เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 236 เครื่องบินขับไล่มาแล้ว
“มีคนแล้วยังไง หลุมศพนี้ ฉันจะเอา นี่เป็นเงินห้าพันหยวน ถือซะว่าชดใช้ให้พวกคุณแล้วกัน ไอ้พวกจนเอ้ย”ชายร่างท้วมพุงยื่น หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา แล้วฟาดเงินให้พวกเขา
เงินสดจำนวนมาก ปลิวว่อนไปทั่วท้องฟ้า
ราวกับใบไม้ล่องลอยในอากาศ
ดูสวยงามมาก
แต่ทว่า ต่อมาชายพุ่งยื่นกลับพบว่า ฉินเฟิงไม่เพียงแต่ไม่ขยับ อีกทั้งเงินสดที่เขาโยนขึ้นบนฟ้า ก็ไม่ได้ตกบนตัวของฉินเฟิงเลย กระจายตัวหลบออกไป
“ดูชั่วร้ายจริงๆ ข่มขู่ใครกันห้ะ”
ชายพุงยื่นเบะปาก
“เฮียตู้ พวกหมอนี่เป็นใครกัน?ขวางอยู่ตรงนี้ทำไม?”
คนที่ยืนอยู่ด้านหลังของชายพุงยื่น มีผู้ชายอีกนับสิบกว่าคน มีบางคนที่ชายพุงยื่นเรียกมา มีบางคนเป็นผู้ดูแลโลงศพ บางคนเป็นคนของชายพุงยื่น ถึงอย่างไรก็เป็นคนกลุ่มใหญ่
ดูขู่ขวัญเล็กน้อย
ถูกคนจำนวนมากจ้องแบบนี้ ชายพุงยื่นที่ชื่อตู้เทียนเดินไปข้างหน้าของฉินเฟิงอย่างไม่พอใจ แล้วยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง เตรียมจะพาดบ่าของฉินเฟิง พาดไปด้วย พูดไปด้วยว่า“เงินไม่พอใช่ไหม ฉันเพิ่มให้นายได้อีกนะ สองหมื่นพอไหม?เกิดเป็นคนอย่าโลภนักเลย ไม่อย่างนั้น……”
เมื่อพูดถึง คำพูดที่ข่มขู่
แต่ทว่า วินาทีต่อมา ในขณะที่มือของเขากำลังพาดอยู่บนบ่าของฉินเฟิง ฉีหยุนที่อยู่ข้างๆก็เริ่มเคลื่อนไหว คว้ามือของตู้เทียนเอาไว้
หลังจากนั้นเสียงดังกร๊อบ
“อ้าก……”
มือของเขาหักทันที
หลังจากนั้น ตู้เทียนก็กุมมือของตัวเอง แล้วร้องอย่างโหยหวน สีหน้าของเขาเจ็บปวดจนหน้าเปลี่ยนสี เขาถอยหลังไปหลายก้าว สุดท้ายก็ถูกคนกลุ่มใหญ่พยุงไว้
“บัดซบ แกกล้าหักมือของฉันหรอห้ะ”
หลังจากรู้สึกค่อยยังชั่ว ตู้เทียนก็ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังมองไปที่ฉินเฟิง
เขาดูออกว่า นี่เป็นหัวหน้า
“คุณรู้ไหม ว่าที่นี่ฝังคนอะไรไว้?รบกวนการพักผ่อนของคนผู้นี้ ถึงจะฆ่าคุณไป มันก็ไม่พอหรอกนะ”บนตัวของฉินเฟิงเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต
ไอ้โจวรักษาชายแดนมาหลายสิบปี ชีวิตเกือบครึ่งค่อนของเขาอุทิศให้กับชายแดนทั้งหมด เขาตายในสนามรบ แต่ตอนนี้ กลับมีคนจะมารบกวนเขา
ตายแล้วก็ไม่ได้สงบสุข
“คนที่ฝังอยู่ที่นี่เป็นใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน”
ตู้เทียนพูดออกไปอย่างหยาบคาย“แกรู้ไหม ว่าฉันเป็นใคร?ฉันคือตู้เทียน ผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ว่านตง จำกัด ซึ่งมีมูลค่าหลายสิบล้าน ในเมืองเทียนหลิง ถือได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง ลำพังแค่ไอ้จนกระจอกอย่างแก กล้าขัดขวางฉันงั้นหรอ?ฉันจะบอกอะไรแกไว้นะ ฉันให้อาจารย์ฮวงจุ้ยทำนายมาแล้ว ตำแหน่งที่นี่ดีมาก วันนี้แกไม่อยากให้ก็ต้องให้ ฉันตู้เทียนเป็นคนพูดเอง”
“ลุย”
คำพูดของตู้เทียน ทำให้คนที่อยู่ข้างหลังพุ่งตัวเข้ามา
“ตู้เทียนคนอย่างคุณเป็นคนพูด ตู้เทียนคนอย่างคุณเป็นใครกัน”
พอคำพูดถูกปล่อยออกไป วินาทีต่อมา ก็มีเสียงดังปึ้ง
สมองของตู้เทียนถูกฉินเฟิงกดลงไปที่หน้าหลุมศพของไอ้โจว ทำให้หัวโขกลงไปทันที จนหัวของเขามีเลือดไหลซึมออกมา ทุกคนพากันตกใจ ตู้เทียนเองก็ตกใจเช่นกัน
เขาพุ่งมาตั้งแต่เมื่อไรกัน!
