เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 130 ไม่มีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกแล้ว
บทที่ 130 ไม่มีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกแล้ว
ทันทีที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกมาจากพิพิธภัณฑ์เธอได้ยินเสียงโหวกเหวกจากข้างนอก
“ฉันได้ยินว่าไฟไหม้เหรอ?”
“อืมใช่ ไฟไหม้รุนแรงเลยด้วย”
“ แย่มากจริงๆ เด็กๆจะปลอดภัยกันหรือเปล่า”
“สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ดีแบบนั้น ไฟจะไหม้ได้อย่างไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วจึงหยุดเดินแล้วหันไปรอบๆ
ที่นี่อยู่เป็นชานเมืองและสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซีก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่!
“คุณพูดว่าไฟไหม้ที่ไหนนะคะ?”
คนกลุ่มนั้นหันไปมองแล้วชี้ไปที่เปลวไฟที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าไม่ไกลมากนัก
“สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าน่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองตามด้านที่เขาชี้นิ้วแล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้าเธอซีดในทันที
ทิศนั้นเป็นที่ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซี ไฟไหม้พุ่งสูงมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนสั่นไปทั้งตัวแล้วรีบไปที่นั่น
เธอดูไปขณะเดียวกันนั้นก็วิ่งไปด้วย คนหลายคนบนท้องถนนต่างมองไปที่ทิศทางของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
บางคนกำลังพูดถึงคนตาย คนบาดเจ็บและบางคนก็กังวลว่าเขาสามารถควบคุมเพลิงได้หรือไม่
แต่ในเวลานี้เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
เธอไม่รู้ว่าทิศตะวันตกไปทางไหนแต่เธอก็เอาแต่วิ่งไปทางนั้นอย่างบ้าคลั่ง
ผู้คนมากมายล้อมรอบสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซีอยู่ เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกได้ว่าไฟลุกลามอย่างรวดเร็วทั้งที่ยังไม่เข้าไปใกล้
คลื่นความร้อนกระทบใบหน้าของเธอเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอไม่สามารถทำอะไรได้ทำได้เพียงถอยหลังให้นักดับเพลิงหลายคนเข้าไปช่วยควบคุมเพลิง
ท่อน้ำขนาดใหญ่สาดซัดกับผนังของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ไม่สามารถเปรียบเทียบเทียบได้กับไฟที่ลุกโชนอย่างรุนแรงในตอนนี้
แม้ว่าท่อน้ำหลายท่อทำงานพร้อมกันแต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้แม้แต่ครึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบวิ่งไปถามคนที่มามุงดู
“เด็กๆล่ะ? พวกเขาได้รับการช่วยเหลือไหม? มีเด็กอยู่ทั้งหมด 23 คน คณบดีและพนักงานทุกคนได้รับการช่วยเหลือหรือเปล่า?”
คนคนนั้นส่ายหัว
“ฉันก็ไม่รู้ ได้ยินมาว่าไฟลุกลามอย่างรวดเร็วเผาสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั้งที่ทุกคนยังอยู่ด้านในนั้น….”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้น หัวใจของเธอก็ชาวาบขึ้นมาทันที
ในขณะนี้อีกคนหนึ่งอธิบายว่า “ช่วยได้แล้ว! ฉันเห็นพวกเขาส่งเด็กๆไปโรงพยาบาลแล้วล่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบหันหน้าไปหาคนที่พูดอย่างรวดเร็ว
อารมณ์เปลี่ยนจากความเศร้าเป็นความสุขในทันที
“ช่วยได้ทั้งหมดหรือเปล่าคะ?”
คนนั้นพยักหน้าแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเสียใจ
“น่าเสียดายที่ตอนนั้นไฟนั้นลุกโชนรุนแรงเกินไป ก่อนที่ไฟจะไหม้รุนแรงน่ะเด็ก ๆ เหล่านี้ทุกคนถูกคณบดีพาออกมาทีละคนแต่สุดท้าย…..”
พูดไปครึ่งทางแล้วส่ายหัว
“เวรกรรมจริงๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนราวกับถูกสายฟ้าฟาดจนแทบจะยืนไม่อยู่
“คณบดียังไม่ออกมา…..คณบดียังไม่ออกมา….”
ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างมากและเธอก็รีบไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทันที
“คณบดี! คณบดี!”
เธอกรีดร้องแล้วพยายามที่จะวิ่งเข้าไป
ตอนนี้เปลวไฟกำลังลุกโชติช่วงเธอก็จะวิ่งเข้าไปแล้วโดนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกั้นไว้
“คุณครับ อย่าทำอย่างนี้ พวกเรามีประสบการณ์ในการควบคุมเพลิงนะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับตัวเขาไว้
“คณบดียังอยู่ข้างใน! คณบดีของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องแต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็กั้นเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา
เธอได้รับการเลี้ยงดูจากคณบดีตั้งแต่เด็กและมีคณบดีเป็นญาติคนเดียวของเธอ
เธอวางแผนที่จะอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและปรับปรุงเพื่อรับเด็กเพิ่มขึ้น
แต่ทั้งหมดยังไม่ทันสำเร็จก็….
