เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 202 ควรจะดีกับเธอ
บทที่202 ควรจะดีกับเธอ
อย่างที่จี้จิ่งเชินเคยได้รับปากเธอเอาไว้
หลังจากนั้นต่อมาจี้จิ่งเชินก็มาที่ห้องของเวินเที๋ยนเที๋ยนตรงตามเวลาทุกวัน
แต่สิ่งที่แปลกนั้นก็คือทุกครั้งเวลาที่เขามาก็ไม่ได้เป็นที่สังเกตของพวกบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเลย
จนเวลาผ่านมาหลายวัน เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกวางใจ
จากนั้นเธอก็เริ่มซ่อมสร้อยด้วยความวางใจ
บางครั้งเวลาก็ไม่พอเธอก็ขอเวลาเพิ่มอีกสิบนาที
จี้จิ่งเชินก็ยินยอมให้เวลาเธอด้วยความเต็มใจ แต่ให้เวลามากสุดไม่เกินครึ่งชั่วโมง
เวลาผ่านไปสองเดือนเต็ม ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ซ่อมสร้อยคอเสร็จจนได้
เธอถอนหายใจยาว ๆ รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที เธอยื่นมือไปหยิบสร้อยขึ้นมาดู
ลวดลายของสร้อยคอเส้นนี้ไม่ซับซ้อนมากนัก หากลวดลายซับซ้อนมากไปกว่านี้เธออาจจะซ่อมสร้อยเส้นนี้ไม่ได้แน่
สร้อยคอทองคำเปล่งประกายแวววาวระยิบระยับ
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบรูปภาพที่เว่ยเอ๋อเคยให้เธอนำมาดูเปรียบเทียบกัน
ยังดีที่เหมือนกัน
“ได้แล้ว” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูด
“พรุ่งนี้ก็สามารถเอาสร้อยคอเส้นนี้ให้กับเว่ยเอ๋อได้แล้ว ถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าจะโดนแย่งคฤหาสน์ไป”
จี้จิ่งเชินเดินมาจากทางด้านหลัง และก้มมองสร้อยคอที่อยู่ในมือของเธอ
ความสามารถในการซ่อมของเธอแยกไม่ออกเลยว่าสร้อยเส้นนี้เคยพังมาก่อน
“เยี่ยมมาก”
เขาพูดชื่นชมเธอพร้อมทั้งจูบที่ผมของเธอเบา ๆ
“นี่คือรางวัล”
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงก่ำเพราะความเขินอาย เธอเอาสร้อยคอเก็บไว้ในกล่องอย่างระมัดระวัง ความรู้สึกหนักอกหนักใจเหมือนมีก้อนหินทับอยู่ในใจเธอก็ค่อย ๆ หายไปในเวลานี้
แต่หลังจากที่เธอเพิ่งจะรู้สึกผ่อนคลาย ร่างกายของเธอกลับรู้สึกเบาเหมือนลอยอยู่ในอากาศ
ทันใดนั้นจี้จิ่งเชินอุ้มเธอไปที่เตียงนอน และพูดว่า : “ไหน ๆ ก็ทำเสร็จแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณพักผ่อนเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้เธอรู้สึกเหนื่อยล้า และอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก เมื่อเธอปิดตาลงกลับรู้สึกว่าจี้จิ่งเชินนั้นยืนอยู่ข้าง ๆ เตียงนอนอยู่ตลอดเวลา
เธอรู้สึกไม่สบายใจ เธอลืมตาพูดว่า: “ทำไมคุณถึงยังไม่กลับไป? ”
จี้จิ่งเชินตอบว่า: “ผมรอให้คุณหลับก่อนค่อยไป”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหลังกลับ
“แต่คุณมองฉันอยู่แบบนี้ฉันนอนไม่หลับหรอก”
จี้จิ่งเชินจ้องหน้าเธออยู่ครู่หนึ่ง
“เพ้อเจ้อ ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับดีนิ”
หลายครั้งก่อนหน้านี้ที่เขามา จนกระทั่งคุยกับเธอ เธอก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
“คุณมาเมื่อไหร่กัน? ”
จี้จิ่งเชินไม่ได้ตอบเธอแต่อย่างใด เขาเอามือปิดตาเธอลง
“รีบนอนเถอะ ไม่อย่างนั้นแล้วผมจะจูบคุณนะ”
