เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 262 ทีม SS
“มีอะไรเหรอ?”
อิ่นซินถามด้วยความไม่เข้าใจ สีหน้ามึนงง
“ฮึ! ขนาดเรื่องนี้ยังไม่บอกฉันเลย ไม่ยุ่งกับเธอแล้ว” หลิวลานเมิ่งเอามือกอดอกแล้วหันไปทางอื่น
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
ตอนนี้อิ่นซินยิ่งสับสนมากขึ้น
เกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆ ทำไมหลิวลานเมิ่งถึงได้โกรธแบบนี้
พอเห็นหลิวลานเมิ่งไม่บอกเธอ อิ่นซินจึงต้องอุ้มฉินกั่วกั่วขึ้นมาและถามเบาๆ ว่า “ที่รัก น้าหลิวของเธอเป็นอะไรไปเหรอ? อยู่ดีๆ ก็มาโกรธแม่”
“อืม…”
ฉินกั่วกั่วกินวุ้นผลไม้อันหนึ่งไปพร้อมกับพูดว่า “เพราะพ่อทูนหัวของกั่วกั่ว”
“พ่อทูนหัว? ลูกยอมรับพ่อทูนหัวตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมแม่ไม่รู้เรื่องเลยล่ะ”
อิ่นซินรู้สึกงุนงงเป็นรอบที่สาม
“คุณพ่อแนะนำให้หนู พ่อทูนหัวดีกับหนูมาก” กั่วกั่วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนเยาว์สดใส
ตอนนี้อิ่นซินถึงรู้แล้วว่า พ่อทูนหัวคนนั้นฉินเฟิงเป็นคนบอกให้นับถือ เธอพูดไม่ออกไปในทันใด ถึงอย่างไรกั่วกั่วก็เป็นลูกสาวของฉินเฟิง ฉินเฟิงเองก็เป็นพ่อของกั่วกั่ว
พ่อผู้ให้กำเนิด
มีสิทธิ์ที่จะให้ลูกสาวของตัวเองไหว้พ่อทูนหัว
“ไม่มีอะไรที่ไม่ดี”
หลังจากอิ่นซินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เธอก็เข้าไปหาหลิวลานเมิ่ง หัวเราะปลอบใจพลางพูดว่า “ก็แค่พ่อทูนหัวคนเดียว เธอจะมาโกรธอะไรหนักหนา เด็กดี เลิกตีโพยตีพายได้แล้ว มากินวุ้นผลไม้กัน”
“ฮึ”
หลิวลานเมิ่งหันหน้าไปทางอื่นอีกครั้ง
หมายความว่าอย่างไรแค่พ่อทูนหัวคนเดียว เขาเป็นถึงประธานของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปเชียวนะ เป็นเจ้านายของฉัน
เธอรู้แล้วยังจะโกหกฉัน
ในขณะที่พวกเธอสองคนกำลังโมโห ทางด้านบนก็ตัดสินแพ้ชนะได้แล้ว เจียงเจิ้นเอามือลูบศีรษะ “เฮ้อ แพ้หมดเลยสิบสองตา ไม่มีตาไหนชนะเลย ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว อับอายจริงๆ”
“เดี๋ยวก็ชินเอง”
ส่วนฉินเฟิงก็พูดประโยคนี้ออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม
มันทำให้สีหน้าของเจียงเจิ้นชะงักไปเล็กน้อย ถึงอย่างไรก็เป็นศัตรู ก็ต้องคิดที่จะโจมตีเมืองเจียงเฉิง ฉินเฟิงไม่อยากใจอ่อน แต่วินาทีถัดมา สีหน้าของเจียงเจิ้นก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง
เขายิ้มเล็กน้อย “Mr.X แข็งแกร่งตามที่คิดไว้”
ฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไร
รอยยิ้มบนใบหน้าเจียงเจิ้นจางหายไปทันที เขารีบกล่าวว่า “แพ้ติดต่อกันสิบสองตา ผมไม่อยากจะเล่นหมากอะไรอีกแล้ว ฉันจะไปพักผ่อนหน่อย วันนี้ถือว่าเลี้ยงต้อนรับคุณ คุณตามสบายเถอะ”
พูดจบเจียงเจิ้นก็เดินออกไป เขาเดินมาถึงห้องทำงานของตัวเอง ซ่างเปียวกำลังอยู่ในห้องทำงานนี้
“นายท่าน เป็นอะไรไป?”
