บทที่ 3 ตอนที่ 13.1
เมื่อออกมานอกโตเกียวโดม ผู้วิ่งก็แตกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งมีประมาณ 70% ส่วนอีกกลุ่มเป็นส่วนน้อยที่มีประมาณ 30% ของทั้งหมด
กลุ่มแรกวิ่งมุ่งไปยังเขาวงกตทะเล ส่วนกลุ่มหลังมุ่งไปทางสถานี
สาเหตุที่คนจำนวนมากเลือกเขาวงกตทะเล ก็เพราะว่าไม่อยากเสียเวลาในการเดินทางเกือบ 1 ชม.เพื่อไปเขาวงกตชั้นใต้ดิน(ถ้าเอาแม่นยำจริงๆแล้วจะแตกต่างกันประมาณ 30 นาที) และเพราะว่าถ้าสามารถได้เพชรวีเวิร์นมาล่ะก็จะเป็นการการันตีกำไรจากการแข่งนี้
ตราบเท่าที่สามารถได้เพชรวีเวิร์นที่ราคาตลาดแลกเปลี่ยนเริ่มต้นที่ 100 ล้าน ถือว่าเป็นกำไรที่สามารถสละสิทธิ์การแข่งไปได้ในทันที
ต่อให้เป็นพวกที่ไม่มีกำลังมากพอจะวิ่งฝ่าเขาวงกตหมดทั้ง 3 แห่ง แต่ถ้าเป็นเขาวงกตแค่แห่งเดียวล่ะก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
อีกทั้งสำหรับพวกที่เล็งคิมาริสเอง ก็คงจะมองว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ที่สามารถข้นเป็นอันดับที่ 1 ในการแข่งและสามารถบรรลุเป้าดาว 600 ดวงด้วยเพชรวีเวิร์น
ในอีกด้านหนึ่ง พวกที่เลือกอย่างหลัง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกที่พยายามมองหาส่วนแบ่งเล็กน้อยจากคาบังเคิลโกเมน และเน้นหนักไปที่พวกลุยเดี่ยวหรือพวกที่จับกลุ่มแบบไม่มีประสบการณ์
พวกลุยเดี่ยวที่มีความมั่นใจในพละกำลังของตนเองจะไปอย่างหลัง ในขณะที่พวกที่จับกลุ่มจะแบ่งสมาชิกเท่าๆกันไปทั้งเขาวงกตทะเลและเขาวงกตชั้นใต้ดิน
ผมที่วิ่งอยู่ด้านหลังของกลุ่มผู้เข้าแข่งขันและเฝ้ามองการเคลื่อนไหวอยู่นั้น กระโดดขึ้นขี่พรมเวทมนตร์และบินไปทางสถานี
สาเหตุที่ผมเลือกเขาวงกตชั้นใต้ดินที่ต้องเสียเวลาก็ง่ายๆเพราะว่ามันมีจำนวนคนน้อยกว่า
ถ้าหากกลุ่มที่ไปทะเลมีจำนวนน้อยกว่าก็คงจะเลือกไปทางนั้นแทน
ไม่ว่าจะเป็นเขาวงกตประเภทไหน หรือมีการเปลี่ยนแปลงกติกาในนาทีสุดท้ายยังไง เขาวงกตแรกที่จะเลือกต้องเป็นอันที่มีจำนวนคนน้อยกว่า….. นี่คือแผนที่ชมรมนักผจญภัยคิดกันขึ้นมา
รู้สึกได้ถึงสายตาของเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่จ้องมายังผมที่ขี่พรมเวทมนตร์บินข้ามหัว ผมใช้เส้นทางลัดทางอากาศทำให้เป็นคนแรกที่ผ่านประตูตรวจตั๋ว และสามารถลอดตัวเข้าสู่รถไฟได้อย่างฉิวเฉียด
เท่านี้ก็ถือว่านำหน้าไปได้รถไฟ 1 ขบวน ทำท่ากำหมัดดีใจอยู่ในใจอย่างลับๆ ในตอนที่ได้เห็นสีหน้าหงุดหงิดของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นที่พลาดขบวนรถไฟ
เมื่อมาถึงบริเวณที่เขาวงกตตั้งอยู่ก็มุ่งตรงไปดันเจี้ยนมาร์ท แล้วที่พื้นที่ปลอดภัยชั้น 1 ก็มีเต็นท์ที่ตั้งเอาไว้ก่อนหน้าพร้อมกับสต๊าฟรายการ 1 คนรออยู่ภายใน
「อรุณสวัสดิ์ครับ! เช่นนั้นแล้ว กรุณานำการ์ดเกียร์มาแตะกับอุปกรณ์นี้ด้วยครับ」
พอนำการ์ดเกียร์ไปแตะตามที่บอก ภาพ 3 มิติบนการ์ดเกียร์ก็มี ☆10 แสดงขึ้นมาตรงด้านมุมขวาบน
「ทางนี้คือจำนวนของดาวที่คุณมีอยู่ครับ เท่านี้การ์ดเกียร์ของคิทากาว่าซังก็ได้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของฝ่ายจัดการแล้ว โปรดระวังการสับสนและจำผิดกับการ์ดเกียร์ของผู้เข้าแข่งขันท่านอื่นด้วยครับ」
เท่านี้ก็ไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกผู้เข้าแข่งขันคนอื่นขโมยดาวไปขณะที่หลับแล้ว
แต่ก็นะ ถึงยังไงก็ต้องใช้การ์ดคอยเฝ้าระวังเอาไว้อยู่ดี
「เช่นนั้นแล้ว พยายามเข้านะครับ!」
พอสต๊าฟรายการเชียร์ให้ ก็เริ่มทำการอัญเชิญการ์ด สมาชิกคือเร็นกะ, เอลิซ่า, ยูคิ, ซุซูกะ, ดูลลาฮาน, และก็ซิลกี้เมดมาสเตอร์
ทำการสวมใส่ดูลลาฮานให้กับเอลิซ่า, อัญเชิญ Coach-a-Bower แล้วพากันขึ้นนั่งทันที
「—-ฝากด้วยล่ะ เอลิซ่า, ซิลกี้」
「เยส, มาสเตอร์ ปล่อยเป็นหน้าที่ชั้นเองค่ะ」
「ดิชั้นจะช่วยแก้ความผิดพลาดใดๆ ที่เมดมือใหม่ได้ทำขึ้นมาเอง โปรดวางใจได้ค่ะ」
「ขอความกรุณาด้วยค่ะ อาจารย์」
พอพูดจบ ซิลกี้เมดมาสเตอร์ก็พยักหน้ารับด้วยความมั่นใจ
…..นี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมถึงได้เลือกเธอมาเป็น 1 ในสล็อตของการอัญเชิญการ์ด 6 ช่อง
สกิลด้านลบของดูลลาฮาน ถูกหักล้างได้ด้วยสกิลเมดมาสเตอร์
ใช่ ในเวลาสั้นๆ 1 อาทิตย์ เอลิว่าก็ได้เรียนรู้สกิลใหม่แล้ว
【เผ่า】แวมไพร์ (เอลิซ่า)
【พลังต่อสู้】840 (MAX!)
