เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 167 ฉันเหมือนจะเห็นดอกไม้ไฟ
บทที่ 167 ฉันเหมือนจะเห็นดอกไม้ไฟ
เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นตระหนกจนฝ่ามือมีเหงื่อออก ขนลุกไปทั้งแผ่นหลัง แต่ก็แกล้งทำเป็นยังสลบอยู่ พิงอยู่บนตัวของเฟิงจิ้นอย่างอ่อนเพลีย
เวลานี้แหล่ะ เจี่ยงเนี่ยนเหยาเอ่ยปากกะทันหัน
“เดี๋ยวรอก่อน”
“เหลือรองเท้าไว้หนึ่งข้าง แบบนี้จะยิ่งดูออก ว่าเธอเองที่ไม่ระวังตกลงไป”
ขณะที่พูด เธอนั่งลงตรงหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน ยืนมือจะไปถอดรองเท้าของเขา
เธอเพิ่งจะนั่งลง เวินเที๋ยนเที๋ยนดิ้นรนกะทันหัน
ถีบไปที่ตัวของเจี่ยงเนี่ยนเหยา จนเธอล้มลงตรงพื้น
เฟิงจิ้นที่อยู่ด้านหลังนึกไม่ถึงเลยสักนิดว่าเธอจะตื่นขึ้นมา เผลอวางใจไปชั่วขณะ จนทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนมีโอกาสหันตัวหนีออกไปอีกทางหนึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนวิ่งอย่างรวดเร็วไปข้างหน้า และมองดูรอบๆตัวหาที่ที่หลบซ่อนได้
เจี่ยงเนี่ยนเหยาถูกเธอถีบจนล้มลงไปนั่งกับพื้นเต็มก้น เงยหน้าขึ้นไปดู กลับเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนหนีไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว
เธอกัดฟันแน่นๆ ตะโกนว่า “รีบจับเธอไว้! อย่าให้เธอหนีไป!”
ที่จริงยังไม่ทันรอเธอพูด เฟิงจิ้นก็รีบวิ่งตามออกไปแล้ว
ฝีเท้าของเขาวิ่งอย่างรวดเร็ว ไม่กี่สิบวินาที ก็วิ่งจนใกล้เวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ขวางทางไปของเธอไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอยหลังไปสองสามก้าว แต่ข้างหลังตนเองก็เป็นหน้าผาเช่นกัน
น้ำทะเลซัดขึ้นซัดลงอยู่ด้านล่าง ส่งเสียงคลื่นดังก้องกังวาน
ตอนนี้เจี่ยงเนี่ยนเหยาก็วิ่งตามมาจนถึงที่นี่ ยืนกับเฟิงจิ้นขวางเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ริมหน้าผา ขวางกั้นทางที่เธอสามารถหนีไปได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้าไปดูหน้าผาด้านหลัง ส้นเท้ากำลังลอยอยู่บนอากาศแล้ว ครึ่งหนึ่งของร่างกายห้อยออกไปข้างนอกแล้ว
เธอแลบลิ้นเลียริมฝีปาก มองไปคนทั้งสองคนตรงหน้า
“พวกเธอคิดจะทำอะไร? อย่างเข้ามานะ!”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาหัวเราะอย่างเย็นชา
“พวกเราอยากจะทำอะไร? หรือเธอยังดูไม่ออกอีกเหรอ?”