ทว่าตู้เทียนคิดอยากจะขัดขืน แต่กลับไม่สามารถขัดขืนได้เลย ในขณะเดียวกันยังสามารถสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิต เวลานี้เอง มีเสียงพูดลอดออกมาจากด้านหลัง
“ผมจะบอกให้แล้วกัน คนที่ถูกฝังอยู่ที่นี่คือใคร เขาคือโจวซูยุ่น ทหารของอีสเตอร์แลนด์ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง เขาฆ่าฟันศัตรูมาหนึ่งพันสี่ร้อยแปดสิบสองคน ได้รับบาดเจ็บหกครั้ง เขาสามารถถอยออกมาได้ตั้งนานแล้ว แต่เพื่อปกป้องรักษาชายแดน เขายังคงยืนหยัดจนวินาทีสุดท้าย”
“คุณคิดว่า คุณมีคู่ควรเปรียบเทียบกับเขางั้นหรอ?”
น้ำเสียงของฉินเฟิงมีความโกรธปนอยู่เล็กน้อย
ตู้เทียนตกใจมาก แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นถึงผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ว่านตง จำกัด ถึงแม้จะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ แต่เขาก็ยังคงรักศักดิ์ศรี กัดฟันแล้วพูดออกไปว่า“แล้วยังไงล่ะ เขาเป็นแค่ทหารนายหนึ่งเท่านั้น แต่ผมเป็นถึงผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ว่านตง น้ำเสียงของฉินเฟิงก็นิ่งสงบ
“ฉีหยุน”
“ครับ”
“โทรเรียกเขตทหาร ออกคำสั่งภายใต้ชื่อของผม”
“ครับ”
คำพูดนี้ ทำให้ตู้เทียนที่หัวโขกกับพื้นอยู่หัวเราะออกมาเสียงดัง“ยังจะโทรเรียกเขตทหาร แกรู้ไหมว่าเขตทหารเทียนหลิงอยู่ในระดับไหน คนกระจอกงอกง่อยกล้าใช้คำพูดแบบนี้กับเขตทหาร จองหองจริงๆ ยังจะมาออกคำสั่งภายใต้ชื่อของแก แกคิดว่าแกเป็นใครกัน”
คำพูดนี้ ทำให้เขาขำขัน
เขาคิดว่า นี่คงเป็นการแกล้งข่มขู่ให้เขากลัวเท่านั้น ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงผู้จัดการใหญ่ พบเจออะไรมาไม่น้อย แค่โทรศัพท์กริ๊งเดียวก็สามารถเรียกคนของเขตทหารมาได้ ตลกไปกันใหญ่แล้ว
ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก
“เหอะ ไอ้หนุ่ม รีบปล่อยฉันซะ แกไม่มีปัญญาล่วงเกินฉันได้หรอกนะ ฉันเป็นถึงผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ว่านตง จำกัดเลยนะ แค่คำเดียว ก็ทำให้แกอยู่ในเทียนหลิงต่อไม่ได้”
ตู้เทียนยังคงหัวเราะเสียงดัง
เพียงแต่ว่า วินาทีต่อมา ก็มีเสียงปึ้งดังขึ้น
“วุ่นวายจริงๆ”
ฉินเฟิงพ่นออกมาสองคำ ต่อมาหัวของตู้เทียนก็โขกเข้ากับพื้นอีกครั้ง จนหัวแตกเลือกไหล จากนั้นฉินเฟิงก็พูดว่า“โขกต่อไป ห้ามลุกขึ้นเด็ดขาด”
“แก!”
