เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 242 ผมคิดไม่ถึงว่าจะเป็นหมอนี่
“ยังมีจุดสุดท้าย พวกเราดูตัวเลข บัตรชงโคแต่ละใบจะมีตัวเลข แล้วพวกเราก็ไปตรวจสอบดูบนอินเทอร์เน็ต แบงก์ชงโค ไม่มีบัตรใบนี้แน่นอน”
ฟางหยุนจิ้นพูดอย่างมือสั่นๆ
พูดจบ ถึงขนาดไม่กล้าตรวจหาด้วยตัวเอง แล้วให้คนอื่นหาให้
ไม่กี่วินาทีต่อมา ก็มีคนพูดอย่างตกใจว่า “ตัวเลขนี้ เป็นของจริง บัตรธนาคารอันนี้เป็นของจริง”
โครม
ทุกคนก็อึ้งไป
บัตรชงโคนี้เป็นของจริง
“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง บัตรธนาคารนี้จะเป็นของจริงได้อย่างไร!ผมไม่เชื่อ!” จางต้าพ่างร้อนรนเหงื่อแตกไปทั้งหัว แล้วพูดอย่างไม่เชื่อ
แต่ว่า ในตอนนี้ ก็มีชายวัยกลางคนรีบเดินเข้ามา
“ผู้อำนวยการ”
จางฟางฟางก็เรียกตำแหน่งของคนนี้ออกมา
แต่จางฟางฟางก็สงสัยเหมือนกัน ว่าผู้อำนวยการมาทำอะไรตอนนี้ หรือว่ามาเพื่อจัดการกับฉินเฟิง เพราะรู้ว่าหมอนี่มาก่อความวุ่นวายใช่ไหม?
พอคิดถึงจุดนี้ จางฟางฟางก็มองผู้อำนวยการอย่างให้ความสนใจ
เธอคิดว่าผู้อำนวยการมาคิดบัญชีกับฉินเฟิง
จนกระทั่ง ผู้อำนวยการเดินมาตรงหน้าของฉินเฟิง แล้วคำนับให้ “สวัสดีครับคุณผู้ชาย”
สวัสดี!
คุณผู้ชาย!
ทุกคนก็อึ้งไปหมด
แต่ว่า ยังไม่ทันให้พวกเขาได้ตั้งสติกลับมา จากนั้นก็มีคนจากด้านนอกเข้ามาอีกคน ทำให้คนคนหนึ่งอ้าปากพูดออกมาว่า “หัวหน้าสถานีตำรวจ…..คุณพระช่วย……….”
จากนั้น ก็มีอีกคนเข้ามา
“เลขาธิการหลี่!”
มีอีกคน
“ผู้อำนวยการหลี่!”
“อธิบดีโจว!”
“คนมีอิทธิพลอันดับ1 2 3ในเมืองเทียนหลิง คุณพระช่วย พยุงผมหน่อย ผมจะรับไว้ไม่ไหวแล้ว นี่มันอะไรกันถึงให้ผู้ใหญ่เมืองเทียนหลิงมากันหมดแบบนี้
คนในห้องเรียนล้วนตกใจกันหมด
ผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงในเมืองเทียนหลิงล้วนมากันหมด แถมยังมาด้วยท่าทางของผู้น้อยเสียอีกด้วย
“ตอนนี้ ยังคิดว่า บัตรชงโคของผมเป็นของปลอมอีกไหม?”
