เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 271 คิดบัญชีถึงที่ (3)
“ตระกูลหยูแห่งเมืองเป่ยไห่ หยูไห่หลงผู้เป็นเจ้าตระกูล พาองครักษ์เจ้าตระกูล3พันคนเข้ามาเป็นกำลังเสริม”
“ตระกูลหนานกงแห่งเมืองเซี่ยหลี หนานกงจื้อนำพาคนในตระกูลเข้ามาเป็นกำลังเสริม”
“ตระกูลหม่าหนึ่งใน5ตระกูลใหญ่แห่งหยางโจว มีหม่าสู้รับคำสั่งเจ้าตระกูล นำกำลังมาช่วยเหลือ”
พอเห็น3คนนี้ ทุกคนก็อึ้งๆ เพราะว่า3คนนี้ ล้วนเป็นเจ้าตระกูลของตระกูลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว โดยเฉพาะตระกูลหม่า เป็นตระกูลใหญ่ของหยางโจว!
เป็นตระกูลที่เก่งกาจยิ่งกว่าตระกูลอู๋
แต่ว่า วินาทีต่อมา ก็มีอีกคนหนึ่งเดินเข้ามา ปากก็พูดออกมานิ่งๆ ว่า “เฉินอาน หน่วยรบพิเศษเทียนหลาง รับคำสั่งเจ้าตระกูลหลินให้มาช่วยเหลือ”
คำพูดนี้ถึงแม้จะนิ่งๆ แต่กลับเหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ทุ่มลงใส่น้ำ เกิดเป็นลูกคลื่นถาโถมเข้ามา
“ให้ตายเถอะ หน่วยรบพิเศษเทียนหลาง หน่วยรบพิเศษเทียนหลางเป็นถึงหนึ่งในหน่วยรบพิเศษของต้าหัวเลยนะเนี่ย แต่ละคนในหน่วยรบพิเศษเทียนหลาง ล้วนเป็นสุดยอดทหารฝีมือดี ยศสูงๆ กันทั้งนั้น!”
“เป็นถึงคนของหน่วยเทียนหลางเลยหรือนี่ เจ้าตระกูลน่ากลัวมากเลย คนระดับนี้ก็เชิญมาได้”
“ครั้งนี้ Mr.Xตายแน่”
ผู้คนทั้งหมดของทั้ง3ตระกูลใหญ่ ก็ฮึกเหิมกันขึ้นมา ไม่ต้องพูดถึงที่ตระกูลใหญ่ๆ เข้ามาช่วยเหลือ แค่เฉินอานคนเดียว คนของหน่วยเทียนหลาง เป็นคนของหนึ่งในสามหน่วยรบพิเศษใหญ่ของต้าหัว แค่นี้ก็เพียงพอที่จะกวาดล้างได้ทั้งหมดแล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง Mr.Xตัวเล็กๆ ที่ปิดหน้าปิดตานี้หรอก
“ในเมืองเจียงเฉิง ให้คนแบบนี้มาอวดเบ่งได้ตอนไหนกัน”
เฉินอานสวมชุดทหาร ท่าทางองอาจ เขาอายุแค่28 ก็ได้เข้าร่วมหน่วยรบเทียนหลางแล้ว ถือได้ว่ามีผลงานตั้งแต่อายุยังน้อย
เขาถือตัวเองว่าเป็นที่หนึ่งในเมืองเจียงเฉิง
ไม่ได้กลับมาช่วงหนึ่ง คิดไม่ถึงว่า เมืองเจียงเฉิงจะมีคนแบบนี้โผล่มา
“หน่วยเทียนหลาง”
ฉินเฟิงยืนยิ้มเอามือไพล่หลัง
“เป็นไง กลัวหน่วยเทียนหลางของผมแล้วสิ? จะบอกให้นะ หน่วยเทียนหลางของเราเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษทั้ง3ของต้าหัว แต่ละคนที่ถูกเลือกให้จัดอยู่ในหน่วยรบเทียนหลางนี้ ล้วนเป็นยอดฝีมือระดับร้อยเอกทั้งนั้น”
เฉินอานเห้นว่าฉินเฟิงยิ้มออกมา แถมยังแฝงไปด้วยการดูถูก
ก็โมโหขึ้นมาทันที
หน่วยเทียนหลางออกจะยิ่งใหญ่ จะให้หมอนี่มาดูถูกง่ายได้อย่างไร?
