เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 136 คราวหลังอย่าทำอะไรผลีผลามอีก
บทที่ 136 คราวหลังอย่าทำอะไรผลีผลามอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นและมองจี้จิ่งเชินอย่างนึกสงสัย
จี้จิ่งเชินยังคงทำหน้าทึ่มใส่
“ทำไมเหรอ?”
“เปล่า….”
จี้จิ่งเชินเรียกร้อง “เร็วเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบหยิบกะละมังมาเติมน้ำอุ่นไว้แล้วจัดการจุ่มผ้าเช็ดตัวลงไปหลังจากนั้นบิดน้ำออกให้พอหมาดแล้วถือไว้ในมืออยู่ครู่หนึ่ง
เริ่มจากตรงไหนก่อนดี?
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดจึงเริ่มเช็ดมือเป็นบริเวณที่เธอคุ้นเคยมากที่สุด
เธอยกแขนของจี้จิ่งเชินขึ้นและเช็ดอย่างละเอียดหนึ่งรอบ
จุ่มผ้าในน้ำแล้วบิดให้หมาดอีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลอยู่พักหนึ่งจากนั้นจึงดึงแขนของจี้จิ่งเชินขึ้นอีกครั้งเริ่มเช็ดมือของเขา
จี้จิ่งเชินสายตาจับจ้องเธออยู่ตลอดเวลาโดยไม่เอ่ยปากห้ามอะไรเลย
เมื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะเริ่มเช็ดแขนเป็นรอบที่สาม เขาก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่
“คุณจะเช็ดกี่รอบเนี่ย?”
พวงแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวขึ้นสีแดงระเรื่อ
“เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”
จนถึงรอบที่สี่ เขาไม่รอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนขยับมือทำอะไรแต่กลับจับมือเธอเอาไว้แล้วมาวางตรงอกตัวเองแทน
“ตั้งใจเช็ดหน่อย อย่าให้พลาดเชียวนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนผงกหัว
เขายังไม่ปล่อยมือทำเพียงจับมือเธอไว้แบบนั้นแล้วบังคับให้ขยับตาม
“เช็ดแบบนี้”
“ฉัน…ฉันรู้หน่า”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมุดศีรษะตัวเองลงราวกับว่าจะฝังศีรษะเอาไว้ในอกเขาอย่างไรอย่างนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินก้มหัวลงพลางมองผมของเธอ อดไม่ได้ที่จะเร่งเร้าเธอ
เขาก้มตัวเล็กน้อยและโน้มตัวเข้าหาใบหูของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“เร็วหน่อย ไม่อย่างนั้นเมื่อไหร่คุณจะได้เช็ดข้างล่างล่ะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนแข็งทื่อในทันทีแล้วรีบเร่งเช็ดต่อไป
ในที่สุดหลังจากเช็ดบริเวณส่วนบนจนสะอาดแล้ว เธอก็เบนความสนใจไปที่ผ้าชิ้นสุดท้ายที่เขาสวมอยู่
จี้จิ่งเชินไม่รีบร้อน ทำเพียงรอเธออย่างเงียบ ๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนต่อสู้กับใจตัวเองอยู่นานหลายนาทีก่อนจะเอื้อมมือออกไป
ทันทีที่เธอวางมือลงบนเอวของจี้จิ่งเชินก็โดนเขาจับเอาไว้
เขาหัวเราะและพูดว่า “คุณจะทำอะไรไม่ดีกับผมหรือเปล่าเนี่ยไม่ใช่ว่าจะกินผมหรอกใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนต่อสู้กับตัวเองอีกพักหนึ่ง
“งั้นที่เหลือคุณจัดการเองแล้วกันนะ”
“ได้ที่ไหนล่ะ คุณต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเองสิ ”
จี้จิ่งเชินเงยหน้าขึ้นแล้วย้ำในสิ่งที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดไว้ก่อน หน้า
เมื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้พูดอะไร เขาจึงใช้สองมือนั้นตรึงเธอให้ถอยกลับไปสองก้าว
หลังแนบกับผนัง
จี้จิ่งเชินทำเหมือนจะแกล้งเธอโดยการพยายามจะจูบปากของเธออยู่พักหนึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนต่อสู้ ขัดขืนจนหลังของเธอไปกระแทกกับสวิตช์บนผนัง
น้ำอุ่นร้อนจึงไหลลงมาชโลมร่างคนทั้งสองคนทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนกระโดดขึ้นอย่างตกใจ
“แผลคุณ!”
