บทที่ 4 ตอนที่ 3.2
【เผ่า】เซลีนี (Selene)
【พลังต่อสู้】750
【ทักษะติดตัว】
– เทพีจันทร์สว่างเต็มดวง : สามารถใช้พลังของเซลีนี เทพีแห่งดวงจันทร์และเวทมนตร์ได้
– เทพธิดา 3 ภาค : การ์ดใบนี้ ถือว่าเป็นภาคหนึ่งของการ์ด 3 ใบ, ถึงแม้จะอัญเชิญมาทั้ง 3 ใบ ก็จะนับช่องการอัญเชิญในเขาวงกตเพียงแค่ 1 เท่านั้น อีกทั้งพลังชีวิต, พลังเวท, จำนวนการใช้สกิลยังสามารถใช้งานร่วมกันระหว่างทั้ง 3 ใบอีกด้วย
– โลกจันทรายะเยือก : แปลงสภาพพื้นที่รอบๆให้กลายเป็นทุ่งแสงจันทร์ยามค่ำคืน, ลบล้างวงศ์วานที่ไม่ใช่ของฝ่ายตนเองออกทั้งหมด และป้องกันไม่ให้มีการเรียกวงศ์วานเพิ่ม, สามารถใช้ได้ก็ต่อเมื่ออาร์ทิมิส(Artemis), เซลีนี, เฮคาที(Hecate) ทั้ง 3 ใบอยู่พร้อมหน้ากัน ใช้ได้วันละ 1 ครั้ง
– การปกป้องของราชสีห์ : สามารถอัญเชิญวงศ์วาน ราชสีห์นีเมียน ออกมาได้ ครั้งละ 1 ตัว วันละ 1 ครั้ง
– ผู้ใช้เวทมนตร์ขั้นสูง
【ทักษะเรียนรู้】
– ความภาคภูมิใจของเทพ
– วิหารอย่างง่าย : สามารถสร้างวิหารอย่างง่ายขึ้นมาได้ด้วยการวาดวงเวทลงบนพื้น, ภายในวิหาร เพิ่มค่าสเตตัสทั้งหมด, มอบการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง, เพิ่มผลลัพธ์ของสกิลบางอย่าง, เพิ่มประสิทธิภาพของคุณสมบัติศักดิ์สิทธิ์
– ลดการร่าย
– ฟื้นฟูพลังเวท
【เผ่า】ราชสีห์นีเมียน
【พลังต่อสู้】700 (1050 เมื่อถูกอัญเชิญ)
【ทักษะติดตัว】
– หนังคงกระพัน : สกิลแปลงอุปกรณ์ขั้นสูง, ด้วยการผสานเข้ากับการ์ดใบอื่น หรือกับตัวมาสเตอร์เอง จะสามารถนำพลังต่อสู้ของตนไปเพิ่มให้ได้ อีกทั้งแบ่งปันสกิลติดตัว 1 อย่างนอกเหนือไปจากสกิลแปลงอุปกรณ์และสกิลเรียนรู้ทั้งหมดให้ได้, หนังสัตว์นี้มีพลังป้องกันสูงต่อการโจมตีทางกายภาพ ยกเลิกผลการโจมตีกายภาพที่ต่ำจนถึงจุดหนึ่ง
– การคุ้มครองแห่งราชสีห์ : ด้วยการคุ้มครองแห่งราชสีห์ จะได้รับพลังอมตะจนกว่าจุดอ่อนจะถูกใช้ประโยชน์, ประกอบด้วยพลังเหนือมนุษย์, ฟื้นฟูตัวเอง, เป็นอมตะ, สามารถถูกยกเลิกเมื่อโดนโจมตีจากทางด้านข้าง
– ห่วงโซ่อาหาร : ใช้สิ่งที่กินเป็นสารอาหาร สามารถดูดซับพลังมาได้ส่วนหนึ่ง, สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ด้วยการกินเหยื่อ, นำค่าสเตตัสของอีกฝ่ายบางส่วนมาเพิ่มให้กับตนเองเป็นการชั่วคราวได้
