เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 178 ผมรักเธอ
บทที่178 ผมรักเธอ
เมื่อเธอพูดออกมาเช่นนี้แล้ว สีหน้าของทุกคนยิ่งเพิ่มความสับสนมากขึ้นไปอีก
ยังปรากฏไม่ชัดเจนพออีกหรือว่าเธอคือเวินเที๋ยนเที๋ยน?
แม้แต่ชื่อก็ยังขี้เกียจจะเปลี่ยนเลยเสียด้วยซ้ำ แล้วยังบอกว่าไม่ใช่ เห็นพวกเขาตาบอดกันหรืออย่างไร?
แต่คำพูดของคุณนายหล่อนประโยคนี้ กลับไม่มีใครกล้าโต้แย้งออกมา
อิทธิพลของตระกูลหล่อน พูดอะไรก็ต้องเป็นเช่นนั้น แม้ว่าจะพูดออกมาว่ามีไข้ทรพิษมา พวกเขาก็ต้องเชื่อ
เพียงแต่มีไม่กี่คนที่ยังคงมองไปทางจี้จิ่งเชินอย่างระวัง อยากจะเห็นว่าเขาจะมีอาการอย่างไรออกมา
จี้จิ่งเชินมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงขั้นบันไดด้านบน ดวงตาของเขาจ้องมองโดยไม่ละสายตาไปจากเธออยู่นาน
ถึงแม้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะพยายามไม่มองอย่างสุดความสามารถแล้วนั้น ก็รับรู้ถึงสายตาของเขาได้อย่างชัดเจน ฝ่ามือของเธอนั้นมีเหงื่อบางๆผุดออกมา
คุณนายหล่อนที่จูงมือเธออยู่นั้นรู้สึกได้ถึงจุดนี้ จึงเอ่ยเสียงเบาขึ้น : “เที๋ยนเที๋ยน ไม่ต้องตื่นเต้นนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
เธอนึกถึงเมื่อคืนนี้ที่จู่ๆคุณนายหล่อนก็มาหาเธอ แล้วยื่นข้อเสนอให้มาเป็นลูกสาวของเธอ
ตอนแรกเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่กล้าที่จะเชื่อ แต่คุณนายหล่อนกลับมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ในช่วงเวลานี้ การดูแลของคุณนายหล่อนที่มีต่อเธอนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงต้องยินยอม
แต่งานเลี้ยงในวันนี้ กลับทำให้เธอไม่สามารถอธิบายออกมาได้เลย
คุณผู้หญิงหล่อนบอกว่า : “เธอไม่สามารถจะหลบซ่อนอยู่ในที่มืดๆได้ตลอดชีวิตหรอกนะ ในเมื่อทุกคนต่างก็พากันคิดว่าเธอตายไปแล้ว เช่นนั้นแล้วเธอก็ใช้ชีวิตในสถานะใหม่ งานเลี้ยงวันนี้ฉันจะให้สถานะใหม่กับเธอ เป็นสถานะที่ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเธอ”
เวลานี้เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา
ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอตายไปแล้ว แล้วจี้จิ่งเชินล่ะ?
เขาเองก็คิดว่าเธอตายไปแล้วเหมือนกันใช่ไหม?
ตอนนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนรับปาก แต่ตอนนี้เมื่อตอนที่จี้จิ่งเชินปรากฏตัวอยู่ในสายตาของเธอนั้น เธอกลับรู้สึกกลัวขึ้นมา
เธอยังไม่ได้คิดว่าจะเผชิญหน้ากับจี้จิ่งเชินอย่างไร
เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสรุปแล้วจี้จิ่งเชินมีความรู้สึกอย่างไรกับเธอ
เขาบอกว่าเขารักเธอ แต่กลับไม่เชื่อเธอ เขาบอกว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้ว แต่กลับบอกกับคุณนายหล่อนว่าตัวเธอเป็นเพียงภรรยาคนเดียวในชีวิตของเขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนสับสนไปหมดแล้ว
เวลานี้ จี้จิ่งเชินมองไปที่แววตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่กลับมีความลึกซึ้งขนาดนั้น ราวกับว่าต้องการจะให้เธอรู้สึกประทับใจอย่างไรอย่างนั้น
ภายใต้สายตาที่มองมาของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนลืมสถานะในงานเลี้ยงของเธอไปแล้ว และเธอก็คือเจ้าของงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้อีกด้วย
