เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 195 เครื่องบันทึกเสียง
บทที่ 195 เครื่องบันทึกเสียง
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินเจรจาเรื่องปราสาทกับเว่ยเอ๋ออยู่นั้น เจียงหยู่เทียนก็ใช้วิธีของตัวเองติดต่อเจี่ยงเนี่ยนเหยา
เพราะต้องมีชีวิตที่ต้องหลบหนีอย่างหัวซุกหัวซุนมาตลอด เจี่ยงเนี่ยนเหยาในตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามีสภาพที่จนตรอกมาก
เมื่อก่อนที่ดูแลทะนุถนอมผิวพรรณอย่างดีแต่ตอนนี้กลายเป็นผิวที่หยาบกร้าน ผิดกับชีวิตของเจียงหยู่เทียนจากหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นโลกคนละโลกกันเลยทีเดียว
มองไปที่เจียงหยู่เทียนที่อยู่ตรงหน้าใส่ชุดเดรสรุ่นใหม่ล่าสุด สีเล็บที่สวยสะดุดตา มันทำให้ในใจของเจี่ยงเนี่ยนเหยารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
มีสิทธิ์อะไร!ผู้หญิงตรงหน้าที่เกิดมาต่ำต้อยด้อยค่าจะตะเกียกตะกายได้สูงขึ้นเรื่อยๆงั้นหรอ?
แต่เธอกลับต้องเร่ร่อนอยู่อย่างนี้ ไม่กี่วันมานี้แม้แต่ข้าวก็เกือบไม่มีปัญญาจะได้กินแล้ว
ทั้งหมดเป็นความผิดของเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอเป็นต้นเหตุทั้งหมด!
ถ้าไม่มีเธอ เรื่องทั้งหมดก็จะไม่เกิดขึ้น
เจียงหยู่เทียนจิบกาแฟที่ถืออยู่ในมือ และสังเกตเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นของเจี่ยงเนี่ยนเหยา ก็ค่อยๆยิ้มออกมา
“เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ตาย”
พอได้ยินประโยคนี้ เจี่ยงเนี่ยนเหยาสั่นไปทั้งตัว เธอตกใจจนเงยหน้าขึ้นมามอง
“เธอพูดว่าอะไรนะ?”
เธอนั้นไม่อยากจะเชื่อ เพราะในตอนนั้นเธอเป็นคนผลักเวินเที๋ยนเที๋ยนลงไปจากหน้าผาสูงเองกับมือ จะยังไม่ตายได้ยังไงกัน?
ถึงแม้ว่าเธอจะเตรียมการมาอย่างดีแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังถูกประกาศจับจนได้ สุดท้ายตัวเองกับเฟิงจิ้นก็ถูกบังคับให้ออก
ตอนนี้ต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันในสลัม จะออกมาก็ไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้เจียงหยู่เทียนกลับบอกเธอว่า เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ตายงั้นหรอ?
เจียงหยู่เทียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วพูดขึ้นว่า:“มันยังไม่ตายจริงๆ พวกเธอโดนมันหลอกแล้วล่ะ”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาลุกขึ้น พลางหวนคิดไปถึงเรื่องวันนั้นอย่างละเอียด เธอกลับไม่รู้จริงๆว่าในสถานการณ์แบบนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนจะยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ยังไง
เจียงหยู่เทียนพูดขึ้นว่า:“เธอตกข่าวแล้ว ในตอนนั้นหลังจากเวินเที๋ยนเที๋ยนตกลงไปในทะเล มันยังไม่ตาย มีคนช่วยมันขึ้นมา แถมยังได้ขึ้นเรือสำราญของคุณนายหล่อนอีก”
“มีคนช่วยเธอสร้างหลักฐานปลอมว่าเธอตายแล้ว เพราะแบบนี้เลยต้องทำให้พวกเธอต้องหนีหัวซุกหัวซุน แล้วใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมานานขนาดนี้”
“ยังไม่ตายหรอ?ยังไม่ตาย!”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาได้ฟังแล้ว ก็ดีใจขึ้นมาทันที“แบบนี้ มันยังไม่ตาย ฉันก็ไม่ต้องหนีแล้วสิ?”
“ผิด!”
เจียงหยู่เทียนแย้งขึ้นมาทันที:“ในตอนนั้นเธอกับเฟิงจิ้นเป็นคนผลักเขาลงมาจากหน้าผา ถึงแม้จะไม่ตาย แต่พวกเธอก็พยายามฆ่า ถึงตอนนั้นก็ต้องถูกขังคุกเหมือนกัน!”
แววตาของเจี่ยงเนี่ยนเหยานั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“ใครจะไปเชื่อที่มันพูดข้างเดียวล่ะ?”
เจียงหยู่เทียนมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ช่างโง่จริงๆ ถ้าหากไม่ได้จะใช้เธอเป็นเครื่องมือจัดการกับเวินเที๋ยนเที๋ยนละก็ คงไม่เปลืองเวลามาพูดกับเธอหรอก
เธอพูดขึ้นว่า:“เธอคงคิดไม่ถึงสินะ เขาจะมีเครื่องบันทึกเสียงอยู่ เขาบันทึกเสียงตอนที่พวกเธอพูดคุยกัน ไม่อย่างนั้นจี้จิ่งเชินจะส่งคนให้ตามหาพวกเธอทำไมล่ะ?”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาสะดุ้งโหยง เธอไม่เคยรู้เรื่องเครื่องบันทึกเสียงมาก่อน
หลังจากที่รู้ว่าตัวเองถูกประกาศจับ เธอก็หนีหัวซุกหัวซุนไปทุกที่ แม้แต่จะถามข่าวคราวก็ไม่กล้า กลัวจะถูกจับได้
เธอขมวดคิ้ว
“งั้นฉันควรทำยังไงดี?”
เจียงหยู่เทียนพูดขึ้น:“วิธีที่ดีที่สุดตอนนี้คือ ต้องขโมยเครื่องบันทึกเสียงมาให้ได้ ถึงตอนนั้นก็แค่กลับคำ แล้วก็ยืนกรานไม่ยอมรับข้อกล่าวหา ใครก็ทำอะไรเธอไม่ได้”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาถามขึ้นด้วยความสงสัย:“เขาไม่ได้เอาเครื่องบันทึกเสียงส่งให้ตำรวจหรอ?”
“ให้แล้ว แต่ก็เป็นแค่ไฟล์เฉยๆ ฉันช่วยเธอได้นะ ให้คนไปเอาข้อมูลของพวกเธอมาทำลาย มันก็จะเหลือแค่เครื่องบันทึกเสียงในมือของจี้จิ่งเชินเท่านั้น”
เธอมองไปที่เจี่ยงเนี่ยนเหยา แล้วพูดขึ้นว่า:“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ถ้าเธอไม่คว้าไว้ หลังจากนี้จะไม่มีอีกแล้ว”
แต่เจี่ยงเนี่ยนเหยากลับยังรู้สึกลังเลอยู่
“เธออยากให้ฉัน แอบเข้าไปในปราสาท แล้วขโมยเครื่องบันทึกเสียงที่อยู่ในมือจี้จิ่งเชินมาเนี่ยนะ จะเป็นไปได้ยังไง??”
ใครๆก็รู้ ปราสาทของจี้จิ่งเชินมีระบบป้องกันรักษาที่แน่นหนา จะแอบเข้าไปไม่ได้อยู่แล้ว
เจียงหยู่เทียนเผยมือออกแล้วพูดว่า:“นี่เป็นโอกาสเดียว ก็แล้วแต่เธอแล้วกันว่าจะเอายังไง”
แน่นอนว่า เธอใช้ชีวิตที่แสนลำบากนี่มามากพอแล้ว
เจี่ยงเนี่ยนเหยาขมวดคิ้วแล้วคิดไตร่ตรองไปมา แล้วพูดขึ้นว่า:“ฉันให้เฟิงจิ้น……ไปทำได้”
“ผู้ชายที่อยู่กับเธอมาตลอดนะหรอ?”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาพยักหน้า
“เขาเชื่อฟังฉันจะตาย ฉันบอกให้ทำอะไรเขาก็ทำทั้งหมดนั่นแหละ”
พอพูดจบ เธอก็ลุกขึ้น แล้วกำลังจะเดินไปหาเขา
พอเดินไปได้สองก้าว เธอก็หันหลังกลับมามองเจียงหยู่เทียน
“ทำไมเธอต้องช่วยฉันขนาดนี้ด้วย?”
