เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 196 เฝิงกางผู้อ่อนน้อม ถ่อมตนเหมือนน้องชาย
“ฉี……หยุน ประธานใหญ่แห่งบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป! ท่านมาที่นี่ได้ยังไง!”
โจวซวนซวนร้องเสียงดังออกมา
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นหลิวลานเมิ่งหรือเฝิงกางเธอแทบจะไม่รู้สึกประหม่า แต่เมื่อเป็นฉีหยุนมันคนละความรู้สึกกัน น้อยมากที่เขาจะออกมาพบปะผู้คน โดยปกติแล้วเคยเจอหน้าเพียงแค่ครั้งเดียว
แต่นักธุรกิจชั้นนำในปัจจุบันล้วนแต่รู้จักฉีหยุนทั้งนั้น เพราะนี่คือประธานของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปซึ่งมีสิทธิ์ตัดสินใจทุกเรื่องในบริษัท
“ประธานฉี ท่านมาทำอะไรเหรอคะ?”
โจวซวนซวนถามอีกครั้งหนึ่ง
เธอรู้สึกไม่ไว้วางใจ เธอรู้สึกว่าฉีหยุนในฐานะประธานบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปไม่จำเป็นต้องผิดใจกันกับตระกูลโจว เพียงเพราะทำเพื่อบริษัทกึ่งซานหยวนจำกัด ต้องรู้ว่าตระกูลโจวของพวกเขาเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงเฉิง
แต่ฉีหยุนส่ายหัว “โจวซวนซวน เลิกคิดเพ้อเจ้อได้แล้ว ผมมาในวันนี้ก็เพื่อสนับสนุนกึ่งซานหยวน และอิ่นซินหรือประธานอิ่น”
“อะไรนะ!”
โจวซวนซวนก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว รู้สึกช็อก เธอไม่เข้าใจ
ถามอย่างไม่เข้าใจ “ทำไม? ไม่ควรชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียก่อนเหรอ ไม่ว่ายังไงเฟิงซิ่งกรุ๊ปของพวกคุณก็ไม่ควรเข้ามาช่วยกึ่งซานหยวนกรุ๊ป พวกคุณจะไม่ได้อะไรเลย”
นี่คือสิ่งที่เปลืองแรงโดยไม่ได้รับผลดีอะไรเลย
แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจก็คือฉีหยุนยักไหล่ “นี่คือคำสั่ง”
“คำสั่ง!”
ทุกคนประหลาดใจใครกันที่สามารถสั่งประธานแห่งเฟิงซิ่งกรุ๊ปได้!
“พวกคุณคือ?”
ทันใดนั้นโจวซวนซวนก็นึกอะไรขึ้นได้ ภายในเวลาอันรวดเร็วก็ปะติดปะต่อเรื่องได้ ซึ่งทำให้สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปในทันที
“คุณเดาถูกแล้ว แน่นอนว่ามันเป็นคำสั่งจากเจ้านายของผม Mr.X ใช่แล้ว มีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่มีเวลาบอกพวกคุณมาโดยตลอดก็คือเจ้าของที่แท้จริงของเฟิงซิ่งกรุ๊ปคือเจ้านายของผม”
น้ำเสียงที่ไพเราะและดูมีสติปัญญาได้ดังขึ้น
สำหรับเสียงนี้ทุกคนในสถานที่แห่งนี้ล้วนคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“โหวเมิ่งหยาว!”
โจวซวนซวนเบิกตากว้างแล้วมองไปที่โหวเมิ่งหยาวที่สวมใส่เครื่องแบบมืออาชีพOLกำลังเดินเข้ามาจากประตูด้วยใบหน้าที่จริงจัง “เฟิงซิ่งกรุ๊ปเป็นของ Mr. X จริงๆ เหรอ?”
เธอคาดไม่ถึงจริงๆ
เพียงแค่หาความร่วมมือจากนายทุนกลุ่มใหญ่ในเมืองเจียงเฉิงก็สามารถทำลายการควบคุมระหว่างตระกูลโจวและตระกูลหยวนได้แล้ว แต่ตระกูลโจวในฐานะที่เป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งในเมืองเจียงเฉิง ย่อมมีวิธีทำให้ตระกูลส่วนใหญ่เชื่อฟังและปฏิบัติตาม
ส่วนที่เหลือถ้าไม่เป็นตระกูลเล็กๆ ที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะร่วมมือกับบริษัทกึ่งซานหยวนจำกัด ไม่ก็เป็นพวกที่ไม่มีความกล้าหาญพอ
แม้แต่ตู้ซื่อกรุ๊ปก็ถูกพวกเขาใช้อำนาจกดทับไว้จนยากที่จะขยับตัวได้
แต่มีเพียงบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป
สิ่งแรกคือเป็นเพราะบริษัทนี้มีขนาดใหญ่มาก โดยมีมูลค่าตลาดหลายหมื่นล้าน สิ่งที่สองคือเป็นเพราะความร่วมมือจากบริษัทใหญ่จากเกียวโตที่ทำให้มีเส้นสายและช่องทางการขายเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่สามเป็นเพราะไม่ใช่กลุ่มบริษัทในท้องถิ่นของเมืองเจียงเฉิง ทำให้ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลโจว
นี่เป็นกลุ่มเดียวที่สามารถทำลายการควบคุมได้ แต่เมื่อก่อนพวกเขายังเคยส่งจดหมายเตือนที่แฝงความหมายซึ่งระบุว่าถ้าใครเข้ามาช่วยบริษัทกึ่งซานหยวน จะต้องเจอเหตุการณ์ที่ไม่ตายก็ไม่จบ
พวกเขาคาดหวังว่าผู้มีอำนาจของเฟิงซิ่งกรุ๊ปจะไม่ทำเรื่องโง่เขลา ใช้ช่วงเวลานี้รุกรานสามตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงเฉิง
แต่ตอนนี้ไม่มีใครคาดถึงว่าเฟิงซิ่งกรุ๊ปจะอยู่ภายใต้การควบคุมของ Mr. X ดังนั้นเขาจะทำลายการควบคุมด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาอย่างแน่นอน ไม่กลัวที่จะรุกรานสามตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกันตั้งเนิ่นนานแล้ว
ดังนั้นการควบคุมจึงล้มเหลว
“เป็นไปตามธรรมชาติ” โหวเมิ่งหยาวพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับแสดงสีหน้าอย่างมืออาชีพ
ในความเป็นจริงเมื่อเธอรู้อย่างนี้เธอก็ตกใจ เฟิงซิ่งกรุ๊ปคือบริษัทอะไรกันแน่ นายทุุนกลุ่มใหญ่มาจากเกียวโต แม้ว่าจะยังไม่ได้ตั้งหลักในเมืองเจียงเฉิง แต่ก็เป็นกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จริงๆ
กลุ่มยักษ์ใหญ่เช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าเจ้านายของตัวเองเป็นเจ้าของ
เก่งมากจริงๆ
น่าศรัทธาจริงๆ
แต่มีภรรยาแล้ว แถมเป็นคนรักภรรยามากๆ อีกด้วย
“ให้ตายสิ แผนล้มเหลวแล้ว”
สีหน้าของโจวซวนซวนค่อนข้างคร่ำเครียด เมื่อคิดแล้วคิดอีกตู้ซื่อกรุ๊ปและกึ่งซานหยวนก็ถูกควบคุมแล้ว แต่เธอคาดไม่ถึงว่าจะมีกลุ่มที่พิเศษที่สุดอยู่ในเมืองเจียงเฉิง
สุดท้ายก็แพ้
“อิ่นซิน โหวเมิ่งหยาว ฝากไว้ก่อนเถอะ ไม่ช้าก็เร็วตระกูลโจวของฉันจะทำลายทุกสิ่งที่แกมี”
โจวซวนซวนเหลือบมองอิ่นซินและโหวเมิ่งหยาว จากนั้นก็ถือกระเป๋าเดินออกไปในทันที ลงทุนลงแรงขนาดนี้ แต่เธอไม่คิดว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นแบบนี้
โจวซวนซวนออกไปแล้ว ส่วนคนที่เหลือในสำนักงานต่างก็รู้สึกประหม่า
กึ่งซานหยวนไม่ได้ล้มละลาย
พวกเขากลับต้องเปลี่ยนงาน ที่สำคัญคือโจวซวนซวนทิ้งพวกเขาและหนีไปแล้ว พวกเขาควรทำอย่างไรดี?
เอ่อ ประธานอิ่น เมื่อกี้พวกเราเข้าใจผิด!”
เกาจุ้นหันกลับมา ร่างสูงก้มลงแล้วพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
กลุ่มคนจำนวนหนึ่งก็ยิ้มให้กับอิ่นซิน ยิ้มจนหน้าบานราวกับดอกไม้
กึ่งซานหยวนและเฟิงซิ่งกรุ๊ปมีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน ดังนั้นกึ่งซานหยวนต้องทะยานขึ้นอย่างโดดเด่น แบบนี้จะทำให้บริษัทดูมีอนาคตที่ก้าวหน้าอย่างแท้จริง
จากนั้นอิ่นซินก็แทบไม่ได้สนใจพวกเขาเลย แต่มองไปที่กลุ่มคนอีกด้านหนึ่งที่ไม่เคยไปมาก่อนแล้วพูดว่า “เจิ้งเฉียงได้รับเกียรติให้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการโครงการ เจิ้งเทียนหยู่ได้รับเกียรติให้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายบริหาร หยูเสี่ยวหวา……”
มองดูแต่ละคนได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นทีละคนจนตาลาย
“แล้วพวกเราล่ะ?”
เกาจุ้นเฝ้าดูแต่ละคนได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และในเวลาเดียวกันเขาก็มองตาปริบๆ ไปที่อิ่นซิน
“พวกคุณยังจะอยู่ตรงอีกเพื่ออะไร? ยังมีธุระอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีอะไรก็ไปที่รับเงินเดือนที่แผนกการเงินซะ หลังจากนี้กึ่งซานหยวนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกคุณอีกต่อไป ไปดีมาดีล่ะ”
หลังจากที่อิ่นซินพูดจบ อ้ายเสี่ยวซีที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ร้องเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
“ไล่คนพวกนี้ออกไปให้พ้น”
อ้ายเสี่ยวซีรู้ว่าอิ่นซินไม่ต้องการฟังเรื่องไร้สาระของคนพวกนี้ จึงเรียกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไล่ออกไปทันที
“ท่านประธานอิ่น นี่เป็นความเข้าใจผิด ฉันมีความจงรักภักดีต่อกึ่งซานหยวน ไม่ใช่นกสองหัวอย่างแน่นอน”
“ท่านประธาน ผมรักชาติแบบทางอ้อม……”
“มันคือความจำใจทำ ฉันรักกึ่งซานหยวน ฉันรักที่นี่……”
……
เมื่อคนพวกนั้นรู้ว่ากึ่งซานหยวนกำลังจะก้าวหน้าพวกเขาจึงไม่เต็มใจที่จะไป โดยบางคนถึงกับยอมพูดว่าสิ่งที่ทำลงไปคือสิ่งที่จำใจทำ
แต่ถึงจะพูดยังไงก็โดนไล่ออกไปอย่างไร้ความปรานี
“ไอ้พวกคนใจดำ”
อิ่นซินเหลือบมองคนพวกนั้นด้วยแววตาที่สมเพช ไม่ได้ขอให้คุณสนับสนุนกึ่งซานหยวนเป็นพิเศษ แต่อย่าทิ้งมันไปในช่วงเวลาวิกฤติและเหยียบย่ำมันโดยแยแส
กลุ่มคนพวกนี้โดนโจวซวนซวนหลอก
“ท่านประธานอิ่น”
ในเวลานี้เมื่อเห็นว่าเรื่องราวได้รับการแก้ไขแล้ว เฝิงกางจึงมาหาอิ่นซินด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับโค้งตัวลงอย่างอ่อนน้อม
“ประธานเฝิง คุณยังสุภาพเหมือนเดิม การศึกษาในเกียวโตนั้นดูแตกต่างจริงๆ คุณปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความถ่อมตนเสมอ”
อิ่นซินยังคงประจบประแจงเล็กน้อย
พูดตามเหตุผลคือเฝิงกางเป็นประธานของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป ซึ่งมีมูลค่าในตลาดนับหมื่นล้านและสถานะทางธุรกิจของเขานั้นดีกว่าเธอมาก นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเหมือนกับว่าเฝิงกางนั้นทำงานให้เธอ
มันคือความเป็นมาแบบงงๆ
บางทีการศึกษาในเกียวโตอาจจะดีกว่าจริงๆ