【ทักษะติดตัว】
– รีดเลือด
– สัตว์ประหลาดแห่งราตรี
– เวทมนตร์โจมตีขั้นกลาง
【ทักษะเรียนรู้】
– เชื่อฟังเด็ดขาด
– อเนกประสงค์ : ประกอบด้วย เมดฝึกหัด (NEW!), การแสดง, ปลดกับดัก, ศิลปะการต่อสู้
(เมดฝึกหัด : มีความสามารถขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับเมด อาจเกิดความผิดพลาดอยู่เป็นครั้งคราว, สุ่มเกิดค่าลบอย่างต่ำต่อการกระทำบางอย่าง, ประกอบด้วย ทำอาหาร, ทำความสะอาด, ทักษะทางเพศ, และมารยาท)
– ฟีโรโมน
– ลอบโจมตี
– หัวใจเยือกเย็น -> น้ำนิ่งใส่ดุจกระจก (CHANGE!) : จิตใจอันผ่องใสปราศจากความคิดชั่วร้ายใดๆ, ยกเลิกสถานะผิดปกติทางจิต เสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมาก
– โล่แห่งการอุทิศตน
– เคลื่อนไหวแม่นยำ
– เวทมนตร์สนับสนุนขั้นกลาง -> เวทมนตร์สนับสนุนขั้นสูง (CHANGE!)
– เสริมพลังเวท
– ลดการร่าย
– สัญชาตญาณ
– หัวแม่โป้งของฟิน (NEW!) : ด้วยการกัดไปที่นิ้วมือหัวแม่โป้งของตน จะช่วยเพิ่มความสามารถด้านการคิด อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนน้ำที่ช้อนขึ้นมาด้วยมือทั้ง 2 ข้างให้กลายเป็นน้ำแห่งการเยียวยา ความสามารถของน้ำแห่งการเยียวยาประมาณได้กับโพชั่นระดับกลาง + รีเฟรช)
สกิลใหม่ที่ได้รับคือเมดฝึกหัด, หัวใจเยือกเย็นกลายเป็นน้ำนิ่งใส่ดุจกระจก, และเวทมนตร์สนับสนุนขั้นกลางกลายเป็นเวทมนตร์สนับสนุนขั้นสูง
ถึงแม้ว่าจะมีสกิลส่วนประกอบของเมดอยู่ก่อนแล้วครึ่งหนึ่งอย่างทักษะทางเพศและมารยาท แต่การที่สามารถเรียนรู้สกิลเมดมาได้ในเวลาอันสั้น น่าจะเป็นเพราะผลจากประสบการณ์ที่สะสมในการทำอาหารและทำความสะอาดในค่ายฝึก, การฝึกสุดโหดหินที่ได้รับจากซิลกี้ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา, และเหนือสิ่งอื่นใดเลยคือความตั้งใจมุมานะของตัวเธอเอง
เพื่อเป็นการยินดีกับเอลิซ่าที่เรียนรู้สกิลเมดได้สำเร็จ ผมจึงมอบฟินทันให้ เธอจึงได้เรียนรู้หัวแม่โป้งของฟิน
เท่านี้ เธอก็มีสกิลฟื้นฟูเพิ่มเติมจากการใช้เลือดเพื่อฟื้นฟู
มีความต้านทางต่อสถานะผิดปกติสูง รวมถึงเวทมนตร์สนับสนุนและความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นการ์ดที่มีความถึกทนสมบูรณ์แบบ
ถึงกระนั้นแล้ว การเติบโตของเอลิซ่าพักนี้ดูมีความโดดเด่นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าคุณสมบัติที่มีอยู่ในตัวเธอจะสูง รวมถึงประสิทธิภาพการเรียนรู้สกิลที่เพิ่มขึ้นมาจากสกิลการสอนของซิลกี้และเอนกประสงค์ก็ตาม ความรวดเร็วที่ได้เรียนรู้สกิลและศักยภาพในการเติบโตนั้น พูดสั้นๆได้ว่า ผิดปกติ
…..บางทีแล้ว อาจจะมีบางอย่างภายในตัวเธอเริ่มเบ่งบานขึ้นมาก็เป็นได้
『—-เอลิซ่า ต่อไปทางขวา』
『เยส, มาสเตอร์』
เนื่องจากที่นี่เป็นเขาวงกตประเภทชั้นใต้ดินที่ไม่มีมอนสเตอร์ปรากฏตามรายทาง รถม้าที่พวกเรานั่งจึงเคลื่อนผ่านโถงทางเดินไปด้วยความเร็วสูง
เพราะว่าลอยตัวเหนือพื้นอยู่เล็กน้อย จึงสามารถหลีกเลี่ยงกับดักแทบทั้งหมดที่จะทำงานเมื่อไปเหยียบสวิตช์เข้าได้ บางครั้งก็จะมีกับดักที่ตอบสนองต่อตัวตนแล้วยิงลูกธนูใส่แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการปกปิดตัวตน จะมีกับดักที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้คือประเภทที่ตรวจจับพลังชีวิตแล้วทำการโจมตีใส่ แต่เอลิซ่าที่รับรู้ได้ก่อนล่วงหน้าก็ทำการปก้องกันเอาไว้ด้วยโล่แห่งการอุทิศตน
จะมีประตูในห้องขนาดเล็กที่เอลิซ่าต้องหยุดเพื่อลงไปปลดกับดัก แต่ถึงอย่างนั้นการสำรวจเขาวงกตก็ดำเนินไปด้วยความเร็วมากเท่าที่จะเป็นไปได้
จากการค้นหาของยูคิ เหล่าผุ้เข้าแข่งขันคนอื่นยังตามหลังอยู่ห่างพอตัว
เป็นการขึ้นนำโดยสมบูรณ์ของผม
อยากจะสำรวจไปให้ไกลมากเท่าที่จะทำได้ภายในระยะเวลา 1 ชม.ก่อนที่การตรวจสอบการเผชิญหน้ากับผู้เล่นอื่นจะถูกใช้แต่….. ขณะที่กำลังคิดอะไรแบบนั้นอยู่ ก็ได้มาถึงจุดคำใบ้แรกแล้ว
แถมด้วย…..! คาบังเคิลก็อยู่อีกต่างหาก!
