เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 234 เตรียมพร้อม
“ถูกแล้ว พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบวันตายของไอ้โจว เรียกฉีหยุนด้วยนะ เราจะไปเยี่ยมเขากัน”ฉินเฟิงหันไปพูดกับเขา
“พรุ่งนี้?”
หวางเถ่ชะงักไป แล้วพูดต่อว่า“ท่านนายพลครับ ตอนนี้เจียงเฉิงสถานการณ์ไม่สู้ดี สามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดที่สุดในเจียงเฉิงกับบอดี้การ์ดมังกรต่างเคลื่อนไหวกันหนักมาก เกรงว่าจะทุ่มเทสุดกำลัง”
“ยังขาดไปอีกหน่อย พวกเขายังรวบรวมกำลังไม่ได้ ตอนนี้เรายังอยู่ที่นี่ ไม่แน่ อาจจะทำให้พวกเขาลงมือก่อนก็ได้ ถ้าผมไปตอนนี้ ในตอนที่กลับมา พวกเขาก็น่าจะเตรียมพร้อมกันเสร็จแล้ว แบบนี้มันค่อยน่าสนใจหน่อย ใช่ไหมล่ะ หวางเถ่?”
ฉินเฟิงหัวเราะ
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดที่สุดกับบอดี้การ์ดมังกรแห่งเจียงเฉิง เริ่มมีการเคลื่อนไหวที่ขัดเจนมากยิ่งขึ้น การส่งกองกำลัง หรือการหมุนเวียนด้านทุนทรัพย์ ไม่ได้หยุดลงแต่อย่างได้
ดูออกว่า ครั้งนี้พวกเขาเตรียมจะลงมือจัดการอย่างเต็มที่
และฉินเฟิง ก็กำลังรอให้อิทธิพลทั้งสองฝ่ายรวบรวมกำลัง แบบนี้ ในตอนที่เขากลับมา ทำลายทุกอย่าง ตระกูลหลินกับบอดี้การ์ดมังกร ถึงจะรู้สึกสิ้นหวัง
รสชาติแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด
สำหรับยุทธวิธีการเว้นระยะ ฉินเฟิงไม่เคยนำมาใส่ใจ ในตอนที่คุณมีกำลังที่มั่นคงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบอดี้การ์ดมังกร หรือตระกูลหลินสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดที่สุด ล้วนสามารถโจมตีให้แพ้พ่ายในคราวเดียว
ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พวกเขาจะร่วมมือกันหรือไม่
เพราะร่วมมือไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“ครับ”
หวางเถ่น้อมรับบัญชา
……
ตระกูลหลิน
มืดมนไปทั้งหมด หลินเย่าตุงนั่งอยู่ในห้องโถง กำลังเคาะโต๊ะ ด้านข้างยังมี โจวจือเชียนที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ และหลินจิ่งเหวินที่บริเวณตำแหน่งแขนว่างเปล่า
“ทำภารกิจล้มเหลว คนก็ถูกจับไปแล้ว”
นี่เป็นข่าวที่รายงานมาเมื่อสักครู่ ทำให้พวกเขารู้สึกอารมณ์ขุ่นมัวในทันที
กว่าจะหลอมกันมาได้ขนาดนี้ แต่ตอนนี้กลับถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี หลินเย่าตุงสวมชุดคลุมคอจีนยาว เคาะโต๊ะแล้วกล่าวว่า“ผมเคยสืบข้อมูลของหลิวหลินมาก่อน หลิวหลินไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น”
กล่าวอีกนัยก็คือ การมองหลิวหลินไม่ทะลุ
“มีฉินเฟิงมาอีกคน”ลูกน้องกล่าวรายงาน
“ฉินเฟิง?”
หลินเย่าตุงค่อยๆขมวดคิ้วเล็กน้อย คนผู้นี้คือใครกัน
โจวจือเชียนที่อยาข้างๆอธิบายว่า“ฉินเฟิง ผัวของอิ่นซิน เป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง เคยเป็นทหารมาก่อน ตอนนี้ทำงานเป็นรปภ.ในบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป ค่อนข้างไร้ประโยชน์ เป็นเศษสวะ อยู่ในตระกูลอิ่นก็โงหัวไม่ขึ้น”
นี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับฉินเฟิงที่เธอสืบมาได้
“เคยเป็นทหารงั้นหรอ?”
