เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 159 มีเลศนัย
บทที่ 159 มีเลศนัย
จี้จิ่งเชินหันออกไปที่ประตูและไม่ได้หันมามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอีก
เขาหันหลังให้เวินเที๋ยนเที๋ยน
“เพราะในหัวใจของคุณ หัวใจของผมไม่มีค่าเลยไม่ใช่เหรอ?ไม่อย่างนั้นทำไมคุณคงไม่……”
เขาพูดอยู่ครึ่งเดียว แต่ไม่ได้พูดต่อ
ไม่ง่ายเลยกว่าที่หน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนจะมีสีเลือดฝาดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที
“ฉันไม่ได้……”
เธอตอบเบา ๆ แต่จี้จิ่งเชินเปิดประตูแล้วก็ออกไป
พอจี้จิ่งเชินเดินออกไป คนที่หลบอยู่ตรงมุมห้องถึงเดินออกมา
เจียงหยู่เทียนมองเขาออกไปเงียบๆ แล้วขมวดคิ้วขึ้นมา
เธอประเมินเวินเที๋ยนเที๋ยนต่ำไป ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป จี้จิ่งเชินอาจจะให้อภัยเธอก็ได้
ถึงตอนนั้น ก็ไม่มีที่ให้เธอที่ตระกูลจี้แล้ว
เจียงหยู่เทียนพิงไปที่กำแพงมี ดวงตาของเธอมีประกายบางอย่างออกมา
ในไม่ช้าเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอ แล้วเดินออกไปทางอื่น รีบกดเบอร์ที่ซ่อนไว้โทรออกอย่างรวดเร็ว
เพิ่งเดินไปที่หน้าต่าง ก็โทรติดพอดี
“ฮัลโหล ฉันเอง”
“ฉันแค่จะถามคุณว่า คุณต้องการแก้แค้นหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำตอบจากอีกด้านหนึ่งเจียงหยู่เทียนก็ค่อยๆยกมุมปากของเธอขึ้น
“ฉันช่วยคุณได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล โดยที่จี้จิ่งเชินไม่เห็นยินยอม เธออยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลาสองวันเต็ม
น้ำจากเข็มฉีดยามากกว่าที่เธอดื่มเสียอีก
แต่ถึงแม้จะมีอาหารเสริมความที่มีเข้มข้นสูง สีหน้าของเธอก็ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตั้งแต่จี้จิ่งเชินออกจากวันนั้น เขาไม่ได้มาเยี่ยมเธออีกเลย
ตอนนี้เขาอยู่กับ เจียงหยู่เทียนหรือเปล่านะ?
ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ ประตูของห้องพักก็เปิดออกและเสียงของพ่อบ้านก็ดังเข้ามา
“คุณหมิน เร็วๆหน่อยนะครับ อย่าให้คุณผู้ชายเห็นเข้า”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้าไปดู เมื่อเธอได้ยินเสียง ก็เห็นหมินอันเกอเดินเข้ามาจากด้านนอก
“พี่หมิน?พี่มาได้ยังไง?”
หมินอันเกอปิดประตู แล้วเดินเข้าไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ข้างเตียง
เขาก้มหัวลงแล้วมองเธออย่างใส่ใจ
เมื่อเห็นใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่มีสีเลือดและดูซีดเซียว ในดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความปวดใจ
“จี้จิ่งเชินทำกับเธอขนาดนี้……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆลดสายตาของเธอลง
“พี่มาที่นี่เพื่อโน้มน้าวให้ฉันไป?”
หมินอันเกอพยักหน้า “ถูกแล้ว”
แต่เขาพูดต่อ “แต่พี่รู้ว่าเธอจะไม่ยอมไป”
เขายื่นมือออกไปจับเวินเที๋ยนเที๋ยน ก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วมองตรงเข้าไปในดวงตาของเธอ
“เที๋ยนเที๋ยน เปลี่ยนไปชอบคนอื่นเถอะ ถึงจะไม่ชอบพี่ ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าไปชอบจี้จิ่งเชินเลย”
เขากุมมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้แน่น
“เธอควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้”
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า
“เจียงหยู่เทียนยังอยู่ข้างกายเขาฉันไม่อยากให้จี้จิ่งเชินเป็นเหมือนคณบดี”
“มันเป็นเรื่องของเขา”
หมินอันเกอมองคนตรงหน้าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
เขาไม่ได้เจอเธอแค่ครึ่งเดือน เธอก็ผอมลงไปมากเหมือนมนุษย์กระดาษ
เขาจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆและไม่กล้าแม้แต่จะใช้แรง ราวกับกลัวว่าแรงแค่เล็กน้อยก็อาจบดขยี้คนที่อยู่ตรงหน้าเขาได้
“เชื่อเถอะ เที๋ยนเที๋ยน ถึงเธอจะไม่ได้อยู่ข้างๆจี้จิ่งเชิน ก็ทำให้เจียงหยู่เทียนสามารถรับโทษที่เธอก่อไว้ได้ ……”
เขาเพิ่งพูดได้ครึ่งเดียว ประตูห้องพักก็ถูกเปิดออก
ทั้งสองคนหันไปมองทันที
ที่ประตูของห้องพักผู้ป่วย บนใบหน้าของจี้ยี่หยันมีรอยยิ้มเล็กๆ ไม่รู้ว่าเมื่อครู่เขาได้ยินไปมากแค่ไหน
