เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 246 โจวเสี่ยวเมิ่งบอกความจริง
ตบไปทีเดียว3ฉาด
ตบไปบนใบหน้าของหวางเสียนจิ้งอย่างไม่ไว้หน้ากัน ทำให้ใบหน้าของหวางเสียนจิ้งบวมขึ้นมาทันที และร้องด้วยความเจ็บปวด
“เพราะมึงนี่ไง ทำให้พวกมันมาที่นี่ สมควรโดนแล้วล่ะ แต่ว่าแค่ตบไป3ทีก็พอแล้ว ถือว่ากูตบสั่งสอนแล้วกัน ไม่เกี่ยวกับเรื่องของไอ้พวกนั้น”
ต้าอาเฉียงด่าออกมา
มีครั้งไหน ที่ต้าอาเฉียงเคยเสียเปรียบแบบนี้ ถูกคนอื่นสั่งสอน แถมยังโดนคนอื่นสั่งให้ทำงานอีก?
อีกอย่าง เขาก็เป็นคนมีศักดิ์ศรี ฉินเฟิงให้เขาตบสั่งสอน เหอะ จะเป็นไปได้อย่างไร นี่มันเป็นคนของเขา หมอนั่นจะสักแค่ไหนกันเชียว
ถ้าเชื่อฟังไปจริงๆ ต้าอาเฉียงก็คงจะเสียหน้าไปหมดแล้วสิ
“แค้นนี้ กูไม่มีทางปล่อยไปเด็ดขาด”
ต้าอาเฉียงเจ้าคิดเจ้าแค้นขึ้นมา
ถึงแม้จะถูกเตะจนบาดเจ็บ แต่นิสัยของเขา เป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้น
แต่ว่า ในตอนนี้ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา คนที่นำมาเป็นผู้ชายท่าทางหาเรื่อง พอเข้ามาก็มองไปรอบๆ เหมือนกำลังมองหาอะไร ดูรีบร้อนมาก พอต้าอาเฉียงมองไป ก็อึ้งไปอีก
เพราะว่าคนนี้คือ เสว่โส่!
พ่อเลี้ยงผู้มีอิทธิพลในโลกใต้ดินของเมืองเทียนหลิง
“เสี่ยเสว่ เสี่ยเสว่ พี่กำลังหาอะไรครับ?”
ต้าอาเฉียงเดินเข้ามา ขากะเผลกๆ เอามือจับหน้าอก ยังมีรอยเลือดอยู่อีกมาก
เสว่โส่มองเห็นแล้ว แต่ว่าตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้ ก็เลยรีบพูดว่า “เมื่อครู่เอ็งเห็นคน3คนไหม คนหนึ่งรูปร่างใหญ่ อีกคนขาเป๋ ใส่ชุดชาวนา อีกคนผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา หน้าคมๆ”
“อ๋อ……มีครับ……เอ่อ เสี่ยเสว่ พี่ตามหาไอ้พวกนั้นทำไมครับ?”
พอเสว่โส่พูดออกมา ต้าอาเฉียงก็อึ้ง เพราะว่า ลักษณะรูปพรรณสัณฐานที่พูดมานี้ ก็คือพวกของฉินเฟิง
“เอ็งรู้ไหมว่าหมอนั่นเป็นใคร? เป็นหัวหน้าของเหลัยงชิวโม่ คนที่แม้แต่ผู้รับผิดชอบเขตทหารเมืองเทียนหลิงก็ยังต้องเรียกว่า หัวหน้า วันนี้ผู้ใหญ่ในเมืองเทียนหลิง ล้วนไปสวัสดีเขาหมด กูเองก็ไปหามาแล้ว ดังนั้นก็เลยตามหามันอยู่ อีกอย่าง กูจะบอกให้นะ กูมีข่าวพิเศษอะไรจะบอกให้ หมอนั่น มีตัวตนที่มึงยากจะคาดเดาได้ มีคนเรียกมันว่า เทพสงคราม”
เทพสงคราม!