“นั่นสิ หน่วยเทียนหลาง เป็นถึงหน่วยรบที่มีแต่คนเก่งๆ ของต้าหัว แค่คนอย่างหมอนี่ จะกล้ามาดูถูกได้ไง รนหาที่เสียจริงๆ” คนของตระกูลหม่าอีกคนก็เดินออกมาพูด
ท่าทางเคร่งขรึม ไม่โกรธแต่มีมาด แล้วก็พูดกระแทกไปว่า “Mr.X พวกคนกระจอกลับๆ ล่อๆ อย่างคุณ เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ทำเรื่องชั่วช้า ในหยางโจวของเรา อยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์หรอก ทุกคนล้วนตามฆ่าเอาชีวิตได้หมด”
“วันนี้ ตระกูลหม่าแห่งหยางโจวเรา ก็มาเพื่อจะจัดการคนชั่วอย่างคุณนี่แหละ”
พอคนของตระกูลหม่าด่าออกมา กลุ่มคนทางด้านหลังของเขา ก็เผยรังสีอาฆาตออกมา มีทั้งหมด50คน ล้วนเป็นที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี เป็นคนที่พร้อมฆ่าฟัน
“วันนี้พวกเราก็มาเพื่อจัดการกับคนที่เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ทำเรื่องชั่วช้าอย่างคุณ”
“ใครๆ จะฆ่าก็ได้”
เจ้าตระกูลที่เหลืออีก2คน ก็พูดออกมาตามด้วยเหมือนกัน
แต่จ้าวไต้ซือคนนั้น ยืนเอามือไพล่หลังหัวเราะเย็นออกมาว่า “ไอ้หนู วันนี้ กูจะใช้มวยตระกูลจ้าว ต่อยให้มึงตายทีละหมัดๆ ต่อยให้กระดูกมึงแหละไปทุกๆ ส่วนเลย”
“เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ทำเรื่องชั่วช้า มวยตระกูลจ้าวงั้นหรือ”
ฉินเฟิงหัวเราะ
จากนั้น ก็ส่งสัญญาณมือให้ฉีหยุน
“หม่าเทียนไท่ เจ้าตระกูลหม่าของหนึ่งใน5ตระกูลใหญ่แห่งหยางโจว กระทำเรื่องผิดศีลธรรม ปีก่อนนี้ ได้ใช้วิธีต่างๆ กระทำไม่ดีต่อเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ13คน ถึงขั้นมีคนตายในเหตุการณ์นั้นด้วย เพื่อที่จะต้องที่ดินผืนหนึ่ง ถึงกับต้องส่งคนเข้าไปในตระกูลนั้น แล้วฆ่าล้างตระกูล เหลือไว้เพียงเด็กหญิงอายุ13ปี ไปที่ https://th.readeraz.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! ใช้วิธีต่างๆ กระทืบสามีของเขาจนตายทั้งเป็น แล้วก็ข่มขืนภรรยาของผู้ชายคนนั้น ต่อมาผู้หญิงคนนั้นฆ่าตัวตาย จากนั้นก็ถูกตำรวจมาตามตัวถึงที่ แต่กลับใช้อำนาจของตระกูลบีบจนตำรวจต้องยอมถอย เรื่องนี้ก็เลยต้องเงียบไป”
“ตระกูลหนานกงแห่งเมืองเซี่ยหลี เป็นใหญ่ในเมืองเซี่ยหลี ถือสิทธิ์ครองที่ดินชานเมือง แต่ไม่มีเงินค่าตอบแทนให้สักแดงเดียว ต่อมามีคนมาเรียกร้อง กลับถูกพวกคุณจัดการจนต้องเข้าไปนอนในคุก ถูกตัดสินจำคุกตั้ง20ปี”
ฉีหยุนอ่านออกมาเป็นคำๆ
พออ่านจบ ฉินเฟิงก็มองทุกคนไปรอบๆ “” เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ทำเรื่องชั่วช้างั้นหรือ? ไม่เพียงเป็นการใส่ความกันมา ยังจะต้องมาพูดอะไรกันอีก พวกคุณเอาเรื่องชั่วทั้งหมดมาโยนใส่หัวผม ทุกท่านนี่หน้าด้านจริงๆ เลยนะ
แค่ประโยคเดียว ก็เล่นเอาเงียบกันไปทั้งงาน
ที่เงียบไปไม่ใช่เพราะความผิดที่เล่ามา แต่เป็นเพราะข้อมูลที่เตรียมมาก่อนหน้านี้
ได้เตรียมมาล่วงหน้าแล้ว
แสดงให้เห็นว่า Mr.Xรู้ดีว่าหลินเย่าตุงจะเอาใครมาช่วย!
