เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 290 ภรรยาของฉีหยุน
นิสัยของจูหลินชิง ค่อนข้างอ่อนโยน
ไม่ค่อยกล้า
จัดการกับผู้หญิงแบบนี้ ฉินเฟิงจะต้องทำตัวโหดหน่อย ถึงจะทำให้เธอเชื่อฟัง
“อย่าวิ่งไปทั่ว ได้ยินไหม?”
ฉินเฟิงพูดอย่าหน้าตาร้ายๆ
“อ่อ……อืม……”
จูหลินชิงทำท่าน่ารัก แล้วพูดอย่างน่าสงสาร น้ำตาแทบจะไหลออกมาอยู่แล้ว
ทำให้คนเห็นแล้วใจอ่อน
แต่ว่า ฉินเฟิงก็แกว่งๆ กระเป๋าผ้าในมือ แล้วพูดร้ายกว่าเดิมว่า “ถ้าวิ่งอีก อันนี้ก็จะเป็นของผม”
“ฉัน……ไม่วิ่งแล้วก็ได้……”
จูหลินชิงมองกระเป๋าผ้านั้น แล้วพูดออกมาอย่างน่าสงสาร
และในตอนนี้ ทางด้านหลัง โจรชิงกระเป๋าคนนั้นก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น มีท่าทางตกใจเหมือนเห็นผี เขาไม่เห็นเสียด้วยซ้ำว่าฉินเฟิงลงมือตอนไหน เขาก็ล้มไปแล้ว
แต่ว่า ไม่เป็นไร
เขาไปแย่งชิงอีกรอบก็ได้
“เห้ยไอ้หนู เอาของมาให้กู กูเคยฆ่าคนนะเว้ย”
โจรคนนั้น ก็ควักมีดออกมา ทำตาแดงก่ำ ตะโกนใส่ฉินเฟิง
“ถ้าเคยฆ่าคน ไม่เห็นต้องมือสั่นขนานั้นเลย”
ฉินเฟิงยกคิ้วขึ้นสูง
โจรคนนั้นก็กำมีดในมือ และสั่นอยู่ตลอดเวลา
เคยฆ่าคน มือจะไม่สั่น
เพราะมีประสบการณ์แล้ว
“มึงกล้าดูถูกกูงั้นรึ!”
พอถูกฉินเฟิงเยาะเย้ย โจรก็โมโห มาถูกไอ้หมอนี่ดูถูกเอาเสียนี่ ก็เลยกำมีดแทงเข้าไปที่ตัวของฉินเฟิง แต่แทงไม่โดน
ร่างของเขาก็นิ่งไป
มีคนคนหนึ่งที่มีรูปร่างยักษ์ใหญ่ หยิบคอเสื้อโจรคนนั้น จนตัวเขาลอยขึ้นมา
“ไม่เป็นไร หลบไปไกลๆ หน่อย”
จากนั้น
เสียงดังตุบ
โตรคนนั้นก็ถูกฉีหยุนโยนออกไปเหมือนขยะ หลุดออกนอกหน้าต่างไป ก้นจ้ำเบ้ากับพื้น มีสีหน้าเหว๋อไปในฝูงชน
“คนนี้โหดจริงๆ ”
พอจูหลินชิงเห็นฉีหยุน ก็รีบมาหลบหลังตัวฉินเฟิง
ฉีหยุนเห็นสีหน้าของจูหลินชิง ก็เอามือเกาๆ หัว แปลกใจมาก ถึงแม้เขาจะมีรูปร่างๆ ดูน่ากลัวหน่อย แต่นิสัยของเขาอ่อนโยนนะ
กั่วกั่วบอกไว้แบบนี้
เสี่ยวหยูก็พูดแบบนี้เหมือนกัน
“ผมก็โหด”
ฉินเฟิงเห็นดังนั้น ก็ยิ้มขึ้นในใจ จากนั้นหันหน้าไป แล้วก็แกล้งทำหน้าร้ายๆ มองใส่จูหลินชิง
“เขาโหดกว่า”
จูหลินชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่ออกไปจากด้านหลังของฉินเฟิง
ถึงแม้จะโหดทั้งสองคน แต่ว่าฉินเฟิงมีรูปร่างที่อ่อนโยนกว่า ฉีหยุนนั้นปกติแล้วก็ไม่เท่าไร ก็เหมือนคนปกติ แต่ถ้าได้เตะต่อย ก็เหมือนกับยักษ์ใหญ่ถูกปลดผนึกออกมา ทำให้คนหวาดกลัว
หมอนี่ ก็นิสัยแบบนี้นี่แหละ
“ลงรถได้แล้ว”
ฉินเฟิงเดินลงไป
แต่ว่า เพิ่งเดินลงไปนั้น เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีกลุ่มหนึ่ง ก็เข้ามาล้อมไว้ มีประมาณ20-30คน ล้วนมีสีหน้าหาเรื่อง ในมือก็มีกระบองไฟฟ้า
“นี่คือ?”