หลินเย่าตุงเอามือวางไว้บนเก้าอี้“บางที จุดผิดพลาดอาจจะอยู่ตรงนี้ก็ได้ ลำพังแค่หลิวหลินดูไม่ออกหรอก แต่ถ้ามีฉินเฟิงเพิ่มเข้ามามันก็จะแตกต่างออกไป”
“พ่อครับ ไม่ต้องสนใจฉินเฟิงหรอก ตอนนี้จุดที่สำคัญที่สุดก็คือMr.X”
เสียงดังครื้น
หลินจิ่งเหวินที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ร่างกายสั่นสะท้านอย่างบ้าคลั่ง สีหน้าดุร้าย แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาถูกทำร้ายจนพิการ ถูกMr.Xจัดการจนเดี้ยง แค้นนี้ เขาต้องชำระ!
ในฐานะที่เขาเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลหลิน เขาไม่เคยต้องเสียเปรียบแบบนี้มาก่อน
“ฉันจะแก้แค้นให้แกเอง”
หลินเย่าตุงมองดูแขนเสื้อของหลินจิ่งเหวินที่ว่างเปล่า สายตาของเขามีประกายของความเกลียดชัง นี่เป็นลูกชายคนโตของเขาเชียวนะ แต่กลับต้องถูกMr.Xทำให้พิการ
ในความคิดของเขา ถึงแผนการจะล้มเหลว หลินจิ่วเหวินก็ไม่มีทางเป็นอะไร
แต่คิดไม่ถึงว่า จะต้องเสียแขนไปทั้งสองข้าง
“ฉันกำลังรวบรวมกำลังในตระกูล ภายในสองสามวันนี้เตรียม จะร่วมมือกับบอดี้การ์ดมังกร เพื่อโจมตีMr.Xคนนั้น เรารอไม่ไหวกันอีกต่อไปแล้ว Mr.Xคนนั้นกลายเป็นใหญ่ขึ้นมา จะต้องวุ่นวายแน่”
หลินเย่าตุงตบโต๊ะ ด้วยสีหน้าโกรธแค้น
แม้แต่เขายังคิดไม่ถึงว่า ไม่รู้ว่าMr.X โผล่ออกมาเมื่อไร แต่กลับขัดขวางทุกย่างก้าวของหลินเย่าตุง
“หมากลับพวกนั้นหรอ?”
โจวจือเชียนรู้ถึงเรื่องภายใน จึงเอ่ยถาม
“รวบรวมมาแล้วล่ะ ไม่มีเวลาสนใจอะไรมากแล้ว ครั้งนี้เป็นการรวบรวมกำลังมานับร้อยปีของตระกูลโจวเรา เป็นเกมที่ผมเดินมานานแล้ว เพื่อจัดการMr.X ควบคุมทั้งเจียงเฉิง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”
หลินเย่าตุงสีหน้าเคร่งขรึม
เดิมทียังไม่ถึงกับต้องเปิดเผยความแข็งแกร่งขนาดนี้ แต่ตอนนี้Mr.Xผู้นี้ ฆ่าแม้กระทั่งบอดี้การ์ดของท่านผู้นั้น ดังนั้น เขาเตรียมจะลงทุ่มแรงกายแรมใจเต็มกำลัง
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็จะต้องจัดการฆ่าMr.Xผู้นั้น ก่อนที่ท่านผู้นั้นจะมาถึง
ทำให้สถานการณ์สงบ
ต้องรู้ว่า เขาเก็บตัวนอบน้อม ซุ่มซ่อนมาทั้งชีวิต เพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ เตรียมกำลังมานานขนาดนี้ เพื่อครั้งนี้แหละ จะต้อง ไม่มีอะไรผิดพลาดทั้งสิ้น
Mr.X จะต้องตาย!
