เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 156 หมดสติ
บทที่ 156 หมดสติ
หลายวันมานี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นแบบนี้ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมลงๆทุกวัน
แม้ว่าแม่ครัวจะทำอาหารมากมายเพื่อบำรุงร่างกาย แต่ถ้าเธอไม่กิน ร่างกายของเธอก็จะยิ่งผอมลงผอมลงและในไม่ช้าอาจจะเกิดเรื่องขึ้น
“คุณเวิน คุณกินอะไรสักหน่อยเถอะ ตอนนี้ร่างกายของคุณผอมเกินไปแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนปิดตาลง แล้วส่ายหัว
“ตอนนี้ฉันไม่อยากอาหาร”
“แม้ว่าคุณจะไม่อยากอาหารคุณก็ต้องกิน ถ้าคุณไม่กินอะไรเลย จะรักษาร่างกายเอาไว้ไม่ได้นะครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ไหวติง เธอค่อยๆมองไปที่ขนมบนโต๊ะ
“ตอนนี้ฉันมีอะไรอีก? ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว”
ประโยคสั้นๆ แต่เธอพูดออกมาเบาหวิว ราวกับไม่มีแรงที่จะพูด
เธอเป็นเช่นนี้ทำให้พ่อบ้านเป็นทุกข์มากขึ้น
สายลมของฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่านมาแล้ว พัดเอาใบไม้ตกลงมาบนพื้น
ไม่ทันได้รู้ตัวว่าฤดูใบไม้ร่วงมาถึงแล้ว
พ่อบ้านมองเสื้อผ้าที่บางเบาของเวินเที๋ยนเที๋ยนและพูดด้วยความกังวลว่า “คุณเวิน คุณกลับไปพักผ่อนที่ห้องเถอะ อากาศเย็นลงแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า เมื่อเธอยืนขึ้นมา ก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ ภาพตรงหน้าก็มืดไปหมด แม้กระทั่งจะยืนก็ยืนไม่ไหว
เธอรีบจับที่ข้างๆโต๊ะ ร่างกายของเธอสั่นไปหมด
พ่อบ้านผงะไปและรีบเดินไปข้างหน้า
“คุณหนู คุณเป็นอะไรไป?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าอย่างฝืนๆ แค่กำลังจะพูด ร่างกายเธอเอียงลงและหมดสติไป
พ่อบ้านตกใจและรีบวิ่งเขาไปอย่างรวดเร็ว
“คุณ? คุณเวิน? คุณฟื้นสิ”
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับหลับตาแน่น ใบหน้าของเธอขาวซีด
เมื่อมองอย่างละเอียด ที่ริมฝีปากของเธอก็ไม่มีสีเลือดและดูซีดเซียว
แม่ครัวที่เพิ่งเดินออกมาจากข้างใน และเมื่อเธอเห็นทั้งสองคนเธอก็รีบวิ่งเข้าไป
“คุณหนูเป็นอะไรไป?”
พ่อบ้านรีบตะโกนออกมา “รีบไปบอกคุณผู้ชาย คุณเวินหมดสติไปแล้ว”
เมื่อแม่ครัวได้ยิน เธอรีบพยักหน้า และกลับเข้าไปโทรศัพท์
อีกด้านหนึ่งที่ชั้นบนสุดของ บริษัทเอ็มไอกรุ้ป
เจียงหยู่เทียนสวมผ้าคลุมหน้าบางๆ บนใบหน้าของเธอ ซึ่งสามารถซ่อนรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอไว้ได้
รอยแผลเป็นขนาดใหญ่บนใบหน้าของเธอดูจางลงมาก หลังจากที่ใช้เวลารักษามานาน
ภายใต้ผ้าคลุมหน้า แค่ที่ไม่ได้มองใกล้ ก็แทบจะไม่เห็นรอยแผลเป็น
เธอไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่นๆในบริษัท เธอกดลิฟต์ไปที่สำนักงานของประธานที่ชั้นบนสุด
จี้จิ่งเชินยังคงทำงานอยู่ เขาได้ยินเสียงเคาะประตูถึงเงยหน้าขึ้นมามอง
หลังจากเห็นว่าเป็นเจียงหยู่เทียนเขาก็ค่อยๆก้มหน้าลง โดยไม่พูดอะไรออกมา
เจียงหยู่เทียนไม่พอใจที่เขาเฉยเมยกับเธอ แต่เดินไปหาเขาอย่างกระตือรือร้นพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“ยังทำงานไม่เสร็จอีกเหรอคะ?ไหนวันนี้บอกว่าจะไปกินข้าวเป็นเพื่อนฉัน?”
