ตอนที่ 84 – ศักดิ์ศรีแห่งราชวงศ์
“ผมแค่เข้ามาในห้องนี้เพื่อคุยกับคนนั้นเท่านั้นเองครับ
ก็เลยไม่มีจุดประสงค์อื่นเป็นพิเศษ”
ผมตอบคำถามของท่านเอลิซาริน่าด้วยคำพูดนั้น ทว่าอีกฝ่ายยังคงมีสีหน้าสงบและเสียงเรียบนิ่งขณะถามต่อ
“งั้นเหรอ แต่ที่นี่ก็คืองานแลกเปลี่ยนของราชวงศ์ทั้งที จะไม่มีความรู้สึกว่าอยากใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับพวกขุนนางหรือบุคคลในราชวงศ์ที่ปกติไม่ได้มีโอกาสเจอเลยเหรอ?”
“ก็-ก็จริงครับ ผมเองก็อยากจะคุยกับท่านเอลิซาริน่าด้วยเหมือนกัน……แต่ คนนั้นคือคนในราชวง──”
ผมเผลอจะพูดออกไปว่า “คนนั้นเป็นคนในราชวงศ์” แต่ก็หยุดไว้กลางคัน
เพราะว่าคุณไวโอเล็ตบอกไว้ให้เก็บเรื่องที่เธออยู่ที่นี่เป็นความลับ……แม้ผมจะไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงพูดแบบนั้น แต่ถ้าเธอขอ ผมก็อยากจะทำตาม
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงสามารถหยุดคำว่า “คนในราชวงศ์” เอาไว้ก่อนจะเผลอพูดออกไปจนจบ……แต่──
“คนที่อยู่กับลุกซ์ในห้องนี้ เป็นคนในราชวงศ์งั้นเหรอ?”
“อึก……!”
โดนจับได้……!
แต่ก็อย่างว่า พอพูดหลุดว่า “ราชวงศ์──” ออกไป ต่อให้พูดไม่จบ คนที่เป็นราชวงศ์เพียงคนเดียวในห้องนี้ก็คือท่านเอลิซาริน่า พอเป็นแบบนั้น การจะเดาให้ถูกว่าหมายถึง “คนในราชวงศ์” ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
“……”
แม้ว่าผมจะยังไม่ได้พูดตรงๆ ว่าคนที่อยู่ด้วยคือคุณไวโอเล็ต แต่การหลุดคำใบ้ว่าเป็น “คนในราชวงศ์” ก็เป็นการให้เธอจับทางได้อยู่ดี──ขอโทษครับ คุณไวโอเล็ต!
ผมกล่าวขอโทษคุณไวโอเล็ตอยู่ในใจ ขณะที่ท่านเอลิซาริน่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ก็รู้อยู่แล้วล่ะ แต่ลุกซ์เนี่ย เป็นคนที่ไม่เหมาะจะเก็บความลับเลยนะ”
……คำพูดของท่านเอลิซาริน่า ทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าเธอเคยเจอผมมาก่อนยังไงอย่างนั้น
แต่ก็นั่นแหละ มันอาจจะเป็นแค่ความรู้สึกของผมคนเดียวก็ได้ บางทีท่านเอลิซาริน่าอาจจะสังเกตได้จากการพูดคุยสั้นๆ ในตอนนี้ก็ได้ ดังนั้นผมจึงไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับความรู้สึกนั้นออกไป
……แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
“ผมแสดงความรู้สึกออกมาทางสีหน้าชัดขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“ใช่เลย เห็นได้ชัดเจนขนาดว่าจับวางยังง่ายกว่าน่ะ”
……พูดแบบนี้ก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่า เอลิน่าซังเองก็เคยพูดอะไรคล้ายๆ กัน
“ก่อนหน้านี้ ก็มีคนบอกผมว่า การที่ผมแสดงความรู้สึกออกมาง่าย ไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก แต่แปลว่าผมเป็นคนซื่อสัตย์น่ะครับ”
“……เหรอ”
ท่านเอลิซาริน่าตอบกลับหลังจากเว้นช่วงเล็กน้อย
ผมจึงพยักหน้าแล้วพูดต่อ
“แต่แค่ซื่อสัตย์อย่างเดียว ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเพียงพอในการเป็นเจ้าเมืองที่จะปกป้องประชาชนได้ในอนาคตรึเปล่า…”
“……”
พอผมพูดแบบนั้น ท่านเอลิซาริน่าก็มองผมนิ่งไปพักหนึ่ง
─แล้วผมก็รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเผลอพูดความกังวลส่วนตัวให้หลุดออกมา เลยรีบพูด
“ข-ขอโทษครับ! ผมพูดอะไรแปลกๆ ออกไป!”
เมื่อผมรีบขอโทษแบบนั้น ท่านเอลิซาริน่าก็มองตาผมตรงๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ลุกซ์ไม่ต้องกังวลอะไรเลย แค่เป็นตัวของตัวเองต่อไปก็พอ……เพราะต่อให้ลุกซ์ยังคงเป็นคนซื่อสัตย์แบบนี้ ลุกซ์ก็สามารถทำให้ประชาชนมีความสุขได้แน่นอน──ในฐานะราชนิกุลอันดับสองอย่างข้า เอลิซาริน่า จะเป็นผู้ประคับประคองบ้านเมืองนี้ต่อไปเอง”
น้ำเสียงหนักแน่นและแววตาคมกริบคู่นั้น……ส่งผ่านความรู้สึกที่เรียกได้ว่า “ศักดิ์ศรีแห่งราชวงศ์” ออกมาอย่างชัดเจน
หลังจากที่ผมสัมผัสได้ถึงศักดิ์ศรีของท่านเอลิซาริน่า ผมจึงพูดออกไป
“ถ้าท่านเอลิซาริน่าจะคอยดูแลบ้านเมืองนี้ต่อไป ผมคิดว่าประเทศนี้จะต้องสงบสุขแน่นอน……แต่ว่าถ้าเมื่อไรที่คนในราชวงศ์เดือดร้อน ผมก็คิดว่า หนึ่งในหน้าที่ของขุนนางคือการช่วยเหลือ ฉะนั้น ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้เมื่อไรก็บอกมาได้เลยนะครับ!”
เมื่อผมพูดแบบนั้น ท่านเอลิซาริน่าก็ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้────แล้วเดินมาสวมกอดผมจากด้านหลังที่ยังนั่งอยู่ พร้อมกับพูดว่า
“ขอบคุณนะ ลุกซ์……แค่ได้ยินคำพูดนั้น ฉันก็รู้สึกอยากพยายามให้มากกว่านี้แล้วล่ะ”
“เอ๊ เอ๋!?”
ผมตกใจมากที่ถูกท่านเอลิซาริน่ากอดจากด้านหลังอย่างกะทันหัน แต่เธอกลับมีสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขขณะที่สวมกอดผมแน่นอยู่แบบนั้น
……ผมยังคงไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับท่านเอลิซาริน่าเลย ยังไม่เข้าใจเลยจริงๆ────แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรับรู้ได้ในตอนนี้ก็คือ ท่านเอลิซาริน่า ซึ่งเป็นองค์หญิงลำดับที่สองของประเทศนี้ และยังเป็นพี่สาวขององค์หญิงลำดับที่สามอย่างเฟลิซิอาน่า เป็นคนที่ใจดีมาก
และนั่นทำให้ผมรู้สึกดีใจมากจริงๆ.
MANGA DISCUSSION