เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 187 เจียงหยู่เทียนต้องการพบท่าน
บทที่ 187 เจียงหยู่เทียนต้องการพบท่าน
เมื่อมองไปรอบๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่นาน เมื่อนั่งลงเธอจึงพูด
" เกี่ยวกับเรื่องวัตถุโบราณนั้น ฉันหวังว่านายจะพิจารณามันอีกครั้ง วัตถุเหล่านั้นมีมูลค่ามหาศาล ถ้าหากสามารถนำมันมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ได้ล่ะก็…… "
ในขณะที่เธอกำลังพูด จี้จิ่งเชินก็ได้ยกมือขึ้นเพื่อขัดจังหวะ
" พวกเราทานอาหารกันก่อนเถอะ "
เวินเที๋ยนเที๋ยนมุ่ยปากและพยักหน้า
“อืม”
อาหารได้ถูกนำมาเสิร์ฟ และทั้งสองคนก็ได้ทานกันอย่างเงียบๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง จี้จิ่งเชินก็ได้พูดออกมา
" นี่เป็นสถานที่ที่ฉันและภรรยามาดูดอกไม้ไฟด้วยกันครั้งแรก "
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว แต่คืนนี้ข้างนอกนั้นมีเพียงแค่ความมืดสนิท
เมื่อจี้จิ่งเชินเห็นท่าทีของเธอ เขาก็ยกมุมปากขึ้นเบาๆ
" ถ้าเธอชอบล่ะก็ ฉันสามารถสั่งให้พวกเขาจุดดอกไม้ไฟในเมืองให้เธอได้นะ "
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับส่ายหน้าและก้มมองสเต็กในจานตัวเอง
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอจึงค่อยๆพูดออกมา
" ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินมาว่า ในขณะที่ภรรยาของคุณนอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล คุณก็ยังคงมานั่งทานอาหารเย็นกับคนอื่นที่นี่…… "
เธอพยายามพูดคำที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมาอย่างระมัดระวัง และไม่กล้าที่จะสบตากับจี้จิ่งเชิน
เธอไม่ใช่นักบุญ เธอก็รู้สึกอิจฉาและไม่พอใจเป็นเหมือนกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแสดงมันออกมาต่อหน้าจี้จิ่งเชิน
เมื่อจี้จิ่งเชินได้ฟังดวงตาเขาก็เบิกกว้าง และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เขามองเธออย่างระมัดระวัง และกำลังตั้งใจแยกแยะว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นคนคนเดียวกับที่ตัวเองคิดหรือไม่
หลังจากเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเขาเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้าไม่พูดอะไร รอยยิ้มที่มุมปากของเขาก็ค่อยกว้างขึ้น
" เช่นนั้นฉันในตอนนั้นก็เป็นคนที่เลวมาก " เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา
" ฉันกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของภรรยาที่มีต่อฉัน กลัวว่าเธอจะเข้ามาหาฉันเพราะจุดประสงค์อื่น "
" ฉันตั้งใจทำร้ายจิตใจเธอ และทำเรื่องเลวๆมามากมาย แต่ที่ฉันจะพูดก็คือ มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ฉันอยากจะดูดอกไม้ไฟด้วย "
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างลึกซึ้ง แต่ฝ่ายตรงข้ามเอาแต่ก้มหน้า เขาจึงเห็นแค่ขวัญผมของเธอ
แต่แค่ขวัญผมของเธอ เขาก็กลับคิดว่ามันน่ารักจนมากทำให้เขาตัวสั่น
" ฉันแค่เคยจูบที่ริมฝีปากของเธอ โอบกอดไหล่ของเธอ และในใจของฉันก็มีที่ให้เธอเพียงคนเดียว "