เมื่อจี้จิ่งเชินได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
เมื่อวานนี้คฤหาสน์เก่าแก่ เขาตกลงเพราะอยู่ต่อหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน
แค่อยากเห็นว่า เวินเที๋ยนเที๋ยนจะเป็นยังไงหลังจากเห็นเขาและ เจียงหยู่เทียนอยู่ด้วยกัน
แต่นึกไม่ถึงเลยว่า เขาพาเจียงหยู่เทียนมาอยู่ต่อหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนและยังรับปากว่าจะทานอาหารเย็นกับเจียงหยู่เทียนที่ร้านอาหาร แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ปฏิกิริยาอะไรเลย
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น จี้จิ่งเชินก็กำกำหมัดของเขาแน่นขึ้นมาทันที ใบหน้าของก็แย่ลงเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนั้น ไม่เคยสนใจเขาเลย
ที่แท้ ที่ผ่านมาเธอแค่แสดงเท่านั้นเอง
เขาเกลียด แต่ในหัวใจกลับเกลียดตัวเองมากกว่า
ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้ว ทำไมในใจเขาถึงยังมีหวังเล็กๆกับผู้หญิงคนนั้นอยู่นะ?
ทำไมเขาไม่จำ?
เมื่อเห็นสีหน้าของเขาแย่ลง เจียงหยู่เทียนก็เดาอะไรไม่ออกเลย
“เมื่อวาน ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ตรงนั้น พี่ไม่ได้รับปากกับฉันเองเหรอ?หรือว่าพี่ไม่อยากไปแล้ว?”
เธอจงใจถามออกมา
เป็นไปอย่างที่คิดไว้ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จี้จิ่งเชินก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาพยักหน้า แต่น้ำเสียงของเขาเย็นชามาก
“หลังจากฉันทำงานเสร็จ ฉันจะพาเธอไป”
เมื่อเจียงหยู่เทียนได้ยิน เธอก็ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
เธอรู้ตั้งนานแล้วว่าความรู้สึกของจี้จิ่งเชินที่มีต่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นยังไง เธอกลับมาแค่เพราะโกรธแค้นเวินเที๋ยนเที๋ยนเท่านั้นเอง
แต่เธอจะปล่อยให้โอกาสดีๆแบบนี้หลุดมือไปได้ยังไง?
แม้ว่า จี้จิ่งเชินยังคงชอบ เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ดี แล้วจะทำไมล่ะ?
