เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 263 ทีม SS พ่ายแพ้ย่อยยับ
ฉินเฟิงกวาดสายตามองไปที่ฝูงชน “ทีมมาตรฐาน 7 คนนี้มีสไตล์คล้ายกับของสำนักวิหารศักดิ์สิทธิ์มาก ใครคือผู้นำ แจ้งรหัสและระดับของพวกคุณมา”
“จองหอง!”
กุหลาบเลือดแดงเห็นฉินเฟิงไม่เกรงกลัว แต่ยังมาถามรหัสของพวกเขาก็โมโหทันที
“สำนักวิหารศักดิ์สิทธิ์ ทีม B567 ระดับ SS ได้รับคำตอบนี้ก่อนตาย พอใจแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ตายตอนนี้เลยแล้วกัน ทุกคนบุก สังหารผู้ชายคนนี้”
สาวงามในชุดกี่เพ้าก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นหัวหน้าทีม
เธอออกคำสั่ง ฆ่า!
ในเวลานี้การโจมตีได้มาถึงตัวฉินเฟิงแล้ว แต่ฉินเฟิงก็ขยับตัวหลบหลีกอีกครั้ง จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและหลบอีกกระบวนท่า พลางพูดเบาๆ “ใช้ทีม SS มาจัดการฉัน มันไม่ดูถูกกันไปหน่อยเหรอ”
“จองหอง!”
กุหลาบเลือดแดงสบถด้วยความโกรธ
เขาไม่เคยเห็นใครที่จองหองเช่นนี้มาก่อน ทีม SS เป็นหนึ่งในทีมชั้นนำในสำนักวิหารศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ยังกล้าบอกว่าดูถูกเขามากเกินไป ไม่เคยเห็นใครอวดดีเช่นนี้มาก่อน
รู้ไหมว่าสำนักวิหารศักดิ์สิทธิ์หมายถึงอะไร
“ฆ่ามัน”
กุหลาบเลือดแดงออกคำสั่งอีกครั้ง หมัดเหล็กและคู่แฝดก็รีบพุ่งมาจากทางด้านหลัง กุหลาบเลือดแดงยิ้มเยาะ “หมัดเหล็ก มีฉายาว่าเป็นปาซางคนต่อไป หมัดเหล็กคู่อันทรงพลังไม่มีใครเทียบได้ ยังมีคู่แฝดสองคนนั้น กินนอนด้วยกันตั้งแต่วัยเด็ก ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาด้วยกัน ความเข้าใจกันและกันของพวกเขาไม่มีใครเทียบได้ เพียงพอที่จะฆ่าคุณ…”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอก็ไม่สามารถพูดต่อได้อีก
เพราะในเวลานี้ฉินเฟิงได้บดขยี้คู่แฝดจนตายแล้ว เขาพูดเบาๆ ว่า “รู้ใจกันดีนะ แต่ความแข็งแกร่งยังด้อยเกินไป”
วินาทีถัดมา เขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหมัดเหล็กอีกครั้ง พลางกระซิบข้างหูของเขาว่า “ในเมื่อคุณมีฉายาว่าปาซางคนต่อไป ถ้าอย่างนั้นคุณก็น่าจะรู้จักหน้ากากบนใบหน้าของผม”
หมัดเหล็กตัวแข็งทื่อ
เขาสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่า มันเหมือนกับหน้ากากปีศาจแยกเขี้ยวของปาซางมาก!
เหมือนมากจริงๆ!
แต่เขาก็ไม่แน่ใจ
แต่ตอนนี้ Mr.X พูดมาเช่นนี้ ทำให้เขาแน่ใจว่า นี่คือหน้ากากของปาซางจริงๆ
อันดับ 1 ในประกาศมืด มีฉายาว่าราชาเทพ ปาซาง!
แต่กุญแจที่สำคัญที่สุดคือ ปาซางตายแล้ว!
ตายแล้ว!
“ปาซางก็ตายในน้ำมือของผมแล้ว คุณคิดว่าปาซางคนต่อไปอย่างคุณจะมีประโยชน์อะไร?”
