ตอนที่ 83 – คาดไม่ถึง
◇ ด้านเอลิซาริน่า ◇
ทันทีที่เปิดประตูห้องส่วนตัวแล้วเห็นลุกซ์อยู่ตรงนั้น… เอลิซาริน่าอยากจะตะโกนออกไปว่า “ลุกซ์~!!” แต่ในฐานะที่เธอคือ “องค์หญิงที่สอง เอลิซาริน่า” หากแสดงท่าทีแบบนั้นต่อหน้าลุกซ์ที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก ก็จะเกิดความขัดแย้งขึ้นในตัวตนของเธอทันที จึงต้องข่มความรู้สึกอยากตะโกนไว้อย่างสุดกำลัง
ลุกซ์ทำหน้าตกใจจนค้างไปเลย น่ารักชะมัด! ก็แหงล่ะ อยู่ดี ๆ องค์หญิงที่สองอย่างฉันโผล่มาหาแบบนี้ ใครก็ต้องตกใจทั้งนั้น… แต่ฉันเองก็มีเรื่องที่สงสัยอยู่หลายอย่างเหมือนกัน ดังนั้นจะต้องให้ลุกซ์ตอบให้ชัดเจน! โดยที่ต้องไม่ให้ความสัมพันธ์ในฐานะ “เอลิน่า” ปรากฏออกมาเด็ดขาด ต้องเป็นเอลิซาริน่าในฐานะองค์หญิงที่สองเท่านั้น!
เอลิซาริน่าเตรียมใจไว้ในหัวเช่นนั้น แล้วจึงก้าวเดินเข้าไปหาลุกซ์…แต่ก็หยุดเท้าไว้กลางคันโดยไม่รู้ตัว
กลิ่น…น้ำหอมของผู้หญิงงั้นเหรอ?
「……」
หัวใจที่ยังเมื่อครู่ดีใจอย่างยิ่งที่ได้พบกับลุกซ์ ในตอนนี้กลับเย็นลงอย่างฉับพลัน แต่ถึงอย่างนั้น เอลิซาริน่าก็ยังคงรักษาความสงบไว้ได้อย่างเยือกเย็น เพราะรู้ดีว่าตัวเองยังคงอยู่ในสายตาของลุกซ์ จึงไม่สามารถเผยความรู้สึกนั้นออกมาให้เห็นได้
◇ ด้านลุกซ์ ◇
ในขณะที่สมองของผมหยุดประมวลผลไปชั่วขณะ
องค์หญิงเอลิซาริน่าก็เดินตรงมาทางผม ก่อนจะหยุดเท้าแล้วจ้องมาที่ผม
ชะ…ใช่แล้ว! เพราะเฟลิซิอาน่าท่านใจดีเกินไป เลยทำให้ผมเผลอลืมไปชั่วคราวว่าอีกฝ่ายคือ “เชื้อพระวงศ์”…การที่ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ ทั้งที่เชื้อพระวงศ์ยังยืนอยู่ มันเสียมารยาทเกินไปจริง ๆ
ผมรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที แล้วกล่าวกับองค์หญิงเอลิซาริน่า
「ขออภัยอย่างยิ่งที่ผมนั่งเก้าอี้อยู่ ทั้งที่ท่านเอลิซาริน่ายังคงยืนอยู่ ผมคิดได้ช้าไป ต้องขออภัยจริง ๆ ครับ!」
เมื่อผมกล่าวขอโทษอย่างจริงจัง เอลิซาริน่าท่านก็พูดว่า
「…ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องใส่ใจอะไรแบบนั้น หันหน้าขึ้นมาเถอะ แล้วก็นั่งลงได้เลย ฉันเองก็จะนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเหมือนกัน」
…เอ๋?
ผมกับองค์หญิงเอลิซาริน่า จะนั่งฝั่งตรงข้ามกันที่โต๊ะงั้นเหรอ?
ถึงจะยังตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทัน แต่ผมก็ทำตามที่ท่านเอลิซาริน่าพูด นั่งลงที่เก้าอี้โดยมีโต๊ะคั่นกลางระหว่างเรา
「นี่ ลุกซ์」
「คะ…ครับ!」
ผมแอบสงสัยว่า ทำไมเธอถึงรู้จักชื่อผม แต่พอนึกได้ว่าองค์หญิงเอลิซาริน่าเป็นคนดูแลด้านการเจรจาระหว่างประเทศ ก็คงไม่แปลกหากเธอจะรู้จักเด็กอย่างผมบ้าง ผมจึงตอบรับอย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็จ้องตาผมแล้วถามว่า
「ห้องนี้ เมื่อกี้ก่อนฉันเข้ามา มีใครอยู่กับลุกซ์อีกไหม?」
…พอได้สบตาแบบนี้แล้ว แม้จังหวะการพูดหรือบรรยากาศจะไม่มีแรงกดดันแบบเฟลิซิอาน่าท่าน แต่แค่สบตาก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่อธิบายไม่ได้…สมกับเป็นเชื้อพระวงศ์จริง ๆ
และคำถามที่ว่า “มีใครอยู่ในห้องนี้ก่อนหน้านี้ไหม”…
ไวโอเล็ตซัง ได้ขอให้ผมเก็บเรื่องที่เธออยู่ในห้องนี้เป็นความลับ
「เอ่อ…」
จะทำยังไงดีนะ…ถ้าบอกแค่ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย ก็คงไม่รู้หรอกว่าเป็นไวโอเล็ตซัง
แต่ในทางกลับกัน ถ้าไม่บอกเลย แล้วหากเอลิซาริน่าท่านมั่นใจว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องนี้จริง ๆ แล้วละก็──
「ไม่ต้องตอบก็ได้หรอก ฉันเข้าใจแล้ว」
「……เอ๋?」
「ในห้องนี้ มีคนอื่นนอกจากลุกซ์อยู่ด้วย แล้วลุกซ์ก็ถูกคนคนนั้นขอไว้ว่าอย่าพูด…ใช่ไหมล่ะ?」
มะ…ไม่ทันได้พูดอะไรเลยแท้ ๆ ทำไมถึงเดาถูกเป๊ะขนาดนั้น…
「ดูสิ ตอนนี้ลุกซ์ก็ทำหน้ายอมรับอย่างกับโดนแทงใจดำอยู่เลย」
「……!」
「จะให้ฉันพูดว่า ‘ถ้าโกหกต่อองค์หญิงล่ะก็ อาจจะกลายเป็นความผิดนะ’ แล้วบีบบังคับให้ลุกซ์บอกชื่อก็ยังทำได้หรอกนะ─แต่ถ้าทำแบบนั้น ลุกซ์คงเครียดแย่แน่ ๆ ฉันก็เลยจะปล่อยไว้ให้ ถือว่าใจดีใช่ไหมล่ะ? ฉันเนี่ย」
…ไม่เพียงแต่จับคำพูดได้ตรงจุด แต่ยังมองทะลุสภาพจิตใจของผมอีกด้วย
นี่คงเป็นทั้งทักษะด้านวาทศิลป์และความเฉียบแหลมที่ทำให้เธอสามารถประสานราชการภายในประเทศได้…ช่างน่าเกรงขามจริง ๆ
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็พูดออกไปว่า
「ผมไม่คิดว่าเอลิซาริน่าท่านใจดีเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเลยครับ…เพราะถ้าไม่ใจดี ต่อให้เป็นหน้าที่ ก็ไม่มีทางดูแลประเทศได้แน่นอนครับ」
「……!」
เมื่อผมพูดแบบนั้น เอลิซาริน่าท่านก็เบิกตากว้างขึ้น
「ละ…ลุกซ์ คิดแบบนั้นกับฉันจริง ๆ น่ะเหรอ…」
จากนั้นเธอก็หน้าแดงเล็กน้อยก่อนจะเม้มริมฝีปาก แต่ไม่นานก็ส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมเปลี่ยนสีหน้าและน้ำเสียงให้สงบนิ่งก่อนกล่าวว่า
「แต่──ในช่วงเวลาที่จัดงานอย่าง ‘งานแลกเปลี่ยนราชวงศ์’ ซึ่งเป็นงานสำคัญทางราชสำนัก การอยู่ในห้องส่วนตัวกับเพศตรงข้ามสองต่อสอง มันไม่ค่อยฟังดูดีเท่าไหร่นะ…เธอกับผู้หญิงคนนั้น เข้ามาในห้องนี้ด้วยกันเพราะอะไรเหรอ?」
MANGA DISCUSSION