– การตื่นขึ้นของสัญชาตญาณ
【ทักษะเรียนรู้】
– ร่างวงศ์วานขั้นสูง : ร่างกายชั่วคราวที่ถูกอัญเชิญมาจากสกิล, ไร้ซึ่งทักษะเรียนรู้และไม่มีการเติบโต ร่างวงศ์วานขั้นสูงมีอัตตาเทียบเท่าได้กับตัวต้นฉบับ มีพลังต่อสู้เป็น 1.5 ของตัวต้นฉบับ
【เผ่า】เบอร์เซิร์ก (Berserkr)*
【พลังต่อสู้】900
【ทักษะติดตัว】
– นักรบแห่งเทพสูงสุด : นักรบผู้รับใช้เทพสูงสุดของเทพปกรณัมนอร์ส โอดิน, ประกอบด้วยสกิลคาถารูนพื้นฐาน, นักรบ
(คาถารูนพื้นฐาน : สามารถใช้สกิลท้องถิ่นของนอร์ดิก・สกิลคาถารูนในระดับพื้นฐานได้)
(นักรบ : ประกอบด้วยสกิลที่จำเป็นสำหรับนักรบ, ประกอบด้วยสกิลศิลปะการต่อสู้, วิชาดาบ, วิชาหอก, การยิงธนู, และขี่สัตว์)
– ผู้สวมใส่ความบ้าคลั่ง : ปล่อยให้ความบ้าคลั่งเข้าครอบงำเพื่อลงมือสังหาร, ในระยะเวลาหนึ่ง ผู้ใช้จะตกอยู่สภาวะคลุ้มคลั่งและไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน จะได้รับสถานะ『อมตะ』มาเป็นการทดแทน, ค่าสเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3 เท่า, ยกเลิกสถานะผิดปกติทั้งหมด, หลังจากสิ้นสุดผล ผู้ใช้จะไม่สามารถกระทำการใดๆได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง
(อมตะ : ขณะที่ส่งผล ต่อให้ได้รับความเสียหายที่มากเกินไปกว่าพลังชีวิตก็จะไม่ลอส)
– น้ำพุแห่งชีวิต : แหล่งกำเนิดพลังชีวิตที่ไม่มีวันสิ้นสุด, พลังชีวิต, พลังกาย, และพลังต้านทานต่อสถานะผิดปกติบางอย่างเพิ่มขึ้นอย่างมาก, ประกอบด้วยฟิ้นฟูตนเอง, และฟื้นฟูต่อเนื่อง
– เสริมพลังกายภาพ : เพิ่มพลังการโจมตีทางกายภาพขึ้น
【ทักษะเรียนรู้】
– นักล่า : ประกอบด้วยสกิลศิลปะการต่อสู้, การยิงธนู, มองไกล, สะกดรอย, และปกปิดตัวตน
– ไร้จังหวะ : ช่วยข้ามกระบวนการในสกิลศิลปะการต่อสู้, ผลลัพธ์เพิ่มขึ้นตามความเชี่ยวชาญ
– หลบหลีก
เซลีนี
เป็นการ์ดที่มีชื่อเสียงจากการเป็น 3 ใบรวมเป็น 1 ของเทพีแห่งดวงจันทร์ รวมกันกับอาร์ทิมิสและเฮคาที
เทพีทั้ง 3 องค์นี้ต่างเป็นตัวแทนของดิถีของดวงจันทร์แต่ละแบบ ว่ากันว่าอาร์ทิมิสแแห่งจันทร์ครึ่งดวง แทนตัวด้วยเด็กสาววัยกำลังโต, เซลีนีแห่งจันทร์เต็มดวง แทนตัวด้วยหญิงสาวโตเต็มวัย, และเฮคาทีแห่งจันทร์ดับ แทนตัวด้วยหญิงชราที่ใกล้สิ้นอายุขัย (แต่บ้างก็ว่าเป็นหญิงสาวสวยที่มีอายุประมาณหนึ่ง…..)
