เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 239 ใครเป็นฆาตกร
บทที่ 239 ใครเป็นฆาตกร
เวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นรถ เตรียมที่จะกลับ
เธอเชื่อจี้จิ่งเชิน แต่พอนึกถึงอาการของเขาตอนนี้ กลับเริ่มรู้สึกกังวล
คนขับรถหันมามองเธอ“คุณหนู จะกลับเลยไหมครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะพูด ก็รีบโบกมือไปมาอีกครั้ง
“ฉันค่อยกลับ”
พอพูดจบ เธอก็รีบลงจากรถ แล้วมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถอีกครั้ง
หลังจากที่ตำรวจได้แจ้งไปทางสถานีตำรวจแล้ว ไม่นานที่นี่ก็ถูกหมอนิติเวชและตำรวจควบคุมไว้ ถึงตอนนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนอยากจะเข้าไปตรวจสอบก็ทำไม่ได้แล้ว
เธอเดินไปใกล้เวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วก้มสังเกตดูอย่างละเอียด
ใบหน้าของเจี่ยงเนี่ยนเหยานั้นซีดจนไม่มีเลือดหลงเหลือบนใบหน้าเลย ตาทั้งสองข้างปิดสนิทและนอนเงยหน้าอยู่บนพื้น
ที่หน้าอกมีมีดสั้นปักอยู่ แต่ด้ามจับยังไม่ได้โดนเสียบเข้าไป ร่างกายแข็งทื่อไปหมด
คนที่เมื่อวานพึ่งจะเผาพิพิธภัณฑ์ ตอนนี้กลับนอนตายอยู่ตรงนี้โดยไม่โกรธแค้นเลยสักนิด
เวินเที๋ยนเที๋ยนสูดหายใจเข้า แล้วโน้มตัวลงสังเกตต่อ
ถ้าหากมีคนใส่ร้ายจี้จิ่งเชินจริงๆ อย่างนั้นก็ต้องทิ้งหลักฐานอะไรไว้บ้าง
ท่าทางของคนที่นอนตายอยู่บนพื้นนั้นทื่อตรงไปหมด ถ้าหากเกิดการต่อสู้กับจี้จิ่งเชินจริงๆละก็ คงจะไม่นอนตรงแบบนี้แน่นอน
ไม่ว่ายังไงก็ตาม ไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็ดูเหมือนจะมีคนใส่ร้ายจี้จิ่งเชินทั้งนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบถ่ายรูปเอาไว้หลายรูป แล้วเงยหน้ามองไปรอบด้าน
ถึงแม้ว่าที่นี่จะติดตั้งกล้องวงจรปิด แต่กลับถูกติดตั้งในมุมอับ ที่นี่ถูกทิ้งร้างไว้นาน ไม่รู้ว่าจะยังใช้ได้อยู่หรือเปล่า?
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังจะตรวจสอบต่อให้ชัดเจน ก็มีตำรวจกลุ่มหนึ่งพาหมอนิติเวชเดินเข้ามาจากข้างนอก
พอเห็นพวกเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงทำได้แค่แอบหลบออกไป
หลังจากที่ตำรวจได้รับช่วงควบคุมที่เกิดเหตุ เวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยากจะเข้าไป ก็ยากแล้ว
เธอเลื่อนดูรูปที่อยู่ในมือ แล้วรีบมุ่งหน้าไปปราสาทของจี้จิ่งเชินทันที
เหมือนว่าพ่อบ้านจะรู้ข่าวแล้ว พอเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รีบเดินมาหาทันที
“คุณเวิน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ?คุณท่านล่ะครับ?”