พอเสว่โส่พูดออกมาแบบนี้ ต้าอาเฉียงก็อึ้งไปเลย แม้แต่เสว่โส่กลับออกไปแล้ว ต้าอาเฉียงก็ยังคงตกอยู่ในความตกใจ เทพสงคราม ต้องเก่งขนาดไหนกัน
ประเทศต้าหัวมีเทพสงครามเพียงคนเดียว
ก็คือบุคคลที่ปกป้องดูแลชาติบ้านเมือง ยื่นมือเข้าต่อต้านกองกำลังต่างๆ ทำสงครามจนประเทศรอบข้างเกรงกลัวกันหมด
เป็นเวลา10นาทีเต็มๆ กว่าเขาจะตั้งสติกลับมาได้
“เมื่อครู่นี้ กูจะลงฟันเทพสงครามงั้นหรือ กูรนหาที่ตายสิเนี่ย”
ต้าอาเฉียงเผยสายตากลัวออกมา จากนั้นก็มองบนพื้น เห็นหวางเสียนจิ้งที่ค่อยๆ มีสติขึ้นมา แต่ยังเอามือจับหน้าตนเองอยู่ แล้วก็ตบลงไปอีกฉาด
“เทพสงครามมีคำสั่ง ตบ!”
ตบลงไปหลายๆ รอบ
นอกจากคำสั่งแล้ว ยังมีความกลัวด้วย เขาเป็นแค่เถ้าแก่ร้านเหล้าธรรมดา แต่ไปหาเรื่องเทพสงครามอันดับหนึ่งของประเทศต้าหัวเข้า คุณพระช่วย กูนี่มันรนหาที่ตายจริงๆ
ไม่ได้
กูจะต้องเข้าไปรับผิด!
ต้าอาเฉียงอยากจะเข้าไปรับผิด แต่ฉินเฟิงคงจะไม่ให้โอกาสเขาแล้ว เพราะว่าคนคนนี้ ฉินเฟิงไม่มองอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ คนที่ชื่อเสว่โส่อะไรนั่น ก็เหมือนกัน
ตอนนี้พวกเขากำลังเดินทางกลับบ้าน
แต่ไม่ได้นั่งรถ
“เป็นไงบ้าง?”
ฉินเฟิงถามโจวเสี่ยวเมิ่ง
“ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ”
โจวเสี่ยวเมิ่งหันหน้าหนี ไม่กลับสบตาฉินเฟิง แต่ก็ยังพูดจาอย่างระวัง
ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรต่อ
เดินอยู่บนท้องถนน
เดินไปพักใหญ่ โจวเสี่ยวเมิ่งถึงจะพูดอย่างตั้งมั่นขึ้นมาว่า “จริงๆแล้ว หนูก็รู้อาชีพแบบนี้ และหนูก็รู้ว่ายัยหวางเสียนจิ้งนั่น ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก แต่ว่า ก็เหมือนกันที่ยัยนั่นบอก หนูขาดเงิน”
ใช่
ขาดเงิน
เพราะว่าเธอเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็ก ในฐานะที่เป็นพี่สาวคนโตของบ้าน ก็จะต้องรับผิดชอบเรื่องทุกอย่างในบ้าน บ่าก็อายุมากแล้ว น้องชายก็ยังเด็ก เธอไม่ได้สอบเข้ามหาลัยเสียด้วยซ้ำ ลาออกจากการเรียนไปแล้ว
เพราะอะไรน่ะหรือ
ก็เพราะว่าต้องดูแลคนทั้งบ้านอย่างไรล่ะ
แต่ไม่นานเธอก็พบว่า อาศัยแค่ตัวเธอเองนั้นมันไม่ไหว ย่าก็ขายหัวมันตั้งแต่เช้ายันเย็น ขายได้ไม่มากเท่าไรหรอก ร่างกายก็ไม่แข็งแรง จะต้องกินยา ยาก็แพง
น้องชายก็ยังเล็ก จะต้องจ่ายค่าเทอมและค่ากินประจำวัน
เธอไม่มีทางเลือก ดังนั้นก็เลยอยากจะไปลองทำเรื่องพวกนี้ เมื่อวานที่เธอสูบบุหรี่ต่อหน้าฉินเฟิง ก็เพราะเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องของพ่อเธอหรอก
แต่เป็นเพราะว่า เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
“ก่อนหน้านี้ เธอเรียนมหาลัยอะไร?”
ทันใดนั้น ฉินเฟิงก็ถามขึ้นมา
“ห้ะ……?”
โจวเสี่ยวเมิ่งอึ้งๆ
“มหาลัยอะไร?”
ฉินเฟิงถามอีกครั้ง
“มหาวิทยาลัยการแพทย์เทียนหลิง”
“เรียนหมองั้นหรือ?เพราะอะไร?”