…..นี่หรือว่า จุดคำใบ้กับห้องคาบังเคิลมันจะทับซ้อนกัน? ไม่หรอก ไม่น่าจะเป็นไปได้ การจะวางคำใบ้เอาไว้ในสถานที่เดียวกับคาบังเคิลที่หากได้เห็นผู้คนจะวิ่งหนีทันทีมันเป็นไปไม่ได้ ก็แค่เรื่องบังเอิญแหละ
ให้ยูคิตรีงคาบังเคิลเอาไว้ในทันที แล้วให้ดูลลาฮานจัดการ การเสริมความแข็งแกร่งให้ดูลลาฮานที่แทบจะไม่ได้เสริมความแข็งแกร่งให้เลยถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ส่วนกล่องน่าผิดหวังสีทองที่โผล่ออกมาก็…..
『เร็นกะ เป็นไงบ้าง?』
『อืม…..ก็งั้นๆล่ะนะ ไม่ถือว่าดวงซวย คิดว่านะ』
『งั้นเหรอ…..งั้นก็ช่วยเก็บโชคดีเอาไว้ที』
『รับทราบ』
ยับยั้งการใช้โชคเพื่อการถูกรางวัลจากกล่องน่าผิดหวังสีทอง ทำการเก็บเอาโชคนั้นไว้
แน่นอนว่าคงจะไม่สามารถตั้งความหวังกับของที่อยู่ข้างในได้มากนักแต่—-เป็นที่น่าประหลาดใจ ของที่อยู่ข้างในคือลูกแก้วสกิลสีเหลือง
『…..เก็บสะสมโชคไปแล้ว ถ้างั้นอันนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นลูกแก้วสกิลด้านลบสินะ』
『ก็คงงั้นแหละ ถ้าไม่ได้เก็บโชคไว้มันก็อาจจะเป็นลูกแก้วสกิลด้านบวกก็ได้』
『พลาดซะแล้วงั้นเหรอ? เอาเถอะ ช่วยไม่ได้ ปล่อยทิ้งเอาไว้ละกัน』
โดยที่ไม่ได้ใช้ลูกแก้วสกิล เก็บคาบังเคิลโกเมนแล้วออกมาจากจุดนั้น
ถ้าผู้เข้าแข่งขันที่ตามมาทีหลังลองเสี่ยงดวงแล้วใช้มัน ก็ออกจะน่าสงสารอยู่นิดหน่อยแต่…..ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้
เอาล่ะ คำใบ้ก็ นี่ คำใบ้ของจุดเช็คพ้อยท์ถูกเพิ่มขึ้นมาในการ์ดเกียร์
【ลำดับที่ 3 X 146, Y 626】
…..อืม ยังไม่ค่อยแน่ใจว่า「ลำดับที่ 3」หมายถึงอะไร แต่ X กับ Y คงจะเป็นพิกัดภายในเขาวงกต
มันคงไม่มีทางเป็นที่ตั้งของจุดเช็คพ้อยท์แน่ๆ ถ้ามันไม่ใช่แล้วล่ะก็…..เป็นรูปแบบ B สินะ
รูปแบบ B คือ 1 ในหลายรูปแบบที่อาจารย์เลือกใช้ในการค้นหาจุดเช็คพ้อยท์สำหรับการซ้อมแข่ง
รูปแบบนี้คือการลากเส้นเชื่อมต่อจากพิกัดที่ได้จากจุดคำใบ้ทั้ง 4 แล้วใช้จุดที่เส้น 2 เส้นตัดผ่านกันเป็นพิกัดของชุดเช็คพ้อยท์
จะไม่เหมือนกับรูปแบบอื่นๆ ตรงที่ไม่มีปริศนายุ่งยากมาให้แก้ แต่ก็ไม่สามารถรู้ตำแหน่งที่แท้จริงได้จนกว่าจะเก็บรวบรวมหมดทั้ง 4 อัน จำเป็นต้องเก็บข้อมูลมาทั้งหมด
เรียกอีกชื่อคือ รูปแบบราชาโจรสลัด
เอาล่ะ เท่านี้ก็เก็บคำใบ้ของชั้นนี้ได้แล้ว…..
『เอลิซ่า ใช้แคลวอแยนส์เลย』
『เยส, มาสเตอร์』
พอเอลิซ่าใช้เวทมนตร์สนับสนุนขั้นสูง・แคลวอแยนส์(ตาทิพย์) โครงสร้างของชั้นก็เริ่มปรากฏขึ้นมาในหัวของผม
เวทมนตร์ตาทิพย์นี้ เป็นเวทมนตร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ถึงโครงสร้างภายในชั้นที่อยู่ปัจจุบันเป็นระยะเวลาหนึ่ง
ตามปกติแล้วจะเป็นเวทมนตร์ที่ดูไม่ค่อยมีประโยชน์นัก เนื่องจากมันเป็นข้อมูลที่สามารถหาซื้อได้จากกิลล์ แต่สำหรับเขาวงกตแรงค์ B ที่ทางกิลล์ไม่มีข้อมูลอยู่มากนัก หรือเขาวงกตลับที่ไม่มีข้อมูลขายตั้งแต่แรกแล้ว นับว่าเป็นสิ่งจำเป็น
ถ้าหากว่าเอลิซ่าไม่ได้พัฒนาเวทมนตร์สนับสนุนขั้นสูงขึ้นมาล่ะก็ การแข่งนี้ก็คงจะลำบากขึ้นมาก
ไม่เหมือนกับสกิลเมด การแรงค์อัพของเวทมนตร์สนับสนุนขั้นสูงเป็นสิ่งที่ไม่ได้เล็งเอาไว้ ซึ่งนับว่าเป็นอะไรที่โชคดี
มีแผนสำรองที่เผื่อเอาไว้ อย่างการรวบรวมการ์ดแคลวอแยนส์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือพึ่งเวทมนตร์สนับสนุนขั้นสูงของไนกี ซึ่งวิธีนี้จะต้องเมินจุดคำใบ้ไปทั้งหมดแล้วไปให้ไกลที่สุดเท่าที่เวลาในการอัญเชิญมีให้ แล้วพอหมดเวลาการอัญเชิญก็ใช้ขลุ่ยของฮาเมลินย้อนกลับไปชั้นก่อนๆเพื่อรวบรวมคำใบ้….. อะไรแบบนั้นแหละ
วิธีแรกนี้ต้องใช้เงินทุนมหาศาล ส่วนวิธีหลังต้องเสียเวลามาก เพราะงั้นการที่เอลิซ่าได้เรียนรู้เวทมนตร์สนับสนุนขั้นสูงจึงช่วยได้มาก
อันที่จริง ไม่ว่าจะการเดินทางก็ดูลลาฮาน&เอลิซ่า, จัดการกับดักก็เอลิซ่า, ทำความเข้าใจแผนที่ก็เอลิซ่า นับว่าเอลิซ่ามีส่วนสนับสนุนที่ใหญ่มาก
แบบนี้ ถ้าเกิดลอสเอลิซ่าไปกลางทางล่ะก็ ได้เละแน่…..
