เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 268 อิ่นซิน: ฉัน ฉันคิดถึงคุณแล้ว
ตระกูลหลิน
กระจัดกระจายยุ่งเหยิง มีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ด้านนอกสนาม สีหน้าดูตื่นตระหนกและไม่สบายใจ ความจองหองตรงหว่างคิ้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย
พวกเขาเพิ่งเห็นหลินชิวที่กลับมาอย่างทุลักทุเล
สามารถจินตนาการถึงผลลัพธ์ได้
ดังนั้นพวกเขาจึงตื่นตระหนกและหวาดกลัว!
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าตระกูลอันดับหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในเมืองเจียงเฉิง ที่เที่ยวใช้อำนาจบาตรใหญ่ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรมาก ในที่สุดก็มีวันที่เป็นเช่นนี้
แต่ในลานภายในไม่มีคนมากนัก ถูกหลินเย่าตุงส่งสายตาไล่ออกไปแล้ว
ในลานภายในมีเพียงสามคน หนึ่งคือหลินเย่าตุงที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ สวมแว่นตา สวมเสื้อคลุมสีดำ ส่วนอีกคนคือโจวจือเชียนที่สวมชุดกี่เพ้า รูปร่างสง่างาม หางตางอนดุจหงส์
ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งคนคือหลินชิว นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นด้วยสีหน้าความกลัว
“ตายแล้ว ตายหมดแล้ว ท่านเจ้าบ้าน คนของตระกูลอู๋ทั้งหมดตายแล้ว Mr.X ไม่ใช่คน เขาคือปีศาจ ท่านเจ้าบ้าน พวกเรารีบหนีกันเถอะ รีบหนีไป”
หลินชิวคุกเข่าอยู่กับพื้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“หนีไป?”
หลินเย่าตุงลุกขึ้นยืนช้าๆ และเดินเข้าไปอยู่ตรงหน้าหลินชิว
“ใช่แล้ว หนี Mr.X น่ากลัวเกินไป ฉัน…”
ยังพูดไม่ทันจบ
อุ๊บ
เลือดพุ่งกระฉูดออกจากลำคอของหลินชิว หลินชิวเอามือจับลำคอ มองไปข้างหน้าอย่างคับข้องใจ ตนเองนั้นให้ความเคารพท่านเจ้าบ้านอย่างสูงมาโดยตลอด
“เสี่ยวชิว ไม่ใช่ว่าลุงตงไม่ให้โอกาสคุณมีชีวิตอยู่นะ แต่คุณไม่ต้องการอยู่เอง คุณก็ถือว่าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ในตระกูลแล้ว ทำไมถึงดูถูกตัวเองแบบนี้ แล้วยังบอกให้หนีไปอีก ฮ่า พวกเราจะหนีทำไมกัน”
หลินเย่าตุงหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา เช็ดมีดในมืออย่างละเอียดรอบคอบ
“พวกหนีไปไม่ได้แล้ว”
โจวจือเชียนกล่าวด้วยสายตาที่ซับซ้อน
เธอรู้สึกได้ว่าทั่วทั้งหลินโจวถูกปกคลุมด้วยตาข่ายขนาดใหญ่ เมื่อวานนี้เธอจองตั๋วไปยังเมืองอื่น ต่อมาก็พบว่าเธอไม่สามารถจองได้ มีปัญหาบางอย่างกับข้อมูลประจำตัวของเธอ
จากนั้นเธอก็พบว่าเธอไม่สามารถออกจากเมืองเจียงเฉิงได้
ตาข่ายใหญ่ จับเธอไว้ได้อยู่หมัด
“ใช่ พวกเราหนีไปไหนไม่ได้แล้ว ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสู้อย่างหมาจนตรอก”
หลินเย่าตุงชักมีดกลับ นั่งลง ดันแว่นตาตัวเองขึ้น คนที่มีชื่อเสียงในเรื่องวางแผนช่างเขา ในเวลานี้เสียงเคาะนิ้วลงบนเก้าอี้ของเขาได้เร่งความเร็วขึ้น
โจวจือเชียนรู้ว่าหลินเย่าตุงกำลังตื่นเต้น
เธอไม่อยากจะเชื่อ นี่คือบุคคลอัจฉริยะในรอบร้อยปีของตระกูลหลินที่เลื่องลือกันว่าหาได้ยาก แต่ตอนนี้กลับถูก Mr.X ที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าบีบบังคับจนอยู่ในสภาพนี้
ในความเป็นจริงเธอเองก็เหมือนกัน
เมื่อวานนี้ได้พบกับโจวซวนซวนอีกครั้ง ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเธอ
รสชาติแบบนี้ มันย่ำแย่มาก
รู้ว่าความตายอยู่ตรงหน้า แต่ตนเองก็ไม่สามารถหยุดมันได้
…
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ข่าวใหญ่ได้กระจายไปทั่วเมืองเจียงเฉิง ตระกูลอู๋ตระกูลใหญ่แห่งหลินโจว ได้รับคำเชิญจากตระกูลหลิน เพื่อให้บุกจู่โจมเมื่อคืนก่อน แต่กลับต้องการฆ่า Mr.X
จากนั้นก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
หายสาบสูญไป?