พอเห็นเจียงเจิ้นเข้ามา ซ่างเปียวก็รีบถาม
“เขามีนิสัยเย่อหยิ่งและมีอารมณ์ร้าย แม้ผมจะยิ้มให้เขา เขาก็ไม่สนใจผมเลย มีความเป็นไปได้สองประการ ประการที่หนึ่งคือไร้คู่ต่อสู้ ไม่เกรงกลัวสิ่งใด ประการที่สองคือ ทำเป็นวางมาด ผมว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างหลัง เพราะผมฆ่าคนมาตลอดชีวิต แต่กลับไม่ได้รู้สึกถึงพลังอาฆาตจากตัว Mr.X เลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่เหมือนกับยอดฝีมือพวกนั้น”
เจียงเจิ้นนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานแล้วกล่าวอย่างใจเย็น
“แล้วถ้าเกิดชีวิตย้อนกลับคืนสู่ธรรมชาติ เหมือนกับคนคนนั้นล่ะ?” ซ่างเปียวสันนิษฐาน
“ไม่มีทาง”
เจียงเจิ้นส่ายหน้า “คนคนนั้นคือใคร ที่ประเทศต้าหัวมีเพียงเทพสงครามอันดับหนึ่งของประเทศต้าหัวเท่านั้นที่มีความสามารถทัดเทียม จะมีบุคคลเช่นนี้มาปรากฏตัวอยู่ในเมืองเจียงเฉิงเล็กๆ อย่างนี้ได้ยังไง”
“ซ่างเปียว”
ทันใดนั้น เจียงเจิ้นก็มองไปทางซ่าวเปียวและพูดว่า “ให้ทีม SS ขึ้นไปแล้วกัน จะมีความสามารถจอมปลอมหรือจริง ลองดูก็รู้ ถ้าเสแสร้ง เขาจะต้องตายโดยไร้ที่ฝังศพ”
“ครับผม”
ซ่างเปียวเดินออกไปจัดการ
หลังจากนั้นไม่นาน กลางงานเลี้ยงเต้นรำ ไปที่ https://th.readeraz.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินไปกับมัน”
ในใจของเขามีอีกประโยคหนึ่ง งานเลี้ยงเต้นรำนี้เรียกว่ารำแห่งความตาย
มาแล้ว!
และผู้คนด้านล่างก็พอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
บนชั้นสอง มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ผู้หญิงในชุดกี่เพ้าเดินออกมาต้อนรับฉินเฟิง เธอมีรูปร่างงดงาม สัดส่วนโค้งเว้าเป็นรูปตัว S เอวคอด เผยให้เห็นความขาวนวล ซึ่งทำให้หัวใจของผู้คนหวั่นไหว
“คุณผู้ชาย เจ้านายให้ฉันมาอยู่กับคุณ”
น้ำเสียงของเธอออดอ้อนมาก
ขณะที่เธอเดินเข้ามาถึงตรงหน้าฉินเฟิง ก็เกิดขาพลิกล้มไปทางตัวฉินเฟิง
โงนเงนโยนตัวเองเข้าสู่อ้อมกอดเขา
แต่ทว่า กริชเล่มหนึ่งได้ปรากฏขึ้นในมือของฉินเฟิง เขาลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มมุมปาก “ล้มมาสิ”
ขณะที่สาวงามในชุดกี่เพ้ากำลังล้มลงมานั้น เธอก็ออกแรงจิกปลายเท้าแล้วลุกขึ้นมาในทันใด ถอยออกไปสองก้าว ชายตามองด้วยความเสน่หา “อย่าโหดนักสิ ถึงจะรู้ก็ให้ฉันล้มลงหน่อย แต๊ะอั๋งฉันสักนิด ไม่ใช่เหรอ?”
“แต๊ะอั๋ง? ไม่ต้องการ”
ฉินเฟิงปฏิเสธ
เมื่อเทียบกับภรรยาของผม คุณมันเป็นแค่ขยะ ผมจะแต๊ะอั๋งคุณทำไม?
