เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 110 ของขวัญชิ้นที่สาม
บทที่110 ของขวัญชิ้นที่สาม
ฟังถึงตรงนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดถลึงตาไม่ได้
เธอเคยคิดจี้จิ่งเชินอาจจะไม่ใช่ลูกของฉวีช่วยฉิน แค่ไม่คิดว่า แม่ของเขาคือลูกพี่ลูกน้องของฉวีช่วยฉินจริงๆ
ดูเหมือนว่าฉวีช่วยฉินเห็นด้วยอย่างเผินๆกับข้อเสนอตระกูลจี้ เพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเอง จึงผลักลูกพี่ลูกน้องของตัวเองลงในกองไฟ
จี้จิ่งเชินเหมือนกับจะไม่สังเกตเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจ จึงพูดต่อ
“ตอนเพิ่งเริ่มต้น เป็นเพียงคนใช้ในบ้าน แม่ของผมไม่ทราบข้อตกลงระหว่างพวกเขา กระทั่งคืนนั้น ฉวีช่วยฉินประคองจี้คางที่ดื่มเมาเข้าห้องนอน…”
ถึงตรงนี้ เขาค่อยๆกำมัดแน่น กล้ามเนื้อที่แขนนูนขึ้นเพราะใช้แรง
“ต่อมาแม่ของผมอยากไปจากตระกูลจี้ แต่กลับถูกฉวีช่วยฉินและจี้คางขังไว้…ในห้องใต้ดินที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่นาน ก็มีลูก”
“จี้จิ่งเชิน คุณอย่า…”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้น กุมมือของจี้จิ่งเชิน
แม้ไม่เห็นท่าทีของเขา เธอก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดของจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินกลับไม่คิดจะหยุด
“จี้คางและฉวีช่วยฉินดีใจมาก พวกเขาให้คนของพวกเขาไปห่อของแหลมคมทุกอย่างในห้อง เชื่อมกรงที่หน้าต่างอีกชั้น ของมีคมทุกอย่างถูกเอาออกไป ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ล๊อกคนไว้กับเตียง”
จี้จิ่งเชินพูดเบาๆ “พอผมเกิดก็ถูกพาไป เข้าใจมาตลอดว่าฉวีช่วยฉินเป็นแม่แท้ๆ กระทั่งหลังจากสามปี ฉวีช่วยฉินตั้งท้อง ผมก็ถูกโยนกลับห้องใต้ดิน จึงได้รู้ความจริง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้า ในตาเผยความโศกเศร้า
เธออยากให้จี้จิ่งเชินหยุดพูด อย่าเลย แต่ยังไงก็พูดไม่ออก
เหมือนกับจะจี้จิ่งเชินไม่รู้
“ผมอยู่ในห้องใต้ดินแปดปี ต่อมาในที่สุดจี้คางก็ใจดีพบเห็น ปล่อยพวกเราออกมา”
เขาหัวเราะเย้ยหยัน ดูเหมือนจะดูถูกเหยียดหยามมาก
แต่ต่อมา น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินก็เปลี่ยนไป ยิ่งเสียใจ
“แต่พวกเราอาศัยอยู่ข้างนอกปีหนึ่ง ผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลจี้ก็มาหาถึงบ้าน ผมเห็นพวกเขา กับมือ…”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว หยุดลง ไม่พูดต่อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเกือบจะรับมือกับความเจ็บปวดจากเรื่องนี้ไม่ไหว แม้แต่สายตาก็ถูกน้ำตาทำให้พร่ามัว
จี้จิ่งเชินสูดหายใจลึก น้ำเสียงค่อยๆเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย
“ผมอาศัยอยู่ข้างนอกได้สองเดือน ก็ถูกจี้คางแอบพากลับไป ซ่อนเอาไว้ กระทั่งผมโต ก่อตั้งบริษัทเอ็มไอกรุ้ปอย่างลับๆ สะสมพละพลังมากพอที่จะต่อกรกับพวกเขา”
“ต่อมาผมถึงรู้ว่า ของที่แม่ผมทิ้งไว้ในตอนนั้น ถูกฉวีช่วยฉินเก็บไว้”
ถึงตรงนี้ เขาหยิบกล่องสีฟ้าออกมาจากด้านหลังเขา
จี้จิ่งเชินค่อยๆเอียงหัว จูบที่ใต้ใบหูของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ตอนที่ฉวีช่วยฉินขู่ให้ผมแต่งงานกับคุณ ผมตกลงเพื่อแลกเปลี่ยนกับของที่ระลึกบางอย่างของแม่ผม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนใจสั่น
มิน่าละ
มิน่าละตอนแรกจี้จิ่งเชินถึงโกรธขนาดนั้น ไม่แปลกใจเลยที่เขามองว่าตัวเองเป็นศัตรู
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนเจ็บจนใจจะขาด
เธอกะพริบตา น้ำตาก็ไหลลงมาจากเบ้าตา
“ขอโทษ…”
จี้จิ่งเชินหัวเราะเบาๆ เปิดกล่องในมือ สร้อยคอสีเงินเส้นหนึ่งปรากฏต่อหน้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนคุ้นเคยเป็นอย่างมาก นี่คือสร้อยคอในรูปถ่ายที่เธอช่วยจี้จิ่งเชินปะติดกันก่อนหน้านี้
ชำรุดเพราะเธอ และถูกเธอซ่อมแซมใหม่อีกครั้ง
จี้จิ่งเชินหยิบสร้อยคอขึ้นมา ปัดผมของเวินเที๋ยนเที๋ยนออก ใส่มันที่คอของเธอ