พอคิดแบบนั้นแล้ว การจะให้เธอไปต่อสู้กับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นก็เห็นทีต้องคิดหนัก
แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ก็เอาออกไปไม่ได้เพราะเธอถือว่าเป็นการ์ดหลักแล้ว…..
ขณะที่กำลังคิดอยู่เช่นนั้นมาเรื่อยๆ ก็ได้มาถึงจุดคำใบ้ของชั้นที่ 2
มีศัตรูคือสเกลตันกับวอเตอร์สไลม์ที่เป็นพวกลูกกระจ็อก
ก็แน่ล่ะ การจะเจอคาบังเคิล 2 ครั้งติดๆกันคงจะยาก
จัดการศัตรู เก็บคำใบ้ในทันที ซึ่งคราวนี้อ่านได้เป็น【ลำดับที่ 2 X -246, Y -634】
…..เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อจุดทั้ง 4 แน่ๆ เท่านี้ก็รู้แล้วว่าเป็นซักจุดหนึ่งที่อยู่บนเส้นตรงนี้ ปัญหาคือรหัสช่วงแรก บางที คิดว่าน่าจะเป็นพาสเวิร์ดอะไรซักอย่าง…..
ระหว่างทางที่ไปยังชั้นต่อไปก็ได้เจอกับคาบังเคิลอีกตัว
ดีล่ะ…..ไม่ได้ตั้งใจมองหาซักเท่าไหร่ แต่บังเอิญมาเจอเข้าแบบนี้ก็เป็นเรื่องน่าดีใจ
ให้ดูลลาฮานจัดการอีกรอบ สะสมโชคจากกล่องน่าผิดหวัง ภายในเป็นโพชั่นระดับต่ำ น่าเสียดายอยู่นิดหน่อยแต่ก็เอามาใช้เพื่อรักษาแผลที่ใช้เข็มจิ้มก่อนหน้านี้ละกัน
มาถึงยังชั้นที่ 3 ยังคงไม่มีใครตามมาทัน
ในทางตรงกันข้าม ค่อยๆทิ้งห่างจากคนที่ 2 มาเรื่อยๆด้วยซ้ำ
อย่างที่คิด การผสานกันของ Coach-a-Bower + ปลดกับดัก + ตาทิพย์ มันขี้โกงน่าดู สมกับที่เป็นเอลิซ่าซัง จะบอกว่าเอลิซ่าคือกุญแจในการพิชิตเขาวงกตของปาร์ตี้พวกเราก็ไม่เกินเลยไปนัก
แต่ถึงอย่างนั้น การที่ไม่สามารถสลัดทิ้งได้อย่างสิ้นเชิง เจ้าคนที่ 2 นี่ ดูจะมีหนทางสำหรับการเดินทางและการทำความเข้าใจในแผนที่อยู่….. หรือไม่ก็รู้ถึงเส้นทางที่ผมใช้แล้วตามรอยมา
ไม่ว่าจะยังไงก็เป็นคนที่ต้องเฝ้าระวังเอาไว้
คำใบ้ของที่นี่คือ【ลำดับที่ 1 X -982, Y -342】ส่วนระหว่างทางก็ไม่เจอคาบังเคิล
ชั้นที่ 4 ในชั้นนี้ก่อนหน้าจะได้คำใบ้ได้เจอกับคาบังเคิล 3 ตัว โชคดีมากๆ จะว่าไป นี่ไม่ได้ใช้โชคหรือว่าควบคุมโชคชะตากับเร็นกะอะไรเลย เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆ เท่านี้พลังต่อสู้ทั้งของดูลลาฮานและซิลกี้ก็เพิ่มจนถึง MAX แล้ว ส่วนคำใบ้คือ【ลำดับที่ 4 X 945, Y 22】
แล้วในที่สุดก็มาถึงชั้นที่ 5 ที่ซึ่งมีจุดเช็คพ้อยท์รออยู่ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการมาถึงตรงนี้ เกือบจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ทำได้เลย ช่วงเวลาไร้การการเผชิญหน้า 1 ชม.กำลังจะหมดลง จากตรงนี้ไปต้องคอยระมัดระวังเรื่องระยะห่างที่มีต่อผู้เข้าแข่งขันคนอื่นให้มากขึ้นแล้ว
จุดเช็คพ้อยท์เป็นแค่เต็นท์อย่างง่ายๆ ตั้งเอาไว้อยู่ตรงกลางโถงทางเดิน
พอพยายามจะเข้าไปด้านใน แต่ก็ไม่สามารถเปิดประตูเข้าไปได้ ราวกับว่ามีบาเรียถูกติดตั้งไว้
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังออกมาจากด้านใน
「—-กรุณาพิมพ์รหัสผ่านลงในการ์ดเกียร์ด้วย」
ทำตามที่บอกแล้วพิมพ์ 「あ、ち、は、い」*
「เชิญเข้ามาได้」
ได้รับเชิญเข้าไปในเต็นท์ ที่ตรงนั้นมีสต๊าฟรายการที่ดูเหมือนนักผจญภัยสวมชุดบอดี้อาร์มเมอร์ พร้อมกับการ์ดเนโกะมาตะและเกรมลิน
ผมรู้สึกระแวงเกรมลินไปอยู่ครู่หนึ่ง
「อา ไม่ต้องเป็นห่วง ทางนี้เป็นการ์ดของผมเอง ไม่เป็นอะไรหรอกครับ เป็นการตรวจเช็คภาพจากคาเมร่าอายอย่างรวดเร็วเท่านั้น โปรดเข้าใจด้วยครับ」
「อะ ครับ」
ถึงแม้เกรมลินจะมีชื่อเสียงย่ำแย่จากทำลายเครื่องจักร แต่เนื่องจากเป็นภูติที่เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์จึงมีความสามารถในการจัดการข้อมูลเช่นกัน จะดีจะร้ายยังไงก็ถือว่าเป็นมอนสเตอร์ที่มีความทันสมัยที่สุดแล้ว
「เอ ถ้างั้นก็ ช่วยกรุณาตอบคำถามต่อไปนี้ตามจริงด้วยครับ….. ก่อนที่จะมาถึงที่นี่ ได้ทำการโกงใดๆรึเปล่า?」
「…..ไม่ครับ」
「—-ครับ! เพียงพอแล้ว! เช่นนั้นแล้ว กรุณาแตะคริสตัลด้วยการ์ดเกียร์แล้วดำเนินการแข่งต่อได้เลยครับ」
「อา ครับ」
นี่เสร็จแล้วงั้นเหรอ ขณะคิดแบบนั้นก็เดินออกจากเต็นท์มา
มู….. ขณะที่กำลังอยู่ในจุดเช็คพ้อยท์ ระยะห่างระหว่างเจ้าคนที่ 2 เริ่มลดน้อยลงไปนิดหน่อยแล้ว ส่วนคนที่ 3 ที่กำลังไล่ตามยังห่างอยู่เท่าเดิม
ความกดดันนี่มัน ชักรู้สึกไม่ค่อยดีแหะ…..