เขาใช้น้ำเสียงที่คุกคามจนเวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจหลับตาลง มือของเขาสัมผัสกับขนตาทั้งสองข้างของเธอ จึงทำให้เขาหัวใจสั่นไหว
สายตาของเขามืดครึ้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปลุกให้เธอตื่นมาแต่อย่างใด เขาปล่อยให้เธอหลับไปอย่างเงียบ ๆ
เวลาผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเขาก็ลุกยืนขึ้น และย่องเดินออกไปเบา ๆ
วันต่อมาเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาสร้อยคอที่เธอซ่อมเสร็จแล้วนั้นไปให้เว่ยเอ๋ออย่างมิรอช้า
เว่ยเอ๋อมองดูสร้อยคอที่อยู่ในมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน จากนั้นก็ยื่นมือไปจับขึ้นอย่างระมัดระวัง
เพราะกลัวว่าหากจับแรง ๆ แล้วมันจะพังอีก
เขาเบิกตากว้างจนลูกตาของเขานั้นแทบจะติดกับสร้อย เขาสังเกตดูสร้อยอย่างละเอียดยิบ
“หากไม่ดูใกล้ ๆ จะไม่พบรอยใด ๆ เลย”
เขาตะลึงในฝีมือของเธอจนอุทานออกมา: “โอ้แม่เจ้า! เที๋ยนเที๋ยน คุณเก่งมาก! ฝีมือของคุณยอดเยี่ยมจริง ๆ !”
ขณะที่เขาพูดนั้นเขาก็ยื่นมือไปจับมือเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วย
จี้จิ่งเชินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนมีใบหน้าที่ไม่พอใจขึ้นมาทันที เขาดึงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาจากเว่ยเอ๋อทันที
“จะพูดก็พูด ไม่ต้องแตะเนื้อต้องตัว”
เว่ยเอ๋อมองหน้าจี้จิ่งเชินพร้อมทั้งเม้มปากเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง
“คุณซ่อมได้จริง ๆ ! คุณยอดเยี่ยมจริง ๆ !”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มเล็กน้อย
“จริง ๆ แล้วตรงนี้ยังมีรอยตะเข็บอยู่เล็กน้อย แต่ฉันใช้เทคนิคเล็กน้อยเอาไปปิดไว้”
“ตราบใดที่ไม่สังเกตดูอย่างละเอียดก็ไม่มีทางเห็นแน่นอน”
เว่ยเอ๋อนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดว่า: “คุณวางใจเถอะ พวกนั้นสายตาไม่ดี มองไม่เห็นรอยตำหนิหรอก แค่ปิดบังเรื่องนี้ไว้ให้ได้ก็พอแล้ว”
“ถ้าเป็นเช่นนี้ฉันก็วางใจ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้นอีกว่า: “สร้อยคอก็ซ่อมเสร็จแล้ว ถ้าอย่างนั้นข้อตกลงที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ละ เรื่องถอนฟ้อง”
เว่ยเอ๋อมองหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน และพูดความเย็นชา: “แน่นอน”
พูดจบเขาก็หยิบหนังสือฟ้องร้องออกมาฉีกต่อหน้าของทั้งสอง
“แบบนี้ก็วางใจได้แล้วสินะ? ถึงแม้ว่าคฤหาสน์นี้เป็นคฤหาสน์ที่คุณปู่ผมเก็บไว้ แต่ไหน ๆ พวกคุณก็ได้สร้างบ้านบริเวณบ้านของคุณไว้ ถ้าอย่างนั้นก็เก็บไว้ให้พวกคุณเถอะ”
ขณะที่พูดนั้นเขายื่นมือจับมือเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ พร้อมทั้งพูดว่า: “เที๋ยนเที๋ยน ถือว่าผมมอบเป็นของขวัญให้กับคุณ”
จี้จิ่งเชินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นั้น ใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาอีกครั้ง และดึงมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาอีกครั้งด้วยความไม่พอใจ
เดินทีคฤหาสน์นี้จี้จิ่งเชินตั้งใจจะมอบเป็นของขวัญให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่ทำไมถึงโดนแย่งไปได้ล่ะ?
