บทที่ 3 ตอนที่ 12
ค่ายฝึกชมรมนักผจญภัยได้จบลง ในวันถัดมาเป็นการใช้เวลาเพื่อพักฟื้นร่างกาย แล้วก็มาถึงวันที่ 15 ของวันหยุดหน้าร้อน
ในที่สุด วันของการแข่งก็มาถึง
จุดเริ่มต้นคือสนามกีฬาโตเกียวโดมดันเจี้ยน นักผจญภัย 3 ดาวอัดแน่นกันอยู่ภายใน ความตึงเครียดจนแทบจะเป็นแรงอาฆาตล่องลอยอยู่ในอากาศ
ขณะที่กำลังเตรียมตัวก็ทำการมองไปรอบๆ ได้เห็นผู้เข้าแข่งขันเกือบทั้งหมดกำลังทำสมาธิหรือไม่ก็ออกกำลังอุ่นเครื่องด้วยตัวคนเดียว แต่มันก็มีกลุ่มของคนหลายคนที่รวมตัวแล้วก็กำลังคุยกันอยู่ด้วย
เนื่องจากมีเขตแดนกั้นเสียงอยู่ทำให้ไม่สามารถที่จะได้ยินสิ่งที่คุยกัน แต่ว่ามันคงไม่ใช่แค่การทำเพื่อกระชับมิตรภาพแน่ๆ
ความจริงที่ว่ามีผู้เข้าแข่งขันบางคนรวมกลุ่มกันทำการวางแผนการบางอย่าง ยิ่งทำให้ผู้เข้าแข่งขันรอบๆเกิดความหวาดระแวงอย่างมาก
ปฏิกริยาตอบกลับของผู้เข้าแข่งขันต่อสิ่งนี้สามารถแยกได้กว้างๆ 3 แบบ
พวกที่เตรียมตัวอยู่เงียบๆคนเดียว คิดว่ามันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเอง
พวกที่เดินทักคนอื่นไปมา เพื่อหาพรรคพวกของตัวเองเช่นกัน
สุดท้าย พวกที่มีจำนวนมากที่สุด「เอายังไงดี ควรจะหาพรรคพวกด้วยเหมือนกันดีไหมหว่า」ทำหน้าตากังวลอยู่แบบนั้นและมองไปรอบๆ…..
ท่ามกลางคนเหล่านั้น ผมเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มที่มีน้อยที่สุด ทำการเตรียมตัวอยู่เงียบๆ
เหตุผลนั้นก็ง่ายๆ พอมาถึงจุดนี้แล้ว จะรวมกลุ่มไปก็ไม่มีประโยชน์
พวกที่มีกลุ่มอยู่แล้ว คงจะรู้จักกันมาก่อนหน้างานแข่ง หรือไม่ก็มีการจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อตั้งทีมสำหรับงานแข่งนี้โดยเฉพาะ
พวกนั้นจะต้องทำข้อตกลงในเรื่องอย่างการแบ่งของรางวัลหลังจบการแข่ง เพื่อที่จะได้ทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ในอีกด้านหนึ่ง พวกที่เพิ่งจะมาจับกลุ่มกันวันนี้ก็เพิ่งจะได้เริ่มคุยเรื่องการแบ่งของรางวัล การแบ่งหน้าที่ และอื่นๆอีกหลายอย่าง ซึ่งต่อให้สามารถทำข้อตกลงออกมาได้ก็ไม่มีเครื่องยืนยันว่ามันจะถูกรักษาไว้ มีแต่ความเสี่ยงที่กลุ่มจะแตกคอกันเอง
ถึงจะชื่นชมในความคิดริเริ่มจากที่เห็นสถานการณ์ก็ตาม แต่นั่นมันก็ยังถือว่าตามหลังอยู่ 1 ไม่ก็มากถึง 2 ก้าวให้กับพวกที่จับกลุ่มมาก่อนหน้านี้แล้ว และก็ตามหลังอยู่ 1 ก้าวในด้านของการเตรียมตัวเตรียมใจเมื่อเทียบกับพวกที่ลุยเดี่ยวอย่างผม ซึ่งได้วางแผนและเตรียมตัวมาเพื่อเอาชนะด้วยกำลังของตนเอง
