เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 289 ผมไม่ได้กลับมาเพื่อคุณ แต่เพื่อลูกชายคุณ
“โรงพยาบาลงั้นหรือ? โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ก็ต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมง”
สองคนผัวเมียคู่นั้นก็เหงื่อตก
“ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้คนนั้น…..ผมต้องช่วยเด็กคนนี้ไว้ได้แน่” เจี่ยซิวพูดอย่างมั่นใจ
ทำให้สองคนผัวเมียคู่นี้แค้นฉินเฟิง ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเฟิง ลูกชายของพวกเขาก็ยังสามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้ แต่ว่า ทั้งหมดเป็นเพราะฝีมือฉินเฟิง
ลูกชายของพวกเขา ช่วยไม่ได้แล้ว
“ผมจะไปคิดบัญชีกับมัน”
ชายวัยกลางคนคว้าถังดับเพลิงข้างใน สีหน้าโกรธหนัก เตรียมจะไปหาตัวฉินเฟิง จะไปทุบไอ้คนหลอกลวงที่จะมาหลอกเอาเงินและทำร้ายชีวิตลูกชายเขา
เจี่ยซิวก็แอบยิ้ม
หมอนั่น ก็คือแพะรับบาปดีๆ นี่เอง
แต่ว่า ในตอนนี้ ฉินเฟิงก็เดินออกมาจากตู้รถนั้น ชายวัยกลางคนเห็นเข้า ก็รีบฟาดถังดับเพลิงใส่ทันที คิดจะฟาดให้ฉินเฟิงหัวแตกเลยทีเดียว
แต่ว่า
เสียงดังตุบ
กระเด็นออกไป
จากนั้น ฉินเฟิงก็เดินไปยังตรงหน้าเด็กชายคนนั้น
“เห้ย มึงยังคิดจะแตะต้องลูกชายกูอีกงั้นหรือวะ!”
ชายวัยกลางคนโมโหมาก รีบบุกข้ามา
แต่ว่า พอกำลังพุ่งเข้ามา ก็ได้ยินเสียงเรียกขึ้นมาว่า “พ่อครับ อย่าทำร้ายพี่เขา พี่เขาเป็นคนดี”
ชายคนนั้นก็อึ้งไป
เพราะว่า ลูกชายตนเองฟื้นแล้ว
ฟื้นแล้วหรือ?
ทุกคนมองเด็กชายคนนั้น ที่เปลี่ยนจากหน้าเขียวจนเริ่มมีเลือดลมไหลเวียน ก็อึ้งๆ ไปตามกัน
ฟื้นแล้วหรือ?
เมื่อครู่นี้หมอคนนั้นบอกแล้วว่าช่วยไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือไง
ทำไมถึงฟื้นขึ้นมาได้ล่ะ?
“ฟื้นงั้นหรือ?เป็นไปไม่ได้!”
เจี่ยซิวหน้าจ๋อย เป็นไปได้อย่างไรกัน เป็นไปไม่ได้ เขารีบพุ่งเข้าไปตรวจอาการของเด็กชายคนนั้นทันที พบว่าอาการหัวใจวายได้หายไปแล้ว
น่าแปลกใจมาก
แต่ว่าถึงจะไม่เข้าใจ ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการที่เขาจะเอาความดีความชอบทั้งหมดมาเป็นของตนเอง แล้วก็รีบพูดกับสองผัวเมียคู่นั้นว่า “คือแบบนี้ เมื่อสักครู่นี้ผมรักษาจนหายเองนั่นแหละ แต่ว่าการตอบสนองยังไม่ดีมากนัก จากนั้น ก็เหมือนกับที่พวกคุณพูดนั่นแหละ ให้ไอ้หมอนี่ได้ความดีความชอบไปหมดเลย”
พูดอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