ดอกไม้ผลิบานดอกไม้ร่วงหล่น ก้อนเมฆที่ก่อตัวและเคลื่อนตัวออกไป เพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปเป็นเวลานาน
คุณนายหล่อนดึงมือของเธอเบาๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้ดึงสติกลับมา เธอจัดการกับสภาพจิตใจที่ว้าวุ่นนี้ของตัวเอง แล้วค่อยๆเดินลงมาจากบันได้อย่างช้าๆ
เวลาสั้นๆเพียงไม่กี่นาที ทุกคนในงานก็ได้ทำการตัดสินใจให้เหมาะสมที่สุด และสอดคล้องที่สุดกับสถานการณ์ในตอนนี้
การกระทำในเวลานี้ของคุณนายหล่อนนั้น เห็นได้ชัดว่าต้องการจะปกป้องเวินเที๋ยนเที๋ยน
ในเมื่อเธอบอกออกมาว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นลูกบุญธรรมของเธอ ไม่ใช่ภรรยาของจี้จิ่งเชิน เช่นนั้นแล้วเธอก็คือลูกสาวบุญธรรมของคุณนายหล่อน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับจี้จิ่งเชิน
หลังจากที่คิดถึงขั้นนี้แล้ว สายตาที่ทุกคนมองเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่เหมือนเดิม
ตระกูลหล่อนรุ่นก่อนนี้มีเพียงแค่คุณนายหล่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น อีกทั้งเธอก็ยังไม่ได้แต่งงาน และไม่มีลูก
ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีการเอ่ยพูดถึงเรื่องแต่งงานของเธอ แต่ต่อมาก็ไม่มีข่าวคราวเรื่องนี้ออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว ทรัพย์สมบัติของตระกูลทั้งหมดก็ตกอยู่ในมือของคุณนายหล่อนเพียงคนเดียว
ถ้าหากหลังจากนี้เธอยังไม่มีลูกนั้น รอนานจนเธออายุเป็นร้อยปี เวินเที๋ยนเที๋ยนจะกลายเป็นทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมาย กลายเป็นเจ้าของคนใหม่แห่งตระกูลหล่อน
ในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าหากสามารถสร้างความสัมพันธ์กับเวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนนี้ได้นั้น อนาคตคงจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและตระกูลเป็นอย่างมาก
คิดเช่นนี้แล้ว การแสดงออกของพวกเขาเหล่านั้นก็เปลี่ยนมาดูกระตือรือร้นมากขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เพิ่งจะเดินลงมานั้น ก็มีใครคนหนึ่งที่เดินเข้ามาชวนเธอคุย
แต่เนื่องจากคุณนายหล่อนที่คอยอยู่ข้างๆเธอตลอด ดังนั้นการพูดคุยของทุกคนยังนับว่าสำรวมกันอยู่บ้าง
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังรับมือกับปัญหาของพวกเขา แต่ความจริงแล้วในหัวของเธอนั้นมีแต่จี้จิ่งเชินที่ปรากฏแวบเข้ามา
ตั้งแต่แรกสายตาที่มองมานั้นไม่ได้หายไปเลย จ้องมองเธอย่างร้อนแรง ราวกับต้องการจะเผาเธอให้ตายไปอย่างไรอย่างนั้น
ตอนนี้การปฏิเสธที่จะรู้เรื่องที่ว่าเธอยังไม่ตายนั้น จะมีความรู้สึกอย่างไรกัน?
จะรู้สึกตกใจไหม? จะรู้สึกดีใจหรือเปล่า?
ในใจของเธอคาดเดาไปด้วย แต่กลับไม่กล้าหันกลับไปมองจี้จิ่งเชิน
ผ่านไปสักพักหนึ่ง รอจนเวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆปรับตัวเข้ากับบรรยากาศของงานเลี้ยงได้ คุณนายหล่อนถึงได้เดินออกไป
สิ่งที่สำคัญที่สุดในงานเลี้ยงนั้นได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
วงดนตรีสดกำลังเริ่มเล่นเพลง และเพลงที่ไพเราะก็ถูกบรรเลงออกมา
คนที่รุ่นราวคราวเดียวกันต่างก็พากันยื่นมือออกมาเชื้อเชิญเวินเที๋ยนเที๋ยน พวกเขาต่างก็ต้องการที่จะมีสิทธิ์ก่อนใคร
“คุณเวินครับ ขอเต้นรำกับคุณสักเพลงได้ไหมครับ?”
