เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 208 เวินหงหยู้
บทที่208 เวินหงหยู้
แต่สำหรับเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นมีผลกระทบต่อเธอโดยตรง นั่นก็คือการรับช่วงต่อของตระกูลหล่อน
เมื่อเธอเดินเข้ามาพ่อบ้านก็ให้เธอเข้าไปที่ห้องรับแขกครู่หนึ่ง
ขณะที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปนั้นก็รับรู้ได้ว่าบรรยากาศในบ้านตระกูลหล่อนนั้นผิดปกติ
เมื่อเข้าไปถึงก็ได้ยินคำพูดของคุณนายหล่อน
ความประทับใจนั้นก็คือเธอไม่เคยได้ยินเสียงที่ผ่อนคลายของคุณนายหล่อนแบบนี้มาก่อน แถมในน้ำเสียงยังมีความอบอุ่นอยู่อีกด้วย
“อีกสักครู่คุณก็จะได้เจอกับเธอแล้ว คุณน่าจะยังไม่ได้พูดคุยกับเธอ”
น้ำเสียงที่อบอุ่นของเธอนั้นทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปด้วยความแปลกใจ
เธอเห็นคุณนายหล่อนนั่งในตำแหน่งที่สูงปกติ
และข้าง ๆ เธอนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งดูแล้วอายุก็รุ่นราวคราวเดียวกับเธอนั่งอยู่ข้าง ๆ
ผมสีน้ำตาลแดงหยักศกเล็กน้อย ใบหน้าที่อบอุ่นเป็นอย่างมาก และใบหน้าที่เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มอ่อน ๆ ดูมีสง่ามาก
แค่ดูก็รู้แล้วว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นผู้ชายที่อบอุ่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนเจอชายหนุ่มผู้นี้เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ไม่เคยเจอเขาที่บ้านตระกูลหล่อนมาก่อน
แต่ดูจากท่าทางที่คุณนายหล่อนมีต่อเขาแล้วนั้น ชายผู้นี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่
เมื่อคุณนายหล่อนเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามาก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นทันที
ก่อนหน้านี้เธอก็ยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นเป็นเพียงรอยยิ้มของมารยาทเท่านั้น แต่ครั้งนี้กลับไม่เหมือนทุกครั้ง แม้แต่สายตาก็มองออกถึงรอยิ้มด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดมองชายหนุ่มผู้นี้ไม่ได้ และก็พบว่าชายหนุ่มผู้นี้ก็มองเธออยู่เหมือนกัน
คุณนายหล่อนทักทายเธอขึ้น
“เที๋ยนเที๋ยน มานี่สิ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าพร้อมทั้งเดินไปยืนข้าง ๆ เธอ
“คุณนายหล่อน”
ถึงแม้ว่าคุณนายหล่อนจะรับเธอมาเป็นลูกสาวบุญธรรม แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่กล้าเรียกเธอว่าแม่
คุณนายหล่อนจับมือเธอไว้พร้อมทั้งพูดเบา ๆ ว่า: “นี่คือเวินหงหยู้”
เวินเหรอ?
เมื่อได้ยินชื่อนี้เสินเที๋ยนเที๋ยนก็อดแปลกใจไม่ได้
เวินหงหยู้ไม่ใช่คนที่โดนตัดออกจากการเป็นทายาทของตระกูลเวินแถมยังถูกไล่ออกจากตระกูลเวินคนนั้นเหรอ?
ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
ตามที่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้รู้มาตระกูลเวินกับตระกูลหล่อนทั้งสองตระกูลนี้จะอยู่ร่วมกันไม่ได้
แต่ทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้กลับคบค้าสมาคมกันอย่างสนิทสนม
เวินหงหยู้หันมองเวินเที๋ยนเที๋ยน และยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น
“สวัสดีครับ เที๋ยนเที๋ยน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดาสายตาเขาไม่ออกเลยว่าเขามีจุดประสงค์อันใด
แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้มีเจตนาร้ายอันใด
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า: “สวัสดีค่ะ”
คุณนายหล่อนพูดขึ้นมาว่า: “ช่วงนี้หงหยู้จะมาพักอยู่ที่นี่ ทั้งสองคงได้เจอกันบ่อยขึ้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำที่คุณนายหล่อนเรียกเขาอย่างสนิทสนมก็ยิ่งเพิ่มความแปลกใจมากยิ่งขึ้น
ตกลงข่าวที่คนเขาลือกันมันไม่ใช่เรื่องจริงเหรอ?