สมาชิกอาวุโสของตระกูลหลินรู้ว่า นี่ไม่ใช่การหายสาบสูญ แต่ตายไปแล้ว ตายหมดแล้ว
ตอนแรกตระกูลเห้อก็เป็นเช่นนี้ สุดท้ายบีบให้ตระกูลเห้อต้องมาขอโทษถึงบ้าน ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคนของตระกูลเห้อต้องหักแขนข้างหนึ่งของตัวเอง ยุบตระกูลเห้อทิ้ง ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเห้อก็ถูกบริจาคให้กับโครงการสงเคราะห์เด็ก
จึงจะสามารถรอดพ้นจากหายนะมาได้
แต่ถึงจะไม่ใช่การฆ่าล้างตระกูล แต่มันก็ไม่ต่างอะไรกัน
ส่วนตระกูลอู๋ ครั้งนี้ทุกคนต่างคาดเดาได้ว่า ตระกูลอู๋ถึงเวลาจบสิ้นแล้ว
“Mr.X คนนี้เก่งกาจมากกว่าที่ฉันคิด แม่ของเขามาจากตระกูลอู๋ในหลินโจว นั่นคือตระกูลใหญ่แห่งทวีป แต่ตอนนี้ถูกทำลายลงเช่นนี้ น่ากลัวเหลือเกิน”
“ไม่ใช่แค่น่ากลัวนะ พวกคุณไม่สังเกตเห็นหรือว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถตรวจสอบหัวนอนปลายเท้าของ Mr.X ได้?”
“นี่ต่างหากคือสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุด ไม่มีใครรู้ว่า ขีดจำกัดของ Mr.X อยู่ที่ตรงไหน”
“อีกอย่าง วันนี้เป็นวันที่ Mr.X มาเยี่ยมถึงบ้าน น่าสะพรึงกลัว เมืองเจียงเฉิงในวันนี้ไม่มีความปลอดภัยเลย ฉันได้ยินมาว่ามีบุคคลใหญ่โตหลายท่านล้วนมาถึงเมืองเจียงเฉิงแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะรับมือ Mr.X คนนี้ได้หรือไม่”
วันนี้พอเริ่มต้นขึ้นก็มีผู้คนมากมายพากันพูดคุยเกี่ยวกับ Mr.X
คนคนนี้ คือคนร้ายของเมืองเจียงเฉิง
และในขณะนั้นเอง ‘ตู๊ดตู๊ด’ มีโทรศัพท์โทรมาหาอิ่นซิน อิ่นซินรับสายแล้วกล่าวว่า “ลานเมิ่ง วันนี้เธอโทรหาฉันเพราะเรื่อง Mr.X ใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว สมกับที่เป็นเพื่อนรักของฉัน ฉันยังไม่ทันพูด เธอก็เดาถูกแล้ว”
น้ำเสียงของหลิวลานเมิ่งแฝงไปด้วยความตื่นเต้น
ถึงอย่างไร วันนี้ก็เป็นวันสำคัญของเจ้านายใหญ่
“เสี่ยวซิน วันนี้เธอจะไปหรือเปล่า ไม่ไปเกรงว่าจะไม่ได้นะ พวกเราคือพนักงานที่มีความสามารถใต้บังคับบัญชาของ Mr.X” หลิวลานเมิ่งรีบถาม นั่นคือเหตุผลที่เธอโทรมาหา
“ไปมั้ยเหรอ? เอ่อ…”
อิ่นซินค่อนข้างลังเลเล็กน้อย
พูดตามตรง เธอไม่ค่อยอยากไปเท่าไรนัก เพราะวันนี้เป็นวันที่ฉินเฟิงบอกว่าจะกลับมา เขาบอกแล้วว่าจะกลับมาในวันนี้ เธอไม่อยากไปไหน อยากจะรอฉินเฟิงอยู่ที่บ้าน
นี่ต่างหากคือสิ่งที่ภรรยาที่ดีควรทำ
“เอ่อ…เอ่อ…เธอคงไม่ได้กำลังคิดถึงฉินเฟิงนั่นอีกหรอกนะ…ฉัน…ช่างมันเถอะ…เออใช่ เสี่ยวซิน เธอมักจะคิดอยู่เสมอว่า Mr.X เกี่ยวข้องกับฉินเฟิงไม่ใช่เหรอ? ครั้งนี้ Mr.X ต้องไปแบบเปิดเผยโฉมหน้าแน่นอน ปกติเขาเอาแต่หลบเธอ ครั้งนี้ไม่ได้แล้ว ดังนั้นเมื่อเธอพบ Mr.X แล้ว ได้เผชิญหน้ากับเขาที่งาน เธอก็จะรู้ว่า ใช่หรือไม่?”