อีกอย่าง ก็ยังมีชื่อเสียงที่เป็นนักศึกษาแพทย์ ทำให้ชายพุงใหญ่ ค่อนข้างจะเชื่อถือ
แต่ว่า วินาทีต่อมา เด็กชายก็ชี้ไปยังเจี่ยซิว แล้วร้องไห้พูดว่า “พ่อครับ เป็นเพราะไอ้คนนี้แหละ เมื่อครู่นี้พี่ชายคนนั้นทำให้ผมผ่อนคลายลงมากเลย ใกล้จะดีขึ้นแล้ว แต่เป็นเพราะไอ้คนนี้ ไอ้คนไม่ดี ทำให้ผมทรมาน ผมรู้สึกว่าหายใจไม่ได้ เหมือนกำลังจะตาย ถ้าไม่ได้พี่ชายคนนี้เข้ามาช่วย ผมคงต้องตายไปแล้วล่ะครับ”
ภายใต้เสียงร้องไห้
ทุกคนก็เหมือนจะเข้าใจความหมายที่เด็กชายคนนี้สื่อออกมา
เจี่ยซิวเป็นคนทำร้ายเขา
ฉินเฟิงช่วยเข้าไว้
พอเข้าใจกันแล้ว รอบๆ ก็เริ่มสนใจ แล้วก็หันไปมองเจี่ยซิว
“เอ่อ ผมยังมีธุระ ขอตัวก่อนแล้วกัน”
เจี่ยซิวเห็นว่าตนเองถูกจับได้ ก็เลยจะรีบหนีไป
ถ้ายังอยู่ ต้องถูกกระทืบแน่
แต่ว่า ตอนที่จะหนีไปนั้น เขาก็มองขวางใส่ฉินเฟิง เพราะไอ้คนนี้นี่แหละ ทำเสียแผนหมด เขาจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ เข้าใจคุณผิด เอาอย่างนี้ ผมคือเป็นประธานของจิวเวอร์รี่กรุ๊ปในเมืองเทียนหนาน ชื่อกู่จิ่งซาน พอถึงเมืองเทียนหนานแล้ว ผมจะให้คุณ10ล้าน เป็นค่าสินน้ำใจ ดีไหมครับ?”
กู่จิ่งซานทำตาหยี ไปที่ https://th.readeraz.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! จนมีคนรีบพูดออกมาว่า “ผมรู้จักบริษัทนี้ ใหญ่มากเลย ในเมืองเทียนหนาน ถือว่าเป็นบริษัทอันดับต้นๆ เลย”
“คิดไม่ถึงจริงๆ เมื่อครู่ผมเห็นคนคนนี้ ก็รู้ว่าเป็นคนรวย แต่ไม่นึกว่านะรวยขนาดนี้ บ๊ะ”
“นั่นสิ ไอ้หมอนี้ได้เงินไปเยอะเลย”
ทุกคนก็มีสีหน้าอิจฉาฉินเฟิง 10ล้านเลยนะ คนมากมายทั้งชีวิตก็ยังหาไม่ได้เลย
แต่ถูกคนนี้ ลงมือรักษาหน่อย ก็ได้เงินมาเลย
“น้องชาย ตกลงไหม?”
กู่จิ่งซานถามมาอีก ด้วยท่าทางคนมีเงิน
“ไม่จำเป็น”
ฉินเฟิงหันหลังเดินกลับไป
“เอ้า รอเดี๋ยว”
ฉินเฟิงพูดออกมา กู่จิ่งซานก็อึ้งไป จากนั้นก็รีบตามไป “คุณคิดว่ามันน้อยไปหรือเปล่า งั้น30ล้าน โอเคไหม ราคานี้กำลังโอเคเลยนะ”
กู่จิ่งซานนึกว่าฉินเฟิงเป็นพวกหวังเงิน
เลยเข้ามาช่วยลูกชายตนเอง
เขาก็เป็นคนชอบมีหน้ามีตา ดังนั้นจะไม่ให้เงินไม่ได้ ปฏิเสธ10ล้าน แต่จะเอา30ล้าน
ดังนั้น เขาก็เลยรีบพูดจำนวนเงิน30ล้านออกมา
เขามั่นใจ ว่าฉินเฟิงต้องรับไว้แน่
แต่ครั้งนี้ ฉินเฟิงหันหน้ากลับมา ทำให้กู่จิ่งซานดีใจ เป็นคนที่หวังเอาเงินนี่เอง แต่วินาทีต่อมา เขาก็อึ้งไป เพราะว่าฉินเฟิงไม่ได้เดินมาตรงหน้าเขา
แต่เดินไปตรงหน้าลูกชายของเขา ที่มีอายุเพียง2ขวบ
“เจ้าหนู พี่ช่วยหนูไว้ หนูมีอะไรจะพูดไหม?”
