ตอนที่ 91 – ข้อความฝากฝัง
◇ ฝ่ายเอลิซาริน่า ◇
เมื่อได้ยินว่า ลุกซ์ ได้รับการขอหมั้นจากผู้หญิงคนหนึ่ง เอลิซาริน่า ก็รู้สึกสับสนจนเห็นได้ชัด
── ลุกซ์ถูกขอหมั้นงั้นเหรอ…? เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจะมีในเอกสารเลย… เพราะยังไม่ได้หมั้นอย่างเป็นทางการเลยไม่ถูกเขียนไว้? ไม่สิ เราเองก็เคยตรวจสอบเอกสารของตระกูลร็อดเดลล์มาแล้ว น่าจะไม่มีแม้แต่คนที่เป็นตัวเต็งในตอนนี้… งั้นหมายความว่าลุกซ์โกหก? ไม่ใช่… เราห้ามสงสัยลุกซ์เด็ดขาด แค่เพราะเรายังเข้าใจสถานการณ์ไม่ทัน ก็ห้ามเอาความสงสัยมาเติมเต็มช่องว่างนั้น… แต่ถ้าเอกสารของโรงเรียนขุนนางก็ไม่มี เอกสารของตระกูลร็อดเดลล์ก็ไม่มี… ก็แปลว่าการขอหมั้นนั้น ลุกซ์รับไว้โดยส่วนตัว?
เมื่อคิดไตร่ตรองไปถึงจุดนี้ เอลิซาริน่าก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ได้แล้ว
และระหว่างที่เธอเงียบงันไปเพราะกำลังจมอยู่กับความคิดอย่างจริงจัง ลุกซ์ก็เอ่ยถามขึ้นมา
“คุณเอลิน่าครับ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ?”
เอลิซาริน่าจึงรีบตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงลนลาน เพื่อไม่ให้เขารู้สึกเป็นห่วง
“มะ-ไม่หรอก! ก็แค่คิดน่ะ ว่าเราไม่มีทั้งคนหมั้นหรือคนที่อาจจะได้หมั้น แต่ลุกซ์มีนี่นา~ แค่นั้นเอง!”
แม้จะไม่ใช่คำโกหก แต่ก็ไม่ได้เป็นความจริงทั้งหมด เธอพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ซึ่งลุกซ์ก็ตอบกลับมาอย่างนุ่มนวลว่า
“ผมก็แค่บังเอิญได้เจอคนที่พูดแบบนั้นกับผมเท่านั้นเองครับ… และถ้าเป็นคุณเอลิน่าล่ะก็ ผมว่า ต้องเจอคนที่เหมาะสมได้แน่นอนครับ”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”
“ก็…คุณทั้งสวย ใจดี คุยง่าย…จะไม่มีคนมาขอหมั้นกับคุณได้ยังไงกันครับ?”
ลุกซ์พูดอย่างบริสุทธิ์ใจ พร้อมกับแววตาที่จริงใจจนเห็นได้ชัด
“……”
ตลอดชีวิตของเอลิซาริน่า เธอถูกคนชมมานับไม่ถ้วน อาจมากถึงหลายร้อยหลายพันครั้งก็ว่าได้
ระหว่างที่เธอทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยแทบทุกปัญหาของประเทศ ได้รับคำสรรเสริญนับครั้งไม่ถ้วน
แต่คำชื่นชมนั้นล้วนมีเหตุผลแอบแฝง ไม่ใช่เพราะตัวตนของเธอ หากแต่เป็นผลลัพธ์ที่เธอสร้างขึ้น เป็นคำขอบคุณจากการแก้ปัญหา หรือเป็นความเคารพในความสามารถของ “เจ้าหญิงองค์ที่สอง เอลิซาริน่า” เท่านั้น
── แต่ลุกซ์…กลับชมเธอด้วยดวงตาและหัวใจที่ซื่อตรง โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ
สำหรับเอลิซาริน่าแล้ว นั่นเป็นคำชื่นชมที่มีคุณค่ามากกว่าคำพูดจากใครทั้งหลายที่ผ่านมา
“ขอบคุณนะ ลุกซ์…ฉันน่ะ! อนาคตอยากจะแต่งงานกับคนที่ฉันรัก และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปด้วยกันสองคนให้ได้!”
เอลิซาริน่ามองตาลุกซ์และพูดด้วยรอยยิ้มเปี่ยมความหวัง
ลุกซ์ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกลับมาอย่างอ่อนโยน
“เป็นความฝันที่ดีมากเลยครับ…ว่าแต่ คุณมีคนที่ชอบอยู่แล้วหรือเปล่าครับ?”
“มะ…มะ-มีอยู่แล้วล่ะ…”
เอลิซาริน่าเผยสีหน้าที่แดงเรื่อในขณะที่ยังจ้องมองลุกซ์
อยู่ตรงหน้า…นี่แหละ
แม้เธอจะไม่ได้พูดประโยคหลังออกมา แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้
ลุกซ์ยิ้มตอบมาอย่างสดใส
“งั้นเหรอครับ! ขอให้คุณได้มีความสุขกับเขานะครับ!”
“อื้ม! ถ้าได้แต่งงานกับเขา ฉันจะอยู่ด้วยกันตลอด พาไปกินของอร่อย ๆ แล้วก็พาไปที่ต่าง ๆ ด้วย!”
เอลิซาริน่าพูดด้วยรอยยิ้มสดใสราวกับกำลังวาดฝันถึงอนาคตร่วมกันกับลุกซ์
ลุกซ์จึงพูดตอบด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“แสดงว่าคุณรักเขามากเลยสินะครับ”
“รักมากเลยล่ะ…จริง ๆ นะ รักมาก…”
แม้จะเป็นคำพูดที่เธอตั้งใจจะสื่อถึงลุกซ์โดยตรง แต่แน่นอนว่าเขาไม่คิดว่าคำพูดเหล่านั้นมุ่งมาที่ตัวเขา
── แต่สำหรับเอลิซาริน่า แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
เธอจึงตั้งสติ และเปลี่ยนเรื่องถาม
“ว่าแต่…ผู้หญิงที่มาขอหมั้นกับลุกซ์ เป็นคนยังไงเหรอ?”
“เป็นนักเรียนที่โรงเรียนขุนนางเหมือนกันครับ แต่ชื่อ…ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าผมพูดไปอาจจะทำให้เธอลำบากได้”
“ไม่เป็นไรเลยจ้ะ”
── ลุกซ์ใจดีอยู่แล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางบอกชื่อออกมาตรง ๆ หรอก…แต่ฉันก็ยังอยากรู้เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น… ถึงจะรู้สึกผิดต่อลุกซ์ก็เถอะ แต่ขอใช้โอกาสนี้ถามข้อมูลหน่อยนะ
“งั้น…เธอเป็นคนแบบไหนเหรอ?”
เพราะคำถามลักษณะนี้ไม่มีข้อมูลส่วนตัว ทำให้คาดว่าลุกซ์จะตอบได้โดยไม่ลังเล และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
“เธอเป็นคนอ่อนโยน และใจดีมากครับ…อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ”
“เห…เหรอ…”
แม้จะรู้สึกเจ็บปวดในใจเล็กน้อยที่ลุกซ์ดูจะมีความรู้สึกดีต่อหญิงคนนั้น แต่เอลิซาริน่าก็พยายามเก็บอารมณ์ไว้และถามต่อ
“แล้วเธอเป็นคนฉลาดรึเปล่า?”
“ครับ! ฉลาดมากเลยครับ! ตอนสอบครั้งก่อนยังได้คะแนนเต็มด้วยนะครับ!”
“อย่างนั้นเหรอ เก่งจังเลยนะ”
── ขอโทษนะ ลุกซ์…ถึงจะเป็นเรื่องของหัวใจ แต่มาใช้ความไร้เดียงสาของเธอแบบนี้ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี
แม้แค่ข้อมูลเรื่อง “คนที่ได้คะแนนเต็มในการสอบ” ก็สามารถใช้ระบุตัวตนได้ง่าย แต่ในหัวของลุกซ์ไม่มีความคิดแบบ “ถูกหลอกถามข้อมูล” อยู่เลย จึงไม่ได้ระวังหรือตั้งข้อสงสัยใด ๆ
── แต่แบบนี้ก็รู้แล้วล่ะว่าเป็นใคร…ผู้หญิงที่ได้คะแนนมากกว่าลุกซ์ ซึ่งได้อันดับสองของโรงเรียน…แปลว่าเธอคือคนที่ขอลุกซ์หมั้นนั่นเอง
เอลิซาริน่า ผู้ที่ไม่เคยสนใจคนอื่นนอกจากลุกซ์ จึงไม่รู้ชื่อของนักเรียนที่ได้อันดับหนึ่งมาก่อน แต่ตอนนี้ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า จะไปเช็กข้อมูลที่โรงเรียนทันทีที่กลับถึงปราสาท
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็แยกกันขึ้นรถม้าของตน ลุกซ์และเอลิซาริน่าโบกมือลากัน
เอลิซาริน่ามุ่งหน้ากลับปราสาทหลวง
ก่อนจะเข้าไปในตัวปราสาท พลทหารเฝ้าประตูเดินเข้ามาใกล้รถม้าของเอลิซาริน่าและกล่าวขึ้น
“องค์หญิงเอลิซาริน่า ข้าพเจ้านำข้อความจากองค์หญิงเฟลิซิอาน่ามาส่งขอรับ”
── จู่ ๆ มาทักแบบนี้ ที่แท้เป็นข้อความจากเฟลิซิอาน่า?
“ว่าไง?”
“เธอฝากบอกว่า 『ท่านพี่เอลิซาริน่า อีกสามวันข้างหน้าในตอนกลางคืน ขอเวลาพูดคุยที่ทางเข้าปราสาทด้วยเพคะ』 ขอรับ”
“…เข้าใจแล้ว กลับไปประจำที่ได้เลย”
“รับทราบ!”
เมื่อเอลิซาริน่าพูดจบ ทหารก็กลับไปยังตำแหน่งของตน
รถม้าของเธอก็ค่อย ๆ เคลื่อนเข้าสู่ภายในพระราชวัง
“อีกสามวัน…นี่สินะ”
จากวันที่เฟลิซิอาน่าระบุ เอลิซาริน่าก็พอเข้าใจได้ว่า เฟลิซิอาน่าคิดจะลงมืออะไร
เธอจึงพึมพำต่อ
“การที่เลือกช่วงเวลานี้…ก็แปลว่า ที่บงการให้ไวโอเร็ตได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับลุกซ์ในงานแลกเปลี่ยนของราชวงศ์นั่นน่ะ เป็นฝีมือของเฟลิซิอาน่าใช่มั้ยล่ะ”
ถึงจะยังไม่รู้ว่าจุดประสงค์คืออะไร──แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเอลิซาริน่า
“น้องสาวที่ทั้งเก่ง ทั้งสวย ทั้งน่ารักก็จริง──แต่ถ้าเธอคิดจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับลุกซ์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร…ฉันก็ต้อง ‘จัดการ’ ให้เรียบร้อย”
เอลิซาริน่าก้าวลงจากรถม้าพร้อมกับพึมพำด้วยแววตาว่างเปล่า…!
MANGA DISCUSSION