เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 175 ความรักของเขาจะไม่มีวันจากไปอย่างแน่นอน
บทที่175 ความรักของเขาจะไม่มีวันจากไปอย่างแน่นอน
คำพูดประโยคนี้ของคุณนายหล่อน ทำให้มือที่อยู่ทางด้านหลังของจี้จิ่งเชินนั้นกำหมัดเอาไว้แน่น
เขาสูดหายใจเข้าอย่างช้าๆ
“ผมผิดเองครับ ผมเสียใจ…….”
คุณนายหล่อนลุกขึ้นยืน แล้วเอ่ยขึ้น : “ประโยคนี้ คุณควรจะพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยน ไม่ใช่หรือ คุณจี้ คุณไม่ต้องมายึดติดอะไรกับตระกูลหล่อนของเราหรอก แล้วก็อย่าได้คิดลมๆแล้งๆว่าจะหาตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนเจอได้ที่นี่ด้วย คุณรีบกลับไปจะดีกว่า”
จี้จิ่งเชินที่ยังอยากจะพูดต่ออีกนั้น คุณนายหล่อนกลับยกมือขึ้นมา แล้วหลังมือของเธอนั้นก็โบกออกไปทางด้านนอกเล็กน้อย
“คุณพ่อบ้าน ส่งเขากลับด้วย”
จี้จิ่งเชินกัดฟัน แล้วเงียบไปสักพักหนึ่ง ถึงได้เอ่ยขึ้น : “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นวันหลังผมจะมาอีก”
ว่าแล้วนั้น เขาจึงหันหลังกลับ แล้วเดินตามพ่อบ้านออกไป
รอจนหลังจากที่เขากลับไปแล้ว คุณนายหล่อนจึงดื่มชาบนโต๊ะอย่างช้าๆ แล้วจึงหันกลับออกไป
เธอออกมาจากห้องรับแขกแล้ว จึงเดินตรงมายังลานบ้าน มาที่ด้านนอกห้องที่อยู่ข้างๆดงป่าต้นเมเปิ้ล
และยังไม่ทันได้เข้าไปด้านในนั้น เธอก็เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยอาการที่กำลังตกตะลึง
ในใจของเธอนั้นรู้สึกสงสารจับใจ จึงเดินเข้าไปหา พลางเอ่ยขึ้นเบาๆ : “เมื่อกี้ที่เขาพูดเธอได้ยินหมดแล้ว?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า ขอบตาของเธอมีน้ำตาคลอขึ้นมา
“เขาชอบฉัน เขาบอกว่าฉันเป็นภรรยาของเขา”
“เธอเชื่ออย่างนั้นหรือ?”
คุณนายหล่อนยื่นมือออกไปกุมหลังมือเธอเอาไว้
“บอกฉันทีสิ ว่าคำพูดแบบนี้เขาเคยพูดมากี่ครั้งแล้ว และทุกครั้งหลังจากที่พูดจบแล้ว เขาปฏิบัติต่อเธออย่างไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอึ้งไป เธอกัดริมฝีปากแน่น แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมา
เห็นว่าเธอดูลังเลอยู่บ้างแล้วนั้น คุณนายหล่อนจึงเอ่ยพูดขึ้นต่อ : “ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเพราะจี้จิ่งเชิน แต่เธอก็ไม่คิดอยากจะแก้แค้นเลยหรือ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมามองเธอ
คุณนายหล่อนจึงใช้น้ำเสียงที่นิ่งเรียบเอ่ยพูดขึ้นต่อ : “เจียงหยู่เทียนเป็นคนเผาสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซีกับมือ คณบดีเฉินถูกฆ่าตายอยู่ในกองเพลิง เด็กๆทั้งหมดต่างก็พลัดจากไปอย่างสิ้นเนื้อประดาตัว ตอนนี้ก็ยังคงอยู่ที่สถานรับเลี้ยงชั่วคราวกันอยู่เลย”
“ส่วนตอนนี้ แผลบนใบหน้าของเขาก็รักษาหายแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะยอมปล่อยจี้จิ่งเชินไป แต่ก็กลับปีนขึ้นไปเกาะที่กิ่งที่สูงกว่าเดิม คนที่มีกลอุบายแบบนั้น ผ่านไปอีกไม่ถึงเดือน เขาก็สามารถจะแต่งงานเข้าตระกูลหวู่ได้อยู่แล้ว”
“เจี่ยงเนี่ยนเหยาและเฟิงจี้นผลักเธอตกหน้าผาที่สูงชันลงมา จนตอนนี้ก็ยังไม่มีเบาะแสเลย”
“คนของตระกูลจี้ก็รู้ถึงสถานะจริงของเธอตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีการพูดถึง กลับกลั่นแกล้งเธอไปซะทุกที่เสียอย่างนั้น ข่าวลือของเธอกับหมินอันเกอ จี้ยี่หยันกับเจี่ยงเนี่ยนเหยาก็เป็นคนร่วมมือกัน”
น้ำเสียงที่นิ่งเรียบของเธอนั้นเอ่ยพูดทุกเรื่องออกมาอย่างน่าฟัง ไม่ยินดียินร้าย ไม่มีความโมโหแต่อย่างใด
ดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งเบิกกว้างขึ้น ในหัวของเธอนั้นยิ่งมีแต่ความรู้สึกตกตะลึง
ไม่คิดเลยว่าคุณนายหล่อนจะสืบเรื่องทุกอย่างออกมาได้ชัดเจนถึงเพียงนี้
คุณนายหล่อนเอ่ยพูดต่อ : “เธอต้องการปล่อยให้พวกเขาหนีไปอย่างลอยนวลแบบนี้จริงๆหรือ?”