เธอพูดขึ้นแล้วรีบปิดน้ำอย่างรวดเร็วจากนั้นจึงช่วยเช็ดร่างของชายหนุ่ม
เดิมที่จี้จิ่งเชินก็อยากอธิบายให้เธอฟังอยู่หรอกแต่ดูตอนนี้เธอจริงจังมากกับการเช็ดจนคำพูดที่จะอธิบายถูกกลืนลงไปจนหมด
เสื้อผ้าที่เวินเที๋ยนเที๋ยนใส่นั้นเปียกโชกไปหมดแต่ก็เธอไม่ได้ใส่ใจอะไรกลับวุ่นเช็ดตัวให้จี้จิ่งเชินอย่างระมัดระวัง
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่วางใจ
“ฉันจะไปตามให้หมอมาดู”
หลังจากพูดจบก็ให้หันหลังแล้วเดินออกไป
จี้จิ่งเชินจึงเอื้อมมือไปดึงเธอเอาไว้
“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยไป”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอดเสื้อโค้ทที่เปียกน้ำนั่นออกแล้วไปตามหมออีกครั้ง
“คุณหมอคะ แผลที่หลังเขาโดนน้ำค่ะ”
เธอลากหมอเข้ามาในห้องอย่างกระวนกระวายใจ
หมอได้ยินดังนั้นพูดว่า “อ่อ แผลของเขาโดนน้ำได้แล้วล่ะครับ อาบน้ำได้ไม่มีปัญหาอะไร”
ฝีเท้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดลงทันที
“อาบน้ำได้แล้วเหรอคะ?”
หมอพยักหน้า
“ผมแจ้งคุณจี้ไว้แล้วครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไปที่ห้องอีกครั้งเพียงลำพัง
จี้จิ่งเชินรู้ทันทีว่าโดนจับได้เสียแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูเขาด้วยความหวาดระแวง
จี้จิ่งเชินจึงกวักมือเรียกให้เธอมาหา
“มานี่หน่อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ยอมขยับไป
จี้จิ่งเชินจึงพูดว่า “เจ็บแผลนิดหน่อยน่ะ”
“คุณหลอกอีกแล้วใช่ไหม”
จี้จิ่งเชินหัวเราะออกมาน้อยๆแล้วพูดว่า “มันเจ็บจริงๆครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหัวพลางเดินเข้าไปดูจึงพบว่าแผลของเขาบวมแดงขึ้นจริงๆ
ทันใดนั้นใจก็อ่อนลงแล้วรีบเอาครีมที่แพทย์เตรียมไว้มาทาให้เขา
นิ้วมืออ่อนนุ่มผลักพาขี้ผึ้งเย็น ๆทาลงไปขับไล่ความเจ็บปวดให้จางหาย
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดไม่ได้ที่จะเป่าเบาๆที่แผลนั่น
“รู้ทั้งรู้ว่าไฟมันลุกโชนอยู่แบบนั้นยังจะเข้าไปด้านในอีก”
บางครั้งก็รู้สึกว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเธอก็บ้าระห่ำอยู่ไม่น้อย ไม่งั้นคงไม่ทำอะไรแบบนี้อย่างแน่นอน
แม้แต่เด็กก็ยังรู้ว่าไม่ควรทำแบบนั้น
จี้จิ่งเชินพูดตอบเบา ๆว่า “ผมคิดว่าคุณอยู่ในนั้น”
เพียงประโยคเดียวก็มากพอที่จะทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบลงได้
เสียงของเขาเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบามีเพียงเวินเที๋ยนเที๋ยนเท่านั้นที่รู้น้ำหนักของประโยคนี้
เพราะคิดว่าเธออยู่ข้างในและแม้ว่าตรงหน้าจะเป็นไฟเขากลับไม่ลังเลที่จะเข้าไปอย่างนั้น
“ แต่ฉันไม่ได้อยู่ในนั้น ” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดตอบกลับไปเบาๆเช่นกัน
“โชคดีแล้วที่คุณไม่อยู่ในนั้น”
จี้จิ่งเชินพูดจบทันใดนั้นก็หันกลับมากุมมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้
“ผมเคยบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าทำอะไรผลีผลาม ? ”
“ขอโทษ ……”
จี้จิ่งเชินมองเธอด้วยดวงตาแววตาแสนลึกซึ้ง
“ทำไมคุณถึงไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหัวลงโดยไม่ตอบสิ่งใดอีก
ห้องเงียบไปพักหนึ่งแล้วจี้จิ่งเชินเองก็ไม่ถามต่อเช่นกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “วันนั้นที่ฉันอยู่ที่นั่น ฉันได้เจอกันเจียงหยู่เทียน”
เรื่องนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนกำชับกับพวกจงหลีเอาไว้ว่าห้ามบอกจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินได้ยินดังนั้นจึงหันกลับมาแล้วพูดว่า
“เธอไม่ได้ไปเหรอ?”
“อืม”
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก
จี้จิ่งเชินมวดคิ้วเขาจำทุกอย่างได้ชัดเจน
ตอนที่กำลังช่วยคนอื่นอยู่ มีคนบางคนพูดขึ้นมาว่าเมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไฟไหม้ก็รีบวิ่งมาด้วยความตื่นตระหนกตกใจในทันที
เกือบจะเข้าพุ่งเข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วย
เธอกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
เขาจำได้ว่าในข้อมูลลูกสาวของตระกูลเจี่ยงต่างก็ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องใดๆกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่น
แล้วทำไมถึงต้องเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า……
“เทียนเทียน” สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาจากห้องพักผู้ป่วยได้ไม่นาน จงหลีและพ่อบ้านก็ได้มอบเอกสารสำหรับการสอบสวนในวันนั้นให้กับเธอ
“เจียงหยู่เทียนไม่ได้ไปโรงพยาบาลที่อเมริกาและพบว่ามีบุคคลอื่นมาแทนที่เธอดังนั้นข้อมูลที่เราได้รับมาตลอดนั้นเป็นของปลอมทั้งหมด”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกข้อมูลที่อยู่ในมือเธอไปมา
“คุณรู้ไหมว่าใครเป็นคนทำ?”
“ยังไม่รู้ครับ ฝ่ายนั้นซ่อนทุกอย่างได้แนบเนียนมาก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกไปหน้าสุดท้ายซึ่งแสดงผู้ต้องสงสัยที่จงหลีคิดว่าเป็นไปได้
เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ
“เช็คเจี่ยงเนี่ยน…..”
พูดยังไม่จบเธอก็เปลี่ยนไปพูดว่า “ เจี่ยงชิงชิง ลูกพี่ลูกน้องห่างๆของฉันเหรอ”
“ใช่ครับ”
ในอดีตพวกเขาไม่ได้มีความคับแค้นใจอะไรต่อเวินเที๋ยนเที๋ยนแต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้เป็นอย่างนี้
ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจี้จิ่งเชิน พวกเขาก็ปฏิบัติตามคำสั่งของเวินเที๋ยนเที๋ยนไปโดยปริยาย
หลังจากพูดคุยเวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปอีกด้านหนึ่งแล้วเห็นว่าทั้งสองมองที่ประตูห้องที่ปิดอยู่พลางขมวดคิ้ว
“ ทำไมไม่เข้าไปล่ะ?”
พ่อบ้านพูดกระซิบว่า “คุณครับ คุณท่านจี้และคุณนางมาที่นี่ครับ”
จี้คางและฉวีช่วยฉิน?