เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 246 ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ
บทที่ 246 ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟังจึงหายใจลึกๆ เธอพยักหน้าพลางพูด" ฉันเข้าใจแล้ว "
หลังพูดจบ เธอก็ได้ขึ้นรถไปพร้อมสองคนนั้น
เวินหงหยู้เห็นถึงความกังวลของเธอ จึงหันไปพูดกับเธอ " ฉันรู้จักกับจี้จิ่งเชินเมื่อหกปีที่แล้ว "
" ในตอนนั้น เขาเปรียบเสมือนม้ามืดที่พุ่งเข้ามายังใจกลางเมือง เขาใช้เวลาเพียงสามเดือน ก่อนที่เขาจะก้าวกระโดดกลายมาเป็นตระกูลใหม่ที่มีทั้งเงินและอิทธิพล"
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับไปฟังอย่างตั้งใจ
เวินหงหยู้จึงเล่าต่อ " ภายในเวลาครึ่งปี บริษัทเอ็มไอกรุ้ปของเขาก็ได้กลายมาเป็นธุรกิจอันดับต้นๆ "
" จากการยับยั้งของตระกูลจี้เมื่อห้าปีที่แล้ว ฉันรู้ดีว่าจี้จิ่งเชินจะไม่รีรอยอมแพ้ อุปสรรคเล็กน้อยแค่นี้ ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก "
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเวินหงหยู้ และลืมตาขึ้นเล็กน้อย
" คุณเชื่อเหรอ? "
เวินหงหยู้พยักหน้า
" ใช่แล้ว "
เมื่อเห็นสายตาที่มุ่งมั่น ใจที่กระวนกระวายของเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงค่อยๆสงบลงอย่างช้าๆ
เธอพยักหน้าและพูดอย่างหนักแน่น " ฉันจะรอจี้จิ่งเชินกลับมา "
อย่างที่เวินเที๋ยนเที๋ยนคาดไว้ก่อนหน้านี้
หลังจากเรื่องของจี้จิ่งเชินแพร่กระจายไปได้ไม่นาน บริษัทก็ได้ถูกโจมตีจากหลายฝ่าย
และหนึ่งในฝ่ายที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือตระกูลจี้
พวกเขาต้องการใช้โอกาสนี้ เพื่อยึดบริษัทจี้จิ่งเชินไปเป็นของตัวเอง
ภายใต้แรงกดดันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนและจงหลีจะพยายามกันอย่างเต็มที่ แต่สถานการณ์ของบริษัทก็กลับแย่ลงเรื่อยๆ
แม้ว่าจะยังไม่ได้ถูกยึดไป แต่ในสายตาของคนอื่นปัญหามันอยู่ที่เรื่องของเวลาเท่านั้น
และด้วยการกลับมาของจี้หยวนวู่ จึงทำให้อำนาจและสิทธิ์ของจี้คางถูกลดทอนลง
และถูกจัดสรรให้กับจี้หยวนวู่และจี้ยี่หยันแทน
จี้หยวนวู่นั่งในตำแหน่งสูงสุด และกวาดสายตาไปยังทั้งสามคนที่อยู่ต่อหน้าเขา
" ฉันไม่ได้ทานข้าวกับพวกนายมานานมากแล้ว "
เมื่อจี้คางได้ฟังจึงรีบเอ่ยอย่างรวดเร็ว " ผมเคยปรึกษากับจี้จิ่งเชินก่อนหน้านี้ว่าจะพาพ่อกลับมา แต่เขา…… "
" ปรึกษา? "
ก่อนที่จะพูดจบ เขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงที่ดังขึ้นของจี้หยวนวู่
" ก็จี้จิ่งเชินนั่นแหละที่เป็นคนส่งฉันเข้าไป แกยังไปปรึกษากับมันอีกเหรอ? "
เขายิ้มอย่างเยือกเย็นและตำหนิ " แกนี่มันไร้ความสามารถจริงๆ! ฉันไม่ควรคาดหวังกับแกไว้ตั้งแต่แรก! "