ขณะที่คิดแบบนั้น ผมก็ดำเนินการแข่งต่อ
—-หลังจากนั้นประมาณ 2 ชม. ผมก็ได้มาถึงชั้นที่ 21
มาถึงจุดนี้ ได้เจอกับคาบังเคิล 14 ตัว และก็ได้โกเมนมา
ที่สามารถเจอตัวมันทั้งๆที่ไม่ได้พยายามค้นหามันมากอะไรนัก ต้องขอบคุณการอวยพรโชคดีของเร็นกะอย่างไม่ต้องสงสัย
ในช่วงนั้น เก็บสะสมโชคดีจากกล่องน่าผิดหวังไป ทำให้มีโชคดีสะสมอยู่มากพอสมควร
ส่วนด้านเวลา ก็ยังคงสามารถรักษาเวลาที่ดีที่สุดเอาไว้ได้
ว่ากันตามตรง ไม่คิดว่ามันจะราบรื่นมาได้ถึงขนาดนี้
ในการจำลองของชมรมนักผจญภัย ได้ประมาณการณ์เอาไว้ว่าต่อให้หลีกเลี่ยงการต่อสู้กับนักผจญภัยอื่น อย่างน้อยก็น่าจะได้ต่อสู้ด้วย 3 ครั้งก่อนจะถึงชั้นที่ 20
สาเหตุที่มันไม่เกิดขึ้นก็คงเพราะผมได้ใช้พรมเวทมนตร์ทำให้สามารถขึ้นรถไฟได้ก่อนหนึ่งขบวน จากจุดนั้นมาก็รักษาการนำอยู่เพียงคนเดียวเอาไว้ได้ ส่วนกลุ่มนำอื่นนอกจากผมก็เลือกที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ด้วย
—–ทว่า ความราบรื่นมันจะหมดลงแค่นี้
ต่อจากนี้ไปศัตรูจะเป็นมอนสเตอร์แรงค์ D ไม่สามารถจัดการได้ในทีเดียวเหมือนก่อนหน้า
อีกทั้งคู่แข่งเองก็ด้วย ไม่มีทางปล่อยให้ผมเป็นคนแรกที่ไปถึงชั้นสุดท้ายแน่
จนถึงตอนนี้น่าจะมีแนวคิดหลีกเลี่ยงการต่อสู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จากนี้ไปคงเพิ่มการรุกมากขึ้น
โดยเฉพาะ อันดับ 2 ที่ตามติดผมมาไม่ยอมปล่อยราวกับว่าเป็นสตอล์กเกอร์
ในขณะที่อันดับ 3 เป็นต้นไปมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ มีเพียงแค่หมอนี่เท่านั้นที่รักษาอันดับ 2 เอาไว้ได้ตลอด
ดูจะมีเป้าหมายชัดเจนในการรักษาตำแหน่งข้างหลังผม
—-หลังจากนั้น 5 ชม. ก็มีความเคลื่อนไหวเป็นการต่อสู้ของกลุ่มอื่นๆ แล้วผมก็มาถึงบันไดที่จะพาไปยังชั้นที่ 25
『…..! มาสเตอร์! กลิ่นอายของอันดับ 2 หายไปแล้วฮะ! แม้แต่การ์ดก็ด้วย!』
『! เคลื่อนไหวแล้วงั้นรึ!』
ไอ้เจ้านี่ อย่างที่คิดเลยว่าตามรอยมาเพื่อค้นหาเส้นทางที่สั้นที่สุดเพื่อไปชั้นถัดไป
ได้รู้สถานที่ของจุดคำใบ้สุดท้ายแล้ว ที่เหลือก็แค่จุดเช็คพ้อยท์ในชั้นที่ 25
ดูจากการที่มีจุดเช็คพ้อยท์ในทุกๆ 5 ชั้นมาจนถึงตอนนี้ มีความเป็นได้สูงว่าหลังจากจุดนี้ไปจะไม่มีคำใบ้หรือจุดเช็คพ้อยท์อีกแล้ว
และเนื่องจากเป็นจุดเช็คพ้อยท์สุดท้าย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ชั้นถัดไปจะเป็นชั้นสุดท้าย
ถ้าผมเป็นโปรดิวเซอร์ของรายการล่ะก็ คงจะตั้งจุดเช็คพ้อยท์เอาไว้ก่อนหน้าชั้นสุดท้ายแน่
พูดอีกอย่างคือ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผมอีกแล้ว มั่นใจเลยว่าเจ้าสตอล์กเกอร์จะต้องมีการ์ดเวทมนตร์แคลวอแยนส์อยู่ไม่ 1 ก็ 2 ใบ
…..ปัญหาก็คือ เวลาที่จะโจมตี
ถ้าหากว่าโจมตีผิดเวลาล่ะก็ ได้ถูกกลุ่มที่อยู่ข้างหลังแซงแน่
—-ในตอนที่ผมผ่านจุดเช็คพ้อยท์สุดท้าย ก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นอีก
『มาสเตอร์! อันดับ 3 และอันดับ 4 เข้าเผชิญหน้ากันแล้ว! ดูเหมือนกำลังจะเริ่มทำการต่อสู้แล้วฮะ!』
『เห็นว่าผมได้อันดับ 1 แน่นอนแล้วเลยตัดสินใจเริ่มจัดการกันเองงั้นรึ…..!』
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็แย่แล้ว! ถ้าเจ้าอันดับ 2 จะโจมตีผมล่ะก็ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดแล้ว!
