ขณะที่ไทเลอร์กำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอยู่ที่เมืองไทยนั้น ที่ Demon’s Palace ก็กำลังวุ่นวายเช่นกันเพราะนิโคไลกำลังอาละวาดใส่อิงบุญอย่างเกรี้ยวกราด
“อย่ามาบังอาจคิดจะบังคับฉันเด็ดขาด!”
“ฉันไม่ได้บังคับคุณนิคค่ะ แต่มันคือเรื่องที่คุณนิคปฏิเสธไม่ได้”
แม้จะรู้สึกหน้าชาดิกกับทุกคำพูดของพ่อตัวร้าย แต่อิงบุญก็ยังคงต้องเข้มแข็งต่อไป หล่อนจะต้องมีความหวังต่อไป
“แพศยา!”
“จะด่าฉันยังไงก็ตามสบายเถอะค่ะ แต่อาทิตย์นี้เราจะต้องไปบ้านสวนของคุณท่านด้วยกัน”
ท่าทางไม่สะทกสะท้านของอิงบุญยิ่งทำให้นิโคไลร้อนเป็นไฟ เขาอยากจะหักคอแม่นี่นัก ถ้าทำได้นะแม่ผู้หญิงหน้าด้านหน้าทนเป็นที่สุด
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ความคิดในหัวเน่าๆ ของเธอนะยายแม่มด”
คนฟังเจ็บลึก แต่ก็ยังเชิดหน้าต่อไป
“ความคิด… แล้วคุณนิคคิดว่าฉันคิดอะไรอยู่ในหัวล่ะคะ ไหนลองบอกมาสิคะ”
แล้วเจ้าหล่อนก็ขยับร่างอรชรเข้าไปหาคนตัวโตที่ยืนสั่นเทิ้มด้วยโทสะอย่างเชื่องช้า ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยจริตมารยา จริตมารยาของโสเภณีที่หล่อนเติบโตมากับมัน
“ถอยออกไปนังแพศยาอย่าเอามือสกปรกของเธอมาแตะต้องตัวฉัน”
นิโคไลผลักร่างอรชรให้ออกห่างอย่างไม่ปรานี จากนั้นก็ชี้หน้าด่าทอด้วยโทสะร้ายกาจ
อิงบุญอยากร้องไห้ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าหากไม่สู้หล่อนก็จะไม่มีทางได้เห็นหน้าน้องชายอย่างอินทัชอีกตลอดชีวิต
“ยิ่งคุณนิคแสดงท่าทางรังเกียจฉันแค่ไหน ฉันก็ยิ่งต้องการจะแต่งงานกับคุณนิคมากแค่นั้น เพราะฉันมั่นใจว่าลีลาบนเตียงของฉันที่ฝึกปรือมาตั้งแต่อยู่ในซ่องจะทำให้คุณนิคติดใจ และร้องเรียกหาฉันในทุกๆ ค่ำคืน”
“ร่าน ไปให้พ้นหน้าฉันไป”
“ฉันไปแน่ค่ะ แต่คุณนิคจะต้องรับปากก่อนว่าจะไปบ้านสวนกับฉันในวันอาทิตย์นี้”
“ฉันไม่ไป”
นิโคไลยังยืนกรานคำเดิม และท้าวสะเอวมองหน้าคู่สนทนาด้วยสายตาดุดัน
“เธออยากไปก็ไปคนเดียวเลย และถ้าคันมากก็ให้พ่อของฉันช่วยเกาให้ก่อน”
อิงบุญตกใจกับคำพูดของนิโคไลไม่น้อย แต่หล่อนก็ไม่คิดจะแสดงมันออกไป
“ไม่ยักกะทราบนะคะว่าคุณนิครู้เรื่องนี้ด้วย นี่ฉันคิดว่าจะรวบหัวรวบหางพวกคุณให้หมดทั้งตระกูลเลยถ้ามีโอกาส”
“นังแพศยา ออกไปให้พ้นหน้าฉันนะ”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าไม่ไป จนกว่าคุณนิคจะรับปาก”
นิโคโลกัดฟันแน่น ทุกอณูเนื้อเต้นระริกไปด้วยความเดือดดาล
“ต่อให้เธอยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคืน ฉันก็ไม่รับปาก”
“งั้นก็แสดงว่าคุณนิคกลัวอะไรสักอย่าง ถึงไม่ยอมไปที่นั่น”
คนที่กำลังจะหมุนตัวหนีขึ้นห้องนอนชะงักเท้า และหมุนตัวกลับมา
“เธอว่าใครกลัว”
อิงบุญไหวไหล่บอบบางของตัวเองน้อยๆ
“ก็คุณนิคยังไงล่ะคะที่กลัวฉันจนไม่กล้าที่จะไปบ้านสวน”
“นรกน่ะสิ ฉันไม่เคยกลัวอะไรในโลก โดยเฉพาะผู้หญิงต่ำๆ สกปรกแบบเธอ”
แต่ละคำพูดที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสีสดของนิโคไลช่างไม่ผิดไปจากคมมีดเลยแม้แต่นิดเดียว มันบาดลึกเข้ามาในหัวใจจนหล่อนเจ็บระบม และอยากจะร้องไห้
“ถ้าไม่กลัวแล้วทำไมถึงไม่กล้าไปกับฉันล่ะ หรือว่ากลัวจะต้านทานเสน่ห์ของฉันไม่ได้”
“ทุเรศ ที่ฉันไม่ไปก็เพราะว่าฉันขยะแขยงเธอเกินกว่าจะอยู่ใกล้ด้วยได้ต่างหากล่ะ จำใส่กะโหลกหนาๆ เน่าๆ ของเธอเอาไว้ด้วย แม่อีตัวชั้นต่ำ!”
