจะชอบนะ”
ว่าแล้วนั้น ริมฝีปากของเขาก็สัมผัสโดนใบหูของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ปลายลิ้นแตะโดนเบาๆ ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนใจเต้นแรง และหน้าแดงขึ้น
วินาทีต่อไปนั้น มือที่ปิดตาของเธออยู่นั้นก็ค่อยๆเปิดออก