การ์ด 3 ใบรวมเป็น 1 อื่นๆ ที่มีชื่อเสียงก็อย่าง พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ จากศาสนาฮินดู, อูร์ด(Urd) แวร์ดันดี(Verdandi) สกูลด์ (Skuld) จากเทพปกรณัมนอร์ส ซึ่งโดยทั่วไปจะมีสกิลขั้นที่สูงกว่าสกิลจากเทพธิดา 2 ภาคที่เป็นแบบ 2 ใบรวมเป็น 1
เซลีนีมีเทพธิดา 3 ภาค ซึ่งเหมือนกันกับเทพธิดา 2 ภาค เป็นสกิลขั้นสูงกว่าของสกิล 2 ใบรวมเป็น 1
สาเหตุที่ไม่เรียกว่าเป็นสกิลขั้นสูงของเทพธิดา 2 ภาค ก็เพราะว่าทั้งคู่ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
ข้อดีของเทพธิดา 3 ภาคที่มีเหนือกว่าเทพธิดา 2 ภาค อย่างแรกคือ สามารถอัญเชิญทั้ง 3 ใบได้ในช่องการอัญเชิญเดียว, อย่างที่สองคือ เมื่ออยู่พร้อมกันทั้ง 3 ใบ จะสามารถใช้สกิลประจำตัวที่ทรงพลังได้
ข้อเสียก็คือ ไม่เหมือนกับเทพธิดา 2 ภาค จะไม่สามารถแปลงกายเป็นการ์ดอีกใบได้ อีกทั้งไม่สามารถแบ่งปันสกิลเรียนรู้ให้กันได้
ความแข็งแกร่งของสกิล 2 ใบรวมเป็น 1 อย่างเทพธิดา 2 ภาค หรือเทพธิดา 3 ภาค นั่นก็คือการอัญเชิญการ์ดออกมาได้หลายใบในช่องการอัญเชิญเดียว การเพิ่มจำนวนการ์ดนับเป็นความแข็งแกร่งอย่างเรียบง่าย สกิลประเภทนี้จะยิ่งทรงพลังในสถานการณ์ที่จำนวนถูกจำกัดไว้อย่างมอนโคโล….. แข็งแกร่งมากเสียจนจัดตารางแข่งและจับคู่ให้ได้ลำบาก
ทว่า พูดกันตามหลักความจริงตรงที่หากรวบรวมได้ทั้ง 3 ใบจะแข็งแกร่ง ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นข้อเสียได้เช่นกัน นั่นก็เพราะถ้ารวบรวมไม่ได้ทั้งหมด ก็ไม่มีความหมาย
ถ้าแรงค์ C ล่ะก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นแรงค์ B ที่มีความยากมหาศาล การที่คนคนหนึ่งจะรวบรวมเองได้ทั้ง 3 ใบก็เป็นอะไรที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
พูดกันตามตรง ถ้าสามารถรวบรวมการ์ดสาวมอนแรงค์ B ได้ 3 ใบแล้วล่ะก็ คงจะมีเงินมากพอจะอยู่สบายไปชั่วชีวิตแล้ว จะมีความหมายอะไรที่ต้องอุตส่าห์พยายามรวบรวมการ์ด 3 ใบรวมเป็น 1 อีก
เมื่อมองในแง่นั้น ถึงแม้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพในด้านของช่องการอัญเชิญที่ดีกว่า แต่ถ้าเป็นในด้านของราคาและความสามารถแล้ว เทพธิดา 2 ภาคที่การ์ด 1 ใบ สามารถใช้พลังของการ์ดอีกใบได้จะดีกว่า
และการที่ไม่สามารถแบ่งปันสกิลเรียนรู้ให้ได้ก็ถือเป็นข้อเสียข้อใหญ่ด้วย
แต่ว่า เทพธิดา 3 ภาคก็มีข้อดีข้อใหญ่ที่เทพธิดา 2 ภาคไม่มีอยู่
นั่นก็คือ สกิลพิเศษที่สามารถใช้งานก็ต่อเมื่อรวบรวมได้ทั้ง 3 ใบ
『โลกจันทรายะเยือก』ของพวกเซลีนี ถือเป็นสกิลหายากมากที่สามารถสังหารวงศ์วานได้
ถ้าหากว่าให้เปรียบวงการปัจจุบันของระดับกึ่งมืออาชีพขึ้นไปให้เป็นเกมการ์ดแล้วล่ะก็ ที่แข็งแกร่งที่สุดแบบไม่เห็นฝุ่นก็คงจะเป็นการอัญเชิญวงศ์วาน
ไม่ว่าจะเป็นศาตราจารย์หรือกราดิเอเตอร์ ถ้าหากว่าในเด็คไม่มีการ์ดที่มีความสามารถอัญเชิญวงศ์วานแล้วล่ะก็เป็นเด็คที่ไร้ประโยชน์ อยู่ในระดับนั้นเลย