และในตอนนี้ เรื่องที่Mr.Xจะออกไป ก็ถูกแพร่สะพัดไปทั่ว กระทั่งถูกลอดไปถึงหูของบอดี้การ์ดมังกร ท่านสามจางพาซ่างเปียว มาหายมบาลเจียงด้วยตัวเอง
ปกติยมบาลเจียงจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้
ท่านสามจางรับผิดชอบกิจการของบอดี้การ์ดมังกร ซ่างเปียวรับผิดชอบกาฬโลก ดังนั้นยมบาลเจียงจึงถือว่าเป็นเหมือนคนที่อยู่เบื้องหลัง นอกจากสามปีก่อน เขาตัวคนเดียว สามารถกวาดล้างทั้งเจียงเฉิง จากนั้นมา ก็ไม่ได้เผยตัวอีกเลย
“บอสครับ”
ท่านสามจางเดินเข้าไปในห้องทำงาน มองดู ยมบาลเจียงที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่หันหลังอยู่ ไม่เห็นใบหน้า ค่อนข้างลึกลับ
“ว่ามา?”ยมบาลเจียงกล่าว
“เอ่อคือ……Mr.Xนั่นมีข่าวออกมาว่า พรุ่งนี้เขาจะออกจากเจียงเฉิงครับ ไปเยี่ยมหลุมศพสหายเก่า……ข่าวนี้ ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ หรืออาจจะเป็นกับดักครับ”
ท่านสามจางคาดเดาอย่างระมัดระวัง
ถ้าเป็นเขา จะต้องวางแผนกับดักอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่า ยมบาลเจียงโบกมือไปมา“อย่าคิดมากเลย เขาเหมือนคุณหรอก ไม่ได้ร้ายกาจขนาดนั้น การกระทำของเขาตั้งแต่มาถึงเจียงเฉิง คุณจะเห็นว่าป่าเถื่อนรุนแรงมาก ตรงไปตรงมา การออกไปในครั้งนี้ เขาไปไหว้หลุมศพจริงๆ ที่ข่าวถูกแพร่ออกมา ก็เพื่ออยากจะบอกกับเราว่า กำลังรอพวกเราเตรียมการอยู่”
“เตรียมการ?”
ท่านสามจางตกตะลึง“เย่อหยิ่งขนาดนี้เลยหรอครับ?”
ใช่แล้ว
เย่อหยิ่งขนาดนี้?
กล้าปล่อยข่าวแบบนี้ออกมา ยังจงใจออกไปโดยเฉพาะ เพื่อให้เวลาพวกเขาเตรียมการ ราวกับกลัวว่าพวกเขาจะมีเวลาไม่พอในการรวบรวมไพร่คน
นี่ไม่รู้ว่าอวดเก่ง หรือมีความมั่นใจ
มากกว่าครึ่งเป็นอย่างแรก
ท่านสามจางคิดในใจ มีแค่เขาที่เป็นคนภายในของเจียงเฉิง ที่รู้ว่า คนที่มีอิทธิพลในเจียงเฉิง น่ากลัวแค่ไหน
โดยเฉพาะยมบาลเจียง ที่น่ากลัว!
ใช้แค่สองอย่างนี้อธิบายลักษณะของเขาได้ กระทั่งเขายังรู้สึกว่าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
“Mr.Xคนนี้ มีลักษณะเหมือนฉันตอนหนุ่ม เย่อหยิ่ง เพียงแต่ว่า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขากำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ เจียงเฉิง ตอนนี้ไม่ใช่เมืองธรรมดาๆอีกต่อไปแล้ว”
ยมบาลเจียงมุมปากแสยะยิ้ม อย่างชั่วร้าย หลังจากนั้นก็สั่งการออกไปว่า“ซ่างเปียว ไปสำนักงานใหญ่ รวบรวมทีมSS บอกว่าเป็นคำสั่งของฉัน”
“ในเมื่อหลินเย่าตุงเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ถ้าอย่างงั้นฉันก็ต้องเคลื่อนไหวเหมือนกัน ทีมSS ก็พอที่จะฆ่าทำลายล้างทุกอย่างแล้ว สถานที่แห่งนี้ มันต้องเป็นของเราอยู่วันยังค่ำ”
“โชว์กำลังจะเริ่มแสดงขึ้นแล้ว สำหรับMr.Xคนนั้นน่ะ มันก็เป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้นแหละ”