กับพวกสุดท้ายนี้ยิ่งแล้วไปกันใหญ่ พวกเขาไม่ได้วางแผนกลยุทธ์ที่จะเอาชนะด้วยการลุยเดี่ยว หรือว่าริเริ่มทำการจับกลุ่มขึ้นมาในทันที เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายอย่างแรกสุดคือการเอาตัวรอดในการแข่ง และสิ่งสำคัญที่สุดคือการไม่ทำให้การ์ดลอส
พวกนี้ถือว่าเป็นนักผจญภัย 3 ดาวที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดที่อยู่ ณ ที่นี้
เป็นอะไรไม่ได้มากไปกว่าเครื่องสังเวยที่ช่วยให้พวกที่จับกลุ่มและพวกลุยเดี่ยวได้ดาวเท่านั้น
ขณะที่กำลังมองดูรอบๆไปอยู่เช่นนั้น ชายหนุ่มที่แต่งตัวแปลกๆ ในมือถือกล้องวิดีโอที่ห้อยด้วยการ์ดของตัวเอง—-ที่คาดว่าน่าจะเป็นซิลกี้จากที่สวมชุดเมด—- เดินเข้ามาทางด้านนี้
「เอ~ อย่างที่คิดว่าทุกคนดูตึงเครียดกันมากกว่าปกติเลยน้า….. สงสัยจังว่าจะมีใครยอมมาคุยด้วยกันกับผมรึเปล่า อะ เจอคนดังแล้ว บางทีคนนั้นน่าจะไม่เป็นอะไร เดี๋ยวมาลองเรียกเขาดูละกันน้อ」
ในตอนที่รู้สึกลางไม่ค่อยดีจากคำพูดของเขาอยู่นั้น ชายที่ดูน่าจะเป็นดันเจี้ยนทูเบอร์ก็เริ่มพูดกับผม เขาแต่งตัวด้วยชุดที่ดูฉูดฉาด ผมเป็นโทนสีดำและสีแดง พร้อมกับสวมหน้ากากแฟนธ่อมตัวตลก
หมอนี่…..รู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ถึงจะไม่ได้แย่เท่าพวกที่ชอบใส่ไฟไปทุกเรื่อง แต่ก็มีไปเกี่ยวข้องกับเรื่องใส่ไฟอยู่เนืองๆ….. ใช่แล้ว เป็นดันเจี้ยนทูเบอร์ที่ชื่อ『โซโลม่อน』
「ดีคร้าบ! คิทากาว่าซังผู้ชนะงานทัวร์นาเมนต์โรงเรียนใช่รึเปล่าครับ? พอจะขอเวลาซักประเดี๋ยวได้ไหมเอ่ย?」
โซโลม่อนเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตรและสุภาพอย่างน่าแปลกใจ
ผมลังเลว่าจะตอบสนองกลับไปยังไงอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจตอบสนองไปตามปกติ
โซโลม่อนมีคนเกลียดเยอะก็จริง แต่ก็มีแฟนๆเยอะเหมือนกัน แทนที่จะเลือกตอบสนองไม่ดีใส่แล้วต้องเสี่ยงโดนเอาไปตัดต่อแบบมุ่งร้ายจนพวกแฟนๆมาไล่ตามเกลียด ก็ควรจะรับมืออย่างปลอดภัยให้มันผ่านๆไป
「เอ็ตโต…..ไม่เป็นไรครับ」
「ขอบคุณมากครับ! ความจริงแล้วกำลังถ่ายทำในฐานะดันเจี้ยนทูเบอร์อยู่ ถ้าเอาออกอากาศจะเป็นอะไรไหมครับ? แน่นอนว่าถ้าไม่สะดวกจะให้ตัดฉากนี้ทิ้งไปก็ได้ครับ」