มาถึงขั้นนี้แล้ว มีตัวเลือกแค่รีบไปยังชั้นสุดท้ายให้ได้ก่อนหน้าที่อันดับ 2 จะตามมาทันเท่านั้น…..!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมจึงมุ่งหน้าไปยังบันไดที่จะไปสู้ชั้นถัดไป แต่—-
「ในที่สุดก็ได้เจอกันซักทีนะ」
ภายในห้องเล็กๆที่อยู่ด้านหน้าบันได ที่รออยู่ภายในนั้นคือหญิงสาวผิวขาว ผมตัดสั้นสีแดง ดวงตาสีน้ำเงิน
…..เจ้าสตอล์กเกอร์ เป็นผู้หญิงงั้นรึ
ขณะเก็บความรู้สึกประหลาดใจเอาไว้ ก็ทำการสังเกตุอีกฝ่ายและใช้ความคิด
อย่างแรกที่สะดุดตาเลยก็คือส่วนสูงที่มากกว่า 180 ซม. ผู้หญิงชาวต่างชาติหลายคนจะมีตัวสูง แต่ตัวเธอน่าจะสูงยิ่งกว่าคนเหล่านั้นไปอีก
แผ่นหลังก็ไม่ใช่อย่างเดียวที่ใหญ่ หน้าอกเองก็ด้วย เป็นมนุษย์คนแรกที่เคยพบเลยที่มีหน้าอกใหญ่กว่าอุชิคุระซัง
ส่วนเรื่องอายุ ไม่แน่ใจเพราะว่าต่างชนชาติกัน แต่จากแว่บแรกดูแล้วน่าจะมีอายุมากกว่าผมเล็กน้อย
โครงร่างของใบหน้าสมส่วน จมูกอยู่ไม่สูงเกินไป ขากรรไกรเรียวแหลม เป็นผู้หญิงสวยที่น่าจะได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่น
ผมจำใบหน้ากับหน้าอกนั่นได้ ถ้าจำไม่ผิด เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับการแนะนำจากทางรายการ น่าจะชื่อเฮเลนอะไรซักอย่าง เนื่องจากแทบจะไม่มีข้อมูลแจ้งเอาไว้ล่วงหน้า ทำให้อันดับความนิยมอยู่ที่อันดับ 10
เดินลงมาจากรถม้า เผชิญหน้ากับเฮเลน
「…..ผมน่าจะเป็นคนแรกที่ผ่านจุดเช็คพ้อยท์มา แล้วคุณมาถึงก่อนได้ยังไงครับ?」
「เรื่องง่ายๆ ก็แค่ข้ามจุดเช็คพ้อยท์มา แล้วพุ่งตรงมาที่นี่ไงล่ะ ถ้าไม่ทำแบบนั้นก็คงแซงหน้ามาไม่ได้หรอก」
เฮเลนตอบกลับโดยใช้ภาษาญี่ปุ่นอย่างคล่องแคล่ว บางทีอาจจะใช้อุปกรณ์เวทในการแปลภาษา หรือไม่ก็เพราะอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นมานาน…..
「แต่ว่าถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ต่อให้เอาชนะผมได้ก็ไปชั้นสุดท้ายไม่ได้อยู่ดีนี่นา?」
「หลังจากจัดการเธอได้แล้วทำให้ต้องหยุดรอ 1 ชม. ระหว่างนั้นก็สามารถไปค่อยๆผ่านจุดเช็คพ้อยท์ก็ได้แล้ว」
「แล้วถ้าเกิดอันดับ 3 หรือ 4 อาศัยจังหวะชิงความได้เปรียบไปล่ะ?」
「แน่นอน ก็ค่อยจัดการไประหว่างทาง ไม่ต้องห่วงหรอก」
เธอพูดมาพร้อมกับยิ้มไปด้วย ทำให้ซาชิกิวาราชิที่อยู่ข้างๆผมหัวเราะชอบใจ
「เธอนี่ หน้าตาออกจะน่ารักแต่บ้าบิ่นน่าดู! น่าสนใจจริงๆ!」
「ขอบใจ คุณเองก็เป็นการ์ดที่ดีเหมือนกันนะ」
เฮเลนยิ้มตอบให้กับคำชมของเร็นกะ จากสีหน้าและทัศนคติ เผยให้เห็นถึงความมั่นใจซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประสบการณ์ ได้ลางสังหรณ์ของคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม…..
「เอาล่ะ พักการพูดคุยกันเอาไว้เท่านี้ก่อนละกัน อะ แน่นอนว่าถ้าจะยอมแพ้ก็ได้เหมือนกันนะ」
「ล้อเล่นน่า」
หัวเราะ แล้วผมก็เลือกสู้อย่างไม่ลังเล
ทันใดนั้น หน้าจอใส่ข้อมูลก็ปรากฏบนการ์ดเกียว่าต้องการเดิมพันกี่ดาว
เอาล่ะ เอายังไงดี
การเดิมพันดาว มีอยู่ 4 รูปแบบด้วยกันคือ 「เดิมพันแค่ 1 ดวง」「เดิมพันแค่ 3 ดวง」「เดิมพันทั้งหมดโดยเหลือไว้ 1 ดวง」「All in」
รูปแบบแรก คือการเดิมพันความเสี่ยงน้อยที่สุดด้วยการจำกัดการ์ดแค่ 3 ใบ ทำให้เสียเปรียบในการต่อสู้อย่างแน่นอน แต่หากเห็นว่าอันตรายก็แค่ยอมแพ้ในทันทีเพราะความเสียหายมีต่ำที่สุด ที่ดีกว่าการเลือกหนี…..ก็คือรูปแบบนี้
รูปแบบที่ 2 คือการเดิมพันโดยมีเป้าหมายคือเพิ่มผลตอบแทนให้มากที่สุดในขณะที่ลดความเสี่ยงลงให้มากที่สุด สาเหตุที่เดิมพัน 3 แทนที่จะเป็น 2 ก็เพื่อให้สามารถได้มากกว่าอีก 1 ต่ออีกฝ่ายที่พยายามเอาชนะเดิมพันด้วยการเดิมพัน 2 ต่อการเดิมพัน 1 ซึ่งมันก็มีความเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายจะจะเดิมพัน 4 เพิ่อแก้ทาง แต่ถ้าคิดกันแบบนั้นล่ะก็ไม่มีทางจบสิ้นกันแน่ๆ เพราะงั้นแล้วก็เลิกคิดไปซะดีกว่า
รูปแบบที่ 3 คือการเดิมพันโดยมีเป้าหมายเพื่อมุ่งเอาชนะให้มากเท่าที่จะทำได้โดยการเหลือไว้ 1 เพื่อกันการหมดสิทธิ์ มีความเสี่ยงสูงแต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะชนะการเดิมพันสูงตามไปด้วย
รูปแบบที่ 4 เป็นอะไรที่บ้าบอ การเดิมพันที่ถ้าแพ้จะต้องสละสิทธิ์เป็นอะไรที่สิ้นคิด
…..แต่ ในสถานการณ์แบบนี้มันออกจะแตกต่างไปเล็กน้อย
ซึ่งนั่นก็เพราะ ระหว่างทางของพวกเราไม่ได้ต่อสู้เลยแม้แต่ครั้งเดียว จำนวนดาวจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แค่ในสถานการณ์นี้เท่านั้น ที่มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเราแต่ละคนจะมีดวงแค่ 10 ดวง ออลอินจึงเป็นตัวเลือกที่ดูใช้ได้
ตามที่ว่าไปข้างต้น ผมจึงเลือก—-รูปแบบที่ 3 เดิมพันทั้งหมดโดยเหลือไว้ 1 ดวง
『No more bet!』
หลังจากที่แต่ล่ะฝ่ายเลือกเสร็จแล้ว การ์ดเกียร์ก็ทำการประกาศผล
『เฮเลน・เบลค ดาว 10 ดวง! All in!』
พอได้ยินเข้า ผมก็ถึงกับเลิ่กคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ All in งั้นเหรอ เป็นคนเด็ดเดี่ยวน่าดูเชียว…..
