เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 220 การประนีประนอมที่มากที่สุด
บทที่ 220 การประนีประนอมที่มากที่สุด
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ที่ตระกูลหล่อนอีกสองวัน และในที่สุดก็ได้รับอนุญาตจากคุณนายหล่อนให้เธอออกไปได้
ทันทีที่เธอออกไปเธอก็เห็นจี้จิ่งเชินยืนอยู่ที่ประตู
เมื่อนึกถึงน้ำเสียงของจี้จิ่งเชินที่เรียกเธอในวันนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เหลือบมองเขาและทำเป็นไม่สนใจ
“เที๋ยนเที๋ยน”
จี้จิ่งเชินเดินตามมาและรั้งเธอไว้
“มีเรื่องอะไรเหรอ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดเดิน
เสียงเย็นยะเยือกทำให้จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว
“ขอโทษ”
เขาลดเสียงลงและประนีประนอมอีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันมามองเขา “จี้จิ่งเชิน คุณไม่สามารถทำลงแล้วค่อมาขอโทษได้ทุกครั้งนะ”
แต่จี้จิ่งเชินจับเธอไว้ไปล่อย
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กระซิบ “ผมไม่ชอบให้คุณกับหมินอันเกออยู่ใกล้เกินไป”
“เปล่า ฉันแค่ยืมโทรศัพท์ของเขา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจำสิ่งที่หมินอันเกอเคยบอกเธอก่อนหน้านี้ได้และถามว่า “คุณให้คนสะกดรอยตามฉันอยู่เหรอ?”
จี้จิ่งเชินหดลงทันที ดวงตาเขามีแววรุนแรง
“หมินอันเกอบอกคุณเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนสะบัดมือเขาออกไป “จี้จิ่งเชิน คุณทำแบบนี้ไม่ถูกนะ”
“ผมรู้”
เขาขมวดคิ้วและพูดด้วยความยากลำบาก “แต่ผมควบคุมมันไม่ได้”
เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ
เขาไม่กล้าแม้แต่จะบอกเวินเที๋ยนเที๋ยนว่าเขาคิดอะไรอยู่ในใจ
เมื่อมองผู้หญิงตรงหน้าเขา ก็เหมือนมีเสียงดังขึ้นมาในจิตใจของเขาไม่หยุด
มัดเธอเอาไว้!
ให้เธออยู่ข้าง!
มองได้แค่เขาคนเดียวเท่านั้น!
ใครกล้าแตะต้องตัวเธอเขาจะฆ่ามัน!
ถ้าเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ความคิดที่น่ากลัวเหล่านี้ เธอคงจะกลัวไปหมดแล้วหนีเขาไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูอารมณ์ที่ผิดปกติไปในดวงตาของเขา แล้วมองเขาด้วยความสงสัย
“คุณเป็นอะไรไป?”
จี้จิ่งเชินส่ายหัว ข่มความมืดครึ้มในดวงตาของเขา และยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยื่นมือออกไปจับมือเขา
“จี้จิ่งเชินคุณจะให้คนสะกดรอยตามฉันไม่ได้อีกต่อไป”
“ไม่ได้”
เขาปฏิเสธทันที โดยไม่ต้องคิด
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความประหลาดใจ
“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการให้คนรอฉัน? อยู่ดูว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ แล้วรายงานให้คุณทราบ?”
เมื่อรู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เต็มใจจี้จิ่งเชินก็ขมวดคิ้วข่มใจตัวเองอย่างหนักสักพัก และพยักหน้า
“ใช่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธอด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ “ ถึงฉันจะไม่ชอบ ก็ไม่ทำไม่ได้?”
“ไม่ได้”
“คุณไม่เชื่อฉันเหรอ?”
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินมีความขัดแย้ง
“ผมเชื่อคุณ……”
แต่ไม่มีทางเลือก
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เข้าใจเธอสะบัดมือของจี้จิ่งเชินออก
“ฉันนึกว่าคุณเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนแล้ว แต่ฉันเพิ่งรู้ว่าตอนนี้คุณไม่ได้เปลี่ยนไปเลย และยังแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว แต่ไม่ยอมปล่อย
“ขอโทษ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้าวถอยหลังและมองไปที่จี้จิ่งเชินที่อยู่ต่อหน้าเธอด้วยความผิดหวัง
“ฉันรู้แล้ว”
หลังจากพูดเสร็จเธอก็หันหลังแล้วเดินเข้าไปในตระกูลหล่อน
แม้กระทั่งตอนนี้ จี้จิ่งเชินก็ยังไม่เชื่อเธอ
ที่แท้เธอไม่รู้เลยว่าจี้จิ่งเชินได้ส่งคนมาตามเธอและควบคุมทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ
ตอนนี้มันจะแตกต่างจากตอนที่เธอถูกขังอยู่ในคฤหาสน์ได้อย่างไร?
ไม่มีอิสระเหมือนกัน
จี้จิ่งเชินมองไปที่เธอด้วยความตื่นตระหนกและรีบตามไป
“คุณจะไปไหน?”
“ฉันจะกลับไป” เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่หันไปมองเขา
แต่จี้จิ่งเชินจังเธอไว้ไม่ยอมปล่อย
“คุณไปไม่ได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้ามาและพูดว่า “ตอนนี้คุณหาคนมาคอยตามฉัน แล้วต่อไปไม่ใช่ว่าคุณอยากจะขังฉันเหรอ?”