น้ำตาซึมคลอเบ้าแทบทะลักออกมา ดีนะที่กะพริบไล่มันเอาไว้ได้ทัน
“ฉันรู้ว่าคุณเกลียดฉันมาก”
“ไม่ใช่แค่เกลียด เธอมันน่าขยะแขยงที่สุดด้วย”
เขาย้ำอย่างไม่รักษาน้ำใจ
อิงบุญกัดปากแน่น น้ำตาเจียนจะไหลออกมาเสียให้ได้
“แต่ฉันไม่สนใจหรอกนะ ยังไงซะเราก็ต้องแต่งงานกัน ฉันจะต้องท้องลูกของคุณให้ได้”
“ฝันไปเถอะ!”
เขาเชิดหน้าตอบออกมาเสียงจริงจัง ไม่ยอมแพ้
“เอาล่ะค่ะ ฉันไม่อยากโต้เถียงอะไรกับคุณอีกแล้ว เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่ได้กลัวฉันอย่างที่ฉันเข้าใจจริงๆ อาทิตย์นี้ไปเจอกันที่บ้านสวนค่ะ แต่ถ้าคุณไม่ยอมไป ฉันจะถือว่าคุณกลัวฉัน เข้าใจตรงกันนะคะคุณนิโคไล อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ”
หญิงสาวหมุนตัวหันหลังให้เขาทันที พร้อมๆ กับหยาดน้ำตาที่ร่วงรินลงมาอาบแก้มในวินาทีนั้น หล่อนกัดปากแน่น หัวใจทรมานจนแทบจะขาดใจ นิโคไลทั้งเกลียดชัง ทั้งขยะแขยง ทั้งๆ ที่หล่อนแสนจะรักเขามากมายถึงเพียงนี้
แต่ช่างมันเถอะ เพราะยังไงซะเรื่องของหัวใจมันคือเรื่องท้ายสุดที่หล่อนจะคิดถึง การตามหาน้องชายต่างหากที่สำคัญต่อหล่อนที่สุดในยามนี้ และถ้าไม่มีเกรกอรี่ช่วยเหลือ ชาตินี้ไม่มีทางที่หล่อนจะได้พบกับอินทัชอย่างแน่นอน
“อินทัช… พี่หวังว่านายคงจะมีชีวิตอยู่นะ”
หญิงสาววิงวอนและเดินหายเข้าไปในห้องพัก ในขณะที่นิโคไลยังยืนกำหมัดแน่นด้วยความคลั่งแค้นอยู่ที่ลานหน้าบันได
“ยายผู้หญิงบ้า นี่เธอกล้ามาสบประมาทฉันอย่างนั้นหรือ”
ดวงตาของคนพูดลุกเป็นไฟ กรามกระด้างขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง
“ฉันจะไปบ้านสวนกับเธอ ฉันจะพิสูจน์ให้ผู้หญิงไร้ค่าอย่างเธอเห็นว่าฉันน่ะไม่เคยมีคำว่ากลัวอยู่ในสมอง และเสน่ห์ของหล่อนก็ร้อนแรงพอๆ กับป้าแก่ๆ ที่หมดประจำเดือนแล้วนั่นแหละ”
นิโคไลเค้นเสียงออกมาอย่างเดือดดาล และกำลังจะก้าวขึ้นบันได แต่ก็พบว่าคิริลเดินแกมวิ่งสวนผ่านมาเสียก่อน ท่าทางรีบร้อนของพี่ชายทำให้อดถามออกไปไม่ได้
“พี่คิลล์จะไปไหนหรือครับ ดูท่าทางรีบร้อนจัง”
เจ้าของชื่อชะงักเท้า สีหน้ายังเต็มไปด้วยความเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ไมค์ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้อยู่ในห้องผ่าตัด พี่ต้องรีบไปโรงพยาบาล”
“ไมค์ คนสนิทของพี่คิลล์ที่หายหน้าไปไม่ยอมมาทำงานเกือบสองอาทิตย์น่ะเหรอครับ”
คิริลพยักหน้ารับอย่างรีบร้อน
“ใช่ เอาล่ะนิค พี่ต้องไปโรงพยาบาลก่อน ราตรีสวัสดิ์เจ้าน้องชาย”
คิริลเดินแกมวิ่งผ่านหน้าน้องชายไปอย่างเร่งรีบ ไม่นานเสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตคันโปรดของคิริลก็กระหึ่ม ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
นิโคไลอดรู้สึกแย่ไปด้วยไม่ได้ แม้เขาจะไม่ได้สนิทสนมกับไมเคิลมากนัก แต่เขาก็เคยเห็นผู้ชายคนนี้อยู่บ่อยๆ คาดหวังว่าไมเคิลจะปลอดภัย ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมา ขณะที่เท้าใหญ่ก้าวเดินขึ้นตรงไปยังห้องพักของตัวเองด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้า แม่อิงบุญทำให้เขาต้องสิ้นเปลืองพลังงานไปมาก หลังจากที่ปะทะคารมกับหล่อนมานานเกือบสิบห้านาที เห็นทีจะต้องนอนหลับและชาร์ตพลังให้กับตัวเองโดยเร็วเสียแล้ว
MANGA DISCUSSION