พอเห็นผมทำหน้าแบบนั้น เฮเลนก็ยิ้ม
『คิทากาว่า・อุทามาโร่ ดาว 11 ดวง! คิทากาว่าWIN! สามารถอัญเชิญการ์ดได้ 4 ใบ ทั้ง 2 ท่านกรุณาลดจำนวนการอัญเชิญลงให้ตรงตามจำนวนที่กำหนดภายในเวลา 1 นาทีด้วย』
「…..นะ!?」
พริบตาถัดมาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
「ขี้โกง…..ไม่สิ! งี้นี่เอง คาบังเคิลโกเมน!」
ถูกต้อง ผมพยักหน้ารับ
จากหนังสือกติกา
『ดาวนั้น สามารถเติมได้ด้วยการจ่ายเงิน 2 ล้านเยน หรือใช้การ์ดแรงค์ D 1 ใบ ต่อดาว 1 ดวง โดยสามารถแลกเปลี่ยนได้ที่จุดเริ่มต้นและจุดเช็คพอยท์ทุกจุด ทว่าการเติมด้วยวิธีนี้จะสามารถเติมได้ถึงแค่ 10 ดวงเท่านั้น (หากมีดาวเกิน 10 ดวงแล้วจะไม่สามารถเติมได้)』
ได้บอกไว้แบบนั้น
ที่สะกิดใจเลยก็คือ『ด้วยวิธีนี้』ถูกระบุเอาไว้ แถมด้วยต่อจากนั้นยังมีเพิ่มในวงเล็บอีกว่า ดาวที่ครอบครองจะต้องไม่เกิน 10
แทนที่จะทำแบบนั้น เขียนไปแค่『ทว่าหากมีดาวเกิน 10 ดวงแล้วจะไม่สามารถเติมได้』ก็ได้แล้ว ความจริงที่อุตส่าห์เขียน『ด้วยวิธีนี้』เอาไว้ เป็นการบ่งบอกว่ายังมีวิธีอื่นอยู่อีก
แล้วก่อนหน้าที่การแข่งจะเริ่ม ก็มีการอธิบายถึงเพชรวีเวิร์นกับคาบังเคิลโกเมน แต่นี้ก็เป็นการยืนยันแล้ว
อย่างแรก มีความเป็นไปได้ที่การแลกเป็นเงินสดจะทำได้หลังจากที่เข้าเส้นชัยไปแล้ว แต่แบบนั้นมันก็ทำให้การแข่งไร้ความหมายเกินไป เพื่อที่จะชิงไหวชิงพริบกับอีกฝ่ายได้ จึงให้หนังสือกติการะบุไว้ว่าไม่สามารถซื้อได้เกิน 10 แล้วในวันแข่งค่อยเพิ่มตัวเลือกที่ให้แลกเปลี่ยนเพชรกับโกเมนได้เข้ามา ช่วยไม่ได้ที่จะคิดแบบนั้น
…..จะว่าไปแล้ว การที่ผมสามารถรู้สึกตัวถึงมันได้ ก็เพราะโอริเบะ『มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีวิธีได้ดาวมามากกว่า 1 วิธี』บอกไว้ก่อน แต่ที่มีส่วนมากที่สุดก็คือตอนที่ได้คาบังเคิลโกเมนมาจริงๆ
หลังจากที่ได้คาบังเคิลโกเมนมาแล้ว จู่ๆก็เกิดความคิดว่า「ถ้าหากเอาไปแลกจะได้เกินกว่าที่จำกัดไว้ 10 ดวงรึเปล่าหว่า」เพราะงั้น เมื่อถึงจุดเช็คพ้อยท์ถัดไปจึงได้ไปถามดูโดยคิดในใจว่าคงไม่ได้ แต่กลับแลกมาได้เฉยเลย
ถ้าหากว่าเธอเองได้โกเมนมาระหว่างทางด้วยก็คงรู้สึกตัวเหมือนกัน แต่เพราะว่าเอาแต่ไล่ตามผมไปทุกที่ ทำให้ไม่สามารถเจอคาบังเคิลและได้โกเมนมา
ในขณะเดียวกันนั้น จะหมายความว่าเธอไม่สามารถมีดาวมากกว่า 10 ดวง ตราบเท่าที่สามารถมีดาว 11 ดวงก็รับประกันได้ว่าชนะแน่นอน
「…..อย่างงี้นี่เอง นี่มันเป็นจุดบอดซะแล้ว แต่เอาเถอะ ถึงจะเสียเปรียบเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผลการต่อสู้จะถูกกำหนดเอาไว้แล้วซักหน่อย —-ออกมาเลยทุกคน」
เมื่อเฮเลนเรียก พื้นที่ด้านหลังของเธอก็เริ่มสั่นไหว จากตรงนั้นได้ปรากฏอัศวินไร้หัวเกราะสีดำสนิท, สุนัขพร้อมขนสีเขียวเข้ม, และอัศวินแคระที่มีความสูงประมาณ 20 ซม.