ราวกลับว่าทุกการกระทำล้วนอยู่ในการควบคุมของMr.Xทั้งหมด ทันใดนั้นก็รู้สึกเย็นๆ ที่สันหลังขึ้นมาทันที
“Mr.X คุณนี่กล้ามากนะ ที่กล้ามาใส่ร้ายตระกูลหม่าของเรา ตระกูลหม่าของเราไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ อย่ามาใส่ร้ายกัน หม่าอู่ ไปสั่งสอนหมอนี่หน่อยไป”
พอหม่าสู้สั่งการลงไป
ทางด้านข้าง ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมา ในมือมีผ้าขาวพันมืออยู่ ร่างกายก็ปล่อยรังสีอาฆาตออกมา
“หม่าอู่ คนนี้ผมรู้จัก เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลหม่า กำปั้นสองข้างรุนแรงมาก และผมยังได้ยินว่า ได้รับการสืบทอดวิชาจากสำนักอู่เหมิน เป็นลูกศิษย์ของสำนักอู่เหมิน”
พอมีคนพูดขึ้นมา แล้วก็ตกใจกัน
สำนักอู่เหมิน
เป็นองค์กรบู๊อันดับหนึ่งของประเทศต้าหัว เจ้าสำนักชื่อจ้าวยวน ถูกขนานนามว่าเป็นอันดับสองของแผ่นดิน
น่ากลัวมาก
“ไอ้หนู ขอเตือนเอ็งหน่อยนะ กูน่ะเป็นลูกศิษย์ของสำนักอู่เหมิน ถ้าไม่ระวัง กูต่อยมึงตาย มึงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตายด้วยหมัดไหน”
มุมปากของหม่าอู่เผยความร้ายออกมา
เขาเป็นถึงลูกศิษย์ของสำนักอู่เหมิน อัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลหม่า
ครั้งนี้ มาเพื่อเป็นหลักให้กับตระกูลหม่าโดยเฉพาะ
พูดจบ เขาก็ขยับตัว วินาทีต่อมา ก็มาโผล่ตรงหน้าของฉินเฟิงแล้ว กำปั้นต่อยออกมาอย่างรุนแรง เกิดเป็นเสียงออกมาให้ได้ยินว่ามันเร็วมาก ทำให้คนรอบๆ ตั้งสติกันมาไม่ทัน
แต่ว่า พวกเขารู้ว่าMr.Xจะต้องตายแน่ๆ
แต่ว่า
เสียงดังสึบ
ดาบรบเล่มหนึ่ง ก็ปักเข้าที่กลางอกของหม่าอู่ ทำให้หม่าอู่ตัวแข็งทื่อ รู้สึกว่าในลำคอมีอะไรคาวๆ เจ็บๆ ที่หน้าอก แล้วก็กระอักเลือดออกมาอย่างแรง จากนั้นก็ลืมตาโต มองดูคนตรงหน้า
กลับไม่ใช่ฉินเฟิง
แต่เป็นฉีหยุนที่ยืนอยู่ข้าง จนคนอื่นไม่สนใจ
“จะมาสู้กับนายกู มึงยังไม่มีสิทธิ์”
ฉีหยุนหัวเราะเย็นออกมา
จากนั้น ก็ชักดาบรบของตัวเองกลับออกมา เสียงดังสึบ หม่าอู่ล้มลงพื้น ดวงตาทั้งสองก็มองMr.Xและฉีหยุนอย่างไม่ยอม เขาเป็นถึงอัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลหม่า เป็นลูกศิษย์ของสำนักอู่เหมิน สำนักอู่เหมินเลยนะ
องค์กรบู๊อันดับหนึ่งของต้าหัว
แต่ตอนนี้ กลับมีสภาพแบบนี้
ถูกจัดการไปแล้ว
ตายไปอย่างไม่ยอม
และในตอนนี้ คนรอบๆ ก็มองหม่าอู่ที่ลืมตาโตออกมาอย่างนั้น ทุกคนแทบจะหยุดหายใจ และมีคนส่วนใหญ่เริ่มขนหัวลุกขึ้นมา แบบนี้อีกแล้ว
ถูกจัดการอีกแล้ว
ราวกับว่า ไม่ว่าจะใช้กำลังยิ่งใหญ่แค่ไหน เมื่อเผชิญหน้ากับMr.X ก็มีแต่จะถูกกำจัดไปหมด
ช่างทำให้คนแทบจะหยุดหายใจจริงๆ
“ต่อไหม เออ เอางี้ เข้ามาพร้อมกันเลยไหม” ฉินเฟิงยืนไพ่ลหลัง พูดออกมานิ่งๆ
ทุกคน: “……”