ฉินเฟิงเอามือไพล่หลัง แล้วค่อยๆ เดินมา ราวกับเป็นเสือตัวหนึ่ง ที่บีบเข้ามาจนทำให้แทบจะหยุดหายใจ
“ท่านครับ นี่บัตรธนาคารครับ”
ฟางหยุนจิ้นก็น้อมตัว แล้วยื่นบัตรธนาคารให้ฉินเฟิงอย่างเคารพ
ต้องการให้อ่อนน้อมแค่ไหน ก็ทำได้หมด
ตอนนี้ ไม่เหลือความเย่อหยิ่งมั่นใจอีกแล้ว
ส่วนจางต้าพ่างที่อยู่ด้านข้าง ก็ตกใจจนนั่งฟุบลงไปที่พื้นแล้ว เจ้าของตัวจริงของบัตรชงโค และผู้ใหญ่ในเมืองเทียนหลิงก็มากันหมด คำเดียวเลย เขาต้องตายอย่างไร้ที่ฝังแน่นอน
แต่ว่า ฉินเฟิงไม่มีอารมณ์ที่จะไปหาเอาเรื่องเขา
แต่พาโจวซูหวนเดินออกจากห้องเรียนไป แล้วหยุดลงตรงด้านหน้าของผู้อำนวยการโรงเรียน แล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการ โรงเรียนของคุณ ควรจะตั้งกฎกันขึ้นมาใหม่ได้แล้วนะ ผมไม่อยากให้เด็กรุ่นต่อไปของประเทศต้าหัว จะมาเสียด้วยมือของพวกคุณ”
“ครับ”
ผู้อำนวยการโรงเรียนรีบก้มหน้าพูด สีหน้าก็ซีดมาก
เขาสามารถเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนนี้ได้ ก็ถือว่าไม่ธรรมดา แต่คนไม่ธรรมดานี้ ก็สู้ฐานะของคนนี้ไม่ไหว ถึงขนาดเหลัยงชิวโม่เองก็ยังบอกว่าตนเองเป็นลูกน้อง
เหลัยงชิวโม่เป็นใครกันล่ะ เป็นถึงผู้รับผิดชอบเขตทหารเมืองเทียนหลิง
แต่ว่า เขากลับเป็นลูกน้อง
คิดดูก็รู้ ว่าคุณผู้ชายคนนี้ มีตัวตนที่น่ากลัวมากแค่ไหน
“จัดการให้เรียบร้อย”
ฉินเฟิงจากไปแล้ว ที่คนพวกนี้มาได้ น่าจะเป็นเพราะว่าตอนที่เหลัยงชิวโม่ไปตรวจสอบคนนั้น ได้แอบเปิดเผยฐานะออกไป ดังนั้นคนพวกนี้ ก็เลยรีบเข้ามาหา
ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้จะโปร่งใสหรือไม่ เหลัยงชิวโม่จะตรวจสอบดูเอง
หลังจากฉินเฟิงกลับไป ผู้อำนวยการโรงเรียนก็จ้องมองจางฟางฟางด้วยสีหน้าบึ้งๆ แล้วตะโกนพูดว่า “จางฟางฟาง คุณทำอะไรลงไป ทำให้เด็กเสียอนาคต!ตอนนี้คุณถูกไล่ออกแล้ว ชีวิตนี้ก็อย่าคิดจะได้เขาสู่วงการการศึกษาอีกเลย!”
“แล้วก็คุณ ยังจะกล้าส่งเสริมให้ลูกไปทำร้ายคนอื่น ตรรกะป่วยๆ ต่อไปลูกชายของคุณก็ไม่ต้องมาเรียนที่โรงเรียนเราอีกแล้ว”
พอผู้อำนวยการโรงเรียนด่าจางฟางฟางเสร็จ ก็หันมาด่าจางต้าพ่างต่อ
ถ้าเป็นปกติ จางต้าพ่างคนนี้อาจจะเถียงออกไปบ้าง แต่ตอนนี้ เขาตกใจจนอึ้งไปแล้ว เขาไปหาเรื่องกับเจ้าของบัตรชงโคเฉยเลย
ส่วนจางฟางฟาง ก็นั่งฟุบลงพื้นทันที
ตกใจจนอึ้งไป
ฉันทำเรื่องโง่อะไรลงไป
เพื่อของกำนัลเล็กน้อย ถึงกับต้องแลกด้วยอนาคตของตนเอง
ผัวะ
ฝ่ามือหนึ่ง จางฟางฟางตบลงไปที่ใบหน้าตนเอง แล้วร้องไห้พูดว่า “อนาคตของฉัน จะทำอย่างไรดี”
เธอเรียนรู้มาครึ่งชีวิต ล้วนอยู่กับงานนี้มาตลอด แต่ถ้าเรื่องนี้มันแพร่ออกไป อนาคตคงจะไม่มีโรงเรียนไหนกล้ารับเธอเข้าทำงาน เธอจบเห่แล้ว
จบแล้วจริงๆ
ส่วนฉินเฟิงในตอนนี้ ด้านนอกก็รถ2คัน พวกของฉินเฟิงขับมา ฉีหยุนรออยู่ที่นั่น ในขณะเดียวกัน ก็มีเหลัยงชิวโม่ด้วย
