เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 178 การผันเปลี่ยนครั้งใหญ่
แสงในยามค่ำคืนนั้นดำมืด
ในมุมหนึ่งของวิลล่าหยุนติ่ง มีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว มีศพนอนเหลื่อนพื้นเต็มไปหมด ล้วนถูกมีดปาดคอตาย สีหน้าล้วนตายตาไม่หลับ
ไม่ต่างกันสักคนเดียว
ที่พวกเขาตายตาไม่หลับก็คือ พวกเขาเป็นกองกำลังฝึกพิเศษมีฝีมือดี แต่ก็ต้องถูกฆ่าตาย ทั้งที่ยังไม่ได้แสดงฝีมือออกมาเลย
ส่วนการตายของเห้อจือจี๋ก็ยิ่งน่าตกใจ ดวงตาสองข้างเปิดกว้างมาก ก็เพราะว่าเขารู้ว่าองครักษ์หมาป่าแห่งอีสเตอร์แลนด์มันหมายความว่าอะไร เป็นถึงหน่วยองครักษ์ของเทพสงครามอันดับหนึ่งในประเทศต้าหัว
เทพสงครามของอีสเตอร์แลนด์อยู่ที่ไหน องครักษ์หมาป่าก็อยู่ที่นั่น
นี่มันก็แสดงว่า พวกที่ก่อการจนทำให้เมืองเจียงเฉิงวุ่นวายไปหมด ก็คือเทพสงครามอันดับหนึ่งในประเทศต้าหัว คนในตำนานคนนั้น คนที่มีอำนาจสูงคำฟ้าในประเทศต้าหัว
คนที่เคยฆ่าล้างเมืองมาแล้ว!
คนที่ใช่มือเดียวกำจัดได้ทั้งเมืองเจียงเฉิงเลยก็ได้
ดังนั้น ตระกูลเห้อของพวกเขาไปเหยียบเข้ากับลาวาร้อนเข้าให้แล้ว โดนความร้อนลวกจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว เละไม่รู้จะเละอย่างไรแล้วทีนี้
ความคิดสุดก่อนเขาตายก็คือ ไม่ไปเคียดแค้นกับเทพสงคราม เพราะว่าเขาไม่มีสิทธิ์ เขาอยากจะไปคิดบัญชีกับเห้อเฉิงหลง หนีไปเฉยๆ ไม่ได้หรือไง จะต้องมาแสร้งทำแบบนี้ อวดโชว์จนตระกูลเห้อไม่เหลืออะไรเลย
ในตอนนี้ ฉินเฟิงก็ปิดหน้าหนังสือ แล้วกลับเข้าไปในนอนห้อง
คืนนี้ ไม่เงียบสงบเอาเสียเลย
เพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเห้อนั้น เหล่าตระกูลใหญ่ทั้งหลายในเมืองเจียงเฉิง ล้วนหัวเราะเยาะตระกูลที่มีมายาวนานนับร้อยปีอย่างตระกูลเห้อกันหมด บอกว่าพวกเขาทำให้เกียรติยศนับร้อยปีต้องสูญสิ้น แต่ตอนกลางดึก ก็มีข่าวที่ตระกูลเห้อส่งคนไปลอบฆ่าMr.X
ไม่นาน สังคมชั้นสูงทั้งเมืองเจียงเฉิงก็ตกใจไปกันหมด
“ผมดูถูกตระกูลเห้อเกินไป คิดไม่ถึงว่าตระกูลเห้อจะทำกับMr.Xได้ ต้องโทษที่ผมแววตาไม่ดี มองไม่ออก แต่ว่า นี่ก็แสดงให้เห็นได้ว่าตระกูลเห้อเล่นละครได้สมบูรณ์แล้ว”
“ไปลอบฆ่ากลางดึก ใครจะนึกถึงได้ และผมยังได้ยินมาว่ากองกำลังที่ตระกูลเห้อส่งไป เป็นกองกำลังที่ฝีมือดีที่สุดในตระกูลเห้อ เป็นกองกำลังที่พวกเราทั้งเมืองเจียงเฉิงไม่เคยเห็นมาก่อน คิดไม่ถึงว่าจะปรากฏออกมาเวลานี้”
“ครั้งนี้Mr.Xคงจะต้องตายแน่ๆ มุดหัวหลบหน้า ก่อเรื่องไว้ในเมืองเจียงเฉิงมากมาย สุดท้ายก็ต้องอย่างอนาถ”
ไม่รู้ว่าคนที่ตกใจกลัวMr.Xไป คืนนี้คงจะนอนหลับสบายดีกันไปหลายคน
ส่วนจะเป็นเพราะอะไรนั้น ก็เพราะว่าพวกเขาคิดว่าMr.Xตายแล้ว