“นี่เป็นสร้อยคอที่เธอชอบที่สุด”
เวินเที๋ยนเที๋ยนน้ำตาไหล เธอก้มหน้า เปิดดูล็อกเกตของสร้อยคอ
สร้อยคอรูปหัวใจ เดิมทีวางเปล่าไม่มีอะไร ถูกใส่รูปภาพไว้หนึ่งใบ
เป็นรูปคู่ของพวกเขา
จี้จิ่งเชินกอดเธอจากด้านหลัง
“ผมไม่เหมือนกับคนอื่น ผมกลัวการสูญเสีย ผมอยากจะใช้สร้อยมัดคุณไว้ ผมต้องการที่จะทำให้คุณในสายตาของผม”
“แต่ผมไม่กล้า ผมกลัวคุณจะเกลียดผม ตำหนิผม ผมจึงให้สร้อยคอนี้กับคุณเท่านั้น”
ในตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเต็มไปด้วยน้ำตาไหลลงมา
จี้จิ่งเชินเอียงคอมา จูบที่ปากของเธอ น้ำเสียงเหมือนกับร้องขอ
“คำขอร้องของผมน้อยมาก เพียงขอให้คุณอย่าไปจากผม อย่าหลอกผม”
“ผมไม่อยากทำร้ายคุณ ผมไม่กล้า”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดไม่ได้ ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
ทำยังไงดี
เธอหลอกจี้จิ่งเชินไปแล้ว
เธอควรจะทำอย่างไรดี
เวินเที๋ยนเที๋ยนร้องไห้จนน้ำตาไหลราวกับฝนตก แม้แต่ความกล้าจะหันกลับไปมองจี้จิ่งเชินก็ไม่มี
จี้จิ่งเชินจับใบหน้าของเธอ จูบที่ตาของเธอ เช็ดคราบน้ำตาบนหน้าของเธอ การกระทำอ่อนโยนจนราวกับว่าทำกับอัญมณีล้ำค่าที่หายากชิ้นหนึ่ง
แต่เขายิ่งเป็นแบบนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยิ่งร้องไห้เสียใจ
เธอกำสร้อยในมืออย่างเงียบๆ เหมือนกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบหัวใจของเธออยู่ ทำให้เธอเจ็บปวดจนยากที่จะทนได้
เธอหลอกจี้จิ่งเชินมาตั้งแต่ต้น
จี้จิ่งเชินเห็นเธอร้องไห้เสียใจขนาดนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา
“ร้องไห้ทำไม ถ้าถูกใครเห็นเข้า จะคิดว่าผมรังแกคุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขา
ในใจของเธอว้าวุ่น และอดพูดไม่ได้
“สมมุติ ฉันหลอกคุณ….”
“ไม่อนุญาต”
เวินเที๋ยนเที๋ยนใจสั่น
“สมมุติละ”
จี้จิ่งเชินจ้องเธอแวบหนึ่ง
“ผมไม่อนุญาต”
เขาค่อยๆใกล้เข้ามา หัวชนกับหน้าผากของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“อย่าบังคับผม”
ประโยคที่นุ่มนวล ทำให้หัวใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนจมลงไปด้านล่างอยู่นานไม่ตกถึงก้น
เธอไม่กล้าไปต่อ
เธอกลัว
ถ้าจี้จิ่งเชินรู้ว่าตัวเองโดนหลอก เขาจะทำยังไง
จี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเรียกให้กลับเมืองหลวงเพราะธุรกิจ สิ้นสุดวันหยุดของพวกเขาล่วงหน้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนใจลอยตลอด ตั้งแต่นั้นมาก็กลุ้มใจและไม่มีความสุข
กระทั่งสุดท้าย เธอก็ไม่ได้เจอกับเจี่ยงเนี่ยนเหยาอีก
หลังจากกลับถึงปราสาท พวกท่านจางก็มาหาเธอจริงๆ อยากจะไปดูของที่ขุดมาได้ใหม่ด้วยกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่มีอารมณ์ ก็เลยปฏิเสธไปตรงๆ
ในตอนที่เธอกังวลว่าเจี่ยงเนี่ยนเหยาจะกลับมาอย่างกะทันหันหรือไม่ ข่าวซุบซิบนินทาถูกแชร์สนั่นในชั่วข้ามคืน
เวินเที๋ยนเที๋ยนนอกใจ กับดาราดังหมินอันเกอ
ก่อนหน้านี้ เรื่องที่จี้จิ่งเชินสร้างพิพิธภัณฑ์ให้เธอ ข่าวยังอึกทึมคึกโครม เรื่องก็ยังไม่ซา
แค่พริบตา ก็มีคนถ่ายภาพ“แอบเดท”ของเวินเที๋ยนเที๋ยนและหมินอันเกอ
ในรูปถ่ายที่เผยแพร่ออกไป เวินเที๋ยนเที๋ยนและหมินอันเกอกำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟ มือของหมินอันเกอยังวางไว้บนตัวเธอ จับหรือดึง ดูแล้วสวีทกันมากจริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็น ก็นึกขึ้นได้ทันที โต๊ะกาแฟนี้ คือตอนที่อยู่มณฑลไหหลำครั้งก่อน ที่ที่พวกเขาเจอเจี่ยงเนี่ยนเหยาด้วยกัน
ตอนนั้นหมินอันเกอบอกว่ามีนักข่าว แต่เธอไม่ได้สังเกต คิดไม่ถึงว่าจะถ่ายรูปออกมาเป็นแบบนี้
มองจากรูปภาพแบบเผินๆ สองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนจริงๆ
แต่เธอไม่เคยทำเรื่องแบบนี้
ถ้าจี้จิ่งเชินเห็น…
ในใจของเธอพลันรู้สึกหวาดกลัว รีบลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปห้องหนังสือของจี้จิ่งเชิน