ฉินเฟิงมองคนพวกนี้ ที่แท้ก็คือเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีของสถานีนี้
ปกติก็จะรักษากฎหมาย แต่วันนี้กลับเข้ามาล้อมเขาไว้ที่นี่
“ที่แท้ก็เป็นหมอนี่นี่เอง”
จากนั้น ฉินเฟิงก็เห็นชายคนหนึ่ง ที่อยู่ในกลุ่มนั้น
ก็คือเจี่ยซิว
“เหอะ ไอ้หนู กงเกวียนกำเกวียนจริงๆ ชายชาตรี10ปีแก้แค้นไม่สาย”
เจี่ยซิวเห็นว่าฉินเฟิงพบตนเองเข้าแล้ว ก็เลยเดินออกมา แล้วก็เผยท่าทางของโจรกระจอกได้ใจ
และจากนั้น ก็หยิบบุหรี่กล่องหนึ่งขึ้นมา แล้วยัดใส่มือของหัวหน้ากรมบังคับคดีใส่หมวกที่นำกำลังคนมา แล้วพูดประจบว่า “พี่ครับ ไอ้หมอนี่นี่แหละ ที่ทำผมเสียเรื่องบนรถไปหมด จะต้องสั่งสอนมันให้หนักๆ เลยนะครับ พอเสร็จแล้ว ผมจะเลี้ยงข้าวพี่อย่างดีเลย”
“จัดไป”
หัวหน้ากรมบังคับคดีมองบุหรี่นั้น แล้วก็ยิ้มมุมปากออกมา
ทั้งสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ห่างกันมา18รุ่นแล้ว ไม่ได้สนิทอะไรกันมากแล้ว แต่ว่า เจี่ยซิวคนนี้รู้งาน ให้บุหรี่เขาไปหนึ่งซอง แถมยังบอกว่าจะเลี้ยงข้าว ก็เลยทำให้เขาตอบตกลงไป
เพราะถึงอย่างไร ก็แค่สั่งสอนคนคนเดียวเท่านั้นเอง
ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ก่อนหน้านี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทำมาก่อน
“ไอ้หนู โทษทีวะ มึงมาหาเรื่องน้องชายกู วันนี้ ถ้าไม่ได้แผลกลับไปหน่อย กูก็ไม่รู้จะไปอธิบายกับน้องชายกูยังไงวะ” หัวหน้ากรมบังคับคดี ก็ส่งสายตา คนที่เหลือก็บุกล้อมเข้าไป
“อ๋า…..สถานการณ์…..แบบนี้……ฉัน…….วิ่ง…..ก็แล้วกัน……”
จูหลินชิงพูดไปด้วย มองกระเป๋าผ้านั้นไปด้วย
แต่ฉินเฟิงก็สะบัดกระเป๋าผ้านั้น แล้วหันไปพูดอย่างโหดๆ ว่า “ห้ามไปไหนทั้งนั้น อยู่กับผมที่นี่”
“อ่อ……”
จูหลินชิงถอยไปหนึ่งก้าวอย่างกลัวๆ
จากนั้นก็พบว่าฉีหยุนอยู่ด้านหลัง
จากนั้น ก็แอบขยับเข้ามาใกล้ฉินเฟิง
“คือว่า!”