ฉินเฟิงเอามือลูบหัวเด็กชายคนนั้น
“ขอบคุณครับพี่ชาย”
เด็กชายคนเผยฟันขาวๆ ออกมา เผยรอยยิ้มออกมา แล้วพูดขอบคุณฉินเฟิง
และหลังจากที่ฉินเฟิงได้ยินแล้ว ก็หันหลังจากไป แล้วมาหยุดอยู่ข้างๆ ตัวกู่จิ่งซานครู่หนึ่ง “ที่ผมกลับมา ไม่ใช่เพราะเงินของคุณ แต่ไม่อยากเห็นเด็กผู้ชายอายุน้อยเท่านี้ ต้องมาจากโลกนี้ไป ไม่ใช่เพราะคุณ แต่เป็นเพราะลูกชายคุณ”
พูดจบ ก็จากไป
เหลือเพียงกู่จิ่งซานที่มีสีหน้าอึ้งๆ
เขาทำธุรกิจมาทั้งชีวิต วันนี้เพิ่งได้เห็นว่า บางเรื่องก็ไม่ใช่เงินจะสามารถจัดการได้
“ถือว่าคุณโชคดี ที่คุณชายของผมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ”
ฉีหยุนตามมาข้างๆ กอดอกยืนพูดด้วยเสียงไม่พอใจ
กู่จิ่งซานและภรรยาชื่อจางหรงหรง ก็รู้สึกอับอาย ก้มหน้าก้มตามองพื้น ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเฟิง ลูกชายคนเดียวของพวกเขาทั้งสองคน คงจะต้องตายไปแล้วแน่ๆ
พวกเขายังจะเข้าใจฉินเฟิงผิดไปอีก
“ผมเห็นว่าเขาก็จะไปเมืองเทียนหนานเหมือนกัน ผมก็เป็นคนมีชื่อเสียงเมืองเทียนหนาน พอถึงตอนนั้น ผมค่อยคิดหาวิธีปกป้องเขาก็แล้ว เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจครั้งนี้”
กู่จิ่งซานถอนหายใจออกมา
แต่ว่าก็ยังดี ที่ฉินเฟิงก็จะไปเมืองเทียนหนานเหมือนกัน เขามีกิจการอยู่ที่เมืองเทียนหนานเยอะอยู่ พอถึงเวลาที่วุ่นวายขึ้นมา เขาก็ยังสามารถช่วยปกป้องหนุ่มคนนี้ได้
ถือว่าได้ตอบแทนน้ำใจกันแล้ว
“ฉันบอกแล้ว ว่าพี่เป็นคนดี”
จูหลินชิงยิ้มๆ เผยฟันเขี้ยวออกมา เสื้อผ้าธรรมดาๆ บนตัว ทำให้ดูแล้วไร้เดียงสา
“ทำไม ยังไม่ขอร้องพี่อีกล่ะ?”
ฉินเฟิงเอามือไพล่หลังยิ้ม
“พี่รู้ได้อย่างไร?”
จูหลินชิงอึ้ง
“ก็สายตาที่หนูกังวลไงล่ะ มันปกปิดไม่ได้”
ฉินเฟิงถอนหายใจ ก่อนหน้านี้ที่จูหลินชิงพูดถึงย่าตนเองนั้น สายตามีความกังวลออกมา ในขณะเดียวกัน ในมือก็กำกระเป๋าผ้าไว้แน่น เห็นได้ชัดว่าในกระเป๋ามีของสำคัญมาก
และน่าจะเป็นเงิน
ดังนั้น ย่าของเธอ น่าจะป่วยหนัก
“ไม่แล้วล่ะค่ะ”
จูหลินชิงกลัวๆ ก็เลยปฏิเสธ
แต่ว่า ในตอนนี้ เสียงดังตี๊ด รถมาถึงสถานีแล้ว จากนั้นชายคนหนึ่ง ก็วิ่งลงมาจากอีกตู้หนึ่งของรถ แล้วกระชากเอากระเป๋าผ้าในมือของจูหลินชิง แล้ววิ่งหนีไป
เขามองออกนานแล้ว ว่าในกระเป๋าผ้านี้ต้องเป็นเงินแน่ๆ
แต่ว่า เสียงดังตุบ ฉินเฟิงเหยียดขาออกไป ชายคนนั้นคิดจะหลบ แต่ก็หลบไม่พ้น เสียงดังตุบ ล้มลงพื้น กระเป๋าผ้าในมือก็หลุดมาใส่มือของฉินเฟิง
“เดี๋ยวพี่กลับไปด้วย เข้าใจไหม?”
ฉินเผิงมีสีหน้าโหด
“อ๋า……ได้……อย่ามาโหดใส่กันนะ……”
จูหลินชิงเริ่มกลัว อยากจะวิ่งหนี แต่กระเป๋าอยู่ในมือฉินเฟิง เธอก็เลยไปไหนไม่ได้