หมินอันเกอขมวดคิ้วมองเขา แล้วลุกขึ้นยืนอย่างระมัดระวัง แล้วกันเวินเที๋ยนเที๋ยนเทียนไว้ข้างหลังเขา
“นี่ไม่ใช่ดาราใหญ่หมินเหรอ?คิดไม่ถึงว่าคุณกับพี่สะใภ้ผมจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่กันขนาดนี้ เห็นเธอป่วยก็มาเยี่ยมเป็นพิเศษ”
จี้ยี่หยันยกมุมปากของเขา ยิ้มออกมาและเดินช้าๆเข้ามา
“แต่ไม่รู้ว่า เรื่องนี้พี่ชายผมเขาจะทราบไหม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด
เธอคิดเสมอว่าจี้ยี่หยันเป็นคนดีและเธอก็ยังเคยเชื่อในตัวเขา
แต่หลังจากเรื่องนี้เกิดขึ้น เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงตระหนักว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเธอไม่ใช่เล่นๆ
ให้เปรียบเทียบกับจี้จิ่งเชิน จี้ยี่หยัน คนที่อยู่ตรงหน้า หน้าของเขาเหมือนกับเสือยิ้ม
“คุณมีเรื่องอะไรเหรอ?”เวินเที๋ยนเที๋ยนถามเบาๆ
จี้ยี่หยันยิ้มและเดินช้าๆเข้ามา
“ผมได้ยินมาว่าคุณเข้าโรงพยาบาล ดังนั้นผมจึงมาดูเป็นพิเศษ จะพูดยังไงดี คุณก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของผมมาก่อน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำพูดนั้น เธอก็เม้มปาก
เมื่อตัวตนของเธอถูกเปิดเผยต่อทุกคนโดย เจี่ยงเนี่ยนเหยาเธอถูกจี้จิ่งเชินขังเอาไว้
เธอไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น
เธอเคยได้ยินพ่อบ้านพูด เพราะการป่าวประกาศของ เจี่ยงเนี่ยนเหยาทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นตัวปลอม
แต่ในช่วงที่ถูกจี้จิ่งเชินขังเอาไว้ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่ตระกูลจี้กลับไม่เคยที่จะมาดู
และจี้ยี่หยันที่อยู่ต่อหน้าเธอก็ดูไม่แปลกใจเลย ราวกับว่าเขารู้เรื่องนี้มานานแล้ว
เขาเดินไปที่เตียงเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาก้มลงแล้วเอื้อมมือออกมาลูบผมยาวของเธอ แล้วค่อยๆยกขึ้นมาดมที่ปลายจมูก
“มิน่า ผมถึงรู้สึกว่าคุณไม่เหมือนกันนิดหน่อย”
หมินอันเกอที่ยืนอยู่ด้านข้าง เห็นการกระทำของเขาในใจของเขาก็บีบรัดขึ้นมาทันที
“คุณทำอะไร!”
จี้ยี่หยันไม่ได้โกรธ แต่ค่อยๆยืดตัวขึ้นมาและมองไปที่หมินอันเกอ
“เที๋ยนเที๋ยนยังไม่โกรธ ทำไมคุณถึงโกรธหรือ? หรือพวกคุณมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกเขากันจริงๆ?”
“คุณอย่าพูดไร้สาระ!”
“ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะไร้สาระหรือไม่ ที่สำคัญคือ จี้จิ่งเชินคิดว่ามันไร้สาระหรือไม่ต่างหาก?”
ดวงตาของจี้ยี่หยันมองไปมาระหว่างเวินเที๋ยนเที๋ยนและหมินอันเกอ
“ถ้าเขารู้ว่าคุณแอบเข้ามาพบเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ว่าคราวหน้า เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเข็นเข้าไปในห้องผ่าตัด หรือว่าจะจัดงานศพให้เธอเลย?”
หมินอันเกอกำหมัดของเขาขึ้นมาทันที เกือบจะต่อยกับจี้ยี่หยัน
“คุณกล้าเหรอ!”
จี้ยี่หยันพูดช้าๆ “เมื่อคุณไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมจะต้องกลัว แต่ว่าพี่ชายของผมอารมณ์ไม่ค่อยดี ถ้าหากว่าเขาพลั้งมือไป……”
เขาหันกลับไปมองที่เวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นก็น่าเสียดาย”
คำพูดของจี้ยี่หยันทำให้หมินอันเกอตื่นตกใจมากยิ่งขึ้น
นี่คือสิ่งที่เขาเป็นกังวล
ช่วงนี้ยิ่งเขาสืบดูจี้จิ่งเชินมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นห่วงเวินเที๋ยนเที๋ยนมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงพยายามทำทุก
วิถีทางเพื่อโน้มน้าวให้เธอจากไป
แต่เธอไม่ยอมจากไป
หมินอันเกอขมวดคิ้วและใช้ความคิด
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รีบหันกลับไปที่จี้ยี่หยัน
“คุณก็เห็นว่ามีคนอยู่ ออกไปได้ไหม?”
จี้ยี่หยันมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนและเห็นว่าเธอไม่ตอบสนอง และหมินอันเกอที่เฝ้าอยู่ด้านข้างของเธอ ไม่มีโอกาสได้ลงมือ
ได้แค่ยิ้มออกมา “งั้นผมค่อยมาใหม่คราวหน้าแล้วกัน”
หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกไป
เพิ่งออกมาจากห้องพักผู้ป่วย จี้ยี่หยันก็ทิ้งยาลงในถังขยะ แล้วเอาโทรศัพท์ออกมากดโทรออก