เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 242 ผู้ดูแลบริษัทเอ็มไอกรุ้ป
บทที่ 242 ผู้ดูแลบริษัทเอ็มไอกรุ้ป
เพียงไม่กี่วันหลังจากจี้จิ่งเชินถูกส่งตัวไปยังสถานที่ควบคุมผู้ต้องสงสัย ตระกูลจี้ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของจี้ยี่หยัน ก็ได้รับหลายโครงการที่บริษัทเอ็มไอกรุ้ปเป็นผู้รับผิดชอบ
ไม่นานก็มีคนคาดเดาจุดประสงค์ของตระกูลจี้ออก
จึงทำให้ผู้คนมีความคิดที่แตกต่างกันในเรื่องนี้
บางคนรู้สึกว่าตระกูลจี้ใช้โอกาสนี้เพื่ออปล้นจี้คนในครอบครัวตัวเอง ไม่มีจรรยาบรรณและโดนดูถูก
แต่คนบางส่วนกลับรู้สึกว่าจี้จิ่งเชินก็ไม่เคยจะญาติดีกับตระกูลจี้มาก่อน ในขณะเดียวกันก็ใช้กำลังกดดันแย่งชิงโครงการมาอยู่ไม่น้อย
ฉวยโอกาสตอนที่เขากำลังตกต่ำกดเขาให้จมดิน เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยจนไม่รู้สึกแปลกอะไร
ไม่ว่าจะใช้เล่ห์เพทุบายใด ท้ายที่สุดมีผู้ชนะคนสุดท้ายเพียงคนเดียวก็เกินพอแล้ว
ผู้แพ้ก็จะเป็นเพียงผู้แพ้ตลอดไป
และการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ ก็คือสถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างสามฝั่งที่เพิ่งจะก่อตัวขึ้น และอาจจะถูกปรับเปลี่ยนใหม่อีกครั้ง
และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พนักงานบางกลุ่มในบริษัทเอ็มไอกรุ้ปก็กำลังเริ่มเคลื่อนไหวที่จะก่อหวอด
จงหลีต้องคอยดูแลสถานการณ์ของบริษัท และยังต้องทุ่มสุดตัวเพื่อตรวจสอบคดีของจี้จิ่งเชินอีกด้วย ไม่นานเขาก็เริ่มดูแลได้ไม่ทั่วถึงและขาดประสิทธิภาพ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมาที่บริษัทเอ็มไอกรุ้ปอีกครั้ง
ทันทีที่เข้าไปเธอก็พบกับสถานะที่ไม่มั่นคงของบริษัท
หลายคนที่จิตใจไม่ได้จดจ่ออยู่กับงานหันมามองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสายตาที่ซับซ้อน
พวกเขาต่างรอดูว่าจะไปต่อ? หรือจะอยู่ต่อ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เข้าใจพวกเขา เธอมองไปข้างหน้าและขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นบนสุด
ชั้นหกสิบหกเป็นห้องทำงานของจี้จิ่งเชิน และขณะเดียวกันก็เป็นห้องประชุมสำหรับงานสำคัญ
จงหลียืนอยู่ที่หน้าประตูลิฟต์ เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงรีบเดินตามเธอเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
" ตอนกลับมา ผมพบว่าพวกเขาเริ่มประชุมคณะกรรมการกันแล้ว ราวกับว่า……พวกเขาจะเปลี่ยนประธานบริษัท "
เขาพูดอย่างลังเล เมื่อมองสีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน กลับเห็นว่าเธอมีท่าทีที่เยือกเย็นมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ด้านนอกของประตู และได้ยินเสียงซุบซิบดังมาจากข้างใน
" ช่วงนี้จี้จิ่งเชินถูกจับตัวไป หุ้นของบริษัทก็ตกลงอย่างรวดเร็ว ส่วนที่ตกอยู่ในกำมือคนคนหนึ่งตอนนี้ก็ได้ถูกแย่งชิงไปแล้ว! "
" ตอนนี้ทั้งภายในและภายนอกล้วนปั่นป่วน ถ้าจี้จิ่งเชินไม่กลับมาเราจะทำยังไงกันดี ? "
" พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ กลับไปทำงานได้แล้ว "
กรรมการบริษัทหลายคนต่างส่ายหน้า
" พูดง่ายๆถ้าหากเขาฆ่าคนจริง หรือพวกเราจะรอให้เขาออกมาจากคุกงั้นเหรอ ?"