「ก็ ถ้าเป็นก่อนจะเริ่มการแข่งก็ได้…..เอ็ตโต โซโลม่อนซังสินะครับ」
「โอ้! ได้ดูคลิปด้วยสินะครับ! ขอบคุณมาก~ แหม ดีใจจังเลย!」
ถ้าหากว่าเอ่ยชื่ออีกฝ่ายก่อนที่จะแนะนำตัวมาได้ก็เปรียบเสมือนเป็นการกล่าวชื่นชม เห็นได้ชัดว่าโซโลม่อนซังตื่นเต้นมากขนาดไหน
「ก็มีบ้างครับ เพียงแต่ช่วงนี้ออกจะยุ่งๆ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาจะดูซักเท่าไหร่」
「ไม่เลยครับ! แค่จำชื่อได้ก็ดีใจมากๆแล้ว! คิทากาว่าซังเนี่ยถูกพูดถึงอยู่หลายครั้งเลยน้า ตั้งแต่การค้นพบหวนคืนจิตวิญญาณ แล้วก็ยังคลี่คลายคดีร้ายแรงด้วย! …..วันนี้มีสมาชิกคนอื่นมาด้วยกันรึเปล่าครับเนี่ย」
「ไม่ครับ มีแค่ผม」
พอตอบไป โซโลม่อนก็ถอนหายใจโล่งอกออกมาเฮือกใหญ่
「อ่าห์! โล่งไปที! ก็แหม ถ้าสมาชิกที่จับผู้ใช้หมาล่าเนื้อได้มากันทุกคน ผมก็คงไม่มีทางชนะแน่นอน! แบบว่า แค่คิทากาว่าคุงคนเดียวก็เป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามแล้ว」
「แหม~ แค่เอาตัวเองเข้าเส้นชัยให้ได้ก็เต็มที่แล้วล่ะครับ」
「ไม่ไม่ไม่ไม่ ไม่จริงหรอก เป็นถึงตัวเต็งผู้ชนะเลยไม่ใช่เหรอครับเนี่ย!」
…..ตัวเต็งผู้ชนะ งั้นเหรอ
เนื่องจากว่านี่เป็นมอนโคโลประเภทหนึ่ง การดำเนินไปและผลลัพธ์ของมันจึงถูกใช้ในการพนัน
การพนันแบบพื้นฐานที่สุดก็คือ การแบ่งกลุ่มผู้เข้าแข่งขัน 100 คนออกเป็น 20 กลุ่ม พนันว่าจะมีใครซักคนในกลุ่มนั้นไหมที่จะได้ที่ 1 หรือติด 3 อันดับแรก ทำการคาดเดากันแบบนั้น
กลุ่มเหล่านี้ ประกอบไปด้วยผู้เข้าแข่งขันที่มีทั้งแข็งแกร่งและไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งอัตราต่อรองจะขึ้นอยู่กับความนิยมของผู้เข้าแข่งขันที่แข็งแกร่งแต่ละคน
10 คนที่มีความนิยมสูงที่สุด จะถูกมองเป็นตัวเต็งที่จะชนะการแข่งขันในครั้งนี้
…..จะว่าไปแล้ว 10 คนทั้งหมดนั้นเป็นคนที่ได้รับการแนะนำมาโดยทางรายการ ซึ่งผมได้รับความนิยมอยู่ประมาณอันดับที่ 3 ไม่ก็ 4 อย่างน้อยก็มีแววชนะ พอจะมีคนที่ยกให้เป็นตัวเก็งอยู่บ้าง
มีความนิยมพอประมาณ แต่ก็ไม่ถึงกับอยู่สูงที่สุด
โซโลม่อนพยายามยกผมให้สูงขึ้นเล็กน้อย
「…..นี่ออกจะเป็นคำขอร้องที่หน้าด้านไปซักหน่อยแต่ จะขอดูเด็คที่จะใช้ในวันนี้ได้รึเปล่าครับ?」
ขอร้องพร้อมกับพนมมือเข้ามาไว้ด้วยกัน
…..ในที่สุดหัวข้อหลักก็มาแล้วสินะ มันจะไปให้ดูได้ยังไงล่ะฟ่ะ ไอ้เบื๊อก!