แม่ครัวและคนสวนที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างก็มองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างตกใจ
“มีปัญหานิดหน่อย แต่ว่าจี้จิ่งเชินจะไม่เป็นไรหรอก”เธอพูดขึ้น
พอพูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็สั่งให้ทุกๆคนกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วเรียกพ่อบ้านไปปรึกษาที่ห้องหนังสือ
เพียงไม่กี่ชั่วโมง เรื่องนี้ก็ได้แพร่สะพัดไปทั้งเมืองหลวง
พอนึกถึงเรื่องที่เจี่ยงเนี่ยนเหยาวางเพลิงพิพิธภัณฑ์ ทุกๆคนก็ตัดสินแล้วว่า จี้จิ่งเชินเป็นฆาตกร
พอคุณนายหล่อนได้ข่าวนี้แล้ว ก็เรียกตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับทันที แล้วขอร้องให้ถอนตัวจากเรื่องนี้ซะ
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยากถอนตัว แต่ก็ถูกคนของตระกูลหล่อนบังคับพาตัวกลับมาจนได้
“เรื่องในครั้งนี้ฉันจะให้คนไปสืบเอง เธอไม่ต้องเข้าไปเกี่ยว”คุณนายหล่อนพูดอย่างไม่อ้อมค้อม
ตอนแรกเวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าเธอคงจะคิดว่าจี้จิ่งเชินเป็นฆาตกร แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะยืนอยู่ข้างตัวเอง
“คุณนายหล่อน คุณเชื่อจี้จิ่งเชินหรอคะ?”
คุณนายหล่อนกลับส่ายหน้าไปมา
“ฉันไม่ได้เชื่อเขา แต่ฉันเชื่อเธอ”
จริงๆแล้วหล่อนหลีเชื่อมากกว่าใครๆ เรื่องนี้ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับจี้จิ่งเชินอย่างแน่นอน
คนอื่นไม่เข้าใจในอาการของจี้จิ่งเชิน แต่เธอนั้นเข้าใจชัดเจน
จากที่เธอดูข้อมูลของจี้จิ่งเชินในครั้งก่อน อารมณ์ของจี้จิ่งเชินนั้นไม่คงที่เอามากๆ
หลังจากที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น และภายใต้อารมณ์ที่รุนแรง เขาอาจจะทำร้ายใครก็ได้
เธอพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยนตรงๆว่า “เธอเองก็น่าจะเข้าใจดี อาการของจี้จิ่งเชินยังไม่ปกติ มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำเรื่องแบบนี้”
พอเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟัง ก็รีบที่จะอยากอธิบาย แต่คุณนายหล่อนก็ตัดบทเธออีกครั้ง
“แต่เป็นเพราะเธอ ฉันเต็มใจที่จะเชื่อเธอ ฉันจะให้คนช่วยสืบ เธอรอผลอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับขมวดคิ้ว แล้วส่ายหน้าไปมา
“ฉันขอบคุณมากที่คุณยินดีที่จะช่วยฉัน แต่ฉันจะต้องสืบไปพร้อมกับพวกเขาด้วย”
“เที๋ยนเที๋ยน”
คุณนายหล่อนตะเบ็งเสียงขึ้นอย่างเหนื่อยใจ “ถ้าเรื่องนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ งั้นคนที่จัดฉากก็เพ่งเล็งไปที่เธอกับจี้จิ่งเชินแน่นอน ถ้าตอนนี้เธอเข้าไปเกี่ยวข้องละก็ แม้เธอเองก็อาจจะซวยได้”
ที่คุณนายหล่อนพูดจนปากเปียกปากแฉะ ก็เพื่อหวังว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ได้รับอันตราย
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงหนักแน่น
เธอตอบอย่างหนักแน่นว่า “ฉันจะไม่ปล่อยให้จี้จิ่งเชินเผชิญหน้าคนเดียวอีกต่อไปแล้ว”
ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อน หรือตอนนี้ จี้จิ่งเชินก็มักจะผลักไสเธอออกไปเสมอ แล้วเผชิญหน้าคนเดียวด้วยตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลาดไปหลายครั้งแล้ว และเธอไม่อยากที่จะทิ้งจี้จิ่งเชินเอาไว้คนเดียวอีกแล้ว
คุณนายหล่อนขมวดคิ้ว แล้วมองไปที่เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า