“หนูอยากเป็นหมอทหาร จากนั้นก็ไปอีสเตอร์แลนด์ ไปเจอพ่อหนู หนูอยากถามเขาว่า ลืมพวกเราทั้งบ้านไปหมดแล้วหรือไง แต่ตอนนี้ไม่ได้เรียนแล้ว”
โจวเสี่ยวเมิ่งก้มหน้าลงไป ค่อนข้างเสียใจ
“วันพรุ่งนี้ไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยการแพทย์เทียนหลิง ทุกอย่างเดี๋ยวอาจัดการเอง ไอ้โจวไม่อยู่ เดี๋ยวอา จะเป็นพ่อให้เอง” ฉินเฟิงกล่าว
“ขี้โกง”
โจวเสี่ยวเมิ่งมองบนใส่ฉินเฟิง “อาก็แก่กว่าหนูไม่เท่าไรหรอก”
ใช่
โจวเสี่ยวเมิ่งอายุ20ต้น ฉินเฟิงก็เพิ่งจะ30 อายุห่างกันไม่มาก แต่ฉินเฟิงเป็นพี่น้องกับไอ้โจว พี่น้องร่วมเป็นร่วมตาย ถือว่าเป็นพ่อให้ได้
แต่โจวเสี่ยวเมิ่งนิ่งไปสักพักก็พูดว่า “อาพูดจริงนะ? ทุกอย่างเลย?”
“จริง”
“ไอ้โจวตายแล้วใช่ไหม”
“อืม”
โจวเสี่ยวเมิ่งนิ่งไปสักพัก แล้วก็หัวเราะเยาะตัวเองขึ้นมา “ฉันนี่มันกำลังคาดหวังอะไรบ้าๆนะ ด้วยนิสัยของพ่อฉัน หลายปีมานี้ไม่ได้โทรกลับมาหาที่บ้านเลย ไม่มีแม้แต่ข่าวคราว น่าจะรู้ตั้งนานแล้วนะ”
เธออยากรู้มาตลอด ตอนเด็กๆ พ่อรักพวกเธอสองพี่น้องมาก แต่หลายปีมานี้ ทำไมถึงไม่มีข่าวคราวอะไรเลย เป็นเพราะอะไร เธอเดาออกแล้ว
เพียงแต่ เธอไม่อยากจะเชื่อมันก็เท่านั้นเอง
แต่ว่า ตอนนี้ฉินเฟิงได้เอ่ยปากบอกมาเอง ถ้าพ่อยังมีชีวิตอยู่ จะให้คนแปลกหน้ามาพูดว่า จะช่วยดูแลทุกอย่างเอง ทำไมกัน
“เอ่อ ไม่ต้องกังวลไปนะ หนูเป็นผู้ใหญ่แล้ว เตรียมใจไว้แล้ว”
โจวเสี่ยวเมิ่งหันไปหาฉินเฟิง
“สูบบุหรี่ไหม?” ฉินเฟิงถาม
“สูบ”
ฉินเฟิงหยิบบุหรี่ออกมา แล้วยื่นให้โจวเสี่ยวเมิ่ง “สูบแค่ตัวเดียวนะ”
“สั่งได้หรือไง”
โจวเสี่ยวเมิ่งหยิบมา แล้วก็สูบบุหรี่ไป จากนั้นก็สำลักออกมา ไอออกมาหลายที จากนั้นก็ร้องไห้เขาไปซบบนตัวของฉินเฟิง
“นี่คือบุหรี่ของพ่อ ตอนเด็กๆ หนูเคยแอบขโมยเอาไปสูบเล่น กลิ่นนี้เลย ตอนนี้ก็สำลักเหมือนกัน วันนี้ก็ยังสำลัก ทำไมพ่อถึงได้จากไปเร็วจังเลยนะ ทำไมถึงทิ้งพวกเราไป ทำไม พ่อคิดว่าคนอายุ20ต้นๆ อย่างหนูจะดูแลบ้านนี้ไหวหรือไงกัน?”
“ร้องออกมาเถอะ”
ฉินเฟิงเอามือลูบหลังของโจวเสี่ยวเมิ่ง
คนบนท้องถนนก็พากันหันมามอง แต่ฉินเฟิงไม่สนใจ ที่เขาพูดก่อนหน้านี้ ก็ตั้งใจพูด ที่หยิบบุหรี่ออกมาให้ ก็ตั้งใจทำ
เพราะว่าเอาแต่พยายามอดกลั้นไว้ มันทรมาน
ร้องออกมา เดี๋ยวก็ดีขึ้น
เพราะถึงอย่างไร ตอนที่โจวเสี่ยวเมิ่งกลายเป็นหัวหน้าครอบครั้งนั้น เธอเพิ่งอายุเพียง17เอง