ขณะที่สาปส่งอยู่ในใจก็-อืม-กอดอกแสร้งทำเป็นลำบากใจอยู่ครู่หนึ่ง
「………………..ไม่ล่ะ อย่างที่คิดว่าคงจะยาก」
「ได้โปรดเถอะครับ! สัญญาเลยว่าจะไม่บอกใครในการแข่งนี้! จริงๆนะ! ถ้าผิดสัญญาล่ะก็ จะเลิกเป็นดันเจี้ยนทูเบอร์เลย!」
แต่พอแข่งเสร็จก็จะไปอัพโหลดวิดีโอลงบนเน็ตอยู่ดี? จะบอกว่างั้นก็ได้
「ก็นั่นสิน้า~……….」
แล้วก็แกล้งทำเป็นลำบากใจไปอีกครู่หนึ่ง
「ไม่ล่ะ อย่างที่คิดว่าไม่ได้หรอก กับโซโลม่อนซังแล้วไม่ได้คิดจะดูถูกอะไรเลย อันที่จริงคิดว่าเป็นคู่แข่งตัวเป้งเลยด้วยซ้ำ」
「ไม่ไม่ไม่ ผมน่ะไม่ได้ใกล้เคียงกับคิทากาว่าคุงเลย จริงๆนะ! ถ-ถือว่าต่อให้ไง! แถมผู้ชมที่ดูอยู่ก็จะดีใจมากๆไปด้วย!」
พูดอะไรมาไม่คิด จะให้เผยไพ่ในมือเพื่อเรียกเรตติ้งของวิดีโอของแกงั้นเหรอ เพราะแบบนี้แหละถึงเกลียดดันเจี้ยนทูเบอร์
เนื่องจากมีอิทธิพลและอำนาจในการเผยแพร่มากเกินจำเป็น เพราะงั้นจึงยุ่งยากสุดๆ
「แต้มต่อเนี่ย กลับกันแล้วช่วยเอามาให้ทางนี้จะดีกว่าอีกนะ」
「ทำไมต้องต่อให้กับคนที่ระดับสูงกว่าด้วยล่ะครับ! งั้นเหรอ เพราะว่าเป็นคู่แข่งกันก็เลยลำบากใจที่จะเอามาให้ดู ถ้างั้นล่ะก็ไม่มาร่วมทีมกับผมล่ะ? ถ้าพวกเราร่วมมือกันจะต้องได้ที่ 1 กับที่ 2 แน่นอนเลย!」
……….งั้นเหรอ หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่เล็งเอาไว้แล้วตั้งแต่แรก?
