เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 223 ให้เธอมา
บทที่ 223 ให้เธอมา
เสียงกรีดร้องเสียงแหลมทำให้รอบๆเงียบสงบทันที
สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งซีดเซียว หันหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วมองไปด้านหน้า
เครื่องบินเสียดสีกับพื้น ทำให้เกิดเสียงที่แสบหูและไม่น่าฟัง
เหมือนกับเสียงดนตรีดังขึ้น แล้วหยุดลง ทุกคนก็เงียบสงบลงในเวลาเดียวกัน
ระหว่างที่เกิดเสียงที่แสบหู เครื่องบินก็ค่อยๆจอดลง
ทุกคนตกใจไม่อยู่นิ่ง มองรอบๆอย่างหวาดผวา
เวินเที๋ยนเที๋ยนถลึงตากว้าง เรี่ยวแรงที่มีในตัวเหมือนถูกคนสูบออกไป
เธอยืนไม่นิ่ง ล้มลงไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลัง
คนรอบข้างยังถกเถียงกัน
“ชนหรือยัง”
“คนนี้มีปัญหาไหม ทำไมถึงต้องยืนขวางอยู่ตรงกลาง”
“ระยะทางอันสั้นขนาดนี้ จะหลบได้ยังไง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองพวกเขาสนทนากัน น้ำในตาก็ไหลออกมา
“ตอนนี้คุณพอใจหรือยัง”
เธอพูดเสียงต่ำ
หมินอันเกอขมวดคิ้ว เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมจี้จิ่งเชินถึงมาปรากฏตัวในเวลานี้อย่างกะทันหัน แล้วยังขวางหน้าเครื่องบิน
ไอ้บ้าคนนั้น
“เที๋ยนเที๋ยน”
เขายืนมืออยากจะดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนมาซบไหล่ แต่เธอกลับหลบหลีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนลุกขึ้นยืนทันที เดินไปข้างนอกอย่างลุกลี้ลุกลน
แต่บอดี้การ์ดสองคนก็ขวางหน้าเธอไว้อีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำมัดแน่น ตัวสั่นเล็กน้อย
“ถึงตอนนี้แล้ว คุณก็ไม่ยอมให้ฉันลงไปเหรอ”
หมินอันเกอมองเธออย่างลำบากใจพักหนึ่ง ในที่สุดก็พยักหน้า
พอบอดี้การ์ดสองคนหลีกทางให้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็วิ่งพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
สองขาของเธออ่อนแรง เกือบล้มลงกับพื้นหลายครั้ง
หมินอันเกอที่เดินตามหลังอยากจะเข้าไปประคองเธอ แต่ก็เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หลบจากเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่ง่ายเลยที่เธอจะเดินถึงประตูเครื่องบิน อยากจะเปิดออก
มีผู้โดยสารคนหนึ่งมองแล้วทุกข์ใจ จึงพูดเตือน “สาวน้อย เธออย่าเคาะเลย นอกจากกัปตันจะมา ไม่งั้นประตูเปิดไม่ออก”
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่ฟัง
มือของเธอทุบด้านบนไม่หยุด หันหน้ามองกล้องวงจรปิด ขอร้องกับกัปตัน
“เปิดประตูให้ฉันลงไปเถอะ”
“คนที่อยู่ด้านล่างเป็นคนรักของฉัน”
ผู้คนที่รอบข้างมองเธอ ล้วนส่ายหน้ากันหมด
มือของเวินเที๋ยนเที๋ยนทุบจนบวมแดง แต่เธอกลับไม่หยุดทุบ
“จี้จิ่งเชินเพียงแค่ได้รับบาดเจ็บ ฉันจะลงไปช่วยเขา”
หมินอันเกอยืนอยู่ด้านหลัง มองคนที่นั่งบนพื้นอย่างพังทลายอย่างปวดใจ
เขาอดพูดไม่ได้ “เที๋ยนเที๋ยน เธออย่าเพิ่งรีบร้อน ไม่นานจะมีคนจัดการเอง”
เขาพูดพร้อมทั้งลากแขนเวินเที๋ยนเที๋ยน ประคองเธอยืนขึ้น
และในเวลานี้ มีเสียงดังปัง
ประตูห้องผู้โดยที่ปิดสนิทตรงหน้าค่อยๆเปิดออก
“ปล่อยเธอ”
มีเสียงดังมาจากด้านนอก
พอเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงนี้ ก็ตะลึง แล้วค่อยๆหันหน้ามา
หน้าประตูห้องผู้โดยสาร มีเงาคนยืนบังแสง
คือจี้จิ่งเชิน
ใบหน้าของเขาราวกับมีเมฆครื้ม สายตาดำมืดและลึกล้ำ
หมินอันเกอมองเห็นเขา ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ในมือออกแรงจะดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามา
พอเขาขยับ จี้จิ่งเชินก็สังเกตเห็น
“ฉันให้คุณปล่อยเธอ”
เขาพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ชกเข้าที่หน้าของหมินอันเกอ
หมินอันเกอถูกเขาต่อยจนถอยหลังไปหลายก้าว ล้มลงบนเก้าอี้
จี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้าตาแดง สายตาเย็นชา
หมินอันเกอร้องตะโกนอย่างรีบร้อน “ขวางเขาไว้ อย่าให้เขาเอาตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนไป”
บอดี้การ์ดสองคนวิ่งไปข้างหน้าอย่ารวดเร็ว ยืนขวางตรงกลางระหว่างจี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยน
จี้จิ่งเชินหรี่ตาที่เย็นชาของเขา แล้วก้าวเท้าเดินเข้าไป