เมื่อเว่ยเอ๋อพูดจบเขาก็หันไปเห็นสายตาที่จี้จิ่งเชินมองดูเขาอยู่ สายตาดุมาก
เว่ยเอ๋อมองด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาถึงมองมาด้วยสายตาที่ดุแบบนั้น ไม่รู้ว่าตนเองไปทำอะไรให้เขาโกรธ
ส่วนเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นไม่รู้ว่าในใจของจี้จิ่งเชินกำลังคิดอะไรอยู่ คิดแค่ว่าตอนนี้เธอสามารถแก้ไขปัญหาให้เขาได้
เธอยิ้ม และหันมาพูดว่า: “ตอนนี้ปัญหาก็ได้แก้ไขลงแล้ว ไม่ดีเหรอ?”
จี้จิ่งเชินเห็นท่าทางพึงพอใจของเธอเช่นนี้แล้ว เขาก็ยื่นมือไปลูบผมเธอเบา ๆ
“ดีสิ ขอบคุณคุณมากนะ”
เว่ยเอ๋อเห็นทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าก็อดไม่ได้เลยพูดขึ้นว่า: “เที๋ยนเที๋ยน วันสองวันนี้คุณพอมีเวลาบ้างไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าหลังจากที่เธอซ่อมสร้อยคอเสร็จเธอก็ไม่มีธุระอะไรแล้ว เมื่อนึกได้เช่นนั้นเธอก็พยักหน้า
“คุณยังมีอะไรให้ฉันซ่อมอีกหรือเปล่าคะ? ”
เว่ยเอ๋อหัวเราะขึ้น
“พอดีผมอยากจะไปชมพิพิธภัณฑ์แถวนี้อีกครั้ง คุณจะเป็นไกด์พาผมไปได้หรือเปล่า? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตอบตกลง แต่ทันใดนั้นจี้จิ่งเชินก็พูดขึ้นว่า: “ไม่ได้”
เว่ยเอ๋อจ้องหน้าจี้จิ่งเชิน และพูดขึ้นด้วยความจงใจว่า: “หากชอบใครสักคนก็ควรจะทำดีกับเขา ไม่ใช่มายึดผมเป็นตัวกลาง”
เมื่อได้ยินจี้จิ่งเชินก็หยุดทันที สีหน้าของเขาไม่ดีนัก
“ไหน ๆ ก็ได้สร้อยคอกลับคืนไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปได้แล้ว”
แต่เว่ยเอ๋อกลับขำ และพูดว่า: “ถึงแม้ว่าจะซ่อมสร้อยคอเสร็จแล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร เพราะยังเหลือเวลาอีกสองวัน เที๋ยนเที๋ยนคุณออกไปเดินเล่นกับผมเถอะนะ ผมอยากเห็นคุณซ่อมวัตถุโบราณกับตา มันต้องมหัศจรรย์มาก ๆ เลย!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วยิ้มแบบเก้ ๆ กัง ๆ
“คุณก็ชื่นชมเกินไปแล้ว เกรงก็แต่ว่าจะซ่อมออกมาได้ไม่ดีนะสิคะ”
เว่ยเอ๋อพูดขึ้นมาด้วยความจริงจังว่า: “สำหรับเรื่องนี้แล้ว คุณควรได้รับคำชมจากทุกคน”