" ถึงตอนนั้นบริษัทก็คงจะไม่เหลือแล้ว !"
เขาถอนหายใจพักหนึ่ง ก็มีคนอาศัยโอกาสนี้พูดขึ้น" รอไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น สู้พวกเราเลือกคนใหม่มาแทนจี้จิ่งเชิน…… "
" เมื่อเห็นคนที่อยู่รอบๆไม่พูดอะไร เขาจึงพูดต่อ " จะให้ทุกคนรอต่อไปอย่างนี้ได้เหรอ? พวกเรารอได้ แต่บริษัทรอไม่ได้แล้ว "
ไม่ช้าแต่ละคนก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว
" พวกคุณมีคนที่เหมาะสมพอให้เลือกหรือไม่? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่หน้าประตู เธอไม่ได้เปิดมันออก แต่กลับยืนฟังบทสนทนาของพวกเขา
มีคนถอนหายใจและพูดด้วยเสียงต่ำ
" จี้ยี่หยันไม่ใช่คนที่เราเลือกออกมาจากรายชื่อก่อนหน้านี้เหรอ? ฉันเคยเห็นแผนงานของเขามาก่อน มันดูพอสูสีกับประธานจี้ "
" ยิ่งไปกว่านั้นจี้ยี่หยันและประธานจี้แท้จริงแล้วก็เป็นพี่น้องกัน ตอนนี้บริษัทกำลังเกิดเรื่อง ถ้าตระกูลจี้จะออกหน้ามาช่วยเหลือช่วยจัดการ ก็ดูจะไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร "
" คงจะไม่ให้พนักงานกว่าพันคนต้องตกงานหรอกนะ? "
" เรื่องนี้…… "
ในขณะที่หลายคนกำลังพูด ประตูที่ปิดสนิทก็ถูกผลักให้เปิดออก
ผู้ที่อยู่ในห้องต่างก็ตกใจและรีบหันกลับไปมอง
ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากต่อว่า แต่แล้วเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงประตูคือเวินเที๋ยนเที๋ยน พวกเขาจึงรีบกลืนคำต่อว่านั้นกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว
คณะกรรมการบริษัทหลายคนต่างมองหน้ากันพลางเอ่ย " คุณเวิน ลมอะไรหอบมาที่นี่เหรอ ? "
" ใช่แล้ว ถ้าหากคุณเวินบอกสักคำ พวกเราคงจะรีบออกไปต้อนรับอย่างแน่นอน "
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองคนอื่นๆที่อยู่ในห้องนั้น
ในบรรดาคณะกรรมการบริษัททั้งสิบของบริษัทเอ็มไอกรุ้ป มีหกท่านที่นั่งอยู่ในที่นี้แล้ว
และบทสนทนาที่พวกเขาเพิ่งจะพูดออกมาเมื่อครู่ คนพวกนี้ล้วนแล้วแต่ต้องการยกบริษัทให้คนอื่น คิดจะมอบบริษัทที่จี้จิ่งเชินสร้างมากับมือให้กับคนตระกูลจี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนจะยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง!!