เมื่อพยายามรับมือกับการอัญเชิญวงศ์วาน วิธีที่เร็วที่สุดก็คือการใส่มอนสเตอร์ที่มีความสามารถอัญเชิญวงศ์วานได้เข้าไปในเด็คตัวเองด้วย กลยุทธพื้นฐานก็คือการใช้ประโยชน์จากตัวที่มีความสามารถอัญเชิญวงศ์วานให้ได้มากที่สุด
ถ้าหากว่านี่เป็นเกมการ์ดล่ะก็ มันคงจะเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีเอามากๆ แล้วก็ต้องคาดหวังว่าผู้ดูแลจะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง แต่…..น่าเศร้าที่นี่คือความเป็นจริง เขาวงกตได้ปรากฏขึ้นมาก็ 20 ปีแล้ว และก็ไม่มีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงเลย
หรือก็คือ การครอบงำของการอัญเชิญวงศ์วานนี้จะคงเป็นอยู่ต่อไปในอนาคต
ท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น เจ้า『โลกจันทรายะเยือก』ที่เป็นสกิลต่อต้านการอัญเชิญวงศ์วานจึงมีค่ามหาศาล
ด้วยสกิลนี้ที่ปิดกั้นการอัญเชิญวงศ์วานของอีกฝ่าย ในขณะที่ทำการอัญเชิญวงศ์วานของตนเองต่อไปได้เรื่อยๆ ราวกับว่าเป็นข้าคือเทพพพ! ที่แท้ทรู
ถ้าเอาไปใช้ในมอนโคโลล่ะก็ คงไม่ถูกจับคู่จัดตารางแข่งอีกเป็นครั้งที่ 2 แน่นอน
ในแง่หนึ่ง มันก็คือการ์ดที่ถูกแบนในชีวิตจริง แต่สำหรับภายในเขาวงกต ความเข้าใจในเรื่องแบบนั้นมันไม่มีอยู่
จะเป็นเทพพพ! ยังไงก็ได้ตามใจ ไม่มีใครจะมาบ่นได้
ก็นะ แค่สามารถรวบรวมเทพธิดาทั้ง 3 ใบได้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เป็นเทพพพ! ในสายตาของสังคมโลกแล้ว
ถ้าหากต้องการรวบรวมทั้ง 3 ใบล่ะก็ ราคาจะประมาณ 6 ~ 7 หมื่นล้าน…..เป็นระดับที่ทีมมืออาชีพร่วมด้วยช่วยกันถึงจะสามารถซื้อได้ครบทั้งหมด
แน่นอนว่ามันคงจะถูกใช้ในกองทัพเป็นปกติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีประเทศไหนจะสามารถพิชิตเขาวงกตแรงค์ A ที่เป็นดั่งดินแดนปีศาจได้เลย…..
ก็นะ ตั้งแต่ชั้นที่ 50 ขึ้นไปพวกอย่างเซลีนีจะปรากฏออกมาเป็นของปกติ…..มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
ในอีกด้านหนึ่ง เบอร์เซิร์ก ทางนี้เป็นการ์ดประเภทที่แข็งแกร่งในตัวมันเองอย่างง่ายๆ
มีพลังต่อสู้สูง ความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดที่ล้นหลาม ด้วย『ผู้สวมใส่ความบ้าคลั่ง』ทำให้กลายเป็น『อมตะ』ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง และถึงแม้จะเป็นขั้นพื้นฐานแต่ก็มีสกิลท้องถิ่น สกิลคาถารูนอยู่อีกด้วย
จากที่เห็นว่ามีสกิลท้องถิ่นอยู่ แสดงว่าเบอร์เซิร์กใบนี้ไม่ได้มาจากญี่ปุ่น เป็นการ์ดท้องถิ่นจากสแกนดิเนเวีย
นั่นเพราะว่าในญี่ปุ่นไม่มีการ์ดที่ถูกเรียกว่าเบอร์เซิร์กอยู่ จะมีเพียงการ์ดเบอร์เซิร์กเกอร์ที่เรียกได้ว่าเป็นเบอร์เซิร์กเกรดต่ำ ที่เป็นแรงค์ D อยู่
คาถารูน เป็นสกิลที่เน้นไปที่การมอบพลัง แม้จะมีเวทมนตร์ที่ใช้โจมตีไม่มาก แต่ก็เป็นสกิลดีที่มีความหลากหลายอย่างมาก จากการที่ผู้ใช้สามารถสลักรูนลงไปที่ตัวพรรคพวกและอุปกรณ์เวทได้
สำรวจ, เกราะป้องกัน, ขับไล่ปีศาจ, ชำระล้างคำสาป, อำพรางตัว, เสริมแกร่ง, หลบเลี่ยงศัตรู, มองไกล…..