ฉีหยุนก็เอามือลูบหัวตนเอง สีหน้าเหมือนถูกรังแกก็เผยออกมา
ตนเองมีรูปร่างน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไงกัน
เด็กๆ ล้วนบอกกันว่าอ่อนโยน เข้ากับคนง่าย
ทำไมมาพอเจอเธอ ถึงได้เปลี่ยนไปล่ะ
“ฉีหยุน อย่ามัวร้องไห้ ทำงานได้แล้ว เดี๋ยวกลับไป จะไปหาผู้หญิงที่คุณชอบให้ก็แล้วกัน” ฉินเฟิงมือไพล่หลังพูด
“ยังจะปากดี กูจะให้มึงนอนหยอดข้าวต้มสักหลายเดือนเลย”
หนึ่งในเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ก็แสยะยิ้มออกมา ในมือก็แกว่งกระบองไฟฟ้า
ทท่าจะบุกเข้ามา
แล้วจะทุบไปที่ฉีหยุน
ถ้าฟาดไป แถมยังมีไฟฟ้าด้วย คงจะต้องนอนหยอดข้าวต้มไปหลายเดือนแน่
แต่ว่า รอยแสยะยิ้มบนใบหน้าของเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีคนนั้นยังไม่ทันหายไป กำปั้นอันหนึ่ง ก็มาโผล่ที่ท้องของเขา จากนั้น ก็กระเด็นลอยออกไป เหมือนลูกกระสุน เสียงดังโครม
ลอยไปหลายสิบเมตร สุดท้ายก็ไปกระแทกกับต้นไม้
“” ที่นี่ มึงก็ได้นอนหยอดข้าวต้มเองหลายเดือนแล้วล่ะ
ฉีหยุนปัดฝุ่นที่มือ ก่อนหน้านี้ คนพวกนี้ก็ได้ลงมือหนัก เขาก็ไม่อยากจะออมมือ เลยจัดการให้กระดูกหักไปไม่น้อย แต่พอจัดการคนนั้นไปแล้ว เขาก็หันมามองฉินเฟิง “คุณผู้ชายครับ ผมบอกแล้วไง ไม่ได้อยากได้ผู้หญิง วุ่นวายตายเลย แถมยังอ่อนแออีก สักวันคงทำผมโมโห แล้วถูกผมต่อยตายแน่ๆ มีวิธีที่ผมก้าวข้ามการมีภรรยา แล้วไปมีลูกสาวเลยได้ไหม?”
เขาชอบลูกสาวของฉินเฟิงมาก
เขาก็อยากมีลูกสาวที่น่ารักน่าเอ็นดูสักคน
แต่ว่า เขาไม่ชอบผู้หญิง
ไม่อยากปวดหัว
พอเขาพูดแบบนี้ จูหลินชิงก็ยิ้งก็เดินเข้าไปด้านหลังของฉินเฟิงมากขึ้น มองสายตาของฉีหยุน ก็ยิ่งกลัวๆ ราวกับใบหน้าบอกออกมาหมดเลย ว่าฉีหยุนเป็นคนชั่วร้าย
“สักวันต้องหาผู้หญิง มาจัดการคุณให้ได้”
ฉินเฟิงส่ายหัว
หาผู้หญิงให้ฉีหยุน มีอย่างเดียว คือต้องแข็งแกร่งกว่าเขา
หมอนี่ เป็นคนชอบต่อสู้ นอกจากจะถูกฉินเฟิงต่อยจนยอม คนอื่นฉีหยุนก็ไม่ยอมใครเลย กล้าสู้กับคนอื่นหมด ถ้าอยากจะมาเป็นผู้หญิงของฉีหยุน จะต้องเอาชนะเขาให้ได้
“แหะๆ ”
ฉีหยุนลูบหัวแล้วหัวเราะออกมา
เขาก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะว่ามาตรฐานที่เขาจะหาภรรยา ก็คือแข็งแกร่ง เก่งกว่าเขา ไม่อย่างนั้นเขากลัวว่าวันไหนคุมอารมณ์ไม่ได้ แล้วเกิดอะไรขึ้นมา ก็คงจะแย่
“เห้ย พวกมึงยังคุยกันได้อีกหรือวะ?”
หัวหน้ากรมบังคับคดียืนอยู่ข้างๆ แล้วก็มองพวกเขาคุยกันด้วยความหัวร้อน “พวกมึงเห็นพวกกูเป็นตัวอะไร ยังจะมีหน้ามาคุยกันได้อีก พวกมึงเข้ามาพร้อมกันเลย เมื่อครู่นี้ก็แค่ผิดพลาดไป ว่ากันว่า 2มือยากจะสู้4มือเว้ย พวกมึงก็มีแค่2คน พวกกูมีมือตีนมากมายแบบนี้ เพียงพอที่จะจัดการมึงได้ก็แล้วกัน”