เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 168 เคารพ คำสั่งของฉัน
“เคารพ คำสั่งของคุณครับ”
หวางเถ่ขาพิการข้างหนึ่ง ค่อยๆคุกเข่าลงข้างหนึ่ง อย่างยากลำบาก
นี่คือวิธีการให้ความเคารพกำสั่ง
เป็นการแสดงออกว่าเขาผู้เป็นอันดับที่สิบเอ็ดของบัญชีดำ ฉายาอาจารย์ได้จงรักภักดีต่อฉินเฟิงแล้ว แม้ว่าตอนนี้เขาจะพิการครึ่งหนึ่ง กำลังหนึ่งในพันก็แสดงออกมาไม่ได้
“ลุกขึ้น”
ฉินเฟิงออกคำสั่ง หวางเถ่ก็ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก
ทำตามคำสั่งทันที นี่คือกฎของฉินเฟิง
ในหนึ่งปีกว่านั้นที่หวางเถ่เป็นลูกน้องของฉินเฟิง จะต้องรู้กฎนี้อยู่แล้ว ข้ออ้างมากมาย ก็ไม่สามารถฝ่าฝืนกฎ คำสั่งของทหารหนักแน่นดั่งภูเขา คำสั่งของฉินเฟิงก็คือภูเขา
ฉินเฟิงไม่ได้โกรธแค้นความผิดในอดีตของหวางเถ่ ไม่ ควรจะพูดว่าหวางเถ่นั้นไม่ได้ผิด เพราะว่าเขาเป็นนักฆ่า การลอบฆ่าตัวเอง นั่นคือสิ่งที่เป็นปกติ
จุดยืนไม่เหมือนกัน การมองก็ไม่เหมือนกันก็เท่านั้น
เพียงแต่ว่า เขาอยู่ในประเทศต้าหวามานานหลายปีขนาดนี้ ได้เปลี่ยนไปตามประเทศต้าหวาแล้ว
“ทำอะไรกัน ถ่ายหนังโบราณรึไง ยังมีเคารพคำสั่งอีก อะไรคือเจ้าพระคุณ? คนที่ใส่เสื้อผ้าแบบธรรมดาอย่างนี้คือเจ้าพระคุณ? นายเรียกฉันเจ้าพระคุณยังจะดีกว่า แต่ว่า นายเองก็ใส่ธรรมดาเหมือนกันนี่นา”
เสียงแสบหูรอบด้านเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
ทุกคนหันหน้าไปมอง คือโต๊ะหนึ่งด้านข้าง มีคนอยู่สองคน หนึ่งในนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งใส่เสื้อผ้าดูดี กำลังดูถูกฉินเฟิงอยู่
“ใต้….”
บนใบหน้าของหวางเถ่มีความโมโหปรากฏขึ้น เจ้าพระคุณ?
ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมีคำเรียกว่าใต้เท้า เทพสงครามอันดับหนึ่งของประเทศต้าหวา กำจัดปัญหาประเทศ ทำให้หลายประเทศได้ยินแล้วก็หวาดกลัว ถึงได้มีสิทธิ์นี้
เพียงแต่ว่าฉินเฟิงโบกมือ ให้เขาหุบปาก
“ใช่”
หวางเถ่หยุดอยู่ที่ข้างกายฉินเฟิง เป็นทหารที่กำลังทำหน้าที่ แต่เขาในตอนนี้ไม่ใช่ทหารน้อยอะไร แต่เป็นแรงงานข้ามชาติที่ใส่เสื้อผ้าขาดรุ่ย
ดังนั้น จึงทำให้ดูตลกมาก
“นายรู้จักฉัน?”
ฉินเฟิงมองชายหนุ่มใส่เสื้อผ้าดูดีคนนั้น
เขาสังเกตเห็นว่า ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ดีๆก็มาหาเรื่อง แต่สังเกตมาสักพักแล้ว เหมือนกับว่ามั่นใจแล้วว่าเขาคือใคร จากนั้นถึงได้เริ่มมาหาเรื่อง
ในแววตามีความเป็นศัตรูอยู่มากมาย
“ฉันรู้จักนายอยู่แล้ว แต่ว่า สามารถพูดได้ว่า ใครไม่รู้จักนายบ้าง ฉินเฟิง ลูกเขยแต่งเข้าบ้านของตระกูลอิ่นที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียงเฉิง ภรรยาของนายในตอนนี้มีชื่อเสียงมาก กลายเป็นประธานของบริษัทกึ่งซานหยวนจำกัด คุณค่าสูงขึ้นมาก แต่ว่านายละ ยังเป็นแค่รปภ.ธรรมดาคนหนึ่ง แล้วตอนนี้ยังมาเล่นเกมเจ้าพระคุณอะไรอีก เป็นแค่โรคประสาทคนหนึ่งจริงๆ”
หวางลี่ดึงคอเสื้อ แล้วก็พูดต่ออีกประโยคว่า “นายคิดว่า นายคู่ควรงั้นหรอ?”