บางทีเวินหงหยู้อาจจะพูดถูกก็ได้ จริงๆแล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นเหมือนเธอตอนสาวๆมาก
เธอพึมพำอยู่สักพัก จึงจะอ่อนลง
“ได้ ฉันตกลง”
“เธอสามารถร่วมมือกับคนอื่นสืบเรื่องนี้ได้ แต่เธอต้องรับปากฉัน ถ้าหากมีอันตราย เธอต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเธอเอง ถ้าหากมีอะไรไม่ชอบมาพากล เธอต้องเชื่อฟังตามที่ฉันสั่ง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างซาบซึ้งใจ
เธอเอื้อมมือไปดึงคุณนายหล่อนไว้
“ขอบคุณนะคะ ฉันทำได้แน่นอนค่ะ”
คุณนายหล่อนอึ้งไปเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นฝ่ายดึงเธอไว้ก่อน
ในใจเธอก็เกิดความกลัดกลุ้มขึ้นมาทันที
เพียงแค่รับปากเธอให้สืบเรื่องของจี้จิ่งเชินได้ต่อ เธอก็ดีใจมากถึงขนาดนี้
หรือว่าเธอยังเป็นแม่ที่ดีไม่ได้จริงๆอย่างนั้นหรอ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกในใจของเธอ เธอรีบลุกขึ้นมา ไม่อยากจะรอแม้สักนาทีเดียว
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอไปดูสถานการณ์ของจี้จิ่งเชินก่อนนะคะ”
คุณนายหล่อนยิ้มเล็กน้อย พลางพยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ไปเถอะ”
ในเมื่อหล่อนหลีได้รับปากเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แล้ว เธอจึงรีบดำเนินการในทันที
ในวันนั้น ทนายผู้มีชื่อเสียงในประเทศ และนักสืบส่วนบุคคลอีกไม่น้อย ถูกเชิญมาอยู่ตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน
จนกระทั่งเธอได้ใช้อิทธิพลของตระกูลหล่อน เปิดช่องทางให้เวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นได้เข้าร่วมทีมสืบคดี
แต่ทั้งหมดนี้ กลับไม่ได้ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนพบเบาะแสอะไรที่มีประโยชน์เลย
กล้องวงจรปิดที่ถูกติดตั้งไว้ในลานจอดรถ ก็หยุดการใช้งานไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว จึงไม่ได้บันทึกเหตุการณ์อะไรไว้ได้เลย
แถมโรงงานร้างนี้ก็ไม่มีใครใช้มานานมากแล้ว ตั้งแต่ถนนเป็นต้นมาก็ไม่มีแม้แต่กล้องวงจรปิด
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองจงหลีที่อยู่ข้างๆ
“นายไปเจอเจี่ยงเนี่ยนเหยาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
จงหลีขมวดคิ้ว พลางสงสัย
“ลูกน้องพบรถของเจี่ยงเนี่ยนเหยาขับออกมาจากตัวเมือง พวกเราเลยให้คนขับรถตามมา”
“ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาอยู่ที่นี่ พวกเขาได้เจอเจี่ยงเนี่ยนเหยาไหม?”
จงหลียกมือขึ้นมา แล้วเรียกบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างเข้ามา แล้วถามอย่างละเอียดอีกครั้ง
มีคนนึงพูดขึ้นว่า “ตอนที่พวกเรามาถึง พวกเราได้ช้าไปเล็กน้อย มองจากไกลๆแล้วมีคนเดินลงมาจากรถ พวกเราเลยรายงานคุณจี้ครับ”
“คุณจี้สั่งให้พวกเรารออยู่ที่เดิมจนกว่าเขาจะมา พวกเราเลยไม่ได้เข้าไป ได้แต่คอยป้องกันอยู่ข้างนอก แล้วกันทางออกเอาไว้ทั้งหมด จนกว่าคุณท่านจะมา”
พอเวินเที๋ยนเที๋ยนฟังพวกเขาพูดจบ ก็ขมวดคิ้วพลางพูดว่า “พวกนายเห็นแค่รางๆ แต่ไม่เห็นว่าคนคนนั้นเป็นเจี่ยงเนี่ยนเหยาหรือเปล่า?”
พวกเขามองหน้ากันไปมา แล้วพูดขึ้นว่า “รถคันนั้นเป็นรถที่ไม่กี่วันก่อนเจี่ยงเนี่ยนเหยาได้เช่าเอาไว้ ไม่ผิดแน่นอนครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ ถ้าหากเจี่ยงเนี่ยนเหยาตายก่อนที่จี้จิ่งเชินจะมาถึง ถ้าอย่างนั้นต้องมีคนที่อยู่กับเธอในตอนนั้นแน่นอน
ถ้าอย่างนั้นคนคนนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะเป็นฆาตกร