“เที๋ยนเที๋ยน หวังว่าจะได้เต้นรำเป็นครั้งแรกนี้กับคุณนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองมือเจ็ดแปดมือที่ถูกยื่นมาตรงหน้าเธอ โดยเวลานั้นเธอเองก็ไม่รู้เลยว่าควรจะทำอย่างไรดี
“คุณเวินครับ”
ท่ามกลางเสียงที่ดังแทรกขึ้นมานี้ เสียงที่ดึงดูดราวกับแม่เหล็กนั้นดังขึ้นมาอย่างช้าๆ
ถึงแม้ว่าเสียงจะไม่ดัง แต่ก็ดังเข้าไปในหูของเธอได้ตั้งแต่แรกแล้ว
ร่างของเธอแข็งทื่อ และไม่ได้หันกลับมา
เสียงจากทางด้านหลังของเธอนั้นยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ผมเชิญคุณเต้นรำกับผมสักเพลงได้ไหมครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆหันหน้ามา เธอมองไปยังจี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของเธอ
ภายใต้แสงไฟ สายตาของเขานั้นช่างอ่อนโยนเหลือเกิน
สายตาของจี้จิ่งเชินนั้นมองอยู่ที่ร่างของเธอ ความสนิทสนมที่ส่งผ่านทางสายตามานั้นราวกับจะปกคลุมเวินเที๋ยนเที๋ยนไปแล้วเสียอย่างนั้น
คนอื่นๆที่เห็นจี้จิ่งเชินเดินมา ก็มองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง
ไม่ว่าจะพูดถึงปัญหานี้อย่างไร เมื่อก่อนเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เป็นภรรยาของจี้จิ่งเชิน ไม่รู้ว่าครั้งนี้พวกเขาจะทำอย่างไร?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองมือของจี้จิ่งเชินที่วางอยู่ตรงด้านหน้าของเธออยู่ตลอดเช่นนั้น ราวกับว่าถ้าหากเธอไม่ตกลงนั้น ก็จะรอต่อไปอยู่เช่นนั้น
เธอสูดหายใจเข้าช้าๆ ยกมือขึ้นมาวางลงบนฝ่ามือของเขา
“ค่ะ”
จี้จิ่งเชินจูงมือเธอ แล้วค่อยๆเดินไปตรงเวที
บนเวทีเต้นรำของค่ำคืนนี้ เปิดฟลอร์ด้วยพวกเขาทั้งสองคนนั้นเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้พูดอะไรออกมา รับรู้ถึงสัมผัสเบาๆจากมือของเขาที่วางอยู่ตรงเอวของเธอ นำเธอ เต้นรำไปกับเพลงที่บรรเลงนี้อยู่บนฟลอร์
แม้ว่าเป็นตอนนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน ถึงแววตาที่ร้อนแผดเผาของจี้จิ่งเชินกำลังจ้องมองอยู่ที่ตัวเอง
เธอก้มหน้าลง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองเขา
จี้จิ่งเชินจึงเอ่ยขึ้นมาในเวลานี้
“คุณเวิน รู้จักกับภรรยาของผมไหมครับ?”
หัวใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนเต้นแรง เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา
แต่กลับเป็นไปตามที่จี้จิ่งเชินคาดเดาเอาไว้ว่าเธอจะไม่ตอบคำถาม จึงเอ่ยพูดต่อ : “เธอก็ชื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเหมือนกันครับ เหมือนคุณเลย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็รู้สึกว่าสายตาของจี้จิ่งเชินนั้นร้อนแผดเผามากกว่าเดิมเสียอีก ราวกับว่าต้องการจะมองทะลุเธอให้ได้อย่างไรอย่างนั้น
เธอเอ่ยพูดออกมาเบาๆ : “บางทีอาจจะแค่ชื่อเหมือนก็ได้นะคะ…..”
“ไม่เพียงแค่ชื่อเหมือนเท่านั้นนะครับ แม้แต่ท่าทางก็เหมือนกันมาก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงคำพูดที่คุณนายหล่อนเคยพูดกับเธอไว้ จึงเอ่ยขึ้น : “ฉันจำได้ว่า ภรรยาของคุณจี้ตกทะเลเสียชีวิตไปแล้วนี่คะ”
“ไม่ครับ เธอยังไม่ตาย แล้วก็จะต้องไม่ตายด้วย”
น้ำเสียงที่มั่นใจ ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอดที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขาไม่ได้
เพียงแค่แวบเดียว เธอก็เกือบจะถูกสายตาของจี้จิ่งเชินแผดเผาเข้าเสียจนได้
เธอจึงรีบก้มหน้าลง
“ถ้าอย่างนั้น คุณชอบเธอไหมคะ?”
“ไม่ครับ”
จี้จิ่งเชินโอบเอวของเธอไว้เพื่อหมุนไปหนึ่งรอบ
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นรู้สึกสะท้าน และเธอกลับรู้สึกว่าจี้จิ่งเชินเอนตัวลงมาเล็กน้อย เข้ามาใกล้หูเธอมากขึ้น
“ผมรักเธอครับ”