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอยังไม่ทันได้ไหลลงกระทบพื้นเปลวไฟข้างหน้าก็พลันทำให้น้ำตาเหือดแห้งไปเสียก่อน
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำได้เพียงรอเปลวไฟสีแดงที่ลุกโชนต่อหน้าเธอและร้องไห้ออกมา
“คณบดี”
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายคนไม่สามารถจับเธอได้ “คุณครับ ทำแบบนี้กระทบกับงานของเรานะครับ”
พวกเขาดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาและไม่อนุญาตให้เธอเข้ามาใกล้
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่บนพื้นพร้อมขาที่เดินกะเผลกของเธอ
เสียงพลุ่งพล่านของเปลวไฟ เสียงของน้ำที่ไหลกระทบและเสียงของผู้คนรอบข้างก็ต่างก็สาดใส่ให้เธอได้ยิน
ภาพของคณบดีเฉินในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าโผล่ขึ้นมาในใจอีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนกอดเข่าของเธอนั่งร้องไห้อยู่บนพื้น
เธอต้องการที่จะปกป้องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าต้องการที่จะปกป้องคณบดีและปกป้องทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ
แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว
หมดสิ้นทุกอย่างแล้ว…..
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตา
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่ข้างหลังฝูงชนแล้วร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กๆ
ในบรรดาคนในฝูงชนนั้นมีคนเดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ
“อยากรู้ไหมว่าทำไมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจึงลุกเป็นไฟ?”
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองทันที
ร่างที่สวมชุดสีดำ สวมหมวกกำลังวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดถึงสิ่งนั้นในใจก็เต้นระรัว
คณบดีเฉินระวังตัวอยู่เสมอไฟจะไหม้ได้อย่างไร?
ทุกสิ่งที่อยู่ที่นี่ถูกทำลายไปแล้ว
ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือมีคนตั้งใจวางเพลิงที่นี่!
เธอเดาอย่างนั้นแล้วจึงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วปัดป่ายแล้วไล่ร่างนั้นจากด้านหลัง
ร่างนั้นวิ่งเร็วมากเวินเที๋ยนเที๋ยนไล่ตามเขาไป หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ออกจากกลุ่มคนที่มุงดูอยู่ได้
พื้นที่นี้ถูกซื้อโดยตระกูลเจี่ยงเพื่อสร้างคฤหาสน์ พื้นที่ทั้งหมดที่อยู่ใกล้เคียงจึงถูกทำลายและมันก็รกร้างมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกสงสัยในขณะเดียวกันเธอก็คิดถึงมันและตามเขาไปด้วยความโกรธแค้น
ในอีกด้านหนึ่งหมินอันเกอผู้เพิ่งออกจากพิพิธภัณฑ์รีบไปทันทีเมื่อเขาได้ยินข่าวเรื่องไฟไหม้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซี
ทันทีที่เท้าของเขามาถึงเขาก็เห็นหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยนก่อนที่เขาจะตามเข้ามา
เธอไม่ได้ไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแต่วิ่งไปในทิศทางอื่น
หมินอันเกอมองอย่างสงสัยแล้วตามหาเวินเที๋ยนเที๋ยนไป
ข่าวเรื่องไฟไหม้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากระจายไปทั่วเมืองหลวง รถของจี้จิ่งเชินหยุดจอดหน้าพิพิธภัณฑ์ช้า ๆ
หลังจากรออยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่ามันสายไปนิดหน่อยแล้วแต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังไม่ออกมา เขาเลยจะเข้าไปตาม
ทันทีที่ลงจากรถเขาก็พบเข้ากับท่านเปิงที่ออกมาพอดี
เขามองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเลย
“ภรรยาผมอยู่ไหนเหรอ?”
ท่านเปิงเหลือบมองมาที่เขาอีกฝ่ายไม่ชอบจี้จิ่งเชินเอาเสียเลย จึงเดินออกไปโดยไม่สนใจเขา
แต่เมื่อคิดขึ้นได้ว่าควรจะตอบเพราะเขาก็เป็นสามีของลูกศิษย์และไม่ควรจะโกรธเลยพูดออกไปว่า “กลับไปแล้ว”
“เป็นสามีแต่ไม่รู้ว่าเธอจะกลับบ้านตอนไหนเหรอ?”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว
“ผมเพิ่งถามพ่อบ้านเมื่อครู่นี้เอง เธอยังไม่ได้กลับไปครับ”
“จะเป็นไปได้อย่างไร?”
ท่านเปิงมองเขาด้วยความไม่พอใจ “คุณยังคิดว่าผมโกหกคุณอยู่เหรอ?”
เมื่อเห็นได้ชัดว่าแววตาของจี้จิ่งเชินสงสัย ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความโกรธ
“ผมไม่รู้จะโกหกคุณไปทำไม”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดกันอยู่ ทันใดนั้นคนขายตั๋วที่ยืนอยู่ที่ประตูก็พูดขึ้นมาว่า “ท่านเปิงคุณกำลังถามหาคุณเจี่ยงเหรอ?”
ท่านเปิงมองกลับไปแล้วพบกับคนๆนั้นที่เป็นพยานยืนยันได้
“คุณอยู่ตรงนี้แล้วก็เห็นว่าเธอออกไปนานแล้วใช่ไหม?”
ชายคนนั้นพยักหน้าแต่แล้วก็พูดว่า “คุณเจี่ยงออกไปแล้ว แต่เมื่อเธอได้ยินว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าโดนไฟไหม้เธอก็วิ่งไปทางนั้นเลยทันที”
เขาชี้ไปที่เปลวไฟที่พุ่งขึ้นในแนวทแยงบนท้องฟ้าอย่างงุนงง
“เธอดูร้อนรนวุ่นวายเหมือนคนสูญเสียซึ่งทุกอย่าง”
พูดแล้วเขาก็ยื่นกล่องเครื่องมือที่เวินเที๋ยนเที๋ยนใช้ประจำมาให้