บทที่ 3 ตอนที่ 13.2
ต่างฝ่ายต่างก็เริ่มเปิดด้วยการเคลื่อนไหวตามแผนประจำ
ซึ่งก็คือ ตั้งรับและลอบโจมตี
ผมให้เอลิซ่าใช้งานโล่แห่งการอุทิศตนแล้วถอยมาด้านหลัง เฮเลนเองก็สวมดูลลาฮานและเสริมการป้องกันของตัวเอง
ในขณะเดียวกัน ผมให้ยูคิใช้ร่นระยะเพื่อไปทางด้านหลังของคนแคระลึกลับเพื่อจัดการ
ต่อให้คนแคระนี้จะมีความสามารถยุ่งยากอะไรบางอย่างที่ผมไม่รู้อยู่ก็ตาม แต่ถ้าจัดการไปซะก่อนที่จะได้ใช้งานก็ไม่มีปัญหา
ในตอนที่มือของยูคิกำลังจะทะลวงตัวคนแคระ—-ทันใดนั้น เงาสีเขียวเข้มก็กระโจนเข้าใส่เธอจากด้านข้าง คูซี่ของอีกฝ่ายแสดงการตอบสนองได้อย่างเหลือเชื่อ เข้ามาขวางทางเอาไว้—-เร็ว! อย่างที่คิด ไม่ใช่พลังต่อสู้ของคูซี่ที่ผมรู้จักแน่ๆ
เพื่อตอบสนอง ยูคิทำการเปลี่ยนท่าของมือที่ยื่นออกไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นใช้หลังมือแล้วฟาดเข้าใส่จมูกของหมาป่าเวทมนตร์ที่กำลังจะเข้ามาขย้ำลำคอเธอ -คั่ก-! คูซี่ส่งเสียงร้อง ถูกเหวี่ยงไปที่กำแพง แต่ในขณะนั้นคนแคระก็ได้ถอยกลับไปหาเจ้านายของเธอแล้ว
คนแคระไปอยู่บนไหล่ของเจ้านาย หลอมตัวเองเข้ากับชุดเกราะไปทั้งๆอย่างนั้น แล้วลวดลายที่ชวนให้นึกถึงรูนก็ปรากฏขึ้นบนชุดเกราะสีดำสนิทของดูลลาฮาน
สกิลที่ต่างไปจากแปลงอุปกรณ์ของลีพวิ่งอาร์มเมอร์และดูลลาฮาน….. ไม่ใช่ความสามารถของดีน่าซีที่ผมรู้จัก
—-อย่างที่คิด พวกนี้คือการ์ดพื้นเมืองจากไอร์แลนด์
ประสิทธิภาพของการ์ดนั้น จะได้รับผลกระทบจากตำนานและความเข้าใจถึงของดินแดนนั้นๆ
แม้แต่กับการ์ดที่มีชื่อเดียวกัน หากเป็นของที่ญี่ปุ่นกับจากที่อื่นแล้ว ก็สามารถพูดได้ว่าเป็นการ์ดที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง
ตัวอย่างเช่นซาชิกิวาราชิ ในญี่ปุ่นจะเป็นการ์ดแรงค์ C ที่มีคุณสมบัติของเทพ・ภูติผี แต่ในต่างประเทศจะเป็นเพียงแค่การ์ดแรงค์ E ผีบ้านผีเรือนเท่านั้น
ดูลลาฮาน, คูซี่, ดีน่าซี….. ไม่ว่าใบไหนก็มีถิ่นกำเนิดมาจากไอร์แลนด์
ซึ่งแรงค์นั้น จะมีมากกว่าพวกที่พบในต่างประเทศ 1 – 2 แรงค์ แล้วการ์ดทั้ง 3 ใบนี้ก็ด้วย แรงค์น่าจะเป็นราวๆ BxCxD ไม่ก็ BxCxC
แรงค์ B คือการ์ดระดับมืออาชีพ ความจริงนั้นแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงคนนี้ที่ไม่เป็นที่รู้จักในญี่ปุ่น เป็นนักผจญภัย 3 ดาวที่ใกล้ที่จะได้เป็นมืออาชีพแล้ว
สมแล้วที่เป็นคนที่ได้รับการแนะนำช่องในการเข้าร่วมมาจากทางรายการ…..
เฮเลนประกาศด้วยเสียงอู้อี้จากด้านหลังเกราะหัวของเธอ
「เป็นการลอบโจมตีที่น่าตกใจอยู่ แต่ว่า…..ต่อไปเป็นตาของทางนี้บ้างล่ะ」
เมื่อพูดจบ เฮเลนก็นำการ์ดออกมา 1 ใบแล้วเปลี่ยนมันกลายเป็นหอก 2 เล่ม
หอกยาวที่ยาวกว่าความสูงของเธอ และหอกสั้นที่ยาวเพียงครึ่งหนึ่ง
…..ชาวไอริชและหอก 2 เล่มที่มีความยาวไม่เท่ากัน ชักจะรู้สึกไม่ค่อยดีแล้วสิ
ผมที่มีเหงื่อเย็นๆผุดออกมา ก็ให้เอลิซ่าของทางนี้สวมใส่ไดน์สเลฟด้วย แล้วเริ่มเพิ่มอัตราการซิงโคร
พอเห็นแบบนั้น ก็ดูเหมือนเฮเลนก็ยิ้มขึ้นมาจางๆ
「ถ้างั้นก็ รับมือได้…..!」
เฮเลนพุ่งเข้ามาโจมตีด้วยฝีเท้าอันน่าสะพรึง
การแทงมีความว่องไวและเฉียบคมมาก จนแม้แต่เอลิซ่าที่ฟูลซิงโครไม่สามารถรับมือได้หมด
แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยสัญชาติญาณของแวมไพร์เอนกประสงค์ตนนี้ ช่วยให้สามารถตามวิถีของหอกได้ และด้วยดาบเวทมนตร์ที่『ไม่มีวันพลาดเป้า』ทำให้สามารถปัดป้องปลายหอกได้ด้วยความแม่นยำแบบไร้ที่เปรียบ
ทว่าก่อนหน้าที่เสียงของโลหะกระทบกันจะดังมาถึงหู คมเขี้ยวที่สองก็เข้าจู่โจมโดยไร้ซึ่งความลังเล
การโจมตีต่อเนื่องที่ไร้ที่ติ ราวกับเป็นหมัดหนึ่ง-สองในการชกมวย ทิ่มแทงเข้าใส่ที่สีข้างของเอลิซ่าไปเล็กน้อยในขณะที่เธอบิดตัวตาม
รีบกระโจนหลบฉากมาด้านหลัง แล้วใช้เลือดที่เก็บไว้รักษาบาดแผล
『!』
…..แต่ไม่ว่าจะพยายามฟื้นฟูมากแค่ไหน บาดแผลก็ไม่มีท่าทีว่าจะถูกรักษาเลย
ถ้างั้นลองขอให้เร็นกะช่วยร่ายเวทมนตร์ฟื้นฟูให้ แต่นี่ก็ไม่เป็นผลเช่นกัน
—-โธ่เว้ย อย่างที่คิดว่ามีความสามารถยกเลิกการฟื้นฟูจริงๆด้วย!
