เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 174 ประกายแสงของอิ่นหนิงหยู่
นั้นสิ
คำนี้ไม่เลว
แต่ว่า จริงๆ แล้วต้าตาวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉินเฟิงเป็นบุคคลแบบไหน เขารู้เพียงว่าฉีหยุนนั้นเก่งมาก อำมหิตมาก ร้ายอย่างกับปีศาจ แต่คนร้ายๆ แบบนี้ ตัวใหญ่ๆ แบบนี้ พอมาอยู่ต่อหน้าฉินเฟิง กลับนอบน้อม เหมือนแมวน้อยเสียอย่างนั้น
คิดดูก็พอรู้ได้ว่า ฉินเฟิงจะร้ายกาจแค่ไหน
ตอนนั้น เขาแค่อยากบอกว่า พนันกันไปสักตั้ง ชีวิตนี้เขาไม่อาจจะอยู่แต่ในพื้นที่เล็กๆได้ เขาต้องตัดสินใจที่จะออกไปเผชิญโลกกว้าง ติดตามคนที่เป็นพี่ใหญ่สักคน ถึงแม้โอกาสที่จะพ่ายแพ้จะมีมากก็ตาม
แต่ว่าตอนนี้ จะไล่เขาไปก็ไม่ได้แล้ว พี่ใหญ่คนนี้ได้ยอมรับแล้ว
“ต้าตาวมานี่”
ฉินเฟิงเห็นว่าจัดการกับเจ้าบาดแผลต้าตาวแล้ว ก็เลยเรียกต้าตาว
“ครับ พี่ใหญ่”
รูปร่างสูงใหญ่อย่างต้าตาว ก็เดินดุ่ยๆ เข้ามาหา
“ต่อไปคนนี้ก็จะเป็นครูทหารของพวกนาย จะทำงานในผับแห่งนี้ ทำหน้าที่เป็นคนกวาดพื้น จะคอยดูแลความเรียบร้อยในร้าน แล้วก็รับหน้าที่ฝึกซ้อมพวกนาย รวมทั้ง ควบคุมดูแลพวกนายด้วย ตอนนั้นผมบอกอะไรไว้ ยังจำได้ไหม?”
ฉินเฟิงก็มองมายังต้าตาว
“จำได้ครับ เป็นกฎ ไม่ยุ่งเกี่ยว3สิ่ง และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน” ต้าตาวรีบตอบอย่างมั่นใจ
หลังจากที่ติดตามฉินเฟิงแล้วนั้น เขาก็ควบคุมดูแลคนในค่ายเป็นอย่างดี
“ดีมาก”
ฉินเฟิงพยักหน้า พอต้าตาวมีอำนาจมากขึ้น กฎเกณฑ์ด้านในก็ต้องมากขึ้นด้วยเป็นธรรมดา เขาเป็นถึงเทพสงครามอันดับหนึ่งแห่งประเทศต้าหัว จะเลี้ยงคนเนื้อร้ายไว้ไม่ได้
แต่ว่า ตอนแรกนั้นฉินเฟิงแค่เตรียมให้ต้าตาวมารับมือเท่านั้น ไม่ได้คิดจะให้ความสำคัญอะไร
แต่ว่าการแสดงออกของต้าตาวในตอนนี้ ทำให้เขาสนใจ ต้องรู้ก่อนว่า ภรรยาและลูกของเขาล้วนอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง และเขาก็ไม่สามารถจะอยู่ที่นี่ได้ตลอดชีวิต ถ้าหากว่าทางชายแดนด่านหน้าเกิดอะไรขึ้นมา เขาก็จำเป็นต้องไปเฝ้ารักษาเมืองไว้
ดังนั้น เมืองเจียงเฉิงจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเขา
ต้าตาวและหวางเถ่ เป็นตัวเลือกที่ดีเลย คนหนึ่งก็เป็นพลทหารที่ปลดประจำการ นอกจากเมืองเจียงเฉิงแล้ว ก็ไปเมืองไหนไม่ได้อีก อีกคนก็คือต้าตาวที่อยากจะพัฒนากำลังของตนเอง
รวมเป็นทีมกันได้พอดี
ส่วนต้าตาวจะมีใจทะเยอทะยานเกินไปหรือไม่นั้น ถูกฉีหยุนจัดการไปหน่อย ต้าตาวก็ไม่มีใจทะเยอทะยานอะไรไปได้แล้ว ในสายตามีแต่ความเคารพ
“เอ่อ พี่ใหญ่ครับ ให้พี่ชายคนนี้ไปกวาดพื้น คงไม่เหมาะไหมครับ”
