เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 186 มรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ
บทที่ 186 มรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ
เมื่อเปิดฝาก็จะเห็นที่ทับกระดาษชิงเถียนแกะสลักอยู่ด้านใน
นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่จี้จิ่งเชินมอบให้เธอก่อนหน้านี้
จี้จิ่งเชินมองเธอและพูดต่อ " นี่คือของชิ้นแรกของพิพิธภัณฑ์นี้ "
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้าในที่สุด
" ตกลง "
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินปรากฏรอยยิ้มอ่อนที่มีเสน่ห์ขึ้น เขาจับมือเธอขึ้นบันไดเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ แต่การตกแต่งภายในล้วนเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ไม่เหมือนกับพิพิธภัณฑ์สาธารณะอื่น ๆ ห้องด้านหน้าได้รับการตกแต่งให้ดูอบอุ่นยิ่งขึ้น
แสงอันอบอุ่นปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง จี้จิ่งเชินพาเธอเดินผ่านห้องโถงไปยังเคาน์เตอร์แห่งหนึ่ง และส่งกล่องใบนั้นให้ในมือเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนสูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆ และดึงที่ทับกระดาษชิงเถียนแกะสลักออกมาวางบนชั้นอย่างระมัดระวัง
เมื่อเปิดออกแสงก็ส่องทะลุหยกใสจากด้านล่างถึงด้านบน มันส่องสว่างแสงเหลืองอ่อนละมุนละไม ดูสวยหรูและล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง
จี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ข้างหลังจับมือเธอและประสานมันเอาไว้
" ขอบคุณนะ "
" ถ้าหากภรรยาฉันยังอยู่ เธอคงจะต้องดีใจมากแน่ๆ "
นิ้วมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนแข็งทื่อ และได้ยินจี้จิ่งเชินพูดต่อ " นี่คือของขวัญที่ฉันมอบให้เธอ ที่ทับกระดาษและห้องสมุดล้วนเป็นของเธอ เป็นสมบัติที่ล้ำค่าของเธอ "
หลังกลับจากพิพิธภัณฑ์หัวใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกสับสน
บางครั้งเธอก็นึกถึงฉากที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน และบางครั้งเธอก็นึกถึงเมื่อตอนที่เธอตกลงไปในทะเล
ยังไม่ทันที่เธอจะได้จัดการกับความคิดตัวเองดี เว่ยเอ๋อก็เข้ามาอย่างทนรอไม่ได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงทำได้แค่เก็บอารมณ์ความรู้สึก และพาเขาไปพบกับท่านเปิง
หลังจากที่ท่านเปิงเห็นวัตถุโบราณที่เขาเอาออกมาไม่กี่อย่างจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
" ไม่เลว มันเป็นของแท้แน่นอน หากคุณต้องการนำมันเข้าพิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณ ฉันสามารถติดต่อพวกเขาให้ได้ "
แต่ทันใดนั้นเว่ยเอ๋อก็เปลี่ยนใจและโบกมือ
" ตอนนี้ฉันมีความคิดใหม่แล้ว "
เมื่อพูดจบเขาก็หันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยรอยยิ้มที่สดใส
" เที๋ยนเที๋ยน ได้ยินมาว่าเธอมีพิพิธภัณฑ์เป็นของตัวเองใช่ไหม? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกตะลึง เธอไม่คิดว่าเว่ยเอ๋อจะรู้เรื่องนี้
" คุณไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน? "
" อืม……ทุกคนก็ล้วนพูดอย่างนี้ ฉันขอถามหน่อยหากเธอมีพิพิธภัณฑ์จริง ฉันก็เต็มใจจะมอบสิ่งที่อยู่ในมือนี้ให้แก่เธอ "
ตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกกว้าง ของที่เว่ยเอ๋อนำมานี้แม้ว่าจะไม่ใช่สมบัติของชาติอะไร แต่แต่ละชิ้นก็มีมูลค่าอยู่ไม่น้อย
คาดไม่ถึงว่าเขาจะพูดมันออกมาอย่างนั้น
แม้แต่ท่านเปิงที่ยืนอยู่ข้างๆก็ถึงกับตกตะลึง
แต่เว่ยเอ๋อกลับพูดอย่างเฉยเมย " เอาวางไว้ในพิพิธภัณฑ์ของเธอ อย่างนี้แล้วทุกคนก็จะสามารถเห็นมันได้ เธอคิดว่าไง ?"