ประโยคนี้ดังเข้าไปในหูของหมัดเหล็ก
รูม่านตาของหมัดเหล็กหดตัว “ต้าหัว…”
คำพูดด้านหลังเขายังไม่ทันพูดออกมา ก็ได้ยินเสียงปริแตกที่ลำคอ เขาถูกบีบจนคอหัก ‘ตุ้บ’ ศพร่วงลงไปกองกับพื้น
ดวงตาทั้งสองเบิกโพลง ตายตาไม่หลับ
คำพูดของเขายังไม่ทันได้พูดออกมา เขาจะพูดว่าเทพสงครามอันดับหนึ่งแห่งประเทศต้าหัว!
เป็นที่รู้กันดีว่า ปาซางตายด้วยน้ำมือของเทพสงครามอันดับหนึ่งแห่งประเทศต้าหัว ถ้าชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คือเทพสงครามอันดับหนึ่งแห่งประเทศต้าหัวล่ะก็ อย่าว่าแต่พวกเขาเหล่านี้เลย ต่อให้เป็นประมุขสำนักวิหารศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีประโยชน์
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาตายแล้ว
“สมควรตาย! ก็ตายแบบนี้เลยเหรอ?”
ปฏิกิริยานี้ทำให้คนที่เหลืออยู่ถึงกับตกตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกุหลาบเลือดแดงที่งุนงงมาก นี่คือกลุ่ม SS ของเขาซึ่งอยู่ในอันดับต้นๆ ของสำนักวิหารศักดิ์สิทธิ์
แต่ตอนนี้มาตายแบบนี้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นยังเกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาที ความเร็วของ Mr.X ทำให้เธอไม่ทันตั้งตัว
“เจมส์ สกัดการเคลื่อนไหวของเขา”
กุหลาบเลือดแดงชิงจังหวะออกคำสั่งทันที คุณมีความเร็ว วิเศษมาก แต่ต่อให้คุณจะมีความเร็วแค่ไหน จะเร็วไปกว่ากระสุนปืนได้หรือ?
สกัดไว้!
ปังๆๆ
หลังจากได้รับคำสั่ง เจมส์ก็ยืนอยู่ที่ด้านนอกของชั้นบนสุดตรงระเบียงดาดฟ้าพร้อมกับปืนบาร์เร็ตต์ เล็งไปที่ศีรษะของฉินเฟิง เหนี่ยวไกปืนยิงออกไปสามนัดติดต่อกัน “ไปตายซะ!”
กระสุนสามนัดพุ่งตรงไปยังท้ายทอย มือซ้าย และมือขวาของฉินเฟิง
สามทิศทาง
ปิดเส้นทางหลบหนีที่เป็นไปได้ของฉินเฟิง
นี่เป็นบทที่เขาถนัดมาก เขาไม่เชื่อว่าแบบนี้ฉินเฟิงจะยังหลบพ้นอีก
แต่ทว่า ฉินเฟิงได้คาดคะเนด้วยระยะก้าว หลบออกมาตามช่องว่างระหว่างสามทิศทาง กระสุนทั้งสามนัดกระทบกับพื้นดินอย่างจัง
“หนีไปแล้วเหรอ?”
เจมส์ที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าอาคารฝั่งตรงข้ามตกตะลึง ขนาดนี้ยังจะหลบได้อีก?
เขาโมโห เขาเป็นพลซุ่มยิง แต่ศัตรูหลบได้ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น เขาคว้าปืนอีกครั้ง เตรียมจะยิงออกไปอีก
แต่ในขณะที่เขากำลังเล็งเป้าหมาย ก็พบว่ามีแสงสีเงินพุ่งออกมา เขาคิดจะหลบแต่มันก็สายเกินไปแล้ว
อ๊อก
มีดเล่มหนึ่งเฉือนผ่านลำคอของเขา เลือดพุ่งกระฉูดเป็นวงกว้าง จากนั้นก็หมุนรอบเหมือนบูมเมอแรง หมุนกลับมาอีกครั้งในอีกองศาหนึ่ง
เหลือเพียงเจมส์ที่อยู่บนระเบียงดาดฟ้า กอดปืนไรเฟิลซุ่มยิงเอาไว้ ลำคอมีเลือดไหลริน เขาตายแล้ว
‘หมับ’
ฉินเฟิงรับมีดของตัวเองไว้ แล้วพูดว่า “คนที่สี่แล้ว ยังเหลืออีกสามคน”
ฉินเฟิงกวาดสายตามองไปทางฝูงชน เฒ่าหน้าผีคนหนึ่ง กุหลาบเลือดแดงคนหนึ่ง ค้อนพันโลที่มีน้ำหนัก 200-300 ชั่งคนหนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า “ยังต้องการเล่นอีกไหม? พวกอ่อนหัด?”