ใครใช้ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนทำผิด จี้จิ่งเชินไม่มีทางให้อภัยเธออย่างแน่นอน
แค่สามารถแต่งงานเข้าไปในตระกูลจี้ ได้ถึงจะเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง
เมื่อคืนนี้ เธอจงใจใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้
ตอนที่อยู่ต่อหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอเรียกร้องกับจี้จิ่งเชินไปไม่น้อยเลยทีเดียว
แน่นอน จี้จิ่งเชินปกติแล้วไม่แม้แต่จะมองเธอเลย แต่เมื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ใกล้ๆ ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
วิธีนี้ต้องลองซ้ำไปซ้ำมา
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
ยิ้มด้วยความพอใจ “งั้นฉันจะไปรอพี่ข้างนอก ไม่ต้องรีบ พี่ค่อยๆทำงานของพี่ไป”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วแล้วพยักหน้า เขาโบกมือไล่ให้เธอเดินออกไป
เขามีท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย
เจียงหยู่เทียนหมุนตัว แล้วเดินออกไป
หลังจากเพิ่งเดินออกไปได้สองก้าว เธอก็เห็นเลขารีบเดินออกมามาจากลิฟต์
ดูเหมือนว่าเขากำลังจะไปที่สำนักงานของจี้จิ่งเชิน
เจียงหยู่เทียนรีบหยุดเธอไว้
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?ถึงได้ร้อนรนแบบนี้”
คนคนนั้นเห็นเจียงหยู่เทียน ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับไปว่า “คุณเจียง ที่บ้านประธานจี้โทรมาว่าคุณนายจี้หมดสติตอนนี้ยังไม่ฟื้น อยากให้ประธานจี้รีบกลับไปดูค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหมดสติ?
เจียงหยู่เทียนขมวดคิ้วขึ้นมา
หากข่าวนี้ไปถึงหูจี้จิ่งเชิน เขาต้องเปลี่ยนรีบเปลี่ยนใจทันที แล้วรีบกลับไปดูเวินเที๋ยนเที๋ยน
เธอลดสายตาลงเล็กน้อย
อย่าปล่อยให้เวินเที๋ยนเที๋ยนทำลายเรื่องดีๆของเธออีก!
“วันนี้ประธานจี้ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี เมื่อครู่เขาว่าผู้จัดการหลายคนให้กลับไป ถ้าคุณเข้าไปตอนนี้ เขาต้องว่าแน่นอน”
เมื่อเลขาได้ยิน ก็กังวลขึ้นมา
อารมณ์ของ จี้จิ่งเชินเป็นยังไง คนทั้งบริษัทรู้ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีเรื่องเกิดขึ้นกับเวินเที๋ยนเที๋ยนอารมณ์ของเขาก็ยิ่งเริ่มหงุดหงิดฉุนเฉียว
ได้ยินอยู่บ่อยๆว่า เขาว่าพนักงานหลายคนที่ทำผิดพลาดอย่างรุนแรง
ในช่วงเวลานี้ ทั้งบริษัทเต็มไปด้วยด้วยความกดดันที่พร้อมจะปะทุได้ตลอดเวลา
เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงหยู่เทียนพูด ตอนนี้เธอก็กลัวขึ้นมาทันที
“แล้วจะทำยังไงดีคะ?”
เจียงหยู่เทียนเสนอตัวขึ้นมา “ไม่อย่างนั้นให้ฉันช่วยไปบอกแทนคุณไหม ฉันเพิ่งออกมาจากข้างใน”
เลขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็กลัวอารมณ์ของจี้จิ่งเชิน
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
“ไม่มีปัญหา”
เจียงหยู่เทียนตกลงอย่างง่ายดาย
อีกฝ่ายจับมือของเธออย่างสุดซึ้ง “ขอบคุณนะคะ คุณเจียง”
เธอรีบออกไปจากชั้นบนสุด เหมือนว่ากลัวว่าถ้าช้ากว่านี้ จะถูกจี้จิ่งเชิน จับเอาไว้แล้วว่าเธออย่างรุนแรง
เจียงหยู่เทียนมองเธอจากไปและยิ้มด้วยความพอใจ
เธอมองไปทางห้องทำงานของจี้จิ่งเชิน แต่ไม่ได้เดินเข้าไป แต่นั่งในห้องรับแขกด้านนอกแทน
หมดสติ?
ก็ปล่อยให้เธอหมดสติต่อไปเถอะ
ใครก็อย่ามารบกวนเรื่องดีๆของเธอ!
เธอคิดอย่างโหดเหี้ยม แล้วหยิบนิตยสารที่วางไว้ข้างๆขึ้นมาอ่าน