“ไม่ค่ะ”
แววตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฏความมุ่งมั่นนี้ออกมา
“แต่ ตอนนี้ฉันไม่ได้มีความสามารถ……”
คุณนายหล่อนยิ้มออกมาอย่างช้าๆ แววตาปรากฏความมั่นใจและความสูงส่งสง่างามที่ดูน่าเกรงขาม
“เธอมี”
เธอมองเวินเที๋ยนเที๋ยน พลางเอ่ยขึ้น : “ทุกอย่างที่ตระกูลหล่อนมี เธอสามารถเอาไปใช้ได้ทั้งหมด”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธอด้วยความตกตะลึง ในใจนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย
ทำไมกัน?
คุณนายหล่อนช่วยเธอ พาเธอกลับมาที่ตระกูลหล่อนแล้วดูแลเธอเป็นอย่างดี หรือแม้กระทั่งตอนนี้ก็สามารถช่วยเธอแก้แค้นได้ โดยจะมอบทุกอย่างของตระกูลหล่อนให้เธออีก
แต่ทำไมเธอต้องทำแบบนี้?
เธอขมวดคิ้ว มองคุณนายหล่อนด้วยความสงสัย
“ฉันขอถามคุณหน่อยได้ไหมคะ ว่าทำไมคุณจะต้องช่วยฉันขนาดนี้ด้วย?”
คุณนายหล่อนแสดงอารมณ์ที่มีความซาบซึ้งออกมา
“เพราะว่าฉันไม่อยากให้เธอต้องได้รับการถูกทำร้ายอีก”
คนของตระกูลหล่อน ไม่ใช่เป็นคนที่ใครๆจะมารังแกได้ง่ายๆตั้งแต่ไหนแต่ไรมาอยู่แล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนเร่ร่อนอยู่ข้างนอกอยู่เป็นเวลานานขนาดนี้ เธอต้องการให้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้รู้ถึงจุดนี้
สร้างความมั่นใจและความสามารถขึ้นมาให้กับเธอ
ตกกลางคืน
ความมืดค่อยๆปกคลุมพื้นที่บ้านของตระกูลหล่อน
ราวกับด้ายบางๆชั้นหนึ่ง ที่ครอบคลุมตัวบ้านเอาไว้ เหมือนกับหญิงสาวที่นอนตะแคงอยู่อย่างไรอย่างนั้น
บอดี้การ์ดสองสามคนกำลังตรวจสอบบริเวณรอบๆ
ตอนนี้เป็นเวลาตีสาม เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของคนจะรู้สึกง่วงที่สุด แต่พวกเขากลับไม่มีใครหละหลวมในหน้าที่เลยแม้แต่นิดเดียว
และตอนที่สองสามคนนั้นเดินผ่านไปแล้วนั้น ก็มีเงาของร่างหนึ่งค่อยๆเดินออกมาจากเงามืด ปรากฏตัวออกมาตรงบริเวณที่พวกเขาเดินออกไป
อาศัยแสงจากดวงจันทร์ จี้จิ่งเชินมองพิจารณาสภาพแวดล้อมโดยรอบ เขารอมาห้าวัน ก็เพื่อจะมาสืบค้นหาในวันนี้
เขามองหาความแตกต่างของสภาพแวดล้อมโดยรอบ จี้จิ่งเชินเดินเข้ามายังลานบ้าน และไม่นานก็เดินมาตรงท่ามกลางดงป่าต้นเมเปิ้ลเหล่านี้
จากการตรวจสอบมาจากก่อนหน้านี้นั้น ดงป่าเมเปิ้ลของตระกูลหล่อนจนถึงช่วงก่อนหน้านี้สองสามวัน ไม่มีคนอาศัยอยู่เลย
แต่ต่อมา ที่นี่กลับกลายเป็นสถานที่ใครก็ไม่สามารถเข้าออกได้อย่างตามอำเภอใจไปแล้วเสียอย่างนั้น
จี้จิ่งเชินนึกถึงตอนช่วงกลางวันของวันนี้ ที่เห็นแก้วชาสองใบอยู่ตรงคุณนายหล่อนแล้วนั้น แววตาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น
เขามั่นใจ ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะอยู่ที่นี่
เขาเดินไปทางด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงกับกล้องวงจรปิดและบอดี้การ์ด เขาถึงได้เดินมาถึงด้านนอกห้องห้องหนึ่งที่อยู่ด้านข้างดงป่าเมเปิ้ลได้ในที่สุด
แสงสว่างจากไฟภายในห้องนั้นส่องออกมา แสงอุ่นๆสีเหลืองส่องให้เห็นออกมาได้จากทางหน้าต่าง ช่างอบอุ่นและสวยงามยิ่งนัก
หัวใจของจี้จิ่งเชินนั้นเต้นแรงขึ้น เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดูคลุมเครือไม่ชัดเจน ยืนอึ้งอยู่ตรงที่เดิมสักพักหนึ่ง จนในที่สุดถึงได้ดึงความกล้าแล้วเดินเข้าไป