น้ำเสียงของสุขุม ทำให้กุหลาบเลือดแดงโกรธมาก
หมายความว่าอย่างไร!
อ่อนหัด พวกเขาเป็นใคร ทีม SS ทีมนักฆ่าอันดับสูงสุดในสำนักวิหารศักดิ์สิทธิ์ ใครเห็นพวกเขาก็ต้องรีบวิ่งหนี แต่ตอนนี้ถูกด่าว่าเป็นพวกอ่อนหัด
ประเด็นสำคัญคือ เมื่ออยู่ต่อหน้าฉินเฟิง ก็เป็นพวกอ่อนหัดจริงๆ
ทีมเจ็ดคน ตายไปแล้วสี่คน
แล้วจะเล่นอะไรได้อีก
“ถอย”
ทันทีที่กุหลาบเลือดแดงออกคำสั่งก็ไม่ต้องสู้อีกแล้ว สูญเสียไปแล้วครึ่งหนึ่ง จะเอาอะไรไปสู้อีก ถอยก่อนดีกว่า จากนั้นค่อยรอการตัดสินใจจากเบื้องบน
แต่ตอนที่เดินออกมาจากประตูใหญ่ เสียงดังปัง ศีรษะอันละเอียดอ่อนสง่างามของกุหลาบเลือดแดงได้ระเบิดออก ชายคนหนึ่งสวมเสื้อแขนสั้นเดินออกมาจากทางด้านข้างพร้อมกับเช็ดมือด้วยทิชชู
เจียงเจิ้นนั่นเอง
“ใต้…”
เฒ่าหน้าผีและค้อนพันโลที่อยู่ทางด้านหนึ่งมีสีหน้าตกใจ กำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่ทว่า ‘หมับ’
ลำคอของพวกเขาสองคนถูกซ่างเปียวที่อยู่ด้านหลังจับเอาไว้ จากนั้นจึงออกแรงบีบ บีบลำคอของพวกเขาทั้งสองอย่างแรง
เสียงดังโครมอีกครั้ง
จับโยนลงบนพื้นดิน
จนถึงตอนนี้ สมาชิกทั้งเจ็ดของทีม SS ได้เสียชีวิตทั้งหมด ไม่มีใครโชคดีรอดชีวิต
ส่วนเจียงเจิ้นก็เดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าละเอียดอ่อนงดงาม หัวเราะขึ้นมาอย่างไร้เดียงสา “Mr.X ผมขอโทษ ไม่รู้ว่าพวกโจรกระจอกนี้บุกเข้ามาจากไหน ขอโทษ ขอโทษอย่างยิ่ง เอาแบบนี้แล้วกัน ต่อไปคุณสามารถว่าจ้างคนของบอดี้การ์ดมังกรได้โดยมีส่วนลด 30% คุณคิดยังไง”
“ไม่ต้อง”
ฉินเฟิงปฏิเสธ จ้างคนของบอดี้การ์ดมังกรของคุณเหรอ?
จ้างคนมาฆ่าฉันเหรอ
“แต่เจียงเจิ้นฝึกอบรมทีม SS ด้วยราคาไม่น้อยเลยนะ แต่มาถูกฆ่าแบบนี้ มันไม่น่าเสียดายหรอกหรือ? เหลือไว้สามคน เอาไว้ฝึกอบรมในอนาคต มันจะไม่ดีกว่าเหรอ” ฉินเฟิงกล่าวโดยเอามือไพล่หลัง
“Mr.X พูดเล่นแล้วล่ะ โจรกระจอก ตายไปแล้วสี่คน จะตายอีกสามก็ไม่รังเกียจใช่ไหม โจรกระจอกพวกนี้จะมาเทียบกับมิตรภาพระหว่างเราทั้งสองได้ยังไง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บอดี้การ์ดมังกรกับ Mr.X จะก้าวหน้าไปพร้อมกัน ถอยด้วยกัน” เจียงเจิ้นพูดด้วยรอยยิ้มอย่างคนโง่ไร้พิษสง
น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่มีเจตนาฆ่าแฝงอยู่ในทุกคำพูด
“ก็น่าจะ”
ฉินเฟิงหัวเราะในทันใด