-กึด- กัดฟันอย่างแรง
ที่รู้สึกไม่ค่อยดีแต่นี่ไม่ผิดแน่นอนแล้ว หอก 2 เล่มนั้นคือ เก・เดิยร์ก และ เก・โบว *
เก・เดิยร์ก มีพลังในการทำลายเวทมนตร์ทุกประเภท ในขณะที่เก・โบว สร้างบาดแผลที่ไม่มีวันฟื้นฟู เป็นอุปกรณ์เวทที่มีตำนาน
ไม่รู้รายละเอียดอะไรมากไปกว่าที่บอกไปข้างต้น แต่อย่างน้อยๆก็มีความสามารถในการยกเลิกการฟื้นฟูทั้งหมด
เพื่อเป็นการทดสอบ ลองร่ายเวทมนตร์โจมตีพื้นฐานใส่ แต่มันก็ถูกปัดอย่างง่ายๆด้วยหอกยาว ลูกไฟที่หายไปราวกับว่าละลายไปในอากาศ….. ไม่ใช่รูปแบบปกติที่เวทมนตร์จะหายไป
เท่านี้ก็ยืนยันพลังการทำลายเวทมนตร์แล้ว…..แต่ว่า นี่มันค่อนข้างจะไม่ดีแล้ว
แค่การปะทะกันสั้นๆเมื่อครู่นี้ ก็สามารถรู้สึกได้ถึงความเหนือชั้นกว่าของอีกฝ่ายที่มีต่อทางนี้ ทั้งในด้านสเตตัสและความสามารถ
เจ้าตัวเฮเลนนั้น เป็นผู้ช่ำชองศิลปะการต่อสู้ เป็นประเภทที่สามารถดึงเอาสกิลศิลปะการต่อสู้และแปลงอุปกรณ์ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ไม่มีความหวือหวา แต่ก็มั่นคงและไร้ซึ่งจุดอ่อน เป็นประเภทที่ค่อนข้างไม่เป็นที่ชื่นชอบในมอนโคโล
ในด้านพลังต่อสู้นั้น ดูลลาฮานแรงค์ B+ดีนาซี(D ไม่ก็ C)+อุปกรณ์เวท เทียบกับ แวมไพร์แรงค์ C+ดูลลาฮาน(C)+อุปกรณ์เวท เป็นทางนี้ที่เสียเปรียบ
ยิ่งถ้าเพิ่มความแตกต่างของระยะระหว่างดาบกับหอก และจำนวนการโจมตีระหว่าง 1 กับ 2 แล้ว อย่างที่คิดว่าคงลำบาก
—-แต่ นั่นมันก็เป็นกรณีที่เป็น 1 ต่อ 1
คราวนี้เป็นตาของทางนี้บ้าง แล้วผมบลอนด์ทองของแวมไพร์ก็พริ้วไสว ฟันเข้าใส่อัศวินหอกคู่ ในขณะที่ตัวอัศวินพยายามจะรับมือ จู่ๆมนุษย์หมาป่าก็ได้โจมตีจากทางด้านหลัง
แวมไพร์ที่สวมใส่ดูลลาฮานและดาบเวทมนตร์ กับไลแคนโทรปที่มีพลังต่อสู้ของแรงค์ B ต่อให้เป็นดูลลาฮานต้นตำหรับก็ไม่สามารถรับมือได้หรอก
ทว่า…..
「เอา, จิงดิ…..」
ถึงกับอดไม่ได้ที่จะทำหน้าอึ้ง
ถึงแม้จะเป็นการโจมตีอันดุเดือดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่เฮเลนก็ยังคงสามารถทำการปัดป้องได้อย่างแม่นยำ
หลบการโจมตีที่มาจากมุมอับได้อย่างง่ายดาย, ปัดป้องการโจมตีจากทั้ง 2 ด้วยการเคลื่อนไหวเดียว, บางครั้งก็อาศัยประโยชน์จากการโจมตีของทางนี้อีกต่างหาก ราวกับว่ากำลังได้ดูฉากการดวลดาบที่วางแผนมาแล้วอย่างรอบคอบในละครย้อนยุค
อ-โอ่ยโอ่ย…..เป็นผู้ช่ำชองของแท้เลยไม่ใช่เหรอเนี่ย เอลิซ่ากับยูคิร่วมมือด้วยกันยังเอาลงไม่ได้…..ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย?