เธอก้าวเข้าไปทันทีหนึ่งก้าว มองดูร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังโยกเยกอย่างสะใจ
“เธออยากจะเป็นคุณนายจี้มากไม่ใช่เหรอ? เธอต้องการครอบครองจี้จิ่งเชินไม่ยอมไปไม่ใช่เหรอ? งั้นเธอก็เอาตำแหน่งคุณนายจี้ไปลงนรกด้วยสิ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอยหลังไปอีกก้าว ร่างกายก็เอียง เกือบจะตกลงไปจากหน้าผา
เธอรีบคว้าตัวทันที จึงรู้สึกถึงบนตัวยังมีปากกาบันทึกเสียงที่จะเอาให้จี้จิ่งเชิน
เธอเอาปากกาบันทึกเสียงนั้นออกมาอย่างระมัดระวัง ซ่อนไว้ด้านหลังและกดปุ่มอัดเสียง
“เจี่ยงเนี่ยนเหยา วันนี้เธอกลายเป็นอย่างนี้ ก็เพราะตัวเธอเอง ไม่เกี่ยวกับฉัน”
“เพราะเธอ! ก็เพราะเธอนั่นแหล่ะ!”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาร้อนรนจนกางแขนชี้นิ้ว เดินเข้าไปอีกสองก้าว ถุกเฟิงจิ้นที่อยู่ข้างๆขัดขวางไว้
แววตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบสงบ เธอมองหน้าเจี่ยงเนี่ยนเหยาที่กำลังโมโหรุนแรง ค่อยๆเอ่ยปาก
“เริ่มแรก ก็เพราะเธอเลือกที่จะหนีไป ทำให้ฉันต้องถูกบังคับเข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลจี้ หลังจากนั้นก็เพราะเธอไม่พอใจชีวิตของตนเอง คิดอยากจะแย่งจี้จิ่งเชินกลับมา”
“และตอนนี้ เธอก็ทำเพื่อที่จะแก้แค้นฉัน ยังคิดจะฆ่าฉัน แสร้งทำเป็นให้ฉันพลัดตกลงทะเลฆ่าตัวตาย! เธอคิดว่าจะไม่มีใครพบเจอเหรอ?”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาหัวเราะอย่างเย็นชา
“ตอนนี้เธอพูดเยอะขนาดนี้ คิดว่าฉันจะปล่อยตัวเธอไปเหรอ?”
“ฉันจะบอกเธอนะ ฉันอดใจไม่ได้ที่อยากจะฆ่าเธอซะตอนนี้เลย! เฉือนหนังเธอออก! ดึงเส้นเอ็นเธอออก! ขณะที่นอนอยู่ยังฝันว่าจะฆ่าเธอยังไง!”
เธอลืมตาโตๆ ลูกตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย
“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ! ตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องพวกนี้ รอเธอตายแล้ว ฉันก็จะบินหนีไปไกลๆ ไม่มีใครที่จะสงสัยฉันหรอก”
สองมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนไขว้ไว้ด้านหลัง ในมือกำปากกาบันทึกเสียงไว้แน่นๆ
บนหน้าของเธอเหมือนจะนิ่งเฉย ในใจสับสนวุ่นวายตั้งนานแล้ว
ถ้าวันนี้เธอตายอยู่ตรงนี้จริงๆ มีแต่ปากกาบันทึกเสียงอันนี้ สามารถเป็นหลักฐานมัดตัวผู้ร้ายได้
แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่อาจวางใจได้ ก็คือจี้จิ่งเชิน
เธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะบอกความในใจให้จี้จิ่งเชินรู้
ถ้าเธอตายแล้ว จี้จิ่งเชินจะเสียใจไหม?
แม้จะเสียใจแค่เพียงเสี้ยววินาที ก็ได้
เธอคิดถึงหน้าของชายคนนั้นแล้ว มุมปากค่อยๆยิ้มขึ้นมานิดๆ
เธอกดปุ่มบันทึกเสียงในมืออีกครั้ง ค่อยๆเอ่ยปาก “จี้จิ่งเชิน ฉันรู้สึก ฉันมองเห็นดอกไม้ไฟ…..”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาขมวดคิ้วและมองหน้าเธอ ไม่รู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังทำอะไรอยู่
เธอมองดูรอบๆ ทันใดนั้น เธอก็กังวลว่าพวกของจี้จิ่งเชินจะตามมาหรือไม่
“เมื่อกี้เธอพูดอะไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆเอาปากกาบันทึกเสียงนั้น แอบวางไว้ด้านหลังเธอ ค่อยๆสอดเข้าไปในโพรงหญ้า ปิดไว้ดีๆ
“ฉันกำลังพูด พวกเธอต้องได้รับการลงโทษ”
พูดจบ เธอก็ยกมือขึ้น จับสร้อยเส้นนั้นที่อยู่บนคอของตัวเอง กัดฟันแล้วดึงลงมาวางไว้ในฝ่ามือ
“อันนี้คืนให้เธอ” เธอพูดขึ้นมาเสียงหนึ่ง
แต่ว่าตอนนี้เจี่ยงเนี่ยนเหยากำลังพุ่งเข้ามา เธอผลักเธออย่างแรงหนึ่งครั้ง
ร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยนล้มตัวลง แต่โยนสร้อยที่อยู่ในมือออกไปได้ทันเท่านั้น ร่างกายล้มไปด้านหลังตกลงไป…..