เหลือบไปมองดูทางสต๊าฟของรายการ…..อีกแค่นิดเดียวงั้นรึ
「อืม พอไปร่วมมือกับคนอื่นแล้ว เวลาแบ่งของรางวัลกันมันก็ออกจะยุ่งยากไม่ใช่เหรอ?」
「ถ้างั้นก็แบ่งกันคนล่ะครึ่งเท่าๆกัน รายละเอียดค่อยมาคุยกันไประหว่างดีไหม?」
แล้วโซโลม่อนก็เสนอให้แบ่งกันคนละครึ่ง ดูจะพยายามใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนโยนทิ้งเลย อย่างที่คิด อันนี้เป็นอันที่เล็งเอาไว้ของจริง
「อืม……….」
แล้วผมก็ทำการกอดอกแกล้งทำเป็นคิดอีก จนดูเหมือนโซโลม่อนจะยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะได้ยินเสียงในใจของเขาว่า「เลิกคิดมากได้แล้วเจ้าบ้า! ถ้าเป็นนักผจญภัยล่ะก็ ตัดสินใจให้มันเร็วๆหน่อยสิฟ่ะ」
ซึ่งนี่ก็เป็นการถ่วงเวลาอย่างโจ่งแจ้งของผม
『ถึงผู้เข้าแข่งขันที่มารวมตัวกันอยู่ทุกท่าน! จากนี้ไปจะขอทำการแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่ง และการเปลี่ยนแปลงกติกาบางอย่าง ช่วยกรุณาเงียบด้วยครับ』
ในที่สุด ก็ได้เวลาในการเริ่มต้นการแข่ง
「อะ ดูเหมือนว่าจะหมดเวลาแล้วล่ะ ขอโทษด้วย แต่คงไม่ได้คุยเรื่องร่วมมือกันแล้วล่ะ แล้วเจอกัน!」
「……………ชิ」
เมินเสียงเดอะลิ้นของเขาที่ดังแว่วมา แล้วผมก็เดินออกจากตรงนั้นด้วยสีหน้าสบายใจ
『ต้องขอขอบคุณที่ได้มารวมตัวกันในวันนี้ ก่อนหน้าที่จะเริ่มต้นการแข่ง ทางเรามีความจำเป็นต้องขออธิบายบางอย่างเพิ่มเติม จะขอทำการอธิบายเลยนะครับ ก่อนอื่น กรุณารับอุปกรณ์เวทที่จะเอาไว้ใช้ภายในการแข่งครั้งนี้ด้วยครับ』
เมื่อพิธีกรชายพูด วัตถุทรงกลมขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอลติดใบพัดก็ลอยเข้ามาหาผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน
ทรงกลมที่ลอยเข้ามาหาผม ปล่อยบางสิ่งที่ดูคล้ายกับนาฬิกาข้อมือลงบนฝ่ามือผม แล้วมันก็มาลอยอยู่รอบๆตัวผม
『ที่ส่งไปให้กับทุกท่านในตอนนี้คือคาเมร่าอาย ที่เอาไว้ใช้ถ่ายภาพแล้วส่งมาให้กับทางผู้จัดรายการครับ ตามที่ได้มีแจ้งเอาไว้ในหนังสือกติกา ถ้าหากมันเกิดเสียหายขึ้นมาล่ะก็ กรุณานำส่งคืนที่จุดเช็คพ้อยท์ก่อนหน้าในทันที โปรดทราบไว้ด้วยว่า หากไปยังจุดเช็คพ้อยท์ถัดไปในขณะที่คาเมร่าอายเสียหายอยู่จะไม่ถูกนับครับ เอาล่ะ เช่นนั้นแล้วกรุณาสังเกตุไปที่อุปกรณ์เวทรูปนาฬิกาที่อยู่ในมือด้วยครับ』
เมื่อพิธีกรชายแนะนำ ก็ลดสายตามองไปที่มือ อุปกรณ์เวทรูปนาฬิกามีดีไซน์เรียบง่ายทำจากเงิน ส่วนที่น่าจะเป็นนาฬิกามีคริสตัลทรงเหลี่ยมสีดำติดตั้งเอาไว้
บอกว่าเป็นอุปกรณ์เวท แล้วมันใช้งานยังไงหว่า
『อุปกรณ์เวทส่วนนี้ คือผลิตภัณฑ์ใหม่จากเอเมอรัลแท็บเล็ต(Emerald Tablet) ที่เรียกว่าการ์ดเกียร์ สำหรับการอธิบายรายละเอียดของแต่ละฟังก์ชัน ทางผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้อยู่ที่นี่แล้ว จากตรงนี้ไปครับ』