“ถ้าอย่างนั้น Mr.X ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ อันดับ 43 ในประกาศมืด กุหลาบเลือดแดง”
เข็มยาวสองเล่มปรากฏขึ้นในมือของกุหลาบเลือดแดง ส่องแสงสีเงินแปลบปลาบ เป็นที่สะดุดตา
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ได้มีเสียงดังลั่นขึ้นทางด้านหลังฉินเฟิง และในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกเสียงหนึ่ง “อันดับที่ 45 ในประกาศมืด ราชาตัดหัว เจมส์”
กระสุนนัดหนึ่งพุ่งเข้ามาพร้อมกับประกายไฟ
ฉินเฟิงเอียงศีรษะเล็กน้อยเพื่อหลบกระสุดนัดนั้น แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ชายอ้วนพอๆ กับไททันส์ลงมาจากฟากฟ้า น้ำหนักราวๆ สองถึงสามร้อยชั่ง กระโดดลงมาจากหลังคาและตะโกนว่า “อันดับที่ 41 ในประกาศมืด ค้อนพันโล!”
“กระบวนท่านี้ อาจจะทำให้คนตายได้ง่ายๆ”
ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า ค้อนพันโลกระโดดลงมาจากด้านบนศีรษะของเขาพอดี เหล็กจำนวนมากผูกติดอยู่กับร่างกายของเขา ถ้ากระแทกลงไป ส่วนใหญ่ไม่ตายก็พิการ
นอกจากนี้ยังมีราชาตัดหัวอยู่ข้างๆ
คนที่อยู่ด้านล่างยังไม่สามารถตอบสนองต่อการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย
แต่ฉินเฟิงนั้นส่ายหน้าเล็กน้อย วินาทีถัดมา ‘โครม’ ค้อนพันโลกระแทกลงบนกระดานหมาก ตัวหมากกระจัดกระจายทันที แม้แต่พื้นก็ถูกทุบแตก
กระแทกจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่
แต่วินาทีต่อมาพวกเขาก็ต้องตกตะลึง เพราะว่าไม่มีใครอยู่เลย
ไม่มีใครกลายเป็นซอสเนื้อ
“รวมกลุ่มได้ดีมาก”
ฉินเฟิงยืนเอามือไพล่หลัง มองไปที่สองคนนี้และพูดว่า “แค่มองก็รู้ว่าได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่โดยทั่วไปในกลุ่มเล็กจะมี 7 คน แต่พวกคุณปรากฏตัวออกมาแค่ 3 คน แล้วคนที่เหลือล่ะ ยังเหลืออีกสี่คนนี่”
“อยู่นี่”
ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังลั่นมาจากทางด้านหลัง
กริชเล่มหนึ่งยื่นออกไป แสงสีเงินแปลบปลาบ ชายชราท่าทางซื่อตรงที่อยู่ทางด้านหลังหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “อันดับที่ 34 ในประกาศมืด เฒ่าหน้าผี หัวในครั้งนี้ ฉันต้องเป็นคนได้ไปแน่นอน”
“ไม่ เป็นของฉัน”
โครม
หมัดเหล็กคู่หนึ่งกระทบกัน ร่างสูงใหญ่เหมือนเสาไฟฟ้าแรงสูงของชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาจากรอบนอก กำปั้นในมือพันรอบด้วยเหล็กกล้า ทุกย่างก้าวทำให้พื้นดินยุบลง
แค่คิดก็รู้ถึงน้ำหนัก
“อันดับที่ 36 ในประกาศมืด หมัดเหล็ก”
เขาเหวี่ยงหมัดออกไป พุ่งเข้าไปที่ใบหน้าของฉินเฟิง
ทั้งสองข้างของฉินเฟิง มีอีกสองคนปรากฏตัวขึ้น เป็นฝาแฝดที่เหมือนกันทุกประการ แต่ละคนถือมีดคูคริเอาไว้ในมือ ประกายเลือดแปลบปลาบ พูดพร้อมกันว่า “อันดับที่ 31 ในประกาศมืด ดับเบิ้ลคิล”
เผยให้เห็นความสามารถที่มีอยู่ออกมา เจตนาฆ่าปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลัน!