เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 190 เธอเป็นห่วงฉันเหรอ
บทที่ 190 เธอเป็นห่วงฉันเหรอ
" คุณเวิน ในที่สุดคุณก็กลับมา "
พ่อบ้านมองเธอด้วยความกระวนกระวาย เมื่อเห็นว่าตามร่างกายเธอไม่ได้บาดเจ็บอะไรเขาจึงเบาใจ
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนมองพ่อบ้านและแม่ครัวที่ดูกระตือรือร้นอยู่ตรงหน้า เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตามไปด้วย
" ตกลงมันเกิดอะไรกันขึ้น? "
เมื่อเว่ยเอ๋อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงรีบเดินเข้าไปยืนข้างๆเธอ และตำหนิพ่อบ้านตรงหน้า
" เที๋ยนเที๋ยน ฉันแค่ต้องการจะเอามรดกของคุณปู่ฉันคืน แต่กลับพบว่าที่นี่ได้ถูกคนยึดมันไปแล้ว! ทั้งยังสร้างมันขึ้นมาใหม่อีก ปราสาทของปู่ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว "
เมื่อพ่อบ้านเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนนี้ ไม่รู้ทำไมเขากลับรู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมา
เมื่อเห็นว่าเว่ยเอ๋อยังคงพูดเช่นนี้ เขาจึงหันกลับไปและพูด " นี่คือปราสาทของจี้จิ่งเชิน ไม่ใช่ของคุณปู่ของคุณแต่อย่างใด "
เมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งสองเริ่มจะทะเลาะกันอีกครั้ง เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงยกมือขึ้นขวางพวกเขาทั้งสอง
" หยุดทะเลาะกันก่อน เว่ยเอ๋อเรื่องนี้ฉันจะอธิบายให้คุณฟังอย่างละเอียดเอง แล้วคุณค่อยตัดสินใจเอาเอง แต่ตอนนี้เข้าไปข้างในกันก่อนแล้วค่อยคุยเถอะ "
เว่ยเอ๋อมองเวินเที๋ยนเที๋ยนและพยักหน้าในที่สุด
" ฉันเชื่อคำพูดของเธอ "
พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆไม่พอใจเล็กน้อย ที่เขาได้พูดมาเมื่อสองสามชั่วโมงก่อนหน้านี้ เว่ยเอ๋อล้วนไม่เชื่อเขาเหรอ?
เขาอดไม่ได้ที่จะบ่น และกลอกตาใส่คนพวกนั้นพลางเดินตามหลังเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปพร้อมกับคนอื่นๆ เมื่อเธอมองไปรอบๆ เธอก็พบว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมหลังจากที่เธอได้จากไป เธอจึงอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ
เธอหันกลับไปถามพ่อบ้าน " จี้จิ่งเชินล่ะ? "
พ่อบ้านตอบด้วยเสียงเบา " คุณจี้อยู่ที่บริษัทจนตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา พวกเราได้บอกเขาแล้ว คาดว่าเขาน่าจะติดธุระอะไรบางอย่างอยู่ "
เมื่อเห็นว่าจี้จิ่งเชินไม่อยู่ ไม่รู้ทำไมเธอกลับรู้สึกเบาใจเล็กน้อย เมื่อเดินเข้าไปและนั่งลง แม่ครัวก็ได้น้ำชามาเสิร์ฟให้กับเธอ พร้อมมองเธอด้วยรอยยิ้ม
" คุณเวิน ช่วงนี้คุณเป็นยังไงบ้าง ?"
" ฉันสบายดี ขอบคุณนะคะ "
หลังพูดจบเธอก็ได้เปลี่ยนหัวข้อไปเป็นเรื่องเกี่ยวกับปราสาทหลังนี้
ครั้งนี้เว่ยเอ๋อไม่ได้พูดอะไรมากมาย เขาเพียงแค่เอารูปถ่ายออกมาและวางมันไว้ข้างหน้าให้เวินเที๋ยนเที๋ยนดู
" ปราสาทหลังนี้เป็นทรัพย์สินที่คุณปู่ของฉันทิ้งเอาไว้ให้ "
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มลงไปมอง เธอเห็นเพียงแค่ภาพขาวดำของปราสาทเก่าที่ถูกถ่ายเอาไว้
แต่หากมองอย่างละเอียดจะพบว่ามีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างสองสิ่งนี้ แต่รวมๆแล้วจะคล้ายกันมาก
และด้านหน้าของปราสาทนั้นยังมีคนคนหนึ่งยืนถือไม้เท้าอยู่
คนคนนั้นสวมสูทสีดำและใส่หมวกทรงสูง เข้ายิ้มให้กล้องอย่าสุภาพบุรุษคนหนึ่ง
เว่ยเอ๋อยังคงอธิบายต่อ " นี่คือคุณปู่ของฉัน ก่อนที่เขาจะเสียเขาเคยขอให้ฉันกลับมาที่นี่และเอาปราสาทของเขากลับคืนมา "
เขาพูดพลางเงยหน้าจ้องมองพ่อบ้านที่อยู่ตรงหน้า
" แต่ฉันคาดไม่ถึงว่า ปราสาทของคุณปู่ฉันจะถูกทำลายไปนานแล้ว ซ้ำยังถูกสร้างขึ้นมาใหม่เป็นของตัวเอง "
เมื่อเว่ยเอ๋อมองดูปราสาทในตอนนี้ก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ทันทีที่พ่อบ้านได้ยิน เขาก็กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยื่นมือออกไปขวางไว้ก่อน
เธอหันกลับไปมองเว่ยเอ๋อที่อยู่ตรงหน้าและยิ้มเบาๆ
" คุณ เว่ยเอ๋อ ปราสาทหลังนี้ถูกทุบทำลายหลังจากที่คุณปู่ของคุณได้จากไป ในตอนนั้นมันได้กลายเป็นแค่ซากปรักหักพัง ถ้าหากคุณไม่เชื่อล่ะก็ คุณสามารถลองค้นหามันในอินเทอร์เน็ตไม่ก็ดูมันได้จากภาพถ่ายในสมัยนั้น"
" ระยะเวลาในตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบร้อยปีแล้ว ในตอนนั้นได้มีการปฏิรูปที่ดินภายในประเทศ ที่ดินแห่งนี้ก็ได้ถูกยึดไปรวมอยู่ในนั้น "
" เจ้าของปราสาทในตอนนี้ก็คือจี้จิ่งเชิน เขาได้ซื้อที่ดินละแวกนี้รวมถึงซากปรักหักพังของปราสาทเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ดังนั้นเมื่อพูดกันตามผลประโยชน์ทางข้อกฎหมาย เขาจึงเป็นเจ้าของปราสาทแห่งนี้ "
เมื่อเว่ยเอ๋อได้ยินดวงตาของเข้าก็เบิกกว้าง
"จะใช้เป็นพื้นที่สาธารณะโดยพลการโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของที่ดินได้อย่างไร? ประเทศของพวกคุณจัดการกับสิ่งของของคนอื่นอย่างนี้เหรอ ?"
ในที่สุดพ่อบ้านก็ทนไม่ไหวและพูดอย่างไม่พอใจ " ในตอนที่พวกคุณรุกรานประเทศเรา พวกคุณได้ขออนุญาตเราไหมล่ะ? "
ประโยคนี้ทำให้ทั้งห้องรับแขกเงียบสงัดลงในทันที
ใบหน้าของ เว่ยเอ๋อเผยให้เห็นถึงความละอายและไม่พอใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าตระกูลของเขาจะไม่ได้เข้าร่วมเหตุการณ์ในครั้งนั้น แต่จุดเริ่มต้นมันก็มาจากประเทศของเขา
ผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงหันไปพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างช้าๆ
" สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ในฐานะตัวแทนของประเทศ ฉันต้องขอโทษเธอด้วย "
" แต่ปราสาทหลังนี้เป็นสิ่งที่คุณปู่ของฉันได้ขอให้เอากลับคืนมาก่อนท่านจะเสีย ดังนั้นต้องขอโทษด้วยที่จี้จิ่งเชินจะไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ โปรดบอกให้เขารีบย้ายออกไปด้วย "
" เป็นไปไม่ได้! "
พ่อบ้านยืนขึ้นด้วยความโกรธ บรรยากาศในห้องนั่งเล่นจึงตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง ราวกับว่าการต่อสู้อาจเริ่มขึ้นได้ทุกเวลา
ในขณะนั้นก็ได้มีร่างสูงกำลังเดินเข้ามาจากทางประตู
เขาเดินเข้ามาพลางเอ่ย " คุณเว่ยเอ๋อ ในประเทศของเราทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ทางกฎหมาย รูปเพียงใบเดียวไม่สามารถยืนยันว่าปราสาทแห่งนี้เป็นของคุณได้ "
" หลักฐานการซื้อปราสาทและที่ดินผืนนี้ของฉันยังอยู่ คุณไม่มีสิทธิ์เอามันกลับไป "
เมื่อพ่อบ้านได้ฟัง เขาก็เงยหน้ามองด้วยความประหลาดใจ
" คุณจี้ ในที่สุดคุณก็มา "
เขารีบวิ่งเข้าไปอยู่ข้างหลังของจี้จิ่งเชินราวกับว่าเขาได้เจอเสาหลักพลางพูด " คุณจี้ คนคนนี้เขาไม่ฟังเหตุผล "
จี้จิ่งเชินยกมือขึ้นเพื่อให้เขาหยุดพูด พลางมองไปยังห้องรับแขก
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นคนแรก
หลังจากมองไปไม่กี่วิเขาก็ถอนสายตาของตัวเอง
เมื่อเขาหันกลับไปมองเว่ยเอ๋ออีกครั้ง แววตาของเขาก็กลับเฉียบคมขึ้นในทันที
จี้จิ่งเชินเดินเข้าไปพลางเอ่ย " คุณเว่ยเอ๋อ หากคุณยังยืนยันที่จะเอาปราสาทนี้คืนในแบบของคุณอยู่ล่ะก็ งั้นเราก็คงจะต้องไปพบกันในศาลแล้วหละ "
เว่ยเอ๋อจ้องมองเขาด้วยตาเบิกกว้างและไม่อยากจะเชื่อ
" ไร้เหตุผล! พวกแกไม่เข้าใจกฎอะไรเลย!ยึดของของคนอื่นไปยังมีหน้ามาพูดได้เต็มปากเต็มคำอีกเหรอ "
เขายืนขึ้นกำลังจะออกไปข้างนอก แต่แล้วก็หันกลับมามองที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง
" เที๋ยนเที๋ยน เธอไปกับฉันเถอะ อย่าอยู่กับพวกที่ไร้เหตุผลเหล่านี้เลย "
ก่อนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะได้พูดอะไร จี้จิ่งเชินก็ชิงพูดขึ้นก่อน
" ขอโทษด้วย แต่ฉันอยากให้นายออกไปคนเดียวมากกว่า ฉันยังมีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณเวิน "
เว่ยเอ๋อไม่พอใจ เมื่อเขาเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าให้ เขาจึงจะหันหลังและจากไป
" ฉันจะต้องเอาปราสาทนี้กลับคืนมาให้ได้ เจ้าพวกหัวขโมย! "
หลังพูดจบเขาก็ตรงออกไปทันที
เมื่อเขาจากไป พ่อบ้านจึงได้โบกมือด้วยความดีใจราวกับว่าเขาได้รับชัยชนะจากสงครามอย่างไรอย่างนั้น
" ใครกันแน่ที่เป็นหัวขโมย! ใครกันแน่ที่ไร้เหตุผล !"
เขายังคงโกรธอยู่ แต่จี้จิ่งเชินกลับปล่อยวางเรื่องนี้ไปซะก่อนแล้ว
เขาเดินไปตรงหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขามองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มลึกซึ้ง
" เธอมาที่นี่เพราะได้ยินว่าเขาจะมาเอาปราสาทนี่กลับไปอย่างนั้นเหรอ? "
ท่าทางของเขาดูมีความสุขมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้พูดอะไร เธอคิดไม่ถึงว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจะมีสองความหมาย
" เธอเป็นห่วงฉันเหรอ? "