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงไม่กล้าเงยหน้าขึ้น ในใจของเธอนั้นค่อนข้างกระวนกระวาย
ในขณะนั้นเธอลนลานซะจนเสียจังหวะ
เธอยังคงก้มหน้า และพูดด้วยเสียงเล็กๆ
" แต่ในตอนนั้น นายก็ยังพาคนตั้งมากมายกลับบ้านไปด้วย "
ดูเหมือนว่าถ้าพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์นั้น และนั่งมองอยู่ข้างๆ มันจะทำให้คำพูดทั้งหลายพลั่งพลูออกมาได้หมด
เสียงที่ฝังอยู่ในหัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะพูดมันออกมาหมดในฐานะของคนอื่น
หลังจากที่ได้ฟัง จี้จิ่งเชินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
" ขอโทษ "
เขายิ้มอย่างขมขื่น " ในตอนนั้นฉันสับสนเกินไป คนที่ฉันพาไปเหล่านั้นล้วนเป็นคนที่ฉันจงใจพากลับไปเพื่อทดสอบเธอ เมื่อเธอไป ฉันก็ปล่อยพวกเขากลับ"
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบไปนานก่อนจะเปล่งเสียงเล็กๆออกมาในที่สุด
" อืม "
เธอคิดไม่ถึงว่าช่วงเวลาอันยาวนานที่ทำให้เธอเจ็บปวดนั้น ความจริงแล้วเรื่องราวมันจะเป็นอย่างนี้
ในช่วงเวลานั้น พวกเขาทั้งสองพยายามทดสอบและทำร้ายซึ่งกันและกัน
แต่เรื่องเข้าใจผิดในวันนั้นในที่สุดก็ได้ถูกไขให้กระจ่างในวันนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอนหายใจเบาๆเฮือกหนึ่ง หินก้อนใหญ่ที่ถูกทับอยู่ในใจได้ถูกยกออกไปแล้ว
แต่เธอกลับไม่ปล่อยวางอารมณ์ของตัวเอง
เธอรู้ทุกอย่างในตอนที่สายเกินไป
ถ้าตอนนั้นเธอไม่ได้ตกลงไปในทะเล และถ้าหากเธอบอกความในใจกับเขา ทั้งเขาและเธอก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้……
ผ่านไปครู่หนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงได้วางช้อนส้อมลง
" ที่จริงแล้วฉันคิดว่าวัตถุโบราณของเว่ยเอ๋อนั้นมีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก หากสามารถดำเนินจัดพิธีการบริจาคได้ มันจะต้องกระตุ้นวงการธุรกิจไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน จี้จิ่งเชิน นายคิดยังไงกับเรื่องนี้ ?"
จี้จิ่งเชินนเงยหน้ามองเธอ
เมื่อเห็นสายตาของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงพูดอะไรไม่ออกและเงียบขึ้นมาทันที
ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็พยักหน้า " ตกลง เรื่องที่เธอพูดมาทั้งหมดฉันอนุญาต "
สายตาลึกคู่นั้นมีความประนีประนอมอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน และยังมีความอ่อนโยนและความลึกซึ้งที่เธอไม่เคยค้นพบมาก่อนเลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนเกือบจะจมหายไปกับแววตาคู่นั้น
เธอเบือนหน้าออกเล็กน้อยเพื่อละจากสายตาของเขา
" ขอบคุณนะ พรุ่งนี้ฉันจะเจรจากับเว่ยเอ๋อ "
จี้จิ่งเชินพยักหน้าเล็กน้อย แต่กลับก้มหน้าและพึมพำด้วยเสียงต่ำ
" ยังไงอยู่ในสายตาฉันมันก็ปลอดภัยที่สุด "
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเธอก็ชะงักขึ้นในขณะที่กำลังจะยืน
วันต่อมา เวินเที๋ยนเที๋ยนได้เจรจาเรื่องราวต่างๆกับเว่ยเอ๋อ
ทันทีที่เขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามอนุญาต เขาจึงรีบพยักหน้าเป็นการตกลงทันที