ทางบ้านตระกูลเห้อ เห้อหวยก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ได้เรียกคนจำนวนมากมารวมตัวกันที่ห้องโถง เพื่อรอข่าวเกี่ยวกับการตายของMr.Xด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย
จากนั้น
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
สองชั่วโมง
สามชั่วโมง
……
ในห้องโถงก็เงียบกริบ มีพวกลูกน้องพูดขึ้นมาว่าตระกูลเห้อจะยิ่งใหญ่ขึ้น แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังเงียบกริบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย คนตระกูลเห้อทุกคนก็หน้าเสียไปตามกันหมด
“ตอนนี้เวลาอะไรแล้ว”
เห้อหวยนั่งอยู่ที่ตำแหน่งหลัก แล้วถามไปยังชายตระกูลเห้อที่อยู่ข้างๆ ด้วยน้ำเสียงหนักใจ
ตีสาม ยี่สิบสามนาทีแล้วครับ
ชายตระกูลเห้อคนนั้นไม่อยากจะพูด แต่ก็ต้องพูดออกมา
“ยังติดต่อกับเห้อจือจี๋ไม่ได้หรือไง?” เห้อหวยเอามือจับไว้ที่เก้าอี้จนแน่น แล้วออกแรงบีบเก้าอี้ถามออกมา
“ใช่ครับ”
พอชายคนนั้นพูดออกมา
สีหน้าของคนทั้งตระกูลเห้อก็เสียยิ่งกว่าเดิม หนึ่งในนั้นมีคนพูดขึ้นมาว่า “อาจจะเป็นเพราะว่าจะเจอปัญหาอะไรระหว่างทางก็ได้ ก็เลยยังไม่ได้ทำตามที่ได้รับมอบหมายไป”
“ใช่ๆๆ อาจจะเจอตำรวจเข้า ก็เลยซ่อนตัวกันก่อน”
“น่าจะเป็นแบบนี้แหละ เจอปัญหาอะไรเข้าหรือเปล่า”
ทุกคนหาเหตุผลให้กับตัวเอง
แต่ว่า สายตาของเห้อหวยก็กวาดมองไปยังทุกคน แล้วพูดอย่างหนักใจว่า “หุบปาก!”
ทุกคนก็ตกใจ
“อย่าหาข้ออ้างเลย เห้อจือจี๋เป็นคนแบบไหน ทุกคนก็ล้วนรู้ดี ต่อให้เขาเจอปัญหาอะไร ก็ไม่มีทางที่จะไม่ติดต่อกับพวกเราเลยตั้ง3ชั่วโมง”
เห้อหวยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วพูดว่า “เห้อจือจี๋ คงจะถูกจัดการหมดแล้ว”
เห้อจือจี๋ไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป เขาเคยไปเป็นทหารรับจ้าง เคยฝึกอย่างเข้มข้น อาจจะเจอปัญหาอะไรได้ แต่ไม่มีทางที่จะไม่ติดต่อกับพวกเราเลย3ชั่วโมง
เป็นไปได้อย่างเดียวเท่านั้น คือเห้อจือจี๋ตายแล้ว
“ตายแล้วงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง เห้อจือจี๋เป็นงานดีนะ เขา………”
มีคนอยากจะอธิบาย แต่ครั้งนี้ไม่มีคนเห็นด้วยแล้ว เพราะว่าพวกเขารู้ว่า ครั้งนี้เห้อจือจี๋อาจจะตายแล้วจริงๆ
3ชั่วโมงแล้ว
ใน3ชั่วโมงนี้ พวกเขาให้โอกาสกับตัวเองมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มันก็3ชั่วโมงแล้ว ไม่มีอะไรตอบกลับมาเลย ดังนั้นพวกเขาก็เลยยอมรับความจริง
ลงมือครั้งนี้พ่ายแพ้
เห้อจือจี๋ตายแล้ว
กองกำลัง กลุ่มนั้นก็คงตายหมดแล้วเหมือนกัน
ครั้งนี้ แสงไฟยังส่องสว่าง แต่ทุกคนในห้องโถงกลับต้องตกอยู่ในห้องแห่งความมืดอีกครั้ง เพราะว่าครั้งนี้ตระกูลต้องตกอยู่ในสภาวะที่ต้องสิ้นตระกูลจริงๆ
สายตาของทุกคนก็เย็นชามาก
“เรียกรวมพลคนในตระกูลทั้งหมด”
และในตอนนี้ เห้อหวยก็ลุกขึ้น สั่งการลงไปในฐานะเจ้าบ้าน
“ครับ”
ไม่นานผู้ชายตระกูลเห้อก็เข้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ ล้อมอยู่ในสวน แต่ละคนก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมาก แถมยังพูดอย่างตื่นเต้นอีกว่า “พวกเราจะไปดูศพของไอ้Mr.Xนั่นใช่ไหมครับ? ผมอยากรู้มานานแล้วว่า ภายใต้หน้ากากนั้นจะเป็นอย่างไรกันแน่”
“คงจะหน้าตาอัปลักษณ์นั่นแหละ ไม่งั้นจะใส่หน้ากากทำไม”
“ไม่ต้องไปสนว่ามันจะอัปลักษณ์ หรือหล่อเหลาอะไรหรอก มาหาเรื่องตระกูลเห้อก็สมควรตายทั้งหมด”
“ใช่ สมควรตาย”
พอพูดออกมา ก็ได้รับความเห็นด้วยจากคนส่วนหนึ่ง
จากนั้น ตัวแทนของลูกน้องคนหนึ่ง ก็เดินมาตรงหน้าของเห้อหวย แล้วถามอย่างตื่นเต้นว่า “เจ้าบ้านครับ พวกเราจะไปดูโฉมหน้าที่แท้จริงของไอ้Xอะไรนั่นใช่ไหมครับ?”
พอลูกน้องคนนั้นถาม สายตาของทุกคนก็มองตามมา
“ไม่ใช่ พวกเราจะไปร้องขอชีวิต”
น้ำเสียงขมขื่น
พอพูดจบ เห้อหวยก็เหมือนแก่ไป20ปีเลยทันที ไม่หลงเหลือมาดแห่งการเป็นเจ้าบ้านอีกต่อไปแล้ว เหลือเพียงความเสื่อมถอย
ใช่
ไปร้องขอชีวิต
ไม่ไปร้องขอชีวิตได้ที่ไหนกัน ถ้าไม่ไปขอร้อง ทั้งตระกูลเห้อก็จะเป็นเหมือนกับตระกูลอู๋และตระกูลหลี่ ที่ตายอย่างไร้ที่ฝัง และขอร้องไปก็ไม่แน่ว่าจะได้ผล
ตระกูลเห้อจะรอดหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของMr.X
วัยรุ่นคนนั้นก็ตัวแข็งทื่ออึ้งไป
“เป็นไป……เป็นไปได้อย่างไรกัน พวกเราเป็นถึงหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่……เลยนะ”
เหล่าผู้ใหญ่ที่รู้เรื่องดีก็ส่ายหัว
“ตระกูลเห้อ จบสิ้นแล้ว……จบสิ้นแล้ว….เฮ้อ”
สุดท้ายเห้อหวยก็ถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วตระกูลเห้อก็ออกเดินทาง ชายตระกูลใหญ่ ทั้งหมด60คน มานั่งคุกเข่าขอร้องที่หน้าประตูวิลล่าหยุนติ่ง ตอนตี4
นั่งกับเป็นแถบ
ภาพนี้ ถ้ามีคนเห็นเข้า คงจะต้องดังไปทั่วทั้งเมืองเจียงเฉิง แต่ว่าตอนนี้พวกคนชั้นสูงในเมืองเจียงเฉิงกำลังเสพสุขกับข่าวปลอมที่เห้อหวยแพร่ออกไป ว่าMr.Xตายแล้ว
คนส่วนใหญ่ได้ตกอยู่ในความฝันจอมปลอมที่เห้อหวยสร้างขึ้นมา
ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าประตูของวิลล่าหยุนติ่ง ว่ามันน่ากลัวแค่ไน สำหรับพวกเขาแล้ว คนมีอิทธิพลอย่างMr.Xได้ตายไปแล้ว ก็คือข่าวที่ดีที่สุด
รวมทั้งสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดด้วย
คืนนี้ ถึงขั้นมีคนจุดพลุฉลองด้วย เนื่องในโอกาสที่Mr.Xตาย