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองท่าทางที่จริงจังของเขา ราวกับว่าเขาคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ
" ที่จริง……ที่นั่นก็ไม่นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ของฉันหรอก "
เว่ยเอ๋อมองเธอด้วยความสงสัย " ถ้าอย่างนั้นมันเป็นของใครกันล่ะ? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนจำใจต้องพยักหน้าและพูด " ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉันจะช่วยติดต่อให้คุณ ถ้าสามารถนำมันไปจัดแสดงได้ ถ้าเขาเห็นด้วยก็เป็นอันตกลง"
" เขาจะไม่เห็นด้วยได้ยังไงกัน " ท่านเปิงที่อยู่ข้างๆได้พูดขึ้น
โบราณวัตถุที่นำมาตรงหน้า มันก็ดูมีคุณสมบัติพอที่จะจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณ ทำไมถึงได้นำมันมาแสดงในพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวกัน เรื่องน่ายินดีขนาดนี้ จี้จิ่งเชินจะไม่เห็นด้วยได้เหรอ?
"ฉันไม่อนุญาต " จี้จิ่งเชินพูดขึ้น
หลังจากกลับไป เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงได้บอกเรื่องนี้ให้จี้จิ่งเชินทราบ แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอคุยกับจี้จิ่งเชินทางโทรศัพท์หลังจากที่เธอได้ตกลงไปในทะเล
ในตอนแรกก็ยังพูดกันดีๆ จี้จิ่งเชินก็ยังอารมณ์ดีอยู่
แต่เมื่อพูดถึงเรื่องวัตถุโบราณของเว่ยเอ๋อ น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินก็เปลี่ยนไป และปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
" ไม่ได้! "
เวินเที๋ยนเที๋ยนคร่ำครวญอยู่ครู่หนึ่ง เธอเคยเห็นวัตถุโบราณเหล่านั้นมาก่อนและเธอก็ชอบพวกมันมาก
" แต่วัตถุโบราณพวกนั้นมันล้ำค่ามากๆนะ พิพิธภัณฑ์ของนายในตอนนี้ก็ยังว่างเปล่ามีเพียงแค่ของชิ้นเดียวเท่านั้น ถ้าเขายอมตกลงล่ะก็ มันจะต้องสร้างชื่อเสียงได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน "
จี้จิ่งเชินกล่าว " ของข้างในนั้น ฉันจะค่อยๆเติมมันทีละเล็กทีละน้อย "
เมื่อได้ยินดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เงียบไปครู่หนึ่ง เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
ในเมื่อจี้จิ่งเชินไม่เห็นด้วย เธอเองก็จนปัญญา
ในขณะที่เธอกำลังจะวางสาย ทันใดนั้นจี้จิ่งเชินที่อยู่ปลายสายก็พูดขึ้น
" ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีโอกาสซะทีเดียว "
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดนิ่งและถามด้วยความสงสัย " ถ้าอย่างนั้นทำยังไงนายถึงจะเห็นด้วยล่ะ? "
" คืนนี้เธอว่างไหม? " จี้จิ่งเชินถามขึ้นในทันที
ความคิดของเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกขัดจังหวะขึ้นเล็กน้อย
" นายต้องการจะทำอะไร? "
" พาเธอไปทานอาหาร ห้าโมงเย็นฉันจะไปรับเธอ "
เมื่อพูดจบเขาก็กลัวว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ตอบตกลงจึงได้เสริมไปว่า " เรื่องพิพิธภัณฑ์ เราจะคุยมันตอนทานมื้อค่ำ "
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงพยักหน้าเห็นด้วย
ห้าโมงเย็นในวันนั้น เธอออกมาจากบ้านตระกูลหล่อนอย่างเงียบๆ และนั่งรถไปกับจี้จิ่งเชิน
เธอเพิ่งจะก้าวออกไป คุณนายหล่อนที่อยู่ด้านหลังก็รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว
เธอหยุดและวางเอกสารข้อมูลในมือลง และเงยหน้ามองคนตรงหน้า
" พวกเขาไปทานอาหารกันแล้วเหรอ ?"