“หัวหน้าครับ”
เหลัยงชิวโม่ทำความเคารพฉินเฟิง
“ตรวจสอบเจอแล้วใช่ไหม? ” ฉินเฟิงถาม
“ครับ”
เหลัยงชิวโม่หยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมา มันละเอียดมาก แล้วพูดว่า “บ้านหลังนั้น มีค่ารื้อถอน แต่ยังไม่โอนเงินมา ส่วนบัตรใบนั้น ด้านในน่าจะมีเงิน40ล้าน แต่3ปีก่อนถูกโอนย้ายออกมา พวกเราไปตรวจสอบบันทึกธุรกรรมของธนาคารแล้ว คนนั้นก็คือ ซ่งเฉิง ฉายาบักหมาน้อยซ่ง เพื่อนบ้านของแม่นายพลโจว”
“แล้วเงิน40ล้านนั้น ถูกบักหมาน้อยซ่งเอาไปซื้อหุ้นอสังหาริมทรัพย์ว่านตงหมดแล้ว ตอนนี้ก็ผ่านไป3ปีแล้ว เขาได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ว่านตง จำกัด มีตำแหน่งสูง”
“แล้วก็ คนที่รับผิดชอบการรื้อถอนอสังหาริมทรัพย์ของนายพลโจวนั้น ก็คือบริษัท ว่านตง จำกัด”
เหลัยงชิวโม่อ่านเอกสารฉบับนี้ ยิ่งอ่านยิ่งโมโห นายพลโจวเป็นใครกัน เป็นถึงหนึ่งในสิบทหารชั้นผู้ใหญ่ในอีสเตอร์แลนด์ คอยปกป้องบ้านเมือง ยิ้มเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตไว้ในสนามรบ สู้สุดชีวิต ถึงได้มีประเทศต้าหัวที่มีความสงบสุขแบบนี้
แต่ตอนนี้ แม่ที่สูงอายุ ถูกคนชั่วรังแก ไม่เพียงถูกรื้อบ้าน ยังไม่มีการโอนเงินค่ารื้อถอนให้อีก แถมยังถูกโกงไปอีก40ล้าน!
นั่นมันคือเงินบำนาญของนายพลโจวเชียวนะ!
ที่แลกมาด้วยชีวิต
แต่ว่า กลับถูกพวกคนชั่วนี้ โกงเอาไปง่ายๆ เอาไปยังไม่ว่า แถมยังมากลั่นแกล้งแม่ของนายพลโจวทุกอย่างอีกด้วย
มันน่าฆ่าทิ้งเสียจริงๆ !
พวกคนชั่วไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ!
“ซ่งเฉิง ฉายาบักหมาน้อยซ่ง”
ฉินเฟิงเผยสายตาที่มีรังสีการฆ่าออกมา
คนของกู ไม่ใช่จะมายุ่งได้ง่ายๆ
“ขึ้นรถไปก่อน ไปส่งโจวซูหวนกลับ”
แต่ว่า ฉินเฟิงก็ยังไม่ลืม ว่าข้างๆยังมีหนุ่มน้อยอีกคน จากนั้นก็ขึ้นรถ ให้โจวซูหวนนั่งข้างๆ ตนเอง แต่ว่าครั้งนี้ โจวซูหวน นิ่งมากขึ้นกว่าเดิม
“เป็นอะไรไป?”
ฉินเฟิงมองโจวซูหวน แล้วก็ถามด้วยสีหน้าสงสัย
“บักหมาน้อยซ่งคนนั้น เป็นถือดียังไง ก่อนหน้านี้ ก็หายุ่งเกี่ยวกับพี่สาวผม ตอนนั้นพี่สาวผมอายุ16 หลังจากนั้น ก็กลั่นแกล้งพวกเราตลอด รังแกย่าผมตลอด”
“ปีนั้นย่าผมถูกหลอก นึกว่ามันจะเป็นคนดี ไม่คิดว่าจะเป็นคนแบบนี้”
โจวซูหวนพูดออกมา อารมณ์ก็โศกเศร้า
“วางใจเถอะ เดี๋ยวพี่ไปสั่งสอนมันเอง จะต้องทวงความเป็นธรรมมาให้ได้” ฉินเฟิงกล่าว
แต่ในตอนนี้ โจวซูหวนก็ยังก้มหน้าเสียใจ จากนั้นก็รวบรวมความกล้าขึ้นมา เงยหน้าพูดว่า “พอผมสละชีพไปแล้วใช่ไหม เมื่อครู่ผมได้ยินคุณอาคนนั้นพูดถึง นายพลโจว ผมรู้ หนึ่งในสิบขุนพลของประเทศต้าหัว มีคนแซ่โจวแค่คนเดียว และคนคนนั้น ก็ได้สละชีวิตไปแล้วเมื่อ3ปีก่อน”
“พวกเรายังจัดกิจกรรมไว้อาลัยอยู่เลย แต่ไม่คิดว่าจะเป็นพ่อผมคนนั้น!”