เธอเก็บมือที่ผลักประตู และเดินเข้าไปอย่างช้าๆ
" พวกคุณกำลังปรึกษาอะไรกันอยู่? "
คณะกรรมการบริษัทหลายคนต่างมองหน้าและลังเลกันอยู่ครู่หนึ่ง
" ปล่อยบริษัทต่อไปแบบนี้ไม่ดีแน่ ในขณะที่รอให้ประธานจี้กลับมา พวกเราสู้เลือกผู้ดูแลบริษัทคนใหม่ดีกว่า เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คนอื่นๆ "
" ใช่แล้ว ให้รอต่อไปอย่างนี้ แล้วเมื่อไหร่จะได้เป็นที่หนึ่งล่ะ? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย และฟังคำกล่าวว่าของพวกเขาอย่างเงียบๆ
" คนที่พวกคุณเลือกคือจี้ยี่หยันเหรอ? "
เมื่อถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนถามคำถามในใจออกมา พวกเขาจึงรีบพูดเข้าประเด็นในทันที
" จี้ยี่หยันและประธานจี้เดิมทีก็เป็นพี่น้องกัน ล้วนเป็นคนในตระกูลจี้ ให้จี้ยี่หยันเข้ามาช่วยเหลือในเวลานี้ มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ? "
" พวกเราต่างก็คิดเพื่อบริษัททั้งนั้น "
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
" พวกคุณพูดถูก ในเวลานี้ต้องการใครสักคนมาบริหารจัดการบริษัท "
เมื่อหลายคนได้ฟังก็คาดไม่ถึงว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเอ่ยปากตกลงเร็วขนาดนี้ พวกเขาต่างพยักหน้ากันอย่างดีใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงพูดต่อ " เพียงแค่พวกคุณต่างก็มีคนที่พวกคุณเลือก ฉันเองก็มีคนที่ฉันเลือกเอาไว้เช่นกัน "
ทุกคนหันไปมองทางเธอ
" คุณเลือกใครเอาไว้? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มบางๆ เธอวางมือทั้งสองลงบนโต๊ะ และเงยหน้ามองไปรอบๆห้อง
" ฉันเอง "
ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อได้ฟัง พวกเขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยพลางพากันส่ายหน้า
" ไม่ได้ "
" นี่มันเป็นเรื่องของบริษัทเอ็มไอกรุ้ป เธอเกี่ยวข้องอะไรด้วย? "
" ยังไม่ถึงตาที่คุณจะพูด ในบริษัทนี้มีคนมากที่มีความสามารถอยู่มาก แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาจัดการเรื่องนี้? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าและพูดต่อ " ก็เพราะสิทธิ์ในการเป็นภรรยาของจี้จิ่งเชิน สิทธิ์ที่ฉันเป็นผู้สืบทอดทายาททางกฎหมายของตระกูลหล่อนยังไงล่ะ "
เสียงของเธอไม่ได้ดังมาก แต่มันกลับดูกังวานและทรงพลังมาก!
คณะกรรมการบริษัทหลายคนต่างตกใจจนพูดไม่ออกกับคำพูดของเธอ
ข้อแรกยังพอโต้แย้งได้ แม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันปลอมๆ
แต่ใครก็ดูออก ว่าจี้จิ่งเชินรักและให้ความสำคัญกับเวินเที๋ยนเที๋ยนมากกว่าชีวิตของตัวเอง
หากแค่ในกรณีนี้ก็คงจะไม่เป็นไร แต่ตอนนี้เธอมีสถานะที่ใหญ่กว่านั้น นั่นคือก็เธอเป็นทายาทผู้สืบทอดทางกฎหมายของตระกูลหล่อน
เพียงแค่เงื่อนไขนี้ ก็ไม่มีใครกล้าที่จะขวางเธอแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการบริหารเพียงแค่ชั่วคราว ต่อให้เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องการที่จะฮุบบริษัทเอ็มไอกรุ้ป ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูทุกคนที่เงียบลงอย่างพึงพอใจ
" ดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะบริหารบริษัทเอ็มไอกรุ้ปแทนจี้จิ่งเชินจนกว่าเขาจะกลับมา "
คณะกรรมการบริษัทหลายคนต่างพากันพูดพึมพำอย่างไม่พอใจ
" ผู้หญิงคนเดียวจะสามารถทำอะไรได้? บริษัทจะถูกปิดไม่ช้าก็เร็ว! จะมัวมารอให้จี้จิ่งเชินกลับมาได้ยังไง? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองพวกเขาแวบหนึ่ง พลางพูดอย่างเย็นชา " ฉันจำได้ว่า คณะกรรมการของบริษัท ไม่สามารถจัดการงานบริหารและการตัดสินใจของประธานบริษัทได้ "
" สิ่งเดียวที่พวกคุณต้องทำก็คือรอเงินปันผลประจำปีก็เท่านั้น ส่วนเรื่องของบริษัท ไม่ใช่เรื่องที่พวกคุณจะต้องกังวล "
หลายคนโกรธจนหน้าแดงจากคำพูดของเวินเที๋ยนเที๋ยน พวกเขาตบโต๊ะและยืนขึ้นอย่างไม่พอใจ
" ดี! ฉันก็จะคอยดู ว่าเธอจะสามารถบริหารบริษัทได้ยังไง? "