ต้าตาวก็แอบส่งสายตาให้หวางเถ่
ก่อนหน้านี้เขาไม่คิดว่าคนอย่างหวางเถ่จะมีความสามารถอะไร แต่งตัวก็ซอมซ่อ แต่ว่าที่ชี้แนะกระบวนท่าต่อสู้เขาไปนั้น ทำให้เขาทึ่งมาก และพบว่าคนคนนี้เป็นยอดฝีมือ
ดังนั้น ในความคิดของเขา ยอดฝีมือก็สมควรที่จะเชิดชูเข้าไว้ จะให้มากวาดพื้นได้อย่างไร
“หมอนี่ ก็ไม่มีดีอะไรมากหรอก เป็นคนกวาดพื้นน่ะดีแล้ว อีกอย่าง เขามาเพื่อไถ่โทษ ดูแลดีเกินไป จะมีคนไม่พอใจเอา”
ฉินเฟิงส่ายหัว แล้วก็โบกปัด พร้อมเดินออกจากผับไป “เรื่องที่เหลือ พวกนายก็จัดการเองก็แล้วกัน”
มีหวางเถ่อยู่ ในผับแห่งนี้ไม่มีปัญหาอะไรมากหรอก
ต่อให้บอดี้การ์ดมังกรมาหาเรื่อง ด้วยกำลังของหวางเถ่ ก็ยังพอป้องกันไว้ได้
เขาบอกว่าจะมีคนไม่พอใจ ก็คงจะเป็นฉีหยุน ตอนที่เพิ่งเจอกันนั้น ฉีหยุนก็อยากจะลงมือกับหวางเถ่ แต่ว่าถูกฉินเฟิงห้ามไว้เท่านั้นเอง
พอออกมาด้านนอก ฉินเฟิงก็หาตัวฉีหยุนพบได้อย่างง่ายดาย เขาอยู่ในร้านไก่ทอดเคเอฟซีแห่งหนึ่ง ฉินเฟิงยืนเอามือไพล่หลังอยู่ด้านนอก ยืนมองทุกอย่างด้านในร้าน
“มา กินทาร์ตไข่”
ฉีหยุนเป็นคนหยาบคายป่าเถื่อน เดิมทีก็เป็นพวกที่บ้าคลั่งในการต่อสู้ แต่ตอนนี้กลับอ่อนโยนมาก ค่อยๆ หยิบเอาทาร์ตไข่ยื่นให้กับเสี่ยวหยู
ใบหน้าเต็มไปด้วยความรัก
“คุณอาคะ เสี่ยวหยูกินไม่ไหวแล้วค่ะ ท้องป่องกลมหมดแล้ว”
หวางเสี่ยวหยูใส่ชุดกระโปรง ใบหน้าก็มีเศษขนมติด เอามือลูบพุงของตัวเองอย่างปรื้มใจ ดูแล้วน่ารักมาก ใครเห็นก็ต้องรัก
“งั้น ไม่กิน ไม่ต้องกินแล้วนะ”
ฉีหยุนรีบเอาทาร์ตไข่กลับไป
รู้สึกเหมือนทำอะไรไม่ถูก ถ้าคนในค่ายทหารรู้เขา ว่าขุนพลพยัคอันดับหนึ่งของเทพสงครามในอีสเตอร์แลนด์ จะมีสภาพเป็นแบบนี้ คงจะหัวเราะเยาะกันฟันร่วงเป็นแน่
ต้องรู้ว่า ตอนที่ฉีหยุนเผชิญกับศัตรูนับหมื่น ก็ไม่เคยตื่นเต้นแบบนี้มาก่อน
ฉินเฟิงไม่ได้ไปรบกวนพวกเขา ได้แต่ยืนมองทั้งหมดอย่างนิ่งๆ ฆาตกรวางเถ่อยากจะขอโทษฉีหยุนก็คงจะยากแล้ว เพราะว่าตอนนั้น ตัวของฉินเฟิงเองก็เกือบจะตายไปแล้วจริงๆ
เขาอยู่ที่อีสเตอร์แลนด์ ก็มีคนนับถืออยู่
ถ้าเขาตายไป ทางอีสเตอร์แลนด์คงจะต้องลุกเป็นไฟแน่
ผ่านไปสักพัก ฉีหยุนก็ค่อยๆ เดินจูงมือหนูน้อยคนนั้นออกมา ค่อยๆ เดินออกมาจากร้าน ด้วยท่าทางไม่อยากให้กลับ
“สวัสดีค่ะคุณอา”
เสี่ยวหยูยิ้มๆ เผยให้เห็นฟันเขี้ยวทั้งสองข้าง แล้วก็ทักทายฉินเฟิง
ในตอนนี้ ด้านข้างก็มีรถเข้ามาจอดหนึ่งคัน เป็นรถBentleyสีเงิน ด้านในมีผู้หญิงคนหนึ่งลงรถมา ก็คือโหวเมิ่งหยาว แล้วก็ทักทายฉินเฟิงอย่างนอบน้อม
“เสี่ยวหยู เดี๋ยวไปกับพี่สาวคนนี้นะ ตอนกลางคืนพ่อหนูจะมาหาเอง”
ฉินเฟิงก็เอามือลูบหัวของเสี่ยวหยู
