เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 232 ฉันเป็นคนทำร้ายเธอเอง
บทที่232 ฉันเป็นคนทำร้ายเธอเอง
คำพูดของจี้จิ่งเชินทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอึ้งไปชั่วขณะ เธอรีบมาขวางด้านหน้าเขาทันที
“พวกเราขึ้นไปข้างบนกันก่อนดีไหม?”
ขณะที่กำลังพูด เธอก็รีบใช้แขนทั้งสองข้างโอบเขาไว้ แล้วกอดจี้จิ่งเชินไว้แน่น เธออยากจะช่วยคลี่คลายอารมณ์โกรธของเขาในตอนนี้
เจี่ยงเนี่ยนเหยาเห็นแบบนี้ ก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ตะเกียกตะกายหนีไป
จี้จิ่งเชินที่ถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนห้ามเอาไว้นั้น ก็หยุดเดิน แล้วโอบกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แน่น
แรงของเขานั้นเยอะมาก เวินเที๋ยนเที๋ยนเจ็บจนขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ปล่อยเขา
“ครั้งต่อไปฉันจะไม่ให้เธอห่างไปจากปราสาทอีก”
น้ำเสียงของเขาดูน่ากลัว ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่า ที่จี้จิ่งเชินพูดนั้นเขาทำจริง
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้จะทำให้เกิดผลกระทบ ทำให้อาการป่วยของจี้จิ่งเชินนั้นหนักขึ้น
ความพยายามที่ทำมาก่อนหน้านี้ ก็ไร้ประโยชน์ทั้งหมด
เธอดึงจี้จิ่งเชินไว้แน่น เพื่อชดเชยสิ่งที่ทำผิดไป
“ไม่ได้นะ จี้จิ่งเชิน ยังไงฉันก็ต้องออกมาข้างนอกบ้าง นายจะขังฉันไว้ในปราสาทตลอดไปไม่ได้นะ”
“ฉันทำได้”จี้จิ่งเชินตอบอย่างหนักแน่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว ในใจก็ถูกครอบคลุมไปด้วยความเศร้าใจ
เพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ที่พยายามมาตั้งนาน ก็ว่างเปล่าพังทลายไปหมด
เธออดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “จี้จิ่งเชิน นายลองควบคุมอารมณ์ตัวเองหน่อยได้ไหม?”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนใช้โอกาสนี้ผละออกจากแผงอกของเขา
แต่เพียงเธอขยับแค่นิดเดียว จี้จิ่งเชินกลับโอบเอวเธอไว้แน่นขึ้นอีกครั้ง มืออีกข้างนึงก็จับแก้มของเธออยู่ แววตาแสดงออกถึงความอันตราย
“ฉันระงับอารมณ์ของตัวเองแล้ว เธอรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันคิดอะไรอยู่?”
น้ำเสียงของเขาทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจ และมองเขาอย่างเคร่งเครียด
“นายอยากจะทำไร?”
จี้จิ่งเชินกัดฟันไว้แน่น นัยน์ตาค่อยๆแดงก่ำขึ้นมา
“ฉันอยากที่จะขังเธอไว้ ให้อยู่ข้างกายของฉัน”
“ฉันจะพรมจูบลงบนร่างกายของเธอ ให้ร่างกายของเธอมีแต่กลิ่นของฉัน”
“ฟ้าก็รู้ ฉันอยากจะทำมากขนาดไหน”
คำพูดของเขาทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจนเบิกตากว้าง แล้วค่อยๆถอยหลังไปหนึ่งก้าว
แต่เพียงแค่ก้าวเล็กๆก้าวเดียวนี้ กลับทำให้ไฟโกรธของจี้จิ่งเชินลุกโชนขึ้นมาในชั่วพริบตา
เขาออกแรงที่มือทั้งสองข้าง แล้วโน้มตัวลง ประกบจูบลงบนริมฝีปากของเวินเที๋ยนเที๋ยน
จี้จิ่งเชินจูบเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างบ้าคลั่ง เหมือนจะเป็นการข่มขู่มากกว่าการจูบเสียอีก