ความสามารถของเฮเลนเหนือกว่าที่ผมคาดเอาไว้มาก ทำเอาเหงื่อเย็นๆไหล แต่ยังไงซะ ตาชั่งแห่งชัยชนะก็ได้เอนเอียงมาทางนี้เป็นที่แน่นอนแล้ว
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็อาจจะฝ่าทะลวงไปได้ แต่ด้วยระดับผู้ช่ำชองแบบนี้ไม่สามารถดูถูกได้ ตอนนี้ได้เวลาลงมือขั้นสุดท้ายแล้ว
『เร็นกะ! ตอนนี้แหละ!』
『โอ้!』
ส่งสัญญาณให้กับเร็นกะที่กำลังคุมเชิงอยู่กับคูซี่ แล้วจู่ๆเฮเลนก็เกิดลื่นขึ้นมา
เวทมนตร์สลิป กับโชคดีและโชคร้ายคือเชือกที่มัดรวมกันแน่น กลายเป็นปัญหาที่ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้
「นะ!?」
ผู้ช่ำชองที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมในการก้าวเท้าของเธอ ถึงกับเบิกตากว้างให้กับความผิดพลาดที่คาดไม่ถึง
เท่านี้ก็จบแล้ว จะแสดงให้เห็นเองว่าความสามารถในการยกเลิกการฟื้นฟูน่ะ ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวหรอก
เฮเลนที่เสียสมดุล เจอเอลิซ่าใช้แรงที่มีทั้งหมดเพื่อฟันเข้าใส่—-
『นะ!?』
-วืด- แล้วก็ลื่นล้มเข้าให้
『………………..』
-ตุ๊บ-ทั้งคู่ต่างก็ล้มลงไปก้นจ้ำเบ้า ทำการกระแอมไอแก้เขิน แล้วดีดตัวกลับขึ้นมายืนราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
『โอ่ย ดูลลาฮาน』
『อะวาวา ไม่ใช่ความผิดของชั้นนะคะ!』
『ไม่ล่ะ ความผิดของเธอชัดๆเลย ไม่สิ ก็รู้อยู่หรอกว่าไม่ได้ตั้งใจน่ะ』
…..ไม่คิดเลยว่าสกิลซุ่มซ่ามของดูลลาฮานจะมาทำงานเอาตรงนี้
ช่วงระหว่างการฝึก มีแสดงผลซุ่มซ่ามออกมาแค่ครั้งเดียว ก็เลยลดความระวังไปนิดหน่อยเพราะคิดว่าอัตราการแสดงผลมันมีไม่สูงมาก
อย่างที่คิด จะใช้ดูลลาฮานโดยไม่มีซิลกี้อยู่ด้วยมันเสี่ยงเกินไป
แต่ในการแข่งมันก็มีช่องการอัญเชิญจำกัด ไม่สามารถนำซิลกี้ออกมาใช้ได้…..
พยายามหลีกหนีความจริงด้วยการคิดอะไรพวกนี้อยู่
「เมื่อครู่นี้ ออกจะประมาทไปซักหน่อย…..ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มาลื่นล้มเอาซะได้」
「อะไรนะ? ไม่ใช่ว่าเพราะสกิลของทางนั้นหรอกรึ…..?」
ผมตีหน้าซื่อแกล้งทำเป็นไม่รู้ เนื่องจากว่ามันมีการบันทึกภาพไว้ ก็คงจะน่าอายสุดๆถ้าเกิดคนดูรู้ว่ามาลื่นล้มเพราะว่าซุ่มซ่าม
เฮเลนทำหน้างงๆ นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วก็
「…..ก็นะ เอางั้นก็ได้ ยังไงก็ตาม ดูจะแข็งแกร่งกว่าที่คิดเอาไว้ งั้นจากนี้ไปจะใส่เต็มกำลังเลยละกัน」
เต็มกำลัง? แล้วในขณะที่ผมกำลังเอียงคอสงสัย เธอก็กระโจนด้วยความว่องไวไปขี่หลังคูซี่
การคอมโบของขี่สัตว์กับสัตว์พาหนะงั้นเหรอ? จริงอยู่ว่ามันเป็นอะไรที่ยุ่งยาก แต่ในขณะที่กำลังคิดอยู่เช่นนั้น…..
「มู…..!」
คูซี่และเฮเลนได้หายตัวไปราวกับว่าละลายไปในอากาศ
นี่มัน สกิลล่องหนงั้นเหรอ? อย่างงี้นี่เอง จริงอยู่ว่าตอนที่ปรากฏตัวครั้งแรกก็ได้ล่องหนและหลบอยู่
สกิลที่ทำให้ล่องหนไม่เฉพาะกับแค่ตัวเองแต่รวมไปถึงทั้งปาร์ตี้ด้วยเป็นอะไรที่หายาก แต่…..ท้ายที่สุด สกิลล่องหนมันก็แค่ทำให้มองไม่เห็นตัวแค่นั้น ไม่ได้ทำให้หายไปจริงๆ!
ผมให้เอลิซ่ากับยูคิยืนล้อมผมเอาไว้ แล้วให้เร็นกะยิงห่ากระสุนไปรอบๆทุกทิศทาง
จุดที่ห่ากระสุนพวกนี้ถูกลบไปด้วยหอกเวทจะเป็นจุดที่เฮเลนซ่อนตัวอยู่ไงล่ะ!
———-แต่
「………………..?」
ห่ากระสุนชนกับกำแพงแล้วหายไปโดยที่ไม่ได้ถูกปัดหรือชนกับอะไรอื่นเลย
หมายความ ว่ายังไง? ไม่ใช่การล่องหน แต่เป็นการเคลื่อนย้ายงั้นเหรอ?
『ยูคิ กลิ่นล่ะ?』
『เรื่องนั้น…..หายไปแล้วฮะ』
『หายไป? ไม่สิ งั้นเหรอ…..จริงอยู่ว่าก่อนหน้านี้ก็หายไปหมดทั้งกลิ่นด้วยเหมือนกัน…..หรือว่า!』
『!? —-มาสเตอร์!』
พริบตาที่ความคิดแล่นผ่านขึ้นในใจของผม เอลิซ่าก็ผลักผมออกไป
เมื่อผมหันมามองขณะที่ล้มลงอยู่ ก็เห็นเธอนำโล่สีขาวออกมา และหอกของเฮเลนที่แทงทะลุมันราวกับว่าเป็นกระดาษ แล้วแทงเข้าไปที่หน้าอกเธอ
หัวใจของเอลิซ่าถูกแทงทำให้ยืนโซเซ แล้วก็-ปุ๊ง-เกิดกลุ่มควันพร้อมกลายเป็นท่อนไม้อยู่ตรงนั้นแทน เกือบไปแล้ว วิชาจั่กจั่นลอกคราบของยูคิช่วยไว้ได้พอดี
พอเห็นแบบนั้นเฮเลนก็เดอะลิ้นแล้วหายตัวไปอีกครั้ง
『เอลิซ่า…..!』
『ไม่เป็นอะไรค่ะ, ไม่มีความเสียหาย』
『งั้นเหรอ…..』
-โฮ่-ถอนหายใจโล่งอก ทำการตั้งสติกลับมา
เก・เดิยร์ก ไม่ใช่แค่ยกเลิกเวทมนตร์โจมตีที่ปล่อยออกไปเท่านั้น แต่ยังทะลวงสกิลป้องกันที่ใช้พลังเวทอีกด้วย…..