ความหลากหลายของมันถึงขั้นที่ว่า ถ้าหากมีสกิลคาถารูนขั้นสูงอยู่ล่ะก็ อุปกรณ์เวทแทบทั้งหมดจะไม่มีความจำเป็นอีกเลย
ไม้ตาย『ผู้สวมใส่ความบ้าคลั่ง』มีข้อเสียใหญ่ที่ทำให้ควบคุมลำบากแต่ก็ไม่ได้โจมตีพวกเดียวกัน เป็นสกิลที่มีความแข็งแกร่ง ที่ทำให้สามารถทัดเทียมกับจ้าวของเขาวงกตที่มีแรงค์เท่ากันได้ด้วยเพียงแค่ใบเดียว
ในสถานการณ์ปกติ จะมีบทบาทในด้านของเทคนิคด้วยการใช้ความสามารถด้านการต่อสู้ระยะประชิดและคาถารูน แต่เมื่อถึงเวลาก็สามารถบ้าคลั่งแล้วใช้ในการต่อสู้ระยะสั้นๆ หรือใช้ตอนล่าถอยได้ เป็นการ์ดที่มีความแข็งแกร่งและมาตรฐานที่สูง
เอาล่ะ จะเอายังไงดี
นี่มันเป็นคำถามที่ยากน่าดู
แน่นอนว่าที่เลือกเป็นการ์ด 2 ใบนี้จากการ์ดที่มีให้เลือกมากมายนั้นมีสาเหตุอยู่
เซลีนีเป็นปลายทางการแรงค์อัพของเอลิซ่า ส่วนเบอร์เซิร์กเป็นของยูคิ
หรือก็คือ เป็นคำถามที่ว่าจะแรงค์อัพเอลิซ่าหรือยูคิดี แต่ว่ากันตามตรง มันมีปัญหาอยู่นิดหน่อยในการแรงค์อัพยูคิ
ถ้าหากยูคิแรงค์อัพ ก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสกิลเรียนรู้ที่พิเศษอย่างทำลายขีดจำกัดและอัญเชิญวงศ์วานแท้จริง
ถ้าเกิดการโอนย้ายสำเร็จปลอดภัยมันก็ดีไป แต่มันก็มีโอกาศที่จะไม่เกิด
ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ ต่อให้อุตส่าห์พยายามแรงค์อัพขึ้นมามันก็ไม่ได้ส่งผลการเพิ่มพลังต่อสู้ที่มากเท่าไหร่นัก และค่าใช้จ่ายในการชุบชีวิตก็จะพุ่งขึ้นสูงลิ่ว
แล้วยังมีเรื่องที่ต้องเสียคุโร่กับชิโร่ไปอีก
แต่ถ้าเป็นเอลิซ่า จะสามารถได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดโดยที่ไม่มีความเสี่ยงใดๆ
ที่น่ากังวลอยู่อย่างเดียวก็คือ『My Fair Lady』จะไม่สามารถใช้งานได้อีก แต่…..ตรงนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าคุณสมบัติของเธอจะมีส่วนเกี่ยวข้องมาก จึงไม่น่าจะต้องเป็นห่วงอะไรมากนัก
ด้วยเหตุนี้ ถ้าเปรียบเทียบแค่ทั้ง 2 นี้ ที่ควรแรงค์อัพก็น่าจะเป็นเอลิซ่า…..แต่ตามที่ได้ว่าไป ปัญหาเรื่องของเทพีดวงจันทร์ 3 ดิถีที่เหลือก็จะถูกยกขึ้นมา
อันที่จริง ยูคิเองก็สามารถแรงค์อัพเป็นอาร์ทิมิสได้ และเมอาก็เป็นเฮคาทีได้
ถ้าต้องการจะแสดงมูลค่าที่แท้จริงของเซลีนีให้มากที่สุด ก็จำเป็นต้องมีอาร์ทิมิสและเฮคาที
เพื่อการนั้น ยูคิและเมอาก็อาจจะได้แรงค์อัพเป็นอาร์ทิมิสและเฮคาที
แน่นอนว่ามีตัวเลือกอีกอย่างโดยสามารถใช้พวกยูคิไปทั้งๆแบบนั้นโดยที่ไม่ต้องแรงค์อัพ แล้วใช้อาร์ทิมิสและเฮคาทีร่วมกับเอลิซ่าในฐานะพรรคพวกใหม่
ถ้าแบบนั้น หวนคืนจิตวิญญาณที่อุตส่าห์พยายามอย่างหนักหามาให้เมอาก็จะไม่เสียเปล่า และก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสกิลเรียนรู้พิเศษของยูคิ
ทว่า เมื่อคำนึงถึงความยากในการได้แรงค์ B มา ก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่มีโอกาศมอบการแรงค์อัพแบบใหม่อื่นๆ ให้แก่ยูคิหรือเมอาได้อีก
หากไปได้ไม่ดี พวกยูคิอาจจะต้องเกษียณออกไปโดยที่ไม่ได้แรงค์อัพอะไรอีกก็เป็นได้
ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก อย่างที่คิดว่าคงจะต้องแรงค์อัพพวกยูคิไปเป็นพวกอาร์ทิมิสเข้าซักวันหนึ่ง
พูดอีกอย่างคือ การเลือกครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อเพิ่มพลังต่อสู้ แต่ยังส่งผลต่อกลยุทธของเด็คในอนาคตอีกด้วย
ถ้าหากว่าเลือกเส้นทาง 3 เทพีดวงจันทร์ล่ะก็ จะไม่สามารถแสดงคุณค่าที่แท้จริงออกมาได้จนกว่าจะมีครบทั้งหมด และต้องสูญเสียหวนคืนจิตวิญยาณที่เมอาใช้ไปเป็นลิลิมที่อุตส่าห์พยายามหามา…..
ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าเลือกเบอร์เซิร์ก ก็จะไม่ถูกผูกมัดกับเป้าหมายการแรงค์อัพอะไร ทำให้ง่ายต่อการแรงค์อัพ
ยิ่งกว่านั้น การที่ 3 เทพีดวงจันทร์ทั้งหมดเป็นการ์ดที่เน้นไปที่แนวหลังทั้งหมด ถ้าหากคำนึงถึงเรื่องสมดุลของเด็คแล้วก็ไม่ค่อยดีนัก
แต่เริ่มเดิมทีแล้ว สมาชิกปัจจุบันของผมก็ออกจะหนักไปทางแนวหลังด้วย
ถ้าหากว่าได้เบอร์เซิร์กที่เน้นหนักไปทางระยะประชิดตรงนี้ ก็จะทำให้การจัดเด็คในอนาคตง่ายขึ้นมาก
เกี่ยวกับด้านลบของการบ้าคลั่ง บางทีมันอาจจะสามารถควบคุมเอาไว้ด้วยสกิลผู้กล้าก็เป็นได้? ก็พอมีความหวังอยู่เล็กน้อย
ถ้าหากทุกอย่างลงตัวใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมด ก็สามารถคาดหวังพลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากได้
แต่ว่า หากรวบรวม3 เทพีดวงจันทร์ได้ทั้งหมดก็จะแข็งแกร่งที่สุดนั่นก็เป็นความจริง…..
ควรจะไล่ตามความโรแมนซ์ดี หรือเลือกเส้นทางที่สมจริงดี
…………………ไม่สิ เดี๋ยวนะ
จุดๆหนึ่งมันกลายเป็นว่าจะทำการแลกเปลี่ยนไปแล้ว แต่มันยังมีตัวเลือกที่จะใช้คิมาริสไปทั้งๆอย่างนั้นอยู่อีก
ข้อดีของการใช้คิมาริสไปทั้งๆอย่างนั้น มี 2 ข้อ
ข้อแรกคือด้วยความสามารถสวมอุปกรณ์ขั้นสูง ช่วยเพิ่มพลังต่อสู้แก่สมาชิก 1 คนให้เทียบเท่าแรงค์ B ได้
แบบนี้จะมีประโยชน์มากกว่าการแรงค์อัพใครซักคน
ถึงแม้ว่าด้วยการขาดแคลนความสามารถในการต่อสู้จะทำให้ถูกจัดเป็นของชั้นสอง ด้วยสกิลที่ยอดเยี่ยมก็สามารถการ์ดชั้นหนึ่งได้ แล้วในยามฉุกเฉินก็สามารถใช้เป็นการ์ดเพื่อปกป้องตัวผมเองได้ด้วย
ข้อสองคือ ด้วยสกิลอัญเชิญกองทัพทำให้ได้พลังในเรื่องของจำนวนมา
พลังของจำนวนเป็นสิ่งที่ปาร์ตี้ของผมขาดมากที่สุด ได้สัมผัสมาแล้วว่ามันเป็นปัญหามากแค่ไหนในการซ้อมต่อสู้กับโอริเบะ
ต่อให้ไม่ต้องถึงกับลำบากรวบรวมทั้ง 3 เทพีดวงจันทร์ หนทางที่เร็วที่สุดในการรับมือการอัญเชิญวงศ์วาน ก็คือการใส่การ์ดที่มีความสามารถอัญเชิญวงศ์วานเข้าไปในเด็ค
ด้วยการที่กำลังจะไปลุยเขาวงกตแรงค์ C ที่มีศัตรูเป็นแรงค์ C ปรากฏเป็นจำนวนมากแล้ว มันเป็นความสามารถที่อยากได้มาไว้สุดๆ
…..แย่ล่ะ ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกดึงดูดไปหาคิมาริสมากเท่านั้น
ข้อเสียก็คือการพลาดโอกาศที่จะแลกเปลี่ยนการ์ดมูลค่าสูง
มันอาจจะเป็นโอกาศครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่คิมาริสจะได้เป็นการ์ดมูลค่าสูงอย่างเซลีนีและเบอร์เซิร์ก「ตอนนี้เท่านั้น! สุดพิเศษ! แค่คุณเท่านั้น!」พอคิดว่ามันเป็นอะไรแบบนั้นแล้ว ก็รู้สึกว่ากำลังจะโยนโอกาศนั้นทิ้งไป