เดิมทีจี้หยวนวู่ก็มักจะไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับจี้คางอยู่แล้ว
นอกจากนี้เขายังไม่ค่อยฉลาด และยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรทางด้านธุรกิจอีก
ที่เขาได้รับช่วงต่อตระกูลจี้ ก็เพราะว่าจี้หยวนวู่ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลบ้า เขาจึงมีโอกาสได้เฉิดฉายความสามารถ
แต่ภายใต้การถูกชักนำเช่นนี้ เขาจึงถูกจี้จิ่งเชินปราบปรามได้อย่างรวดเร็ว และหลุดออกจากตำแหน่งของสามตระกูลใหญ่
เมื่อได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ จี้หยวนวู่ก็ยิ่งดูถูกเขามากขึ้น
ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว เขาดูจะชอบจี้ยี่หยันมากกว่า
นับตั้งแต่เขาได้รับช่วงต่อตระกูลจี้เมื่อปีที่แล้ว จี้ยี่หยันก็ได้เผชิญหน้าและต่อต้านจี้จิ่งเชินอย่างฉับพลันและเฉียบขาด
เมื่อมองจากมุมนี้ เขามีความคล้ายกับจี้หยวนวู่สมัยหนุ่มๆ
จี้คางหยุดพูด เข้าไม่กล้าที่จะโต้แย้งใดๆ กลับเอาแต่ก้มหน้าอย่างหดหู่
ด้วยท่าทีเช่นนี้ จึงทำให้จี้หยวนวู่ยิ่งไม่พอใจ
" ช่างมันเถอะ ยังไงซะตอนนี้จี้จิ่งเชินก็ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลบ้าแล้ว เขาคงจะออกมาไม่ได้สักพัก "
" ยี่หยัน แกใช้โอกาสนี้ยึดบริษัทของมันมาซะ ถึงตอนนั้นมันจะออกมาได้ แต่มันก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว "
ยี่หยันพยักหน้า
" คุณปู่ ผมจะทำตามความต้องการของคุณปู่อย่างแน่นอน "
จี้หยวนวู่มีความสุขมาก
" ดี! ตราบใดที่แกทำงานได้ดี บริษัทจี้ซือจะต้องเป็นของแกในอนาคตแน่นอน! "
ฉวีช่วยฉินที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
" พ่อทานอาหารก่อนเถอะ ผมให้คนเตรียมของเหล่านี้เอาไว้ให้พ่อเป็นพิเศษ "
จี้คางที่นั่งอยู่ข้างๆไม่ได้พูดอะไรออกมา
ก่อนที่จี้หยวนวู่จะกลับมา เขายังสามารถออกคำสั่งในบ้านได้
แต่เมื่อเขากลับมา สถานะในครอบครัวของจี้คางก็ได้ถูกลดทอนลง
เมื่อจี้หยวนวู่เห็นเขา ก็ได้ตำหนิเขาอีกครั้ง
" ดูแกตอนนี้สิ ฉันคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าทำไมฉันถึงมีลูกแบบแกได้! จะไม่ใช่เพราะแก จะมีเรื่องของจี้จิ่งเชินเกิดขึ้นมาไหม? "
จี้คางขมวดคิ้ว
" มันไม่ใช่เพราะพ่อเหรอ ถ้าไม่ใช่พ่อ ผมกับแม่ของจี้จิ่งเชิน…… "
เขาพูดได้เพียงครึ่งหนึ่ง จี้หยวนวู่ก็ชักสีหน้าขึ้นในทันที
ถ้าหากพูดถึงเรื่องที่เขาเสียใจที่สุดในชีวิต ก็คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้จี้จิ่งเชินเกิดมา
ใบหน้าของจี้หยวนวู่บึ้งตึงขึ้น เขาทุบชามข้าวที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะ
“หุบปาก!”