ไม่สิ ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าสกิลนี่…..มันคืออะไรกันแน่?
การล่องหน…..ไม่ใช่แค่นั้นแน่ การล่องหนไม่ได้ทำให้คุณสามารถทะลุผ่านวัตถุสสารได้
การเคลื่อนย้าย…..รู้สึกว่าใกล้เคียง แต่ก็รู้สึกว่าแตกต่างไป การลอบโจมตีเมื่อกี้นี้ ราวกับว่าลงมือทำหลังจากที่ได้เฝ้ามองผมอยู่อย่างชัดเจนแล้วอาศัยจังหวะที่มีช่องโหว่
『! มาสเตอร์!』
แล้วอีกฝ่ายก็โจมตีอีกครั้ง
มีเพียงเอลิซ่าที่มีสกิลสัญชาตญาณเท่านั้น ที่สามารถตอบสนองต่อการโจมตีที่ไร้ซึ่งสัญญาณเตือนอย่างสมบูรณ์
แม้จะบาดเจ็บแต่เธอก็ปกป้องผมเอาไว้ แล้วอีกฝ่ายก็หายตัวไปอีกครั้ง กลายเป็น hit & away โดยสมบูรณ์
ความรู้สึกร้อนรนเข้าปกคลุม พยายามดิ้นรนค้นหาตัวตนที่แท้จริงของศัตรู
เจ้าพวกนั้น ต้องอยู่ที่นี่แน่ๆ แต่ว่าไม่ใช่สกิลล่องหนปกติทั่วไป เป็นสกิลคล้ายกับการเคลื่อนย้าย แต่ไม่ใช่การเคลื่อนย้าย…..
ดูลลาฮาน, คูซี่, ดีน่าซี…..สกิลของใครกัน?
ดูลลาฮานคือภูติผู้ประกาศความตาย, คูซี่คือสุนัขเฝ้ายามแห่งดินแดนภูติ, ดีน่าซีคือภูติวีรชนผู้ล่วงลับ…..ดินแดนภูติ?
งั้นหรอกเหรอ! มันคือสกิลเคลื่อนย้ายสู่มิติอื่น! ว่ากันว่าในหมู่การ์ด จะมีบางใบที่ครอบครองสกิลที่สามารถเข้า-ออกสู่มิติที่อยู่นอกเหนือไปจากโลกนี้อย่างเช่นดินแดนภูติ, โลกสวรรค์, หรือยมโลกได้
บางทีคูซี่ต้นตำหรับที่เป็น『สุนัขเฝ้ายามแห่งดินแดนภูติ』คงจะสามารถใช้ความสามารถเพื่อเข้า-ออกดินแดนภูติได้อย่างอิสระ
แล้วมิตินั้น คงจะสามารถนำการ์ดที่มีคุณสมบัติภูติเข้าไปด้วยได้เช่นกัน
พอคิดได้แบบนั้นแล้ว มันก็อธิบายได้ว่าทำมเฮเลนถึงได้ใช้แค่การ์ดที่มีคุณสมบัติภูติเท่านั้น
แต่การเดามันก็คือการเดา บางทีมันอาจจะถูกก็ได้…..หรือต่อให้ไม่ใช่แบบนั้น แต่ว่าศัตรูก็ได้ทำการเข้า-ออกพื้นที่แปลกๆแล้วทำการโจมตีใส่ไม่ผิดแน่
แต่ว่า ถึงจะเป็นแบบนั้น มันก็ยังยากอยู่ดี…..เข้าใจว่าความสามารถมันทำงานยังไงอยู่หรอก แต่คิดหาทางจัดการมันไม่ได้เลย
วิธีพื้นฐานสำหรับศัตรูแบบนี้ก็คือการจัดการให้ได้ในทีเดียวในช่วงที่ปรากฏตัวออกมา แต่ว่าถ้ามันทำแบบนั้นได้แต่แรก มันก็คงจบไปก่อนหน้าที่จะมาทำการหายตัวไปแล้ว
มีเพียงเอลิซ่าที่มีสกิลสัญชาตญาณเท่านั้นที่สามารถรับรู้สัญญาณของการโจมตี แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถรับรู้แค่เพียงก่อนหน้าการโจมตี พอการ์ดใบอื่นพยายามจะโจมตีกลับก็หายตัวไปอีกรอบแล้ว
ช่างเป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบ…..เพื่อที่จะจัดการมัน…..ไม่สิ งั้นหรอกเหรอ!
ผม -ห๊ะ-ได้สติกลับมา
ใช่แล้ว ไม่ได้จำเป็นต้องจัดการอะไรซักหน่อย
การฉุกคิดได้ของผมแล่นผ่านลิงค์ไปยังการ์ดทั้งหมด แล้วทุกคนก็ยิ้มกับหัวเราะขึ้นมา
「อาวู้ววววววว!!」
ยูคิส่งเสียงหอน ทำการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า
เธอกลายร่างเสร็จในพริบตา คว้าผมขึ้นด้วยแขนเดียวแล้วอุ้มผมเอาไว้ที่อกเพื่อปกป้อง จากนั้นก็ออกวิ่ง
เป้าหมายก็คือ—-ด้านหลังห้อง โถงทางเดินที่นำไปสู่บันได
ถ้าหากว่าลงบันไดไปล่ะก็ ทางฝ่ายจัดการคงจะตัดสินให้ผมเป็นคนหลบหนี
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย ผมจะถูกจำกัดการเคลื่อนที่ไปสู่ชั้นอื่นเป็นเวลา 1 ชม. แต่มันก็เป็นชั้นสุดท้ายแล้ว(มีความเป็นไปได้สูง) ผมก็จะได้เวลาโบนัส 1 ชม.ในการสู้กับจ้าว และใช้เวลาที่เหลือในการหยุดพัก
ส่วนเฮเลนที่เป็นผู้ชนะ ก็ทำได้แค่กัดนิ้วรอไปเท่านั้น
อย่างแย่ที่สุด ต่อให้ไม่ใช่ชั้นสุดท้าย ก็คงใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ในการค้นหาบันไดสู่ชั้นถัดไป ไม่ว่าจะทางไหนก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับผม
เงื่อนไขการชนะสำหรับผม จึงมีอยู่ 2 อย่าง
『มาสเตอร์!』
เมื่อพวกเราเข้าสู่โถงทางเดิน เอลิซ่าก็ส่งเสียงเตือน สัญญาณการโจมตีจากศัตรู
อย่างที่คิด มาเพื่อขัดขวางสินะ! คงจะรู้สึกตัวเหมือนกันที่พวกเรายังมีหนทางชนะอีก 1 อย่าง แต่ว่า…..
