เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 255 คุณโดดเด่นขนาดนี้ ผมเป็นห่วง
บทที่255 คุณโดดเด่นขนาดนี้ ผมเป็นห่วง
ถึงแม้ว่าจะจี้จิ่งเชินจะรับประกันแล้ว แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงรู้สึกกังวลอยู่
หลังจากที่รอสองสามวันด้วยความอกสั่นขวัญแขวนแล้วนั้น กลับเห็นว่ามีคนมาหาเขาอยู่ตลอด
ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือศาล ล้วนแต่เป็นการพูดคุยกันแบบไม่เปิดเผยกันทั้งสิ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนหาคำตอบไม่ได้ ว่าเขาทำได้อย่างไรกัน
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมา “ผมเพียงแค่พิสูจน์ให้พวกเขาเห็น ว่าผมไม่ได้มีอาการที่จะควบคุมตัวเองไม่ได้เลยจะต้องทำร้ายคนแบบนั้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างประหลาดใจ
“แล้วคนพวกนั้นที่เป็นพยานให้ที่ศาลก่อนหน้านี้ล่ะคะ…..”
จี้จิ่งเชินยิ้มออกมา “คุยรายละเอียดกับพวกเขาแล้ว พวกเขารู้ถึงความยากลำบากของฉัน ก็เลยยินดีที่จะเข้าใจ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมีใบหน้าที่แสดงความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อออกมา
จี้จิ่งเชินยิ้ม เขาบอกกับเธอเพียงแค่นี้เท่านั้น
แต่สำหรับด้านมืดนั้น เขาไม่ได้พูดออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับเอ่ยขึ้น “แต่แบบนี้ เรื่องของจี้หยวนวู่ล่ะคะ? เขากล่าวหาว่าคุณต้องถูกขังคุกทำผิดกฎหมาย”
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นมา “จริงๆแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องที่ลำบากเลย ผมเพียงแค่พิสูจน์ว่าห้าปีก่อน เขามีอาการทางจิต แค่นั้นก็ได้แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตากว้าง
“แต่…..”
“ชู่ว…..”
จี้จิ่งเชินใช้นิ้วมาวางอยู่ที่ปากของตัวเอง
“ตอนนั้นที่ผมให้เขาเข้าไปอยู่ในนั้น ก็เป็นไปตามลำดับขั้นตอน ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เวลาห้าปีแล้วจะไม่สามารถปล่อยเขาออกมาได้แบบนั้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว “ถ้าหากเป็นแบบนี้ ทำไมพี่ไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะคะ?”
จี้จิ่งเชินดึงตัวเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง
“นี่เป็นละครฉากหนึ่ง ขอโทษนะ ที่ปิดบังคุณ”
ถึงแม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้วจะรู้สึกสับสน แต่เธอก็ยังคงส่ายหน้าอยู่ดี
“พี่ไม่เป็นไรก็พอแล้ว”
มือทั้งสองข้างของจี้จิ่งเชินลูบไล้อยู่ตรงเอวของเธอ
“ขอบคุณนะ”
หลังจากนั้นสองสามวัน จี้จิ่งเชินก็เตรียมตัวออกจากโรงพยาบาล
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกไม่วางใจ ปฏิบัติตามคำสั่งของคุณหมอ แต่ก็ถือว่าออกก่อนล่วงหน้าเป็นระยะเวลานาน
แต่เห็นว่าจี้จิ่งเชินยืนกรานเช่นนี้ เธอจำต้องยอม
เธอช่วยเขาเก็บของไปพลาง บ่นไปพลาง “พี่จะต้องดูแลสุขภาพร่างกายนะคะ อย่าต้องให้เหนื่อยจนเกินไป แล้วก็ทำงานทุกวันจะต้องไม่เกินแปดชั่วโมงด้วยนะ”
คำกำชับของจี้จิ่งเชิน ผ่านไปสักพักหนึ่งจึงเอ่ยขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นคุณก็ไปบริษัทกับผมเลยสิ เป็นไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอึ้งไป ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา
จี้จิ่งเชินจึงเอ่ยพูดขึ้นต่อ “เมื่อก่อนนี้คุณไม่ได้เคยตามผมไปที่บริษัทด้วยหรอกหรือครับ? ถึงที่นั่นแล้ว คุณก็จะสามารถควบคุมผมด้วยตัวเองได้ด้วยนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังมีความลังเลอยู่บ้าง
จี้จิ่งเชินยื่นมือออกไปดึงเธอมาข้างๆตัวเอง
แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างจริงจัง “ช่วงเวลานี้บริษัทจะต้องยุ่งมากอย่างแน่นอน ทำงานแล้ว ผมก็คงลืมที่จะพักผ่อน”
“ถ้าหากว่าคุณมาอยู่ข้างๆผมล่ะก็……”
พูดมาถึงตรงนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้ความคิดของเขาแล้ว
ถึงแม้ว่าจะฟังดูเหมือนเป็นการคุกคาม แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ทำได้เพียงแค่ยินยอม
“ก็ได้ค่ะ แต่ตอนที่ฉันไปที่บริษัทแล้ว พี่อย่าบ่นนะ”
จี้จิ่งเชินเอียงตัวมา แล้วจูบลงที่ริมฝีปากของเธอ
“ผมจะดีใจสิไม่ว่า”
ผ่านไปสองวัน เวินเที๋ยนเที๋ยนตามจี้จิ่งเชินมาที่บริษัทเอ็มไอกรุ้ป
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เวินเที๋ยนเที๋ยนมาที่นี่
แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่เกิดเรื่องขึ้นกับจี้จิ่งเชินตอนนั้น เธอก็เป็นตัวแทนของจี้จิ่งเชินบริหารดูแลบริษัทแทนเขามาตลอด
เวลานี้เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินเดินเข้ามาพร้อมกัน
พนักงานทุกคนที่กำลังทำงานกันอยู่เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินกลับมาแล้วนั้น ทุกอย่างที่อยู่ในมือก็ชะงักลง แล้วเบิกตากว้างมองพวกเขา
จี้จิ่งเชินเดินสองก้าว กลับพบว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินอยู่ทางด้านหลังเธอ เขาจึงหยุดลง แล้วหันกลับไปดึงเธอให้มาอยู่ข้างๆตัวเอง
“ไปยืนอยู่ไกลขนาดนั้นทำไมกันครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดเบาๆ “ฉันไม่ใช่ผู้ช่วยของพี่หรอกหรือคะ?”
“ไม่ใช่อยู่แล้ว อย่าลืมสิ ที่กิจการธุรกิจทั้งหมดนี้สร้างมาก็เพื่อคุณนะ มันเป็นของคุณตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
เอ่ยพูดจบแล้วนั้น จี้จิ่งเชินดึงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วพาเธอขึ้นลิฟต์ไป
ทั้งสองคนมายังชั้นบนสุด และเพิ่งจะเดินเข้าห้องประชุมไปนั้น ผู้จัดการที่ถือเอกสารอยู่ในมือนั้นก็เดินเข้ามา
เขาก้มมองดูเอกสารในมือ ไม่ได้สังเกตเห็นว่าจี้จิ่งเชินกลับมาแล้ว
เดินไปพลาง เอ่ยพูดไปพลาง “คุณเวินครับ กิจกรรมครั้งนี้…..”
เขาเอ่ยพูดไปได้ครึ่งเดียว เมื่อเงยหน้าขึ้นมากลับเห็นว่าเป็นจี้จิ่งเชินที่นั่งอยู่ตรงหน้าของตัวเอง คำพูดที่พูดอยู่ครึ่งเดียวนั้นก็หยุดชะงักลง
ไม่รู้ว่าต่อไปควรจะถามเวินเที๋ยนเที๋ยนดี หรือว่าจี้จิ่งเชินดี
จี้จิ่งเชินเห็นแล้วจึงชี้ไปทางเวินเที๋ยนเที๋ยน
จนในที่สุดผู้จัดการหมินถึงได้เดินไปหา พลางเอ่ยถามด้วยความลังเล “รายละเอียดของกิจกรรมครั้งที่แล้วถูกตรวจสอบแล้วครับ มีการโปรโมทเสร็จสิ้นแล้ว รอเพียงถึงสัปดาห์หน้าก็จะสามารถลงทุนได้แล้วครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับเอกสารในมือของเขามาอ่าน แล้วบอกถึงบางจุดที่จำเป็นจะต้องแก้ไข
ผู้จัดการพยักหน้า แล้วหันหลังกลับออกไป
รอจนคนเดินออกไปแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้พบว่า จี้จิ่งเชินจ้องมองเธออยู่ตลอด
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขามองจนรู้สึกเขินอาย
“พี่มองฉันทำไมคะ?”