เจียงหยู่เทียนค่อยๆยกมือขึ้นมา แล้วลูบไปที่แก้มของตัวเอง พลางกัดฟัน
“ตรงนี้ ตรงนี้เคยมีรอยแผลจากเวินเที๋ยนเที๋ยนมาก่อน ชีวิตนี้ฉันจะไม่ยอมปล่อยมันไปแน่”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาพยักหน้า แล้วกลับไปหาเฟิงจิ้นอย่างรวดเร็ว แล้วให้เขาช่วยไปขโมยเครื่องบันทึกเสียงมา
อีกฝั่งนึง จี้จิ่งเชินกำลังทานข้าวอยู่กับเวินเที๋ยนเที๋ยน
ผ่านมาหลายวันแล้ว ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ต้องพกยากระเพาะติดตัวทุกวันแล้ว
พอทานข้าวเสร็จ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นด้วยความสงสัย:“ยังหาเจี่ยงเนี่ยนเหยาไม่เจออีกหรอ?”
จี้จิ่งเชินส่ายหน้าไปมา
“ฉันได้เร่งทางตำรวจแล้ว ให้พวกเขาเร่งหาตัวเจี่ยงเนี่ยนเหยาทุกๆที่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข่าวอะไร”
เขาขมวดคิ้ว แล้วพูดขึ้นด้วยความสงสัย:“เหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีความสามารถหลบซ่อนจากการตามหาได้ดีมาก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไปคิดมา แล้วพูดขึ้นว่า:“ไม่ใช่เจี่ยงเนี่ยนเหยาหรอกที่มีความสามารถนั้น แต่เป็นผู้ชายคนนั้นที่อยู่ด้วยต่างห่าง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ได้เห็นเฟิงจิ้น ก็รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา
และเขาก็ยังจงรักภักดีต่อเจี่ยงเนี่ยนเหยามาก และยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ
จู่ๆเธอก็นึกขึ้นมาได้ แล้วถามว่า:“ใช่ละ เครื่องบันทึกเสียงนั่น นายยังเก็บอยู่ใช่ไหม?”
“มันยังอยู่ในมือฉัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบพูดขึ้นว่า:“นายควรจะส่งให้ตำรวจไม่ใช่หรอ? ในนั้นมีเสียงที่ฉันบันทึกตอนที่พวกเขาพูดคุยกัน มันพอที่จะเป็นหลักฐานได้”
“ฉันก็อปปี้ไฟล์ส่งให้ตำรวจไปแล้ว แต่เครื่องบันทึกเสียงนี้ฉันตัดใจให้ไม่ได้จริงๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตากว้างมองไปที่เขา
จี้จิ่งเชินกลับพูดขึ้นว่า:“นี่เป็นของขวัญชินแรกที่ภรรยาให้สามี จะให้ใครมั่วๆไปได้ยังไงกัน?”
ใบหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนร้อนฉ่าขึ้นมาทันที เธอหันหน้าไปอีกทาง เพื่อหลบสายตาให้พ้นจากเขา
“ก็แค่ส่งให้ไปเป็นหลักฐาน พอจบเรื่องแล้วก็ได้คืนอยู่ดี”
“อย่างนั้นก็ไม่ได้ ถ้าเกิดพวกเขาทำพังละ”
พอกำลังพูดอยู่นั้น พ่อบ้านก็เดินหน้านิ่วคิ้วขมวดเข้ามา
“คุณหนูครับ เมื่อคืนมีคนแอบเข้ามาในปราสาทครับ”
จี้จิ่งเชินได้ยิน จึงเงยหน้ามองไปที่พ่อบ้าน
พ่อบ้านพูดต่อว่า:“คนสวนบอกว่า เขาเจอรอยเท้าที่สวนด้านหลัง ก่อนหน้านี้ยังไม่มีครับ”
“กล้องวงจรปิดล่ะ”
“ในกล้องวงจรปิดไม่มีใครเลยครับ แต่ผมก็ยังไม่ค่อยวางใจ”
จี้จิ่งเชินเดินขึ้นไปชั้นบน และตรงไปที่ห้องหนังสือของตัวเอง
พอเปิดประตู เขาก็กวาดสายตาที่เฉียบแหลมไปทั่วห้อง
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบตามขึ้นไปติดๆ
“ทำไมหรอ?”
จี้จิ่งเชินพูดขึ้นว่า:“มีคนมาค้นหาหาของที่นี่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า:“จี้จิ่งเชิน นายเอาเครื่องบันทึกเสียงมาให้ฉัน”