แต่ถ้าคำนึงถึงสภาพของเด็คแล้ว มันก็จริงที่คิมาริสเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้…..
ควรจะเสี่ยงตรงนี้ดีไหม…..?
「โทโน่ซัง…..」
「ครับ มีอะไรเหรอครับ」
「นี่ พอจะ…..เป็นไปได้ไหมที่จะพักเอาไว้ก่อน…..?」
「แน่นอนครับว่าได้」
อย่างที่คิดว่าไม่…..เอ๋!?
「เพราะว่าเป็นการแลกเปลี่ยนการ์ดมูลค่าสูงล่ะนะครับ คงไม่ขอให้มอบคำตอบมาในทันทีทันใดหรอก」
「อะ, ง-งั้นเหรอครับ…..」
นั่นมันก็จริง…..พอมาคิดดูแล้ว ที่กำลังถูกแลกเปลี่ยนนี้มันก็มีมูลค่าเกินไปกว่าพันล้านเลย
「อย่างไรก็ตาม มันก็มีสถานการณ์ของทางอีกฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย…..ถ้าหากว่าเป็นไปได้ล่ะก็ 6 เดือน หรืออย่างแย่ที่สุด 1 ปี จะขอบคุณมากหากสามารถให้คำตอบมาได้ในช่วงเวลานั้นครับ」
6 เดือนถึง 1 ปีงั้นเหรอ…..เป็นเวลาค่อนข้างจะเยอะพอดู
เป็นเวลาเพียงพอที่จะใช้คิมาริสแล้วตัดสินใจเกี่ยวกับมัน
ในช่วงเวลานั้นโอกาศที่จะได้การ์ดแรงค์ B ใหม่ๆ ก็ไม่ใช่ศูนย์ซะทีเดียว
ด้วยสถานการณืที่เปลี่ยนแปลงไป จะช่วยให้สามารถเลือกหนทางที่ดีที่สุดในการแลกเปลี่ยน(หรือไม่แลกเปลี่ยน)ได้
「แต่ว่าก็มีบางอย่างที่อยากจะให้ทราบเอาไว้ก่อนล่วงหน้าด้วยครับ」
「ครับ」
「เริ่มจาก กรุณาอย่าทำให้การ์ดไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้จนกว่าจะได้ปฏิเสธมาเป็นทางการ นี่คืออย่างแรก」
ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ หรือก็คือให้แน่ใจว่าไม่ตั้งชื่อหรือทำให้ลอส
ก็เป็นคำขอพื้นฐานล่ะนะ ผมพยักหน้า
「ต่อไปคือตอนที่ไปใช้งานคิมาริสแล้วส่งผลให้เกิดสกิลด้านลบ ทางเราอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงการ์ดที่นำมาเสนอ หรืออาจจะทำให้เรื่องทั้งหมดนี้กลายเป็นไม่เคยเกิดขึ้นมาก็ได้ นี่คืออีกอย่าง」
อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติ
หากการ์ดได้รับสกิลด้านลบ ก็เป็นเรื่องปกติที่มูลค่าจะลดลง และในกรณีเลวร้ายที่สุดคือไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป
「ในอีกด้านหนึ่ง ต่อให้คิทากาว่าซังใช้การ์ดแล้วทำให้ได้รับสกิลที่ดียิ่งกว่านี้ ก็เป็นเรื่องยากที่จะนำเสนอการ์ดที่ดีกว่านี้ได้ นี่คืออีกอย่าง」
…..ฟุมุ ต่อให้คิมาริสได้สกิลดีๆมา มูลค่าก็จะไม่เพิ่มมากไปกว่านี้แล้วงั้นสินะ
หากคำนึงถึงเรื่องที่สกิลด้านลบทำให้มูลค่าลดลงแล้ว มันก็อาจจะดูไม่ยุติธรรม แต่ถ้าคำนึงถึงว่ามูลค่าของมันค่อนข้างสูงอยู่แล้ว มันก็สมเหตุสมผล