จี้จิ่งเชินยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “ไม่คิดเลยนะว่าคุณจะดูคุ้นเคยกับการบริหารงานของบริษัทขนาดนี้ ผมได้ยินจงหลีบอกว่า คุณบริหารดูแลบริษัทได้ดีมาก”
“สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่จงหลีบอกฉันทั้งนั้นแหละค่ะ”
จี้จิ่งเชินยกมือขึ้น แล้วดึงเธอเข้ามาหา
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาดึงถอยหลังมาสองก้าว แล้วนั่งลงบนขาของจี้จิ่งเชิน
เขากอดเอวเธอเอาไว้ ก้มลงแล้วฝังศีรษะลงตรงไหล่ของเธอ
“คุณโดดเด่นขนาดนี้ ผมเป็นห่วงนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น จู่ๆประตูออฟฟิศก็ถูกใครคนหนึ่งเคาะขึ้น จงหลีเดินเข้ามา
เขาก้าวเข้ามาด้านใน เห็นคนที่อยู่ในห้อง ขาของเขาจึงหยุดชะงักลง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเห็นเขา แล้วจึงรีบลุกขึ้นมา หนีกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง
“พวกคุณคุยงานกันเถอะค่ะ ฉันเองก็ต้องไปทำงานแล้ว”
แล้วตามมาด้วยจงหลีที่เดินเข้ามา วางเอกสารกองหนาที่อยู่ในมือลงตรงหน้าจี้จิ่งเชิน
“การตรวจสอบก่อนหน้านี้ผลออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ”
เขามองไปทางเวินเที๋ยนเที๋ยนแวบหนึ่ง แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะพูดต่อดีหรือเปล่า
แต่เมื่อเห็นว่าจี้จิ่งเชินไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมานั้น จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างตรงไปตรงมา “บริษัทจี้ซือช่วงนี้โจมตีกันอย่างบ้าคลั่งมากครับ และหลังจากที่พวกเขารู้ว่าคุณกลับมาแล้ว จะต้องรีบปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะใช้โอกาสนี้ แย่งออร์เดอร์ในมือของพวกเราไปครับ”
จี้จิ่งเชินก้มหน้าลงดูข้อมูลที่อยู่ในมือเหล่านั้น พลางพยักหน้า
“ก็ดำเนินการไปตามแผนก่อนหน้านี้ ในเมื่อพวกเขาอยากจะเอาทั้งสองบริษัทมารวมกันขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะเล่นไปตามนั้น”
“บริษัทจี้ซือเองก็คงถึงเวลาต้องถอยออกมาแล้ว”
เขาพูดออกมาอย่างหลีกเลี่ยงปัญหา แล้วเก็บกระดาษที่อยู่ในมือ
“หาตัวเจียงหยู่เทียนเจอแล้วหรือยัง?”
จงหลีส่ายหน้า
“ตั้งแต่หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ ก็ดูเหมือนกับว่าจะหายตัวไปเลยครับ”
“แต่ผมตรวจสอบดูจากกล้องวงจรปิดภายในคุกแล้ว เห็นว่าก่อนวันที่คุณเวินจะถูกลักพาตัวไปหนึ่งวัน เธอไปหาเฟิงจิ้นที่นั่นจริงๆครับ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
แม้แต่ที่ซ่อนตัวของเธอก็ยังหาไม่เจออย่างนั้นหรือ?
หรือว่าจะมีคนคอยช่วยเหลือเธออยู่เบื้องหลังกัน?
แต่จะเป็นใครที่จะยื่นมือออกมาช่วยในเวลาเช่นนี้?
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “หาต่อไปนะ หาจนกว่าจะเจอตัว”
หากยังแก้ปัญหาเรื่องเจียงหยู่เทียนไม่ได้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงตกอยู่ในอันตรายอยู่ทุกวัน
จี้จิ่งเชินหันกลับมามองคนที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน ด้วยแววตาที่เฉียบคม