…..ดูลลาฮานกับคูซี่ แล้วตัวสุดท้ายคือ…..ถ้าจำไม่ผิด ดีน่าซี* รึเปล่าหว่า? เป็นการ์ดหายากที่ไม่ค่อยปรากฏในญี่ปุ่นนัก แต่มันน่าจะเป็นการ์ดแรงค์ E ที่ไม่มีความสำคัญอะไร
ตรงกันข้ามกับท่าทางอันมั่นใจ มีแรงค์ C เพียง 1 ใบแล้วก็แรงค์ D กับแรงค์ E งั้นเหรอ…..บอกตามตรงว่าค่อนข้างอึ้ง—-
แล้ว พอมาถึงจุดนั้นก็รู้สึกตัว
「เดี๋ยวเดี๋ยว! คูซี่ไม่ใช่การ์ดสาวมอนนี่! ผิดกติกาแล้วนะ!」
「หืม? อา! อย่างงี้นี่เอง」
เฮเลนพยักหน้าเข้าใจถึงคำประท้วงของผม
「คูซี่ กลายร่างหน่อย」
พูดมาสั้นๆ ในขณะเดียวกัน ร่างของคูซี่ก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสงจางๆ แล้วเปลี่ยนรูปร่างเป็นมนุษย์ต่อหน้าต่อตา ในที่สุดเมื่อแสงหายไป ก็มีสาวสวยหร้อมหูหมามีผมสีเขียวยืนอยู่ตรงนั้นและเปลือยล่อนจ้อน
「เท่านี้ก็ได้แล้วใช่ไหม?」
「…..นะ」
บ้าน่า…..แปลงร่าง งั้นเหรอ? จริงอยู่ว่า ต่อให้ร่างจริงจะเป็นอย่างอื่น แต่ถ้าสามารถเป็นร่างหญิงสาวได้ก็สามารถนับได้ว่าเป็นการ์ดสาวมอน แต่…..คูซี่ไม่น่ามีสกิลอะไรแบบ…..ไม่สิ เดี๋ยวนะ
งั้นเหรอ มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะไม่ใช่การกลายร่างแต่เป็นภาพลวงตา ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ยังอยู่ในขอบเขตของสกิลที่เรียนรู้ได้ตามปกติ ซึ่งแน่นอนว่าสกิลที่ทำแค่การแสดงภาพลวงตาย่อมไม่ถูกนับเป็นการ์ดสาวมอน
คิดได้แบบนั้น จึงทำการมองไปทางซุซูกะ แต่เธอก็ส่ายหน้ามาเงียบๆ
ไม่มีปฏิกริยาตอบสนองจากจับเท็จ…..นี่หมายความว่าไม่ใช่ภาพลวงตาหรือการจำแลง แต่เป็นร่างในรูปแบบมนุษย์จริงๆ
ไปได้สีบทอดสกิลติดตัวอะไรมาเป็นสกิลเรียนรู้งั้นเหรอ?
แต่ว่า สกิลติดตัวประเภทการกลายร่าง มันเหมือนกับการอัญเชิญวงศ์วานที่เมื่อแรงค์อัพแล้วไม่สามารถสืบทอดได้—-ไม่ได้รับการยืนยัน—- น่าจะเป็นสกิลประเภทนั้น
ดูเหมือนคูซี่ แต่ไม่ใช่คูซี่ งั้นเหรอ…..? …..หรือว่า!
-ห๊ะ- ถึงกับอ้าปาก
ทำการตรวจสอบเหล่าการ์ดของเฮเลนอย่างรีบเร่ง
ดูลลาฮานตัวนั้น…..ถ้ามองดูดีๆ จะเห็นไอดำจางๆลอยขึ้นมาจากทั่วร่าง ออร่าการข่มขวัญที่แผ่ออกมาก็ด้วย ต่างกับสาวน้อยซุ่มซ่ามของพวกเราลิบเลย
แล้วก็ ดีน่าซี มันคงเป็นอะไรที่แปลกสุดๆที่นักผจญภัย 3 ดาวจะเอาการ์ดแรงค์ E ออกมาใช้ในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้จะมีสกิลเรียนรู้ที่ดีมากแค่ไหนก็ตามที
คูซี่ที่มีสกิลกลายร่าง, ดูลลาฮานที่มีออร่าสีดำ, การ์ดแรงค์ E ที่อยู่ผิดที่ผิดทาง…..
ไม่ผิดแน่ การ์ดของเฮเลนก็คือ—-!
「น่าจะพอแล้วใช่ไหม? ถึงจะเป็นการ์ด แต่ปล่อยให้เลดี้โป๊อยู่แบบนี้ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องดีหรอกนะ」
「…..อะ ครับ ขอโทษด้วย เชิญครับ…..」
ผมก้มหัวให้อย่างรีบเร่ง ไม่ดีละ มัวแต่คิดมาก แบบนี้ก็เหมือนกับเอาแต่จ้องสาวสวยหูสัตว์ยืนโป๊อยู่อย่างน่าไม่อายเลย ถึงใจจริงไม่คิดจะทำแบบนั้น แต่ถ้าคนภายนอกมาเห็นเข้าต้องคิดเป็นแบบนั้นแน่
ขณะที่มองมาทางนี้ด้วยแววตาเย็นตาตายด้าน เฮเลนก็ให้คูซี่คืนร่างสัตว์
…..อย่างที่คิด พอได้เห็นอีกรอบก็ดูจะมีความสง่างามและดูลึกลับมากกว่าคูซี่ที่ผมรู้จักอีก
ดูแล้วไม่น่าเป็นการ์ดแรงค์ D แน่ๆ
รู้สึกได้ว่าลางไม่ดีที่ผมรู้สึกกลายเป็นความจริง ผมจึงให้ซิลกี้และซุซูกะกลับมา สมาชิกที่เหลืออยู่คือ เร็นกะ, เอลิซ่า+ดูลลาฮาน, และยูคิ รวม 4 ใบ
『………………..!』
ต่างฝ่ายต่างจ้องตากันอย่างเงียบๆ ความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้น
『–ผ่านไปแล้ว 1 นาที กรุณาเริ่มการต่อสู้ได้』
—-แล้วการต่อสู้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดีน่าซี / ディーナ・シー / Daoine Sidhe
เป็นคำในภาษาไอริชที่ใช้เรียกเผ่าพันธุ์เหนือธรรมชาติ
https://en.wikipedia.org/wiki/Aos_S%C3%AD
MANGA DISCUSSION