จี้จิ่งเชินรีบเหยียบคันเร่งอย่างบ้าคลั่ง ซิ่งไปทางที่อยู่ที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่
มือของเขาจับพวงมาลัยไว้แน่นๆ ใช้สติและแรงทั้งหมดในร่างกาย ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้
จากที่เขาไม่เคยเชื่อเรื่องเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในเวลานี้กลับภาวนาในใจไม่หยุด
เกิดเรื่องไม่ได้
เกิดเรื่องไม่ได้เด็ดขาด
โอ้พระเจ้า ผมไม่ใช่คนดี ผมเคยทำเรื่องไม่ดีมากมาย แต่ตอนนี้ ผมยอมปล่อยวางทุกอย่าง เพื่อแลกกับความปลอดภัยของเธอ
ถ้าท่านได้ยินสิ่งที่ผมพูด ด้วยโปรดเก็บเธอไว้ ขอร้องท่านล่ะ…..
จี้จิ่งเชินภาวนาในใจไม่หยุด รถสปอร์ตหรูของเขาซิ่งเร็วมากบนทางด่วนพิเศษ
เขาเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาไม่ควรปล่อยเธอทิ้งไว้ เขาน่าจะจับเธอมัดไว้ ขังเธอไว้ข้างกาย
ถึงเธอจะโกรธ ก็ไม่ควรให้เธอจากไป
ถึงเธอจะโวยวาย เขาก็สามารถกุมหน้าเธอไว้และเกลี้ยกล่อมเธอได้
ถ้าเขาไม่ทิ้งให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่คนเดียว เธอก็จะไม่ถูกพวกของเจี่ยงเนี่ยนเหยาจับตัวไป
ถ้าเขาไม่พูดคำพูดเหล่านั้น…..
รถสปอร์ตดังเอี๊ยดเสียงหนึ่ง หยุดตรงที่ชายหาด
เบรกรถกะทันหันทำให้ยางรถไหลลื่นยาวๆระยะหนึ่ง และมีควันขึ้นเต็มไปหมด
รถยังไม่หยุด จี้จิ่งเชินก็รีบเปิดประตู กระโดดออกจากรถ
ขาเหยียบลงพื้น เขาก็รีบวิ่งออกไป
“เวินเที๋ยนเที๋ยน!”
เขาตะโกนเรียกหนึ่งเสียง มองเห็นตรงหน้าเป็นหน้าผาที่กว้างโล่งไม่มีอะไรเลย
เขารีบวิ่งไปอย่างรวดเร็วมาก
ไม่มี!
ไม่มี!
ไม่มี!
สองตาของเขาแดงขึ้น วิ่งตามหารอบทุกที่อย่างตื่นตระหนกใจ
“ถ้าคุณยังไม่ออกมาอีก ผมสาบาน ผมจะผูกคุณไว้ตลอดไป!”
“เวินเที๋ยนเที๋ยน คุณได้ยินหรือยัง?”
แต่ไม่มีใครตอบรับเขา
ในใจที่กำลังกระวนกระวายของจี้จิ่งเชินเพิ่มมากยิ่งขึ้น จนท่วมทั้งตัวของเขา
เขาวนหาไปตามริมหน้าผาอย่างร้อนใจ
ใต้แสงอาทิตย์ มีของอะไรที่ส่องระยิบระยับ
เขารีบวิ่งไปทางนั้น เห็นมีของอะไรอยู่ที่พื้น บนหน้าแดงขึ้นมากะทันหัน
มุมปากกระชาก เกือบจะร้องไห้ออกมาตรงนั้น
“ไม่ อย่าเป็นแบบนี้…..”
จี้จิ่งเชินตื่นตระหนกใจรีบวิ่งไปดู สองขาอ่อนลงทันที จนคุกเข่าลงกับพื้น
ในกอหญ้า มีรูปสร้อยสีเงินเส้นหนึ่ง