จี้คางที่ถูกตะคอกใส่จึงไม่กล้าพูดอะไรเพิ่ม
จี้หยวนวู่ผลักสิ่งที่อยู่ตรงหน้าออกและยืนขึ้น
" ไม่กินมันแล้ว มีคนมาขวางตาเช่นนี้ ฉันกินไม่ลง! "
ฉวีช่วยฉินมองไปที่จี้คางอย่างไม่พอใจ
" แกเป็นอะไรไป? พ่อเพิ่งจะกลับมา แกก็กลับมายั่วโมโหพ่ออีก! "
จี้คางมองคนที่อยู่ตรงหน้า
" ฉันผิดเอง พอใจรึยัง? "
หลังพูดจบ เขาก็หันหลังและเดินจากไป
ทันทีที่เขาจากไป ฉวีช่วยฉินจึงได้ยิ้มและพูดกับจี้หยวนวู่ " พ่อ อย่าไปสนใจมันเลย กินข้าวก่อนดีกว่าค่อยพูด พ่ออย่าอดอาหารเลย "
เขาพูดพลางหันไปขยิบตาให้กับจี้ยี่หยัน
จี้ยี่หยันจึงพูดขึ้น " คุณปู่ ไปทานข้าวก่อนเถอะ "
ทั้งสองเกลี้ยกล่อมอยู่ครู่หนึ่ง จี้หยวนวู่จึงได้ยอมหยิบชามข้าวขึ้นมาใหม่ในที่สุด
" ยี่หยัน ฉันฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่แก แกอย่าทำให้ฉันผิดหวังเหมือนอย่างพ่อที่เหลวแหลกของแกล่ะ "
จี้ยี่หยันหยักหน้า
" วางใจเถอะคุณปู่ "
เมื่อฉวีช่วยฉินเห็นดังนั้นจึงยิ้มด้วยความพึงพอใจ
และอีกด้านหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายที่เคยสอบถามเธอมาก่อน
" พวกคุณมีเบาะแสอะไรบ้างไหม? ใครเป็นคนฆ่าเจี่ยงเนี่ยนเหยา? "
เมื่อทั้งสองได้ยินก็ต่างตื่นตระหนกขึ้นมาทันที พลางรีบส่ายหน้า
" ขอโทษด้วย พวกเรายังไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด "
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าพวกเขามีท่าทีแปลกๆ
" อย่าโกหกฉันเลย ฉันแค่อยากรู้ว่าใครเป็นคนใส่ร้ายจี้จิ่งเชิน "
ทั้งสองคนลำบากใจเล็กน้อย พวกเขามองไปรอบๆและกระซิบเบาๆ " คุณเวิน เราจะบอกความจริงกับคุณ "
" พวกเราหาตัวฆาตกรเจอตั้งนานแล้ว แต่ผู้นำกลับมีคำสั่งให้พวกเราหยุดทำการสืบสวนทันที พวกเราจึงทำอะไรไม่ได้ "
" คำสั่งจากผู้นำเหรอ? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว
สิ่งแรกที่เธอคิดได้ก็คือจี้หยวนวู่
แต่ตระกูลจี้มีอำนาจมากขนาดนี้เลยเหรอ?
ทั้งสองคนมองเวินเที๋ยนเที๋ยน พวกเขาไม่อยากพูดมากไปกว่านี้ จึงรีบหาข้ออ้างที่จะขอตัวออกไป
" คุณเวิน ผมไม่แนะนำให้คุณตามสืบเรื่องนี้ต่อไป อีกฝ่ายไม่ใช่คนที่เราจะสามารถต่อกรได้แน่ๆ "
" อีกอย่าง ตอนนี้คุณจี้ก็ไม่ได้ติดคุกไม่ใช่เหรอ? "
พูดจบทั้งคู่จึงรีบไปจากอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่นั้น ไม่มีใครทันสังเกต ว่าเจียงหยู่เทียนได้รับใบอนุญาตเยี่ยมจากเรือนจำ
เธอสวมหน้ากากอนามัยและหมวก พลางนั่งลงในห้องเยี่ยม
เธอมองผ่านกระจกตรงหน้าไปยังคนที่อยู่ข้างใน
เจียงหยู่เทียนยิ้มและพูดอย่างช้าๆ " เฟิงจิ้น ไม่เจอกันนานเลยนะ "