นั่งอยู่ครู่หนึ่งคุณนายหล่อนเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งใจลอย แต่เธอก็ไม่ได้บังคับอะไรเธอ
รอจนเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกไป เวินหงหยู้ถึงจะละสายตาจากเธอ
คุณนายหล่อนพูดขึ้นว่า: “เหมือนคุณมากใช่ไหม?”
เวินหงหยู้พยักหน้า
จริง ๆ เอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ที่เธอทั้งหมด……
แต่มันก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดี
แต่ในขณะเดียวกันนั้นหล่อนหลีกลับถอนหายใจ และพูดว่า: “แต่น่าเสียดายที่นิสัยของเธอไม่อบอุ่นเหมือนกับคุณ”
เวินหงหยู้รู้ในความกังวลของเธอ จากนั้นก็ส่ายหน้า
“เธอเหมือนหล่อนหลีเมื่อก่อนไม่มีผิด ต่อไปเธอจะเป็นผู้นำที่ดีของตระกูลหล่อนได้แน่นอน”
หล่อนหลีกลับพูดว่า: “หากว่าฉันไม่มีประสบการณ์จากเรื่องพวกนั้น ตอนนี้อาจจะยังเป็นคนที่โง่เขลา ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรแบบเมื่อก่อนก็ได้”
“แต่เที๋ยนเที๋ยน……ฉันทนไม่ได้ที่จะให้เธอเจ็บปวดอีก……”
ขณะที่พูดนั้นสายตาของเธอก็ค่อย ๆ เผยให้เห็นถึงความทุกข์ใจ
เวินหงหยู้ยื่นมือไปจับมือเธอไว้
“แต่หากว่าอำนาจ และอิทธิพลเป็นของตระกูลหล่อน และตระกูลเวินใครหน้าไหนก็ไม่กล้าทำอะไรเธอทั้งนั้น”
พูดจบเขาก็ขมวดคิ้วขึ้น: “แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มาเกิดเรื่องขึ้น”
หล่อนหลีมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
“คุณเพิ่งจะออกมาจากตระกูลเวินจู่ ๆ ก็มาที่นี่บ้านตระกูลหล่อนไม่กลัวพวกเขาจะรู้เหรอ? ”
“ควรจะรู้ น่าจะรู้กันหมดแล้ว คนเราปิดบังไม่ได้ตลอดชีวิตหรอก แถมไม่แน่ยังจะฉวยโอกาสนี้บอกต่อสาธารณะอีก”
เมื่อได้ยินคำนี้แล้วคุณนายหล่อนก็ตกใจเบิกตากว้างขึ้นมาทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับเข้ามาห้องนอนของตนเอง แต่เธอยังคิดเรื่องของเวินหงหยู้คนนั้นอยู่ตลอด
และช่วงหลายวันที่ผ่านมานั้น เวินหงหยู้ก็พักอยู่ที่บ้านตระกูลหล่อนจริง ๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนพบเจอเขาบ่อยขึ้น
บางครั้งก็เจอกันที่ห้องรับแขก บางครั้งก็เจอกันในสวนเวลาที่อ่านหนังสือ ทำตัวเป็นอ่อนน้อมถ่อมตนสง่าล้ำเลิศ
แค่เห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังมองเขาอยู่ เขาก็หลังเดินยิ้มหนีไปอย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงแค่นั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนยังเคยเห็นคุณนายหล่อนกับเขาจับมือกันแบบมือประสานมืออีกด้วย……
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดแปลกใจไม่ได้
เขาโดนไล่ออกมาจากตระกูลเวินแถมยังถูกตัดออกจากกองมรดกอีก แต่ทำไมยังสบายใจได้ขนาดนี้?