ลิ้นของเขาดุนให้เธอเปิดปาก แล้วตวัดไปทั่วโพรงปาก
เหมือนที่เขาพูดไว้ก่อนหน้านี้ เขาอยากจะประทับตราลงบนร่างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยน ให้รู้ว่าเธอเป็นของเขา กลิ่นของเขา ทั้งหมดเป็นของเขา
แต่แรงของจี้จิ่งเชินนั้นมากเกินไป เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกว่าลิ้นของเธอถูกเขากัดจนเจ็บเล็กน้อย แม้กระทั่งริมฝีปากก็แตกแล้ว
จี้จิ่งเชินกลับไม่ได้รู้สึกอะไร เขากดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้กับฝากระโปรงหน้ารถ ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนขัดขืนไม่ได้
ริมฝีปากของเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกขบกัดไม่หยุด เลือดสดๆจากปากแผลก็ซึมออกมา
จูบอันเร่าร้อนที่แฝงไปด้วยความอ่อนหวาน……
แต่กลับทำให้จูบของจี้จิ่งเชินนั้นร้อนแรงขึ้นไปอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่หยุดที่จะหลบหลีก และรู้สึกว่าลิ้นของตัวเองก็จะถูกเขากัดจนเป็นแผลแล้ว
ผ่านไปสักพักใหญ่ จี้จิ่งเชินถึงจะค่อยๆปล่อยเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่เขากลับเริ่มพรมจูบไปบนคอและไหล่ของเธอแทน
เพราะจูบที่รุนแรงเกินไปทำให้ผิวมีรอยสีม่วงๆปรากฏขึ้น ในขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บแสบเล็กน้อย
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่มีทางปฏิเสธได้ กระทั่งเธอรู้สึกว่าจูบของจี้จิ่งเชินจะค่อยๆลดต่ำลง และมุ่งไปทางที่หลีกหนีไม่ได้
เธอตกใจจนใบหน้าซีดเผือด และเริ่มดิ้นรนมากขึ้นเรื่อยๆ
“จี้จิ่งเชิน!อย่าทำแบบนี้!ปล่อยฉันนะ!”
ในขณะนั้นจี้จิ่งเชินที่ตกอยู่ในอารมณ์ที่ดุดัน จึงไม่ได้ยินเสียงของเธอเลยแม้แต่น้อย และขบกัดบนผิวของเธอไม่หยุด
ที่นี่คือลานจอดรถชั้นใต้ดินของบริษัทเอ็มไอกรุ๊ป
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาทำงาน และแทบจะไม่มีคนเลย แต่มันก็ยังคงทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนกลัวอยู่ดี
“จี้จิ่งเชิน จี้จิ่งเชิน นายอย่าทำแบบนี้……สงบสติอารมณ์หน่อย……”
เธอตะโกนอยู่สักพัก ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็เหมือนจะได้ยินเสียงของเธอแล้ว
เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ นัยน์ตาพยายามจะซ่อนความบ้าคลั่งไว้
เขาโน้มตัวลง แล้วอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมา แล้วพาเธอเข้าไปในรถของเขา
ปังเสียงปิดประตู แล้วเขาก็หันมาคร่อมตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจนรีบกระเถิบตัวไปข้างหลัง แล้วขดตัวอยู่ตรงมุม
แต่ก็ถูกจี้จิ่งเชินดึงตัวออกมาอย่างรวดเร็ว
ในบ่ายวันนั้นจงหลีรออยู่นานมาก
จี้จิ่งเชินแค่ไปรับคนที่ตึกข้างล่าง แต่กลับไปแล้วไม่กลับมาเลย
ไม่ว่าจะโทรไปกี่ครั้ง ก็ไม่มีการตอบกลับมาเลย จงหลีจึงทำอะไรไม่ได้
จนกระทั่งกลางดึก รถของจี้จิ่งเชินจึงจะออกจากที่จอดรถชั้นใต้ดินของบริษัทเอ็มไปกรุ๊ป แต่กลับมุ่งหน้าไปที่แถวชานเมืองของปราสาท
สีหน้าของจี้จิ่งเชินนั้นดูไม่ดีเอามากๆ แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความเจ็บปวด
จากกระจกมองหลัง ก็จะเห็นคนที่นั่งอยู่ข้างหลังได้ในตอนนี้
เสื้อผ้าของเธอถูกฉีกขาด ผิวบนเรือนร่างของเธอนั้นเป็นรอยเต็มไปหมด ทุกส่วนเต็มไปด้วยรอยจูบจนช้ำ
ริมฝีปากนั้นยังมีร่องรอยที่เขาขบกัดไว้อยู่ ถึงแม้ว่าเลือดจะหยุดไหลแล้ว แต่ก็ยังคงหวาดกลัวอยู่
เวินเที๋ยนเที๋ยนหลับตาลง และได้นอนสลบไสลไปนานแล้ว แต่ยังมีน้ำตาไหลออกมาจากหางตาอยู่ เพราะเมื่อกี้เธอได้รับความเจ็บปวดอย่างมากมาย
บนตัวเธอมีเพียงเสียงคลุมของจี้จิ่งเชินปกคลุมอยู่หนึ่งผืน ถึงแม้ว่าจะหลับไปแล้ว แต่เธอก็ยังขดตัวอยู่ เหมือนแมวน้อย
แสดงออกถึงความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย
พอเห็นแบบนี้แล้ว ในใจจี้จิ่งเชินก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นอีกครั้ง
ราวกับเข็มที่หนาเตอะ ทิ่มแทงไปที่หัวใจของเขา จับไม่ได้และดึงออกมาก็ไม่ได้เช่นกัน มันเจ็บปวดจนอยากจะร้องไห้ออกมา
เขายังคงควบคุมพฤติกรรมของตัวเองไม่ได้
คนที่ทำร้ายเวินเที๋ยนเที๋ยนมากที่สุด ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเขาเอง
หมอพูดถูก ถ้าหากยังเก็บเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ข้างกาย เธอจะต้องได้รับบาดเจ็บแน่ๆ
แต่เพียงคิดแค่ว่าเธอต้องจากไป ในใจของจี้จิ่งเชิน ก็เจ็บปวดจนแทบจะหยุดหายใจ
เขาจะเสียผู้หญิงคนนี้ไปได้ยังไงกัน……
เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา
รถค่อยๆขับเข้าไปในปราสาท จี้จิ่งเชินค่อยๆลงจากรถอย่างระมัดระวัง แล้วเปิดประตูด้านหลังออก
เขาโน้มตัวลง แล้วจ้องเขม็งไปยังคนที่นอนหลับสนิท แววตาดูเจ็บใจ เจ็บปวดรู้สึกผิดเต็มไปหมด
ผ่านไปสักพักใหญ่ จี้จิ่งเชินจึงอุ้มเธอขึ้นมาอย่างระมัดระวัง
การกระทำของเขาทั้งเบาและนุ่มนวล ราวกับว่าปฏิบัติต่อแก้วคริสทัลที่แตกสลาย เขากังวลว่าจะทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจตื่น
พออุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าปราสาท พ่อบ้านก็ออกมาต้อนรับ
พอเขากำลังจะเปิดปากพูด ก็ถูกแววตาของจี้จิ่งเชินหยุดเอาไว้
พ่อบ้านที่เห็นสิ่งที่อยู่ในอ้อมอกเขา ก็ตกใจไปชั่วขณะ
ในช่วงบ่าย เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ใช่ว่าไปส่งของหรอกเหรอ?ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?
ก่อนหน้านี้ที่พูดคุยกัน อาการของจี้จิ่งเชินจะดีขึ้นได้ แต่สภาพของเขาตอนนี้……
ทำไมถึงเลวร้ายแบบนี้?
จี้จิ่งเชินไม่ได้พูดอะไร แต่กลับอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินขึ้นข้างบนไป แล้ววางเธอลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง
แล้วปิดประตูลงเบาๆ แล้วค่อยพูดกับพ่อบ้านว่า “เรียกหมอผู้หญิงมา แล้วก็เอายาลดรอยช้ำด้วย”
พ่อบ้านฟังที่เขากำชับอย่างตกใจ แล้วพูดขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “คุณหนู เป็นอะไรเหรอครับ?”
จี้จิ่งเชินหันมามองพ่อบ้านครู่หนึ่ง แววตาเต็มไปด้วยความเสียใจและสิ้นหวังจนทำให้รู้สึกสะเทือนใจ
เขาเผยอปากเล็กน้อย เสียงเงียบหายไปชั่วขณะ และสะอื้นออกมาเล็กน้อย
“ฉันเอง”
“ฉันทำร้ายเขาเอง”