เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 171 พิรุธ
บทที่171 พิรุธ
ดวงตาของจี้จิ่งเชินเต็มไปด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด
พ่อบ้านและจงหลีมองเขาอย่างตกตะลึง
เวินเที๋ยนเที๋ยน ตายแล้วอย่างนั้นหรือ?
ผ่านไปสักพักหนึ่ง จี้จิ่งเชินดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วรีบจับตัวจงหลีในทันที
“จงหลี! ให้คนหาต่อไป! เธอจะยังต้องอยู่ในทะเลแน่ๆ เธอยังไม่ได้ถูกช่วยขึ้นมา เธอกำลังรอฉันไปช่วยเธออยู่!”
เขาเดินออกไปอย่างรีบร้อน
“เร็วเข้า! จะไม่ทันเวลาแล้ว!”
พ่อบ้านเห็นเขามีสีหน้าท่าทางที่เหม่อลอยแล้วนั้น จึงรีบตามไป
จงหลีมองตามเบื้องหลังของจี้จิ่งเชินด้วยความกังวล เขาหันกลับมาถามพยาบาลที่อยู่ข้างๆ : “นี่มันเรื่องอะไรกันครับ?”
พยาบาลรู้สึกตกใจ
“เมื่อครู่นี้คุณจี้พุ่งตรงเข้ามา ถามหาเอาแต่ตัวคน แต่ตอนที่คุณเวินถูกส่งตัวมาภายในสามวันก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้แล้วค่ะ”
พยาบาลเอ่ยพูดต่อ “และพอได้ยินว่าศพของคุณเวินมีคนมาเอาไปแล้ว คุณจี้ก็เริ่มลงมือทำร้ายคุณหมอจนเป็นแบบนี้”
เธอชี้ไปที่คุณหมอที่อยู่ข้างๆ
จงหลีมองดูคนที่ถูกจี้จิ่งเชินถูกต่อยเสียจนหน้าบวมจมูกช้ำ แล้วขมวดคิ้วขึ้น
จะเป็นไปได้อย่างไร?
“เวินเที๋ยนเที๋ยนเสียชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือครับ?” เขาเอ่ยถาม
คุณหมอลูบแผลที่ใบหน้าตัวเอง พลางพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “ครับ ผมเป็นคนตรวจสอบยืนยันเองเลยครับ”
ใบหน้าของจงหลีเคร่งขรึม
“ใครเป็นคนนำศพของเธอไปครับ?”
“ครอบครัวของเธอครับ”
“ใคร? บอกชื่อผมมา”
แต่คุณหมอกลับเอ่ยขึ้นว่า : “ขอโทษด้วยนะครับ นี่เป็นข้อมูลความลับส่วนตัวของญาติ ทางเราไม่สามารถเปิดเผยกับคุณได้ครับ”
จงหลีมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย
“คุณจี้เป็นสามีของคุณเวิน เขามีสิทธิ์ที่จะรู้นี่ครับ”
คุณหมอคนนั้นกลับดูไม่ตกใจ ราวกับว่าคาดเดาเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาจะต้องถามแบบนี้
“อย่างที่ทุกคนทราบกันดี คุณเวินเป็นเพียงแค่คนที่เข้ามายังตระกูลจี้แทนเจี่ยงเนี่ยนเหยาเพียงเท่านั้น เอกสารหลักฐานการแต่งงานไม่ได้มีผลบังคับใช้อะไรอยู่แล้วนี่ครับ เพราะฉะนั้น คุณจี้ก็ไม่ใช่สามีของเวินเที๋ยนเที๋ยน”
จงหลีมองเขาที่คำพูดดูเป็นไปตามลำดับขั้นตอนเช่นนี้แล้ว เขาจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย
มีปัญหา!
จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน!
เขาไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาอีก แล้วจึงรีบวิ่งออกไป
รอจนพวกเขาไปแล้ว คนในโรงพยาบาลนั้นก็ค่อยๆแยกย้ายกันออกไป พยาบาลและคุณหมอมองสบตากัน แล้วค่อยๆออกมาจากล็อบบี้ของโรงพยาบาล
ทั้งสองคนเดินออกมาทางด้านนอก แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเบอร์แล้วโทรออก
ต่อสายแล้วนั้นเสียงสัญญาณดังอยู่สามครั้งจึงมีคนกดรับ
“คุณนายครับ พวกเขามากันแล้วครับ ทุกอย่างเป็นไปตามที่คุณนายขอเอาไว้แล้วครับ”
“ไม่มีปัญหาครับ พวกเราจะไม่บอกพวกเขาถึงสถานะของคุณ กรุณาวางใจได้ครับ”
พูดจบแล้วนั้น เขาถึงได้วางสายไป แล้วค่อยๆถอนหายใจออกมา พร้อมกับหันกลับเข้าไปในตึกโรงพยาบาล
และในเวลานี้เอง ในที่สุดจงหลีก็หาตัวจี้จิ่งเชินที่กำลังนั่งอยู่ทางด้านนอกจนเจอ
เขานั่งลงที่พื้น แววตาเหม่อลอยไร้ความรู้สึก ราวกับเด็กที่กำลังหลงทาง
อารมณ์ที่แสดงออกมาทางสีหน้าของจี้จิ่งเชินนั้นราวกับแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกับหัวใจของเขา
จงหลีเดินเข้าไปหาเขา
“คุณผู้ชายครับ”
เขาส่งเสียงเรียกออกมา ไม่รู้ว่าจี้จิ่งเชินจะได้ยินหรือเปล่า
โดยเวลาผ่านไปนานสักพักหนึ่ง ในที่สุดจี้จิ่งเชินจึงได้เงยหน้าขึ้นมา
สายตาที่ไม่ได้โฟกัสของเขากลับมามองรวมกันอีกครั้งที่ร่างของจงหลี
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นเสียงเบา : “เธอยังไม่ตาย ใช่ไหม?”
จงหลีคิดแล้วจึงค่อยๆเอ่ยพูดขึ้นกับเขา : “คุณผู้ชายครับ คนที่โรงพยาบาลนี้มีปัญหานะครับ”
แววตาของจี้จิ่งเชินกลับมองเขาอย่างเหม่อลอย
ตั้งแต่ตอนแรกที่รู้เรื่องว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเกิดเรื่องนั้น เขาก็ได้สูญเสียความสามารถในการคิดไตร่ตรองไปเสียแล้ว
จงหลีถอนหายใจออกมา แล้วเอ่ยพูดต่อ : “ท่าทางของคนพวกนั้นดูไม่ถูกต้องเท่าไหร่นักนะครับ เหมือนกับว่าได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว”
เขาขมวดคิ้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง
“หมอกับพยาบาลคนนั้น ดูผิดปกติ หรือบางทีอาจจะมีแผนร้ายอะไรซ่อนอยู่ก็ได้นะครับ”
ดวงตาของจี้จิ่งเชินสั่นไหวขึ้นมา เขามองไปที่จงหลี
ผ่านไปสักพักหนึ่ง ราวกับเพิ่งจะมีการตอบสนองกับคำพูดเหล่านี้ของจงหลี
เสียงของเขาเบามาก ราวกับว่ามีอะไรพังไปเสียอย่างนั้น
“นายหมายความว่า เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ตาย?”
จงหลีอ้าปากค้าง เขาเพียงแค่สงสัยในตัวคนที่เอาศพของเวินเที๋ยนเที๋ยนไปเพียงเท่านั้น ตกลงมาจากหน้าผาที่สูงขนาดนั้นลงสู่ทะเล โอกาสที่จะมีชีวิตรอดมานั้นก็มีไม่มากอยู่แล้ว
อีกทั้งรูปถ่ายเหล่านั้นก็เป็นของจริงด้วย…..
ที่เขาสงสัย มีเพียงแค่สถานที่ที่เอาศพของเวินเที๋ยนเที๋ยนไปเพียงเท่านั้น
แต่เวลานี้ดูจากแววตาของจี้จิ่งเชินแล้ว เขากลับไม่สามารถพูดประโยคนั้นออกมาได้เลย
เงียบอยู่นาน จงหลีถึงได้พูดขึ้นต่อ : “ครับ ผมเชื่อว่าเธอยังไม่ตาย”
ประโยคนี้ ราวกับเป็นแสงไฟ ทำให้จี้จิ่งเชินได้มองเห็นความหวังสุดท้ายขึ้นมาในทันที
เขาจึงรีบลุกขึ้นมา ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดนั้นขับเคลื่อนขึ้นมาทันใด สมองของเขานั้นก็แล่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
แล้วย้อนกลับไปนึกถึงคำพูดที่คุณหมอพูดเอาไว้เมื่อครู่นี้
“ใช่ มีปัญหา!”
“รูปถ่ายนี่ก็ดูมีการวางแผนมาตั้งแต่แรกแล้ว สามวันแล้วถึงได้มีข่าวหลุดออกมา ช่วงเวลานี้ก็สามารถทำเรื่องต่างๆได้อีกมาก”
“จะต้องมีคนเอาตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนไปแน่ๆ! เธอยังไม่ตาย!”