เดิมทีหลิวลานเมิ่งอยากจะบอกว่าฉินเฟิงเป็นพวกเศษสวะ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป
เพราะถ้าพูดออกไป เสี่ยวซินต้องโกรธอีกแน่
จากนั้นก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา เปลี่ยนหัวข้อสนทนาในทันที ไปคุยเรื่องความเกี่ยวข้องของ Mr.X กับฉินเฟิง
ครั้งก่อนเสี่ยวซินรู้สึกอยู่เสมอว่า Mr.X กับฉินเฟิงมีความคล้ายกัน แต่ครั้งที่แล้ว พวกเขาเพิ่งได้พบกันเพียบแวบเดียว ครั้งนี้ Mr.X จะปรากฏตัว ให้เสี่ยวซินได้เห็นจนพอ
เช่นนี้ จะเป็นการดับฝันของเสี่ยวซินอย่างเด็ดขาด
“เอ่อ…”
อิ่นซินยังคงลังเลอยู่เล็กน้อย วันนี้เป็นวันที่ฉินเฟิงกลับมา
“เสี่ยวซิน Mr.X เป็นเจ้านายของเธอ เคยมีบุญคุณอุปถัมภ์ค้ำชูเธอ เธอคงไม่คิดอกตัญญูแบบนี้หรอกนะ เรื่องใหญ่แบบนี้ยังไม่สนับสนุนเสียหน่อย? เธอเป็นพนักงานของเขา ส่วนเรื่องฉินเฟิงน่ะ เธอโทรหาเขา ถามว่าจะกลับว่าเมื่อไหร่ ก็เรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ”
หลิวลานเมิ่งพยายามเกลี้ยกล่อมปากเปียกปากแฉะ ถึงขนาดเอาเรื่องบุญคุณมาอ้าง
ตอนนี้มันเป็นเรื่องยากสำหรับอิ่นซินที่จะปฏิเสธ เธอได้รับความช่วยเหลือจาก Mr.X มามาก ดังนั้นหลังจากลองคิดดู เธอก็วางสายโทรศัพท์ แล้วโทรหาฉินเฟิง
“ที่รัก?”
เสียงของฉินเฟิงดังผ่านมาทางโทรศัพท์
“เอ่อ คุณจะกลับมาเมื่อไหร่คะ?” อิ่นซินถามเสียงแผ่วเบา
“ตอนบ่าย ตอนเช้าผมมีบางอย่างต้องไปจัดการ”
“งั้นก็ดี ตอนเช้าฉันก็มีเรื่องต้องทำเหมือนกัน ถ้าอย่างตอนบ่ายฉันจะรอคุณอยู่ที่บ้านนะ”
ตู๊ด
อิ่นซินวางสายโทรศัพท์ แต่เมื่อเห็นคำว่า ‘ฉินเฟิง’ อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ เธอก็ตกอยู่ในภวังค์ในทันใด พึมพำอยู่ในใจว่า “วันนี้จะได้พบคุณแล้ว หวังว่าสัญญาครึ่งปีของคุณจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
“ฉัน…ฉันคิดถึงคุณ…แล้ว”