「สุดท้าย รายการเหล่านี้เกิดขึ้นมาจากผู้สมัครหลายราย ดังนั้นแล้วตัวรายการจึงอาจเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขั้นและการลดลงครับ」
…..รายการนี้ เป็นข้อเสนอที่มาจากคนหลายคนสินะ
ก็นะ ถ้ามาคิดดูมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ต่อให้เป็นบริษัทใหญ่ๆ การจะทำรายการที่มีมูลค่านับพันล้านออกมาได้ก็คงจะเป็นเรื่องยาก
เป็นเรื่องปกติที่จะคิดว่าเป็นรายการที่ทำขึ้นโดยคนที่ร่ำรวยหรือบริษัทหลายๆแห่ง
ถ้าหากรายการเปลี่ยนแปลงแล้วทำให้เซลีนีและเบอร์เซิร์กหายไป มันก็ช่วยไม่ได้
ในทางกลับกัน มันก็มีโอกาศที่จะมีการ์ดที่ดีมากกว่าถูกเพิ่มเข้ามาเช่นกัน
「เพียงเท่านี้ มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ?」
「ครับ ไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็ขอบคุณมากๆครับ」
โย้ช! เท่านี้ก็มีเวลาบ้างแล้ว
ขณะที่ผมโพสท่ากำหมัดอยู่ในใจ…..
「แล้วก็ นี่เป็นคำขอร้องส่วนตัว」
「อะไรเหรอครับ?」
「หากเป็นไปได้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากหากว่าสามารถคิดลายเซ็นก่อนทำการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการครับ」
「ล-ลายเซ็น?」
「ครับ เราต้องการหลักฐานว่านี่คือคิมาริสของคิทากาว่าซัง นี่ก็แทนข้อพิสูจน์ครับ」
「อ-อา…..อย่างงี้นี่เอง」
ลายเซ็น…..บอกตามตรงว่าน่าอายอยู่นิดหน่อย
แต่หลังจากที่ยอมฟังคำขอที่ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลมาเมื่อกี้นี้ มันก็ยากที่จะปฏิเสธ…..
ไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้า
「เข้าใจแล้วครับ แต่ผมไม่มีลายเซ็น แล้วก็ไม่รู้ว่าจะคิดขึ้นมายังไงด้วย」
「เข้าใจครับ ทุกคนก็พูดกันแบบนั้นหมดในตอนแรกนั่นล่ะครับ ก็นะ คิดว่าคงจะเป็นเรื่องง่ายกว่าถ้าจะขอให้มืออาชีพทำอะไรแบบนั้นให้แทน」
「มืออาชีพ เหรอครับ」
「ครับ ทุกวันนี้สามารถสั่งจากทางเน็ตได้ด้วยราคาแค่ไม่กี่พันเยน」
「อย่างงี้นี่เอง」
แต่ว่า ลายเซ็นของผมมันก็ น้า~
ถ้าหากว่าครอบครัวหรือพวกฮิกาชิโนะรู้เข้าล่ะก้ได้อายตายเลย
ไม่ว่ายังไงก็ต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับให้ได้…..
ถึงแม้ว่าผมจะเตรียมใจไว้แบบนั้น แต่ก็คาดไม่ถึงเลยว่าในภายหลัง เร็นกะจะมาเห็นเข้าตอนที่กำลังซ้อมเซ็นลายเซ็นอยู่ที่บ้านจนทั้งครอบครับรู้เรื่องทำให้รู้สึกอายสุดๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม
เบอร์เซิร์ก / Berserkr
เป็นคำดั้งเดิมจากนอร์สเก่าของ Berserker
https://en.wikipedia.org/wiki/Berserker
MANGA DISCUSSION