ความสัมพันธ์ของเขากับคุณนายหล่อนเป็นยังไงกันแน่?
แต่ฟังจากข่าวที่เขาลือกัน ความไม่แน่นอนของตระกูลเวินและบ้านตระกูลหล่อนนั้นทำให้หลายบริษัทประสบกับความเดือดร้อน
และด้วยเรื่องนี้ทำให้ตระกูลหล่อนกับบริษัทเอ็มไอกรุ้ปจำใจต้องหยุดกดดันตระกูลหวู่ชั่วคราว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้จึงทำให้ตระกูลหวู่ที่เพิ่งจะสูญเสียผู้นำครอบครัวไปถอนหายใจด้วยความโล่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหาเวลาว่างออกไปหาหมินอันเกอเพื่อที่จะปรึกษากันเรื่องสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าใหม่
และในตอนบ่าย ขณะที่เธอออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งมาจอดขวางหน้าเธอไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูรถเก๋งมีประทุนที่อยู่ตรงหน้า อีกทั้งยังมองไปที่ข้าง ๆ
คนขับรถของบ้านตระกูลหล่อนยืนอยู่ข้าง ๆ แต่ด้านหลังเขานั้นมีชายชุดดำคนหนึ่งยืนอยู่ ดูเหมือนว่าชายชุดดำผู้นั้นทำให้คนขับรถไม่กล้าพูดอะไรออกมา ทำได้เพียงแค่มองหน้าเอด้วยความเป็นห่วง
เวินเที๋ยนเที๋ยนละสายตา และมองไปที่ชายผู้นั้น
“ไม่ทราบมีธุระอะไรเหรอคะ? ”
ใบหน้าของชายผู้นั้นไม่แสดงออกถึงสีหน้า และความรู้สึกใดใด เขาถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า: “คุณคือคุณหนูเวินใช่ไหม?”
“ใช่ ฉันเอง”
“มีคนอยากจะเจอคุณ รบกวนไปกับผมสักครู่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับระมัดระวังตัว แต่เธอก็ไม่ได้ขยับตัวแต่อย่างใด
“ใครต้องการจะเจอฉัน? ”
ชายผู้นั้นพูดเบา ๆ ว่า: “เดี๋ยวไปถึงคุณก็รู้เอง เชิญขึ้นรถครับ”
พูดจบเขาก็หันไปเปิดประตูรถทันที
เพราะท่าทางนี้ของเขา และชายเสื้อที่ถกขึ้นเล็กน้อย เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเห็นที่เอวของเขาเหน็บปืนเอาไว้……
เธอขมวดคิ้วขึ้นทันใด
นี่ไม่ใช่การเชื้อเชิญ แต่เป็นการขู่บังคับชัด ๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นก็เดินไป
“ขอบคุณคุณหนูเวินที่ให้ความร่วมมือครับ”
ชายผู้นั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาก่อนจะปิดประตูรถลง
รถค่อย ๆ แล่นออกจากตัวเมืองมุ่งตรงไปที่ชานเมือง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองดูถนนด้านนอก และถนนสายนี้มีด่านตรวจไม่น้อยเลย
ตั้งแต่นั่งรถมาทั้งสองด้านของถนนสายนี้มีด่านตรวจอย่างต่อเนื่อง
แต่รถคันนี้ก็ไม่ได้จอดด่านเลยสักด่าน ขับผ่านมาได้อย่างสบายมาก
จนมาถึงตอนหลัง ในที่สุดก็หยุดรถ หลังจากที่ผ่านด่านตรวจมาสามด่าน ข้าง ๆ ถนนทั้งสองด้านก็จบเงาของผู้คน
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองภายนอกหน้าต่างเห็นทหารในเครื่องแบบวิ่งมาพร้อมทั้งจับปืนในมือแน่น
เมื่อเธอมองเห็นชัดก็ตกใจถลึงตาโตขึ้นมาทันที
ตกลงแล้วที่นี่คือที่ไหนกันแน่?