“เที๋ยนเที๋ยน” จู่ๆเสียงของ จี้จิ่งเชินก็เงียบไปราวกับมีใครมาบีบคอของเขา
“อย่าบังคับฉัน”
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนว่า “จี้จิ่งเชิน ถ้าคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ฉันก็เหนื่อยมากแล้วจริงๆ”
เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินกำลังเม้มปาก เขาก็ยังคงไม่ยอมพูด เวินเที๋ยนเที๋ยนก็สะบัดมือออกอย่างแรงและหันไปออกไป
จี้จิ่งเชินเห็นเดินออกไปไม่หันกลับมามอง หัวใจของเขาก็เหมือนถูกควักออกไป อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เขารีบก้าวไปข้างหน้าและพูดอย่างรวดเร็ว!
“ผมสัญญากับคุณ!”
จี้จิ่งเชินจับมือของเธอ
“ผมสัญญากับคุณ ว่าจะไม่ให้คนตามคุณอีก อย่าไปเลยนะ ดีไหม?”
น้ำเสียงของเขานอบน้อมจนแทบจะอ้อนวอน
นี่คือการประนีประนอมที่มากที่สุดที่เขาสามารถทำได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้าไปทางเขา เธอรู้สึกว่าท่าทางของจี้จิ่งเชินดูแปลกไปเล็กน้อย
แต่ในที่สุดก็ไม่ง่ายเลยกว่าเขาก็ยอมถอย และเธอมองข้ามความสงสัยในใจของเธอ
เธอฉวยโอกาสและพูดว่า “วันนี้พวกเราไปหาหมินอันเกอกันเถอะ คุณไปขอโทษเขา ดีไหม?”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว ยังไม่ยอมตกลง
แต่เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเดินออกไปอีกครั้ง เขาก็ทำได้แค่กัดฟันและพยักหน้า
“โอเค”
เขาพิงเธอเบาๆ ราวกับเธอเป็นความหวังสุดท้าย “ขอแค่คุณไม่ไป ผมสัญญากับคุณทุกอย่าง”
“อืม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มอย่างพอใจขึ้นมา “จี้จิ่งเชิน คุณต้องเชื่อฉัน ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้บอกว่าเชื่อฉันเหรอ?คุณต้องเชื่อฉัน”
จี้จิ่งเชินก้มหัวลงเล็กน้อย ย่อตัวลงและวางศีรษะบนไหล่ของเธอ
“อืม ผมเชื่อคุณ”
เขาหลับตาลงเล็กน้อยราวกับว่าจะบอกกับเวินเที๋ยนเที๋ยนและเตือนตัวเอง
เตือนตัวเองให้ใจเย็นๆ และอย่ากดดันเธอเกินไปไม่อย่างนั้นเธอจะกลัว
แต่เมื่อเขาคิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนอาจจะไปจากเขา ก็ยิ่งตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้น
ความคิดในหัวของเขา คิดซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกลายเป็นวงจรอุบาทว์
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่สังเกตเห็นผู้อารักขาของเขาเลย และพาเขาไปหาหมินอันเกออย่างมีความสุข
หมินอันเกอมองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ สายตาของเขาจ้องไปที่จี้จิ่งเชินอยู่ตลอดเวลา
“พวกคุณมีอะไร?”
“ฉันต้องการพาจี้จิ่งเชินมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้ว” เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มและพูดขึ้นมา
“ขอโทษ?”
หมินอันเกอมองพวกเขาด้วยความตกใจ
เขานึกไม่ออกว่าจี้จิ่งเชินจะขอโทษคนอื่นได้อย่างไร?
แต่ว่าดวงตาของจี้จิ่งเชินเต็มไปด้วยแววตาที่ดุร้าย ไม่ว่าเขาจะมองยังไงมันก็ดูเหมือนจะไม่ใช่คำขอโทษ แต่เป็นความอาฆาตแค้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนผลักจี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างๆ และเห็นว่าเขาไม่ขยับ เธอจึงเดินเข้าไปใกล้
กระซิบข้างหูเขา “คุณสัญญากับฉันแล้ว”
ในที่สุด จี้จิ่งเชินก็พยักหน้าและยื่นมือไปหาหมินอันเกอ
“ครั้งที่แล้ว ผมเข้าใจผิด”
หมินอันเกอมองเขาด้วยความตกใจ นานทีเดียว และในที่สุดเขาก็ยื่นมือออกมา
“ไม่เป็นไร……”
เขาพูดอย่างลังเล
หลังจากนั้น จี้จิ่งเชินมือแรงอย่างรวดเร็ว เขาใช้แรงเยอะมากดูเหมือนจะบดขยี้มือของหมินอันเกอโดยตรง
สีหน้าของจี้จิ่งเชินราบเรียบ มีเพียงหมินอันเกอเท่านั้นที่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้แรงมากแค่ไหน
เขารู้สึกได้ว่า เขาได้ยินเสียงกร็อกจากฝ่ามือของเขา
จี้จิ่งเชินนอกจากจะไม่ขอโทษเขาแม้แต่น้อย ยังจะอยากฆ่าเขาอีก!
หลังจากนั้นไม่นานจี้จิ่งเชินก็ปล่อยมือเขาอย่างไม่ไยดี
เขาหันกลับไปราวกับว่าเสร็จสิ้นภารกิจ แล้วพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยน “พวกเราจะกลับกันเลยไหม”
“อืม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าและโบกมือให้หมินอันเกอ “ พี่หมินไว้เจอกันใหม่นะ”
หลังจากพูดแล้วเธอก็หันไปออกไป
หมินอันเกอยืนอยู่ที่เดิม มองไปที่ด้านหลังของพวกเขา เขาขมวดคิ้วและมองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสายตาเป็นห่วง
เขานึกถึงข้อมูลที่คุณนายหล่อนให้เขาดูขึ้นมาอีกครั้ง