『—-การลอบโจมตีที่คาดเดาได้มันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย เจ้าบื้อ』
『…..!?』
ตามที่คาดเอาไว้ พวกเฮเลนปรากฏตัวที่ด้านหลังพวกเรา แล้วถูกกลืนด้วยคลื่นของสายฟ้าที่เร็นกะปลดปล่อย
ถึงส่วนใหญ่จะถูกปัดป้องด้วยเกเดิยร์ก แต่ก็ยังสามารถสร้างความเสียหายได้บางส่วนแก่คูซี่ที่เธอขี่อยู่
หมาป่าเวทสีเขียวเข้มตัวเกร็งจากกระแสไฟฟ้า
นั่นหมายถึงการหลบหนีไปดินแดนภูติจะช้าลงไป 1 จังหวะเช่นกัน
「ก๊าชชชชช!」
โอกาศนั้น ไม่มีทางที่ยูคิจะปล่อยให้หลุดรอดไปได้
ปล่อยการโจมตีลงไปที่หัวของคูซี่ราวกับเป็นการใช้ค้อนทุบ เพียงแค่หมัดเดียวก็ทำให้หมดสติไป
「คูซี่!?」
เมื่อได้ยินเสียงร้องของเฮเลนในที่สุด ก็ช่วยไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา
แผนการได้ผลกว่าที่คิดเอาไว้
สาเหตุที่พวกเรามีปัญหาในการรับมือการลอบโจมตีของเฮเลน ก็เพราะไม่รู้ว่าจะโจมตีมาจากทางไหนและจะออกมาเมื่อไหร่
ด้วยการระวังตัวรอบด้าน ต่อให้การแจ้งเตือนเกิดขึ้นทันทีที่เกิดการโจมตี มันก็ไม่มีทางที่จะขัดขวางได้ทันเวลา
—–ทว่า หากการโจมตีถูกจำกัดไว้เพียงทางด้านหลัง มันก็เป็นอีกเรื่อง
ถ้าเป็นการโจมตีจากทิศทางเดียว แถมมันยังเป็นแนวทางตรงอีก ต่อให้จะโดนการโจมตีเข้าไป ก็สามารถโจมตีศัตรูกลับก่อนที่จะหายตัวไปอีกได้
ถ้าหากสามารถจัดการคูซี่ได้ในการโจมตีครั้งเดียวก็ดีไป แต่ถ้าหากโดนหลบได้หรือไม่ได้ผล ก็แค่มุ่งหน้าไปบันไดอีก แล้วถ้าระหว่างนั้นโดนโจมตีมาอีกรอบก็ทำการเล็งสวนกลับ แต่ถ้าเกิดระแวงแล้วไม่โจมตีมา ก็ไปยังชั้นถัดไปเลยก็เท่านั้น
ผลลัพธ์นั้น ถ้าชั้นต่อไปเป็นชั้นสุดท้ายผมก็ชนะ แต่ถ้าไม่ใช่ชั้นสุดท้ายก็เป็นผมที่แพ้ แต่…..ตัวเธอไม่มีทางที่จะยืนยันเรื่องนั้นได้ในทันทีแน่
นั่นเพราะว่าเธอต้องกลับไปผ่านจุดเช็คพ้อยท์ แล้วยังต้องต่อสู้กับผู้ชนะจากการสู้กันของอันดับ 3 และอันดับ 4 อีก
ในระหว่างนั้นผมก็คงได้ไปยังชั้นถัดไปแล้ว
เพราะงั้น เธอจำเป็นต้องกันไม่ให้ผมหนีไปได้อย่างเด็ดขาด ในจุดนั้นทำให้เธอสูญเสียความได้เปรียบจากความสามารถของเธอไปเกือบทั้งหมด
ผมลัพธ์ เธอทำพลาดอย่างร้ายแรง ทำให้คูซี่หมดสติ—-แล้วมันก็ยังไม่หมดอยู่เพียงแค่นั้น
อย่างไม่รอช้า ยูคิพยายามเข้าไปกัดคูซี่ซึ่งล้มลงไปกองกับพื้นด้วยกรามขนาดใหญ่
แน่นอนว่าเฮเลนพยายามจะเข้าไปหยุด แต่เอลิซ่าเข้ามาขัดขวาง
ถ้าหากว่าซุ่มซ่ามของดูลลาฮานโผล่ออกมาตอนนี้คงจะอันตรายน่าดู แต่ก็『โชคยังดี』ที่มันไม่เกิดขึ้น
ขณะที่ยูคิกำลังจะหย้ำเข้าไปที่หัวของคูซี่—-ในตอนนั้นเอง
「เดี๋ยวก่อน…..!」
เฮเลนส่งเสียงเรียกให้หยุด ยูคิจึง-กึก-หยุดการเคลื่อนไหว
「โดนแล้ว โดนเข้าให้ซะแล้ว」
พอพูดเช่นนั้น เฮเลนก็ถอดแปลงอุปกรณ์ของดูลลาฮาน
แล้วทำการใช้งานการ์ดเกียร์
『คิทากาว่าชนะ! ทำการเคลื่อนย้ายดาวของเฮเลน』
แล้วการตัดสินก็ลงมา พอทางนี้มองดูการ์ดเกียร์ ก็เห็นว่าดาวได้ถูกย้ายมาแล้วเรียบร้อย
หลังจากทำการยืนยัน ผมก็ให้ยูคิปล่อยคูซี่ไป แล้วเธอก็วิ่งไปทางคูซี่ทันที แล้วพอเห็นว่าบาดแผลไม่ลึกมากก็ถอนหายใจโล่งอก
「โล่งอกไปที…..เด็กคนนี้น่ะถูกค้ำประกันเอาไว้กับธนาคาร ถ้าหากว่าลอสไปล่ะก็ดูลลาฮานจะถูกยึดคืนไปน่ะสิ」
เฮเลนพูดด้วยน้ำเสียงโล่งอก ผมเอียงคอสงสัยอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เข้าใจได้
อ่อ หมายถึงระบบสินเชื่อของธนาคารน่ะเหรอ ก็หมายความว่าดูลลาฮานตัวนี้เป็นการ์ดที่ถูกซื้อด้วยเงินกู้จากธนาคาร รู้สึกอิจฉานักผจญภัยต่างชาติจริงๆ…..