เขาผลักประตูเข้าไป หรือแม้กระทั่งกลั้นหายใจเอาไว้ ราวกับกลัวว่าจะทำให้คนที่อยู่ด้านในตกใจเสียอย่างนั้น
คนที่อยู่ภายในห้องนั้นหลับไปแล้ว เพียงแค่ไฟตรงหัวเตียงนั้นยังคงเปิดให้สว่างเอาไว้
มองดูภาพตรงหน้านี้แล้ว ในใจของจี้จิ่งเชินนั้นก็รู้สึกดีใจขึ้นมาเป็นบ้าเป็นหลัง การกระทำของเขายิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น
เขารู้ ว่าเวลาที่เวินเที๋ยนเที๋ยนนอนหลับนั้น ก็จะชอบเปิดไฟเอาไว้
เพราะเธอกลัวความมืด
จี้จิ่งเชินสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินเข้าไปหาอย่างระมัดระวัง
อาศัยแสงสลัวๆจากแสงไฟนี้ เดินไปข้างๆเตียงของเธอ
และตอนที่กำลังมองคนที่อยู่บนเตียงนั้น ราวกับว่าโลกใบนี้หยุดนิ่งลง
เขายืนอยู่ตรงข้างเตียง มุมปากปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาอย่างช้าๆ
ความดีใจฉายออกมาทางสายตา แทรกเข้าไปยังทุกเซลล์ในร่างกายของเขา
เขาจ้องมองไปยังคนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความลึกซึ้ง
เขารู้แล้ว
ที่รักของเขา
ความรักทั้งชีวิตนี้ของเขา
จะต้องไม่มีวันจากเขาไปอย่างแน่นอน
เวินเที๋ยนเที๋ยนนอนพิงอยู่บนหมอน ดวงตาของเธอกำลังหลับอยู่
แสงไฟสาดส่องไปยังใบหน้าของเธอ ขนตายาวๆของเธอสะท้อนเงาบางๆอยู่ตรงใต้เปลือกตา
จี้จิ่งเชินใกล้เข้าไปอีกเล็กน้อย มองดูตรงหน้าอกของเธอที่มีการขึ้นลงเล็กน้อยเนื่องจากการหายใจ ในใจนั้นรู้สึกสงบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เขาไม่คิดเลยว่าตอนที่ตัวเองได้มาพบกับเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้งหนึ่งนั้น ภายในใจของเขาจะรู้สึกสงบถึงเพียงนี้ ความดีใจนี้เต็มเปี่ยมไปทั่วทั้งร่างกายของเขา
เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับขึ้นมาจากนรกเพื่อไปสู่สรวงสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น ไม่ต้องมีการโรยเส้นทางด้วยกลีบดอกไม้ให้ยุ่งยากซับซ้อน และไม่ต้องมีขึ้นบันไดหมุนวนขึ้นไปอีกด้วย
ความสุขที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้ ทำให้เขาแทบไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่อยู่ตรงหน้าเลยว่าจะเป็นความจริง
เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป ทำในสิ่งที่เป็นการกระทำแบบเด็กๆที่เขาเคยเหยียดหยามมาก่อน เขาใช้มือหยิกตัวเอง
หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยการยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกพอใจ
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้
เขาค่อยๆก้าวไปข้างหน้า แล้วชันเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น มองดูเวินเที๋ยนเที๋ยนในระยะที่ใกล้มากขึ้น
เธอนอนหลับสนิท ราวกับไม่ได้รู้สึกถึงสายตาของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
จ้องมองเธออยู่เป็นเวลานาน จี้จิ่งเชินถึงได้เข้าใกล้เธอมากขึ้น ก้มหน้าลง แล้วค่อยๆบรรจงจูบลงบนหน้าผากของเธอเบาๆ
ราวกับขนนกที่อ่อนนุ่ม เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ได้รับรู้อะไรเลยเสียอย่างนั้น