" ไม่มีปัญหา ฉันจะเอาของส่งเข้าไปก่อน "
เวินเที๋ยนเที๋ยนขวางเขาไว้และพูด " ไม่ต้องรีบร้อน ถึงตอนนั้นเราจะจัดงานพิธีมอบของ คุณเตรียมตัวให้พร้อมเถอะ "
เมื่อท่านจางและท่านเปิงได้ยินว่าเว่ยเอ๋อจะมอบของของเขาให้แก่พิพิธภัณฑ์เหว่ยชี พวกเขาก็รู้สึกเสียใจและเสียดายเล็กน้อย
" เด็กคนนั้นได้มันไปครองอย่างง่ายๆ "
" ช่างมันเถอะ ยังไงซะพิพิธภัณฑ์นั่นมันก็เป็นของสาวตัวน้อย "
เมื่อพูดจบท่านจางก็ตกตะลึงไปพักหนึ่ง เมื่อเขาสังเกตถึงบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เขาจึงรีบหันไปมองทางเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มอย่างไม่รู้สึกโกรธเคือง เขาจึงพูด " นี่ล้วนเป็นเรื่องราวในอดีต ไม่ต้องพูดถึงมันหรอก "
ถึงอย่างไรจี้จิ่งเชินและเว่ยเอ๋อในตอนนี้ก็ยอมถอยกันคนละก้าว และนี่ก็เป็นเรื่องของพวกเขาไม่ใช่เรื่องของคนนอก
ไม่กี่วันต่อมามีการจัดพิธีบริจาคขนาดใหญ่ที่หน้าพิพิธภัณฑ์
ก่อนหน้านี้ขั้นตอนการก่อสร้างของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีความยิ่งใหญ่และฮือฮามาก เมื่อเหตุการณ์พลิกผันและสามารถก่อตั้งเสร็จจนถึงทุกวันนี้ ก็กลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยนคนเดิมอีกต่อไป และแม้แต่ภรรยาก็ยังเป็นของปลอม
ในสายตาของทุกคน คำว่าเหว่ยชีสองคำนี้ ในตอนนี้ได้กลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวหลายคนล้วนมาร่วมงานในวันนั้น และเมื่อสังเกตเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน พวกเขาก็กรูกันเข้าไปทันที
จี้จิ่งเชินกันพวกเขาออก และรีบตัดริบบิ้นเปิดงานพิธีในทันที
ในคืนวันนั้น เว่ยเอ๋อได้ทำการย้ายสิ่งของที่ตัวเองบริจาคเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ทีละรายการ
จากพิพิธภัณฑ์ที่ว่างเปล่า ในตอนนี้แต่ละมุมได้ถูกเติมเต็มไปด้วยสิ่งของ
หลังจากที่ยุ่งๆกันอยู่หลายวัน ในที่สุดการบริจาคครั้งนี้ก็จบลงด้วยดี
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงมีเวลาว่าง ในขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวจะไปเข้าเรียนกับท่านเปิง ทันใดนั้นก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญพุ่งตรงเข้ามาเยี่ยมเธอ
พ่อบ้านฉวีผิงที่เดินเข้ามาจากข้างนอกยืนอยู่ไม้ไกลจากเธอ
" คุณหนู เจียงหยู่เทียนรอพบคุณหนูอยู่ที่ประตูด้านนอก "
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินชื่อนี้ เธอก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ
เธอมาทำอะไรกัน?
เธอขมวดคิ้วและส่ายหน้า
" ฉันไม่ต้องการพบเธอ "
พ่อบ้านจึงพูดต่อ " เธอยังพาเด็กเล็กๆมาด้วยอีกหลายคน "
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งไม่เข้าใจมากกว่าเดิม
จากนั้นพ่อบ้านจึงยื่นรูปใบหนึ่งให้เธอและพูด " เธอบอกว่า หลังจากที่คุณหนูเห็นรูปเหล่านี้ก็จะอยากพบเธอเอง "
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับรูปพวกนั้นมาและมองมันอย่างละเอียด ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง
มันคือภาพของเจียงหยู่เทียนและเด็กๆอีกหลายคนที่ถ่ายร่วมกัน!