ตู้เทียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ครั้งนี้เขากลับไม่กล้าลุกขึ้น
ถ้าขืนยังมีอีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าจะสามารถทนต่อไปได้อีกไหม
“สำหรับทุกท่านน่ะ ถอนหญ้าซะ ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบให้สะอาด เพื่อเป็นการลงโทษที่รบกวนพี่น้องของฉัน”ฉินเฟิงมองไปยังคนที่เหลือ ด้วยการเอามือไพล่หลัง
พวกเขาต้องไม่ยอมอยู่แล้ว
หลังจากนั้น ฉีหยุนก็เริ่มลงมือ
ผ่านไปไม่นานคนกลุ่มนี้ ก็เริ่มถอนหญ้าด้วยใบหน้าปูดบวม แต่ตู้เทียนกลับพูดกับพวกเขาว่า“อย่าไปกลัว ฉันฟ้องพี่ชายฉันแล้ว เขาเป็นคนสำคัญของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ว่านตง จะต้องรีบพาคนมาแน่”
“ตู้จุ้นเจี๋ย!”
เมื่อทุกคนได้ยิน ก็ถึงกับพากันดีใจ
ชายพุงยื่นคนนี้มีภูมิหลังที่ใหญ่มาก นั่นก็คือพี่ชายแท้ๆของเขา ตู้จุ้นเจี๋ย เป็นคนที่รับหน้าที่สำคัญของอสังหาริมทรัพย์ว่านตง ในบริษัท ว่านตง จำกัดมีตำแหน่งที่สูงมากๆ
กล่าวได้เลยว่า เป็นผู้ที่เหนือคนนับหมื่น
ขอแค่คนผู้นั้นออกโรง จะต้องจัดการไอ้หมอนี่ได้แน่ๆ
เป็นไปตามคาด ผ่านไปสิบนาที
ที่หลุมหมายเลขสอบ จู่ๆก็มีเสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้น ทันใดนั้น ขบวนรถจากัวร์ก็พากันมาจอดอยู่ที่นี่
รถนับสิบคัน ดูทรงพลังมากๆ
ที่ตามอยู่ด้านหลัง ยังมีรถขุดดินอีกคัน
ทันใดนั้น ก็มีผู้ชายจำนวนมากลงมาจากรถ พรึบๆ ล้วนเป็นคนสวมชุดสูท ทรงพลังจนน่ากลัว หลังจากที่ลงมาแล้ว ก็เรียงหน้ากระดานสองแถว ผู้ชายหนึ่งในนั้นเปิดประตูรถลงมา
เสียงดังคว้าง
มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งหนึ่งเดินลงมาจากรถ เสื้อผ้าหรูหรา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง เขามองดูสุสานแวบหนึ่ง สุดท้ายก็มองไปที่ฉินเฟิง“นี่ไอ้หนุ่ม น้องชายของฉันตู้จุ้นเจี๋ย แกแตะต้องได้งั้นหรอห้ะ?”
“พี่ครับ ผมโดยตีเกือบตายแล้ว”
พอตู้เทียนเห็นตู้จุ้นเจี๋ย สีหน้าก็มีความสุขมาก เขารอดแล้ว
พี่ชายของตนเป็นใคร ลำพังแค่จัดการไอ้หนุ่มจนๆคนเดียว มันเป็นเรื่องง่ายมากๆ
“น้องชายของคุณ จะขุดหลุมที่นี่ ที่นี่มีคนอยู่แล้วนะครับ”
ฉินเฟิงชี้ไปที่ตำแหน่งที่ตัวเองยืนอยู่
“มีคนแล้วยังไง จะฝังศพพ่อของฉัน มีบุญมีเกียรติแค่ไหน วันนี้ ฉันเอารถขุดมาแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็ขัดขวางฉันไม่ได้”
รอบตัวของหลินจุ้นเจี๋ยมีบอดี้การ์ดชุดดำรายล้อม เขาหยิ่งผยองมากๆ
“จริงด้วย พี่ครับ ไอ้หมอนี่ยังบอกว่าจะเรียกคนของเขตทหารมา เหอะ แกเนี่ยนะ จะกล้าเรียกคนของเขตทหารมา แกคิดว่าแกเป็นใคร”ตู้เทียนเอ่ยถึงเรื่องเมื่อสักครู่ แล้วพูดอย่างเย้ยหยัน
แต่แล้ว ในเวลานี้เอง มีคนเหมือนจะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว พวกเขาเหลียวหลังแล้วพูดว่า“ดะ……ดูเหมือน……จะมีเครื่องบินขับไล่มา……ไม่ใช่ลำเดียว……พระเจ้าช่วย!”