“หลายวันก่อนฉันจีบอิ่นซิน แต่ว่าอิ่นซินกลับบอกมาว่าเธอแต่งงานแล้ว ใช้เหตุผลนี้ปฏิเสธฉัน นายว่า ฉันไม่ดีกว่านายตรงไหน เธอถึงได้ชอบคนไร้ค่าอย่างนาย แต่กลับไม่เลือกฉัน”
หวางลี่สีหน้าไม่พอใจ
จะว่ายังไง เขาก็เป็นคนมีฐานะ มีตำแหน่ง หน้าตาดี ดีกว่าฉินเฟิงตรงหน้านี้จนไม่รู้ว่ามากแค่ไหนแล้ว ไม่รู้เลยจริงๆว่าฉินเฟิงนี่มันโชคดีอะไร ถึงได้พบกับเทพธิดาอย่างอิ่นซิน
อิ่นซินในตอนนี้ ก็ยังเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งของเมืองเจียงเฉิง เป็นคนที่คนนับไม่ถ้วนอยากจะแต่งงานด้วย
แต่น่าเสียดาย ที่ได้พบกับคนไร้ค่าอย่างฉินเฟิง
“ใต้เท้า ผม…..”
หวางเถ่อยากจะลงมืออีกครั้ง แต่ถูกฉินเฟิงยื่นมือข้างหนึ่งมาขวางไว้
สำหรับทหารของอีสเตอร์แลนด์แล้ว เทพสงครามแห่งอีสเตอร์แลนด์เป็นสิ่งที่รุ่งโรจน์อย่างที่สุด ห้ามให้ใครมาเหยียบย่ำได้เด็ดขาด
“ทำไม? แรงงานข้ามชาติอย่างนายอยากจะตีฉัน? นายนับเป็นตัวอะไร ใส่เสื้อผ้าขาดรุ่ย บนร่างกายยังมีสิ่งสกปรกมากมาย ผมก็สั้น ยังมาทำเป็นหนังโบราณอะไร ยังมาใต้เท้าอีก ถุย”
หวางลี่สีหน้าดูถูก แล้วก็อวดนาฬิกาโรเล็กซ์ที่ข้อมือตัวเอง แสดงท่าทางออกมาว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่สูงศักดิ์เหนือกว่า
“ใช่สิ นายยังมีลูกสาวคนหนึ่งกับเทพธิดาอิ่นด้วย โชคดีจริงๆเลย คนอย่างนาย ยังมีลูกสาวกับเทพธิดาได้ด้วย แต่ว่า จากยีนของนายแล้ว ลูกสาวของนายคงไม่ใช่สิ่งที่ดีอะไร….”
หวางลี่ไม่พอใจฉินเฟิงมาแต่แรกแล้ว ก็แค่รปภ.คนหนึ่ง ยังอยากจะครอบครองอิ่นซิน
ฉินเฟิงนับเป็นตัวอะไรกัน
ฉินกั่วกั่วนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีอะไร
แต่แล้ว ในเวลานี้เอง คำพูดด้านหลังของหวางลี่ยังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงร้องโอดครวญดังขึ้น คนรอข้างต่างก็อึ้งไป เพราะว่าพวกเขาเองก็โมโหกับคำพูดนั้นของหวางลี่ อะไรคือเหนือกว่า มีเงินแล้วยังไง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องลงมือจริงๆ
แต่ว่าในเวลานี้เอง พวกเขาเห็นเพียงแค่ว่ามีตะเกียบแท่งหนึ่งเสียบเข้าที่ขาของหวางลี่
“เสียงดัง” ฉินเฟิงพูดอย่างเย็นชา
เสียงดังฟุ่บ
หวางลี่คุกเข่าลง กุมต้นขาไว้และกรีดร้อง “อ๊า….”