จี้จิ่งเชินกลับมาสงบลงได้เหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว เขาหันตัวกลับแล้วเดินออกไปทางด้านนอก
“สืบ! รีบไปสืบมา! เจียงหยู่เทียน เจี่ยงเนี่ยนเหยา ตระกูลเจี่ยง ตระกูลจี้ ทุกคน อย่าปล่อยให้หลุดไปได้แม้แต่คนเดียว!”
“ไปสืบเรื่องทั้งหมดมา สืบมาว่าวันนั้นใครเป็นคนที่เอาปัญหานี้เข้ามาที่โรงพยาบาล เกิดอะไรขึ้นที่โรงพยาบาลนี้ คนในโรงพยาบาลเยอะขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีข่าวคราวอะไรเลย”
มองดูจี้จิ่งเชินที่ฟื้นฟูจากอาการช็อคแล้วนั้น ในใจของจงหลีนั้นไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือว่าเสียใจดี
หายไปสามวัน แล้วเกิดเรื่องขึ้นมามากมายขนาดนี้ ถึงแม้ว่าคุณเวินจะยังไม่ตายจริงๆ ก็จะต้องเกิดเรื่องขึ้นมาอย่างแน่นอน
ถ้าหากคุณผู้ชายหาเธอเจอ และคุณเวินไม่อยู่แล้ว เช่นนั้นควรจะทำอย่างไรดี?
ความคิดนี้ส่งผ่านเข้ามาในหัวของเขา แต่เมื่อมองดูจี้จิ่งเชินที่พยายามจับความหวังสุดท้ายนี้ไว้อย่างสุดชีวิตแล้วนั้น เขากลับพูดไม่ออก
ถึงแม้ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ ถ้าเช่นนั้นก็รอให้หาตัวเจอก่อนแล้วกัน
อย่างน้อยๆสองสามวันนี้ ก็สามารถทำให้คุณผู้ชายพอจะใช้ชีวิตต่อได้เป็นการชั่วคราวขึ้นมาบ้าง
และไม่นาน กิจการและบุคคลที่อยู่ภายใต้เครือข่ายของจี้จิ่งเชินทั้งหมดนั้นก็ได้ถูกระดมกำลังขึ้น
สนามรบของพวกเขานั้นได้เปลี่ยนจากในทะเลขึ้นมาอยู่บนบก เริ่มพลิกแผ่นดินเพื่อตามหาข่าวคราวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
สถานที่แรกที่จะเริ่มหากันนั้น ก็คือที่โรงพยาบาลแห่งนี้
จงหลีนำข้อมูลที่หามาได้ภายในสองสามวันมานี้วางไว้ตรงหน้า
“โรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลที่แอบอ้างชื่อขึ้นมาครับ เจ้าของโรงพยาบาลตัวจริงไปอยู่ต่างประเทศเมื่อสองสามปีก่อนแล้ว เราสำรวจทุกข่าวคราวของเขาแล้วครับ ไม่มีการติดต่อใดๆที่เกี่ยวข้องกับเวินเที๋ยนเที๋ยนเลย”
“และเราก็ได้สำรวจตรวจสอบกับทางหมอและพยาบาลทั้งหมดในโรงพยาบาลนี้แล้วครับ โดยบันทึกคำให้การของพวกเขา ทุกคนต่างก็บอกกับเราถึงสถานการณ์ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลในวันนั้น”
“ที่ชายหาดไม่มีกล้องวงจรปิด หาไม่เจอครับว่าใครเป็นคนพาตัวเธอมาส่งที่โรงพยาบาล เราใช้เวลาเป็นสัปดาห์ ในการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของทุกคนที่เดินทางจากชาดหาดมาที่โรงพยาบาล แต่ก็หาเบาะแสใดๆไม่เจอเลยครับ”
“ส่วนกล้องวงจรปิดด้านในโรงพยาบาลเราก็เอาออกมาดูเช่นกันครับ ในนั้นมีการถ่ายสถานการณ์ตอนที่มีคนนำตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนมาส่งที่โรงพยาบาลอยู่จริงๆ เพียงแต่กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในห้องฉุกเฉินชำรุดแล้ว เราจึงไม่สามารถเห็นตอนที่เธอถูกรักษาครับ”
“แต่หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ก็เห็นว่าเธอถูกเข็นออกมา เธอ……”
เขามองไปทางจี้จิ่งเชินแวบหนึ่ง กังวลว่าเขาจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง จึงไม่ได้พูดอะไรต่อไป
ไม่ว่าจะตรวจสอบอย่างไร หลักฐานทุกอย่างนั้นชัดเจนมาก ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนตายแล้ว