ความไว้วางใจทางสังคมของนักผจญภัย…..หรือพูดอีกอย่างคือกับทางธนาคาร เมื่อเทียบกับในญี่ปุ่นแล้วถือว่าต่ำมาก แต่สำหรับในต่างประเทศนั้นนับเป็นอันดับ 2 รองมาจากทหารที่ต้องเสี่ยงชีวิตเป็นประจำ (ในญี่ปุ่นอาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ในต่างประเทศ ทหารถือเป็นอาชีพที่ได้รับความเคารพอย่างสูง)
เพราะเหตุนี้ การกู้ยืมเงินแก่นักผจญภัยในญี่ปุ่นจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้รับอนุมัติ ได้ยินมาว่าสามารถกู้ยืมได้โดยการใช้การ์ดหรือตัวเองเป็นสิ่งค้ำประกัน
ใช้ตัวเองค้ำประกัน แว่บแรกอาจจะดูเหมือนการกลับมาของระบบทาส แต่ในความจริงมันหมายถึงการถูกบังคับให้เก็บตัวอยู่ในเขาวงกตลับไปจนกว่าจะจ่ายหนี้ได้หมด และแทบทุกอย่างที่หามาได้ก็ถูกยึดไป
ถ้าหากใช้การ์ดค้ำประกัน การ์ดที่ซื้อมาด้วยการกู้ยืมจะถูกยึดคืนเป็นการชั่วคราว ถ้าหากว่าการ์ดที่ใช้ค้ำประกันนั้นเกิดลอสขึ้นมา
ถึงแม้จะมีข้อบังคับต่างๆมากมาย แต่ระบบการกู้ยืมนี่ช่วยให้นักผจญภัยต่างประเทศได้รับการ์ดที่มีแรงค์สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้พวกเขาสามารถสำรวจเขาวงกตได้อย่างปลอดภัย แล้วยังเกิดความระมัดระวังในการกระทำของตัวเองมากขึ้น เกิดเป็นวัฐจักรที่ดีงาม
อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันมันก็นำไปสู่ผลเสียที่หากเจอสถานการณ์ที่เสียเปรียบแม้เพียงเล็กน้อย ก็จำต้องยอมแพ้แล้วถอยหนีในทันที….. แต่นั่นมันก็เหมือนกับนักผจญภัยญี่ปุ่นที่ออกผจญภัยด้วยเงินของตัวเอง
ถ้าหากว่าในญี่ปุ่นเริ่มมีให้กู้ยืมแก่นักผจญภัยด้วยล่ะก็ คงมีนักผจญภัยจำนวนมากที่จะหาใช้การกู้ยืมแน่ๆ
ก็นะ สำหรับผมแล้ว คำขวัญของตระกูลคิทากาว่าก็คือไม่มีวันขอยืมเงินใคร ไม่แม้แต่การกู้ยืม เพราะงั้นก็เลยไม่เคยยืมอะไรทั้งนั้น
อีกทั้ง เนื่องจากต้องใช้การ์ดที่มีอยู่ในการค้ำประกัน จึงไม่สามารถที่จะตั้งชื่อการ์ดได้ มันก็เลยไม่ค่อยจะเข้ากันกับผมซักเท่าไหร่
「…..ไม่ค่อยจะมีโอกาศได้เจอกับนักผจญภัยจากต่างประเทศซักเท่าไหร่ ก็เลยอยากจะคุยด้วยมากกว่านี้ซักหน่อย แต่ว่าจำเป็นต้องรีบเพราะงั้นคงต้องขอตัวไปก่อนนะครับ」
「อา อุตส่าห์ชนะชั้นได้แล้วก็ต้องทำมันให้ได้ดีๆล่ะ ถ้าไม่งั้นพรรคพวกที่อยู่ทางบ้านคงได้หัวเราะเยาะแน่」
「ครับ ถ้างั้นแล้วเจอกัน!」
บอกลากับเฮเลนที่ดูร่าเริงจนยากจะเชื่อว่าได้ทำการต่อสู้เสียงเป็นเสี่ยงตายกันอยู่จนถึงเมื่อครู่นี้ แล้วผมก็มุ่งหน้าต่อ
…..แต่ว่า คูซี่ต้นตำหรับ เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจนน่าสะพรึงจริงๆ
ทั้งความสามารถเคลื่อนย้ายสู่มิติอื่นและแปลงกายเป็นมนุษย์สัตว์….. ไม่ว่าจะอันไหนก็เป็นสกิลหายากทั้งนั้น ถึงจะมีแรงค์สูงกว่าแค่ 1 แรงค์เท่านั้น แต่ความสามารถกลับอยู่ในระดับที่แตกต่างไปจากคูซี่ของญี่ปุ่นอย่างสิ้นเชิงเลย
ถ้าหากว่าทางนี้มีสกิลเคลื่อนย้ายสู่มิติอื่นด้วยเหมือนกันก็คงจะรับมือได้ง่ายๆ แต่…..สกิลหายากแบบนี้ ต่อให้อยากจะได้มาก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถหาได้หรอก
แต่ถึงจะพูดไป นั่นมันก็อาจจะเป็นเพราะอยู่ที่ญี่ปุ่น สถานการณ์มันอาจจะต่างกันเล็กน้อยก็ได้หากเป็นที่ไอร์แลนด์
ก็เหมือนกับในญี่ปุ่นที่การ์ดประเภทภูติผีกับเทพพุทธมีความแข็งแกร่ง ได้ยินมาว่าที่ไอร์แลนด์กับอังกฤษ การ์ดประเภทวิญญาณกับภูติจะมีความแข็งแกร่งมากกว่า
『ทางเดินภูติ』กับ『การสับเปลี่ยน(Changeling)』ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี เป็นความสามารถในการเคลื่อนย้ายสู่มิติอื่นกับการเปลี่ยนร่างบางสิ่งให้มีความเหมือนกับภูติ
คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเหล่าภูติต้นตำหรับจะมีความสามารถเช่นนี้อยู่จำนวนไม่น้อย
ถ้าหากว่ายูคิยังคงเป็นคูซี่อยู่ล่ะก็ คงจะได้พยายามหาการ์ดคูซี่ท้องถื่นมาไว้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
…..เอาเถอะ ในตอนนั้นยังไม่มีเส้นสายกับตัวแทนจำหน่ายการ์ด คงเป็นได้แค่การสมมติที่ไม่มีความหมาย
ถ้าไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายการ์ดแล้ว ก็ไม่สามารถหาการ์ดท้องถื่นจากต่างประเทศได้หรอก…..