พ่อบ้านฉวีผิงพยักหน้า " ต้องการให้พาคุณเวินกลับมาไหมครับ ?"
คุณนายหล่อนส่ายหน้า
" ไม่ต้อง นั่นจะยิ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม ให้พวกเขาไปเถอะ "
หลังจากพูดจบ เธอก็ก้มลงมองเอกสารในมือและเงยหน้าขึ้นมาพูด " เชิญคุณเว่ยเอ๋อมาด้วยสิ ฉันมีเรื่องที่จะต้องปรึกษากับเขา "
ผ่านไปไม่นาน เว่ยเอ๋อก็ได้ถูกพ่อบ้านนำตัวมายังห้องสมุดของคุณนายหล่อน
เขาเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มกว้าง
" สวัสดีตอนบ่ายคุณนาย "
คุณนายหล่อนพยักหน้าให้เขานั่งลง และถามขึ้น " ได้ยินมาว่าคุณเว่ยเอ๋อมาจีนในครั้งนี้ ก็เพื่อมาเอามรดกตกทอดจากบรรพบุรุษกลับไปใช่หรือไม่? "
เว่ยเอ๋อพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา
" ใช่แล้ว คุณปู่ของผมโชคดีได้เคยมาที่นี่เมื่อร้อยปีที่แล้ว ที่ผมมาในครั้งนี้ก็เพื่อมาตรวจสอบว่าเขาได้หลงเหลืออะไรไว้บ้างหรือเปล่า"
" อืม "
คุณนายหล่อนพยักหน้าพลางเอ่ย " ที่จริงเรื่องคุณปู่ของคุณ ฉันเองก็เคยได้ยินคนในตระกูลหล่อนพูดถึง แต่เพราะต่อมาเขาเร่งรีบกลับประเทศ ภายหลังปู่ของฉันจึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก"
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ตาของเว่ยเอ๋อก็เป็นประกายเล็กน้อย " ขอโทษนะ คุณรู้ไหมว่าสิ่งที่คุณปู่ทิ้งเอาไว้ในอดีตมันอยู่ที่ไหน? "
คุณนายหล่อนพยักหน้า
" ฉันรู้บางส่วน เท่าที่ฉันรู้ คุณรู้ไหมว่าบรรพบุรุษของคุณเคยมาสร้างปราสาทเอาไว้ที่นี่ "
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งรถของจี้จิ่งเชินออกจากบ้านของตระกูลหล่อนและตรงไปยังในตัวเมือง ไม่นานรถก็มาจอดที่หน้าร้านอาหารTHALIA
เมื่อเธอเดินเข้าไปเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่า ครั้งที่แล้วที่เธอได้สลบไปในโรงพยาบาล จี้จิ่งเชินและเจียงหยู่เทียนต่างก็ทานอาหารกันอยู่ที่นี่
เขาไม่ได้สังเกตเห็นความอึดอัดในใจเธอ เขายื่นมือออกมาดึงเธอเข้าไปข้างใน
ทั้งสองได้ขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นบนสุด มันเป็นสถานที่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยทานอาหารและดูดอกไม้ไฟกับเขามาก่อน
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนนี้กลับไม่ได้มีความตื่นเต้นดีใจเลยสักนิด