สายตาของเขา มองที่เวินเที๋ยนเที๋ยนตลอด
“หลบไป”
บอดี้การ์ดสองคนไม่ขยับ
จี้จิ่งเชินกัดฟันแน่นเหมือนนักฆ่า จากจอนผมถึงขากรรไกรล่างตึงแน่นเนื่องจากออกแรง ปรากฏเส้นอย่างชัดเจน
พอร่างเขาขยับ ก็พุ่งเข้าไปต่อย
บอดี้การ์ดทั้งสองเข้าต่อสู้กับเขาอย่างรวดเร็ว
ในทางแคบ มีเสียงมัดต่อยดังไม่หยุด
บอดี้การ์ดที่ตระกูลหล่อนจ้างมาทั้งสองคนล้วนไม่ใช่คนดีอะไร แต่จี้จิ่งเชินเหมือนกับไม่รักชีวิต
ทุกมัดล้วนไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ของตัวเอง
ภายใต้วิธีการต่อยของเขาแบบนี้ แม้ว่าบอดี้การ์ดทั้งสองจะผ่านการต่อสู้มาแล้วร้อยครั้ง ก็ค่อยๆกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
บอดี้การ์ดคนสุดท้ายลงกับพื้นด้วยหมัดเดียว มัดของจี้จิ่งเชินยังมีรอยเลือด
สายตายิ่งเย็นชา ราวกับน้ำแข็งในฤดูหนาวหลายหมื่นปี มีความบ้าคลั่งเล็กน้อยซ่อนอยู่ภายใต้ความมืดมิด
เขาผ่านบอดี้การ์ดทั้งสอง ตรงไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยน
“คุณพาเธอไปไม่ได้”
หมินอันเกออยากจะห้ามไว้
สายตาของจี้จิ่งเชินมองมา ก็ทำให้เขาหยุดเพราะความกลัว
ดวงตานั้น ทำให้เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย จี้จิ่งเชินจะฆ่าเขา
จี้จิ่งเชินเดินมาตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน ใช้มือที่เต็มไปด้วยเลือดดึงเธอมากอดไว้
“ไม่ใช่บอกให้คุณอย่าไปไหนหรอ”
เขาพูดเสียงเบา แล้วกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แน่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำเสื้อผ้าของเขาไว้แน่น ตรวจดูร่างกายของเขาไม่หยุด
“จี้จิ่งเชิน คุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า”
แต่จี้จิ่งเชินเหมือนกับไม่ได้ยินที่เธอพูด
เขาก้มหน้า จูบที่หน้าผากของเวินเที๋ยนเที๋ยนทีหนึ่ง พาเธอหมุนตัว
“ผมจะพาคุณกลับไป”
หมินอันเกอเห็นเขาจะออกจากเครื่องบิน ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว
“คุณไปไม่ได้ คุณนายหล่อนไม่ปล่อยคุณแน่”
จี้จิ่งเชินหยุดเดิน ยืนอยู่หน้าประตูห้องผู้โดยสาร
แสงจากด้านนอกส่องบนตัวเขา ทำให้เงาตัวเขาสูงขึ้น
เขาเอียงหน้าเล็กน้อย แต่ไม่ได้มองหมินอันเกอ
“ให้เธอมา”
ทิ้งประโยคท้ายประโยคนี้ เขาก็หมุนตัวกอดเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วจากไปอย่างเด็ดเดี่ยว
พ่อบ้านและคนขับรถเพิ่งตามมาถึงสนามบิน เพิ่งเข้ามา ก็เห็นจี้จิ่งเชินกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกมา
นอกหน้าต่าง เครื่องบินถูกบังคับให้หยุดแล้ว
พวกเขาสะดุ้งตกใจ แล้วรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
“คุณชาย พวกคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินนิ่งเฉย สองแขนราวกับหลอมด้วยเหล็ก กอดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้
เขาตรงไปขึ้นรถ
“กลับปราสาท”
พ่อบ้านเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็พูดเสียงเบา “ต้องแจ้งคุณนายหล่อนหรือไม่”
ตอนนี้คุณชายพาเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมา ต้องทำให้ตระกูลหล่อนโกรธอย่างถึงขีดสุดแน่
ถึงเวลา…
จี้จิ่งเชินหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา ค่อยเบะปาก
“ไม่ต้อง ครั้งหนึ่ง ฉันไม่มีทางส่งคนให้เธอ”
พ่อบ้านมองเขาอย่างตกใจ ไม่รู้ว่าการกลับมาของเวินเที๋ยนเที๋ยน จะทำให้การป่วยของจี้จิ่งเชินดีขึ้น หรือแย่ลง
รถวิ่งเข้าปราสาท จอดอยู่ตรงหน้าประตู
แม้ตอนที่อยู่ในรถจี้จิ่งเชินก็ไม่ปล่อยเวินเที๋ยนเที๋ยน
รถหยุดลง เขาก็อุ้มคนแล้วเดินลงรถไปโดยตรง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเห็นพวกแม่บ้านพากันรออยู่ที่หน้าประตู ก็ผลักจี้จิ่งเชิน
“คุณให้ฉันลง ฉันเดินเองได้”
จี้จิ่งเชินไม่ขยับ แต่กลับกอดแน่นยิ่งขึ้น สาวเท้าเดินเข้าข้างใน
แม่ครัวเห็นเธอก็รีบวิ่งเข้ามา
“คุณเวิน คุณเป็นอะไรเหรอ ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ทันตอบ ก็โดนจี้จิ่งเชินอุ้มเดินขึ้นชั้นบนโดยตรง
ในห้องของชั้นสาม ห้องของเวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงเก็บรักษาไว้ตามเดิม
จี้จิ่งเชินวางเธอลงบนเตียง โน้มตัวกอดเธอไว้
ค่อยๆโค้งเอว เหมือนกับเด็ก
“ขอโทษ”
เขาพูดเสียงต่ำ