ขณะคิดในใจอยู่เช่นนั้นก็ทำการเดินลงบันได ที่ซึ่งมีสต๊าฟของรายการกำลังรออยู่ตรงพื้นที่ปลอดภัย
「คุณผู้เข้าแข่งขันสินะครับ? ขอแสดงความยินดีที่มาถึงเป็นคนแรกด้วยครับ!」
…..โล่งอกไปที อย่างที่คิดว่านี่เป็นชั้นสุดท้ายจริงๆด้วย ทำการพูดคุยกับสต๊าฟชายอายุประมาณ 30
「เอ็ตโต แล้วต้องทำอะไรต่อไปเหรอครับ? ไปท้าสู้กับจ้าวเลยรึเปล่า?」
「เรื่องนั้นก่อนอื่นขอให้ทางนี้ดำเนินการตรวจเช็คการโกงกับแค่แตะคริสตัลก็พอครับ เอ เช่นนั้นก็ กรุณาตอบคำถามต่อไปนี้ตามความจริงด้วย ก่อนที่จะมาถึงที่นี่ ได้ทำการโกงใดๆรึเปล่า?」
「ไม่ครับ」
「ครับ! เพียงพอแล้ว! …..อันนี้แค่พูดคุยกันนะครับ จ้าวของที่นี่น่ะสุดยอดสุดๆเลยล่ะ พยายามเข้านะครับ」
「หืม? อะ ครับ」
เอียงคอสงสัยให้กับชายหนุ่มที่กระซิบมาขณะมีสีหน้าดูน่ารังเกียจเล็กน้อย แล้วผมก็ออกจากพื้นที่ปลอดภัยไปเพื่อค้นหาจ้าว
…..แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ศัตรูเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบังตัวตนอะไรเลย ทำการรอคอยพวกเราอยู่ตรงบริเวณใจกลางของชั้น
ขณะที่เข้าไปใกล้เรื่อยๆ กลิ่นอันหอมหวานก็ค่อยๆโชยมา
ถึงแม้ว่าบาเรียของมาสเตอร์จะช่วยปกป้องจากสถานะผิดปกติ แต่การกระตุ้นจากกลิ่นก็ทำเอาหัวมันรู้สึกด้านชาไปหมด
กลิ่นมันทำให้เกิดความหวาดระแวงและความต้องการที่จะสูดมันมากขึ้นกว่าเดิม แต่เหล่าการ์ดที่อยู่รอบๆ กลับทำหน้าตาเหยเกให้กับกลิ่น จะมียกเว้นแค่เอลิซ่าเท่านั้น
「เอาจริงดิ?…..ก็พอจะรู้มาอยู่หรอก แต่ของจริงนี่มันแย่เอามากขนาดนี้เชียว?」
เร็นกะทำหน้ามุ่ย ยูคิเองก็พยักหน้ารับ
「จริงด้วยฮะ นี่มันแย่สุดๆไปเลย…..ผม ชักจะรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาแล้วด้วย」
「เป็นงั้นหรอกเหรอ? แต่ผมว่ามันเป็นกลิ่นที่สุดยอดเอามากๆเลยนะ…..」
พอผมเอียงคอ เร็นกะก็-หึ-ฮึดจมูก
「สำหรับนายแล้วมันอาจจะเป็นแบบนั้น…..ใช่แล้ว เอลิซ่า บางทีฟีโรโมนของเธออาจจะช่วยหักล้างมันไปก็ได้รึเปล่า?」
「จะทดสอบดูค่ะ」
ทันใดนั้น กลิ่นซิตรัสจางๆก็แผ่กระจายไปรอบตัวเธอ ขจัดเอากลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์นั้นออกไป
「อ่าห์~ ค่อยโล่งหน่อย! แต่ว่านะ ถ้าเกิดต้องดมกลิ่นแย่ๆนั้นต่อไปเรื่อยๆ อย่างแย่ที่สุดสงสัยคงได้สูญเสียสกิลมิตรภาพร่วมมือไปแน่ๆเลย」
「หืม? หมายความว่ายังไงนั่น?」
ผมถามไป แต่พวกการ์ดก็ไม่ยอมตอบ มีแค่เร็นกะที่「ได้เห็นก็รู้เอง」ตอบมาสั้นๆ
ในไม่ช้าหลังจากนั้น…..