พิธีกรชายก้าวถอยไป แล้วสาวสวยในชุดสูธทำงานก็ก้าวขึ้นมาบนเวที
บริษัทเอเมอรัลแท็บเล็ต….. บริษัทที่พัฒนาและจัดจำหน่ายอุปกรณ์เวทสังเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ทั้งจี้ปรับอากาศ, เครื่องปั่นไฟพลังหินเวท, กับชุดว่ายน้ำนางเงือก ที่ผมได้มาจากแพ็ค ล้วนแล้วพัฒนาและจำหน่ายด้วยบริษัทนี้
『เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเอเมอรัลแท็บเล็ต ดิฉันซากาว่า ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ จะขอเริ่มทำการอธิบายเกี่ยวกับการ์ดเกียร์(Card Gear)ค่ะ ก่อนอื่น เพื่อที่จะเปิดใช้งาน กรุณาหยดเลือดของตนเองลงไปบนคริสตัล ที่บริเวณด้านข้างอุปกรณ์เวทจะมีเข็มถูกเก็บเอาไว้อยู่ค่ะ』
จากคำบอกของซากาว่าซัง เหล่าผู้เข้าแข่งขันก็พากันขมวดคิ้วแต่ก็ยอมเอาเข็มมาจิ้มนิ้วแล้วหยดเลือดลงบนคริสตัลแต่โดยดี ในจุดนี้ ไม่มีนักผจญภัยคนไหนจะมาบ่นกับอีแค่เอาเข็มมาเจาะเลือดอีกแล้ว
พอพวกเราหยดเลือดเสร็จ คริสตัลของการ์ดเกียร์ก็ฉายภาพ 3 มิติขนาดความสูง 30 ซม. กว้าง 20 ซม. ขึ้นมา
ถึงกับ「โอ้ว!」อุทานขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ แบบว่าอย่างเท่ ให้ความรู้สึก SF สุดๆเลย!
ภาพ 3 มิติแสดงให้เห็นไอคอนต่างๆขึ้นเรียงรายเหมือนกับสมาร์ทโฟน
『ถัดไป กรุณานำการ์ดของแต่ละท่าน 1 ใบแตะบนคริสตัลค่ะ เพียงแค่ครู่เดียวก็ได้』
แล้วผมก็ลองเอาการ์ดของเร็นกะไปแตะคริสตัล
และแล้ว…..
『…..มู!? นี่มัน…..』
「เร็นกะ!?」
ร่างกายท่อนบนของเร็นกะ ถูกฉายขึ้นมาบนภาพ 3 มิติ
『มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?』
『ไม่รู้สิ…..รู้สึกเหมือนว่าจู่ๆ ก็มีหน้าต่างไปสู่ภายนอกโผล่ขึ้นมาภายในการ์ด』
อย่างงี้นี่เอง…..เป็นอุปกรณ์เวทที่ช่วยให้สามารถพูดคุยกับการ์ดได้โดยไม่ต้องอัญเชิญ นี่มันสะดวกดีแหะ
ขณะที่กำลังคิดอยู่แบบนั้น ซากาว่าซังก็ได้พูดบางอย่างที่ทำเอาลืมหายใจไปเลย
『ด้วยการ์ดเกียร์นี้ จากที่เมื่อก่อนจะสามารถทำการสื่อสารกับการ์ดได้แค่ภายในเขาวงกตเท่านั้น แต่ในตอนนี้ แม้จะอยู่ภายนอกเขาวงกต ก็สามารถทำการสื่อสารกับการ์ดได้ค่ะ』
—–อื้ออึง-!
ภายในสถานที่ เต็มไปด้วยความตื่นเต้นในทันที
เมื่อกี้ พูดว่าไงนะ? บอกว่าแม้จะอยู่ภายนอกเขาวงกตก็สามารถพูดคุยกับการ์ดได้งั้นเหรอ?
『การ์ดเกียร์ นำพาคุณเข้าใกล้การ์ดยิ่งขึ้น…..เป็นอุปกรณ์ของนักผจญภัยรุ่นถัดไปที่ถูกพัฒนาขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์นี้ ณ ปัจจุบัน จำนวนของการ์ดที่สามารถลงทะเบียนได้จะอยู่ที