“น้องชาย”
ชายผมสั้นที่อยู่โต๊ะด้านข้างอีกโต๊ะหนึ่ง ชายร่างบึกบึนลุกขึ้นยืน ความสูงร้อยเก้าสิบแปดเซนติเมตร ดูแล้วน่ากลัวมาก รีบเข้ามาตรวจสอบดูบาดแผลของหวางลี่
“พี่ชาย ไม่ต้องสนใจผม ไอ้นั่นมันเป็นคนทำ ช่วยผมจัดการพวกมันสองคนหน่อยครับ”
หวางลี่จนเจ็บไว้ กัดฟัน เหงื่อแตก แต่ก็ยังเงยหน้าขึ้น มองดูฉินเฟิงอย่างชั่วร้าย เขารู้ว่าฉินเฟิงเป็นคนทำ
“ไอ้หนุ่ม นายคงไม่ได้คิดว่ามีศิลปะการต่อสู้นิดหน่อยก็สามารถอวดเก่งได้แล้วหรอกนะ?”
ชายหนุ่มผมสั้นคนนั้นลุกขึ้นยืน บนใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดร้าย กำหมัดต่อยเข้าด้วยกันและพูดว่า “แนะนำตัวสักหน่อย ฉางลี่เสว ที่หนึ่งของการแข่งขันคิกบ็อกซิ่ง”
“พระเจ้า ฉางลี่เสว”
เสียงดังโครมทีหนึ่ง
ชายคนหนึ่งลุกขึ้นยืน บนใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ “ที่หนึ่งของการแข่งขันคิกบ็อกซิ่ง ใช่ ไม่ผิดแน่ นายก็คือฉางลี่เสวคนนั้น คนที่ต่อยคนตายไปหกคนในการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งคนนั้น”
เมื่อเขาพูดขึ้น ทุกคนถึงได้นึกออกว่าฉางลี่เสวคือใคร
“การแข่งขันคิกบ็อกซิ่งในปีที่แล้วมีม้าดำปรากฏตัวขึ้นคนหนึ่ง นั่นก็คือฉางลี่เสว หมัดสองข้างนั้นต่อยพวกคนมีชื่อเสียงพวกนั้นไปจนทั่ว ไม่เหลือไว้สักคน เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงอย่างมาก”
“ใช่แล้ว มีคนบอกว่าฉางลี่เสวคืออัจฉริยะ เพียงแต่ว่าลงมือหนักเกินไปหน่อย”
“ในการแข่งขัน ต่อยจนพิการไปถึงสิบสองคน ตอนนี้สิบสองคนนั้นยังนอนอยู่ในโรงพยาบาล หนึ่งในนั้นได้กลายเป็นคนนิทราไปทั้งชีวิต แล้วยังมีหกคนที่ถูกต่อยจนตายไปเลย”
คนรอบข้างต่างก็ออกความเห็น ตื่นตระหนกกัน
เพียงเพราะว่า ฉางลี่เสวสามพยางค์นี้ ได้หมายถึงความแข็งแกร่ง
คิกบ็อกซิ่งคือกีฬาอย่างหนึ่งที่อันตรายมาก โดยปกติแล้วจะเซ็นสัญญาชีวิตไว้ แต่ว่าคนส่วนมากจะเหลือขีดจำกัดหนึ่งไว้ ก็คือไม่ทำร้ายคนอื่นจนเจ็บหนัก
แต่ว่าฉางลี่เสวนั้นแตกต่าง คนๆนี้เหมือนกับราชาผู้ทำลาย จงใจมาเพื่อทำร้ายคนอื่นจนเจ็บหนัก
คู่ต่อสู้ของเขา ไม่ตายก็พิการ
“เหอะๆ ที่แท้ชื่อเสียงของฉันก็มากขนาดนี้แล้วงั้นหรอ?”
ฉางลี่เสวยิ้มเยาะ จากนั้นก็มองฉินเฟิง เอียงคอไปมา เขาไม่สนใจว่าชื่อเสียงของเขาเป็นยังไง เขาสนใจเพียงแค่ว่าจะทรมานศัตรูให้หนักยังไง
เพียงแค่ทรมานให้เจ็บปวดมากแค่ไหน เขาก็จะยิ่งสนุกมากแค่นั้น
“รีบหนีเร็ว”
เนื่องจากฉางลี่เสวราชาผู้ทำลายคนนี้ คนรอบข้างต่างก็กลัวว่าถ้าไม่ระวัง จะไปทำให้คนๆนี้โมโห ตัวเองไม่ตายก็เจ็บหนัก จึงรีบหนีไป
แม้แต่เถ้าแก่เองก็หนี
เพียงเพราะว่า ชื่อเสียงของคนๆนี้น่ากลัวมากจริงๆ