พอมาถึงจุดที่จ้าวอยู่ ในที่สุดก็เข้าในสิ่งที่เธอบอก
ที่ห้องโถงขนาดใหญ่ตรงกลางชั้น ได้มีเตียงขนาดใหญ่ดูหรูหราซึ่งดูยังไงก็ไม่เป็นธรรมชาติตั้งอยู่
บนเตียงนั้น มีผู้หญิงที่มีเสน่ห์และความสวยงามที่ไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับมนุษย์ กำลังนอนมองมาโดยไม่มีความกระตือรือร้นอะไร
「เอาจริงดิ…..」
อึ้งแล้วพึมพำออกมา
ปีกเล็กๆชวนให้นึกถึงของค้างคาว เขาที่ราวกับของแพะงอกออกมาจากด้านข้างศรีษะ
ที่อยู่ตรงนั้นก็คือ—-ซัคคิวบัสล่ะ
ผิวสีขาวสว่างใส ทั่วร่างกายแผ่เสน่ห์อันเย้ายวนอย่างเต็มที่ มีผืนผ้าเล็กๆปกคลุมร่างกาย แทบจะไร้ประโยชน์ในการใช้ปกปิดร่างกาย เส้นโค้งเว้าของหน้าอกและเอวสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน กลับกันแล้วการออกแบบของมันกลับชวนให้จินตนาการไปถึงส่วนที่กึ่งๆทำการปิดบังเอาไว้ แม้แต่ผมหยักศกที่ยาวแผ่ออกไปทั่วเตียงก็ยังชวนดึงดูด
ทันใดนั้น สายตาก็ไปสบเข้ากับซัคคิวบัส ดวงตาสีทองอันเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นปีศาจก็โค้งขึ้นอย่างเป็นมิตร เมื่อเธอขยับร่างกายส่งผลให้หน้าอกอันอวบอิ่มนั้นส่ายไปมา เป็นการบ่งบอกถึงน้ำหนักและความอ่อนนุ่มของมันให้ทางนี้ได้รับรู้
ภาพของมันปลุกเร้าเกินไปสำหรับหนุ่มซิง ช่วยไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
…..ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอซัคคิวบัสที่เป็นมอนสเตอร์อยู่
ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยเพราะว่าเป็นมอนสเตอร์ที่สามารถปรากฏที่เขาวงกตชั้นใต้ดินไหนก็ได้ แต่ความเป็นไปได้ของมันต่ำมากเสียจนเรียกได้ว่าราวกับปาฏิหาริย์
บางทีแล้ว ทางรายการอาจจะมีการปรับแต่งมอนสเตอร์แล้วทำให้มันดูดีทาง TV ก็ได้
มีความเป็นไปได้ ก็เพราะว่านี่คือแคทไฟท์ เพราะงั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากจะปรับแต่งสาวมอนสเตอร์
『แล้ว จะเอายังไง?』
เร็นกะถามขณะที่มองด้วยสายตาเย็นชา
เอายังไง หมายถึงว่าจะใช้ควบคุมโชคชะตาไหมงั้นเหรอ ที่ใช้ไปล่าสุดก็ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน การบิดเบือนแห่งเหตุและผลเองแทบจะหายไปจนหมดแล้วด้วย
ต่อให้ใช้ไปก็แทบจะไม่มีความเสี่ยง แต่…..เมื่อคิดดูแล้ว ผมก็ส่ายหน้า
『ไม่ล่ะ จะไม่ใช้ทั้งเพอร์เฟคลิงค์กับควบคุมโชคชะตา โชคดีที่สะสมมาก็ไม่ใช้ด้วย ต่อให้ได้ซัคคิวบัสนี่มาไว้ในมือ ก้ไม่ใช่ว่าจะมีสกิลร่วงหล่นด้วย เก็บไพ่ตายเอาไว้เพื่อให้มั่นใจว่าจะชนะการแข่งดีกว่า』
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะใช้ไพ่ตาย ซัคคิวบัสก็อยากได้อยู่ แต่ถ้าไม่มีสกิลร่วงหล่นก็ไร้ความหมาย ถ้ามัวแต่ยึดติดกับผลประโยชน์ระยะสั้นแล้วพลาดของจริงไปมันก็ตรงกันข้ามกับที่หวัง
ถ้าจะใช้ในการแข่งครั้งนี้ ก็ต้องเป็นการใช้เพื่อให้ได้รางวัลสำหรับเมอา
『งั้นเหรอ』
พอเร็นกะได้ยินคำตอบของผม ก็ยิ้มขึ้นมาแว่บนึง
…..ยัยนี่ หรือว่าจะทำเพื่อดูว่าผมจะตาบอดไปกับความโลภอีกรึเปล่างั้นเรอะ
ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก การรมยาจากตอนเปิดแพ็คมันก็มากพอแล้วล่ะ
ผมยิ้มแห้งๆและพูด
『งั้นก็ มารีบจัดการกันเถอะ』
『โอ้』
อันนี้เองก็เป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น จะต้องรีบไปต่อเพื่อเมอา
—-และแล้ว ไม่กี่นาทีต่อมา
「…..เอ๋~」
ด้วยบางเหตุผล ในมือของผมก็ได้ถือการ์ดซัคคิวบัสที่มีสกิลร่วงหล่นอยู่
【Tips】การ์ดท้องถิ่น
การ์ดที่มาจากประเทศหรือภูมิภาคใดเป็นการเฉพาะ แล้วมีประสิทธิภาพที่มากกว่าเมื่อเทียบกับที่มาจากประเทศอื่น จะถูกเรียกว่าการ์ดท้องถิ่น
การ์ดท้องถื่นไม่เพียงแค่มีพลังต่อสู้มากกว่า 1 ถึง 2 แรงค์ แต่กับสกิลยังขั้นสูงกว่ากับการ์ดที่มาจากประเทศอื่น
ตัวอย่างเช่น คูซี่ในต่างประเทศ จะมีสกิลปกปิดตัวตนที่อย่างมากก็แค่การหายตัว ส่วนคูซี่ต้นตำหรับจากไอร์แสนด์ จะมีสกิลเคลื่อนย้ายสู่มิติอื่นซึ่งสามารถพาเหล่าภูติเข้า-ออกดินแดนภูติ(มิติข้างเคียงที่อยู่คนละภาคส่วน)ได้
สิ่งนี้เกิดมาจาก『ความเข้าใจ』กับ『ความสัมพันธ์』ที่แตกต่างกันของคนในท้องถื่นต่อตัวตนของคูซี่…..ก็เป็นสิ่งที่นักวิจัยกล่าวอ้าง
ข้อมูลเพิ่มเติม
เก・เดิยร์ก, เก・โบว / Gáe Dearg, Gáe Buidhe
จากตำนานไอริช, หอกอาวุธคู่กายของเดร์มุด โอ เดนา หรือ Lancer ที่คนน่าจะรู้จักในอนิเมะเรื่อง Fate
Gáe Dearg หอกสีแดงที่ทำให้เวทมนตร์ไร้ผล
Gáe Buidhe หอกสีเหลืองที่สร้างบาดแผลที่ไม่สามารถรักษาได้
https://en.wikipedia.org/wiki/Diarmuid_Ua_Duibhne
https://typemoon.fandom.com/wiki/G%C3%A1e_Dearg
https://typemoon.fandom.com/wiki/G%C3%A1e_Buidhe
MANGA DISCUSSION