“ค่ะ เสี่ยวหยูจะไม่ดื้อค่ะ”
หวางเสี่ยวหยูพยักหน้า ก่อนหน้านี้หวางเถ่ได้บอกกับเธอไว้แล้ว ว่าให้เชื่อฟังคุณอาท่านนี้
พอโหวเมิ่งหยาวพาเสี่ยวหยูไปแล้ว ฉีหยุนก็ขับรถอีกคันหนึ่งมา เป็นรถยี่ห้อLandroverสีดำ เป็นรถสำหรับทหารใช้ ฉินเฟิงเข้าไปนั่งข้างใน ด้านในมีหน้ากากที่ขาดครึ่งวางอยู่
ฉินเฟิงเอามันมาสวมเข้าที่ใบหน้า แล้วก็เย็นชาขึ้นทันที พลังความอำมหิตก็แพร่ออกมาทันที แล้วก็คลุมเสื้อคลุมสีดำไปอีกตัว ใส่ถุงมือสีขาว เอนหลังอยู่บนเก้าอี้ แล้วพูดอย่างเนิบๆ ว่า “ได้ยินว่า คืนนี้ตระกูลเห้อมีเรื่องวุ่นวาย แถมยังบอกว่าจะให้ผมตายทั้งเป็น ได้ยินว่าวันนี้พวกนั้นยังจัดงานศพไว้อีกด้วย งั้นก็ไปดูหน่อยแล้วกัน ไปดูซิว่าจะให้เทพสงครามอันดับหนึ่งในประเทศต้าหัวอย่างผม ตายทั้งเป็นได้อย่างไร”
“ครับ” ฉีหยุนกล่าว
……
โหวเมิ่งหยาวจูงมือของเสี่ยวหยู กลับมายังที่วิลล่าหยุนติ่ง ที่หน้าประตูก็มีผู้หญิงที่สดใสคนหนึ่ง มัดรวบผมยาว สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เห็นยอดปทุมถันนูนออกจากเสื้อชัดเจน สวมกางเกงขาสั้นมาก เผยให้เห็นขาขาวๆ เด้งๆ ออกมา
นี่ก็คือ อิ่นหนิงหยู่
“เมิ่งหยาว ที่พักของMr.Xใหญ่โตดีนะ นี่เป็นห้องเบอร์หนึ่งของวิลล่าหยุนติ่งเลยนะ ฉันจำได้ว่าราคาหลายสิบล้านเลยนะ รวยจริงๆ”
อิ่นหนิงหยู่มองไปรอบๆ บ้านพัก แล้วก็ทึ่ง
แต่ว่า จากนั้นอิ่นหนิงหยู่ก็เกาหัว “แต่ว่า ฉันยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมMr.Xถึงยอมให้ฉันเข้ามาที่นี่ ฉันไม่รู้จักเขาเสียหน่อย และไม่ดีคบค้าสมาคมอะไรกับเขาด้วย”
เธอคิดมาครึ่งวัน ก็ยังไม่เข้าใจ
“……”
โหวเมิ่งหยาวอยากจะพูดว่า ไม่รู้จักงั้นหรือ? เป็นถึงพี่เขยตัวเองเลยนะ ลูกเขยไม่เอาไหนที่ชื่อเสียงดังกระฉ่อน สนิทกับเธอดีจะตาย เอาใจเธอมากด้วย ไม่งั้นจะให้เธอมาที่นี่งั้นหรือ?
จริงๆ เลยเชียว
แต่ว่าที่น่าเสียดายก็คือ สุดท้ายแล้วเธอก็พูดออกมาไม่ได้ เพราะเป็นความลับในหน้าที่
“แล้วเด็กคนนี้เป็นใครล่ะเนี่ย?”
ในตอนนี้ อิ่นหนิงหยู่ก็เห็นหวางเสี่ยวหยูข้างโหวเมิ่งหยาว เห็นว่าหน้าตาน่ารักมาก ก็เลยนั่งยองลงไป แล้วก็เอามือลูบเส้นผมของเสี่ยวหยู “น่าจะอายุไร่เรี่ยกับหลานสาวที่บ้านฉัน หรือว่า หนูคงไม่ใช่ลูกสาวของMr.Xหรอกนะ?”
“ไม่ใช่ เป็นลูกสาวของพนักงานในการดูแลของMr.X”
โหวเมิ่งหยาวก็อธิบายไป
จริงๆ แล้วในใจก็เพิ่มเติมไปอีกว่า จริงๆ แล้วหลานสาวที่เธอพูดถึง ก็ลูกสาวของMr.X
แต่ว่า อิ่นหนิงหยู่ก็กลอกตาไปมา มองตาปริบๆ แล้วมุมปากก็เผยรอยยิ้มร้ายๆ เบาๆ ออกมา “พี่สาวของทดสอบหนูหน่อยนะ Mr.Xมีชื่อจริงว่าอะไรนะ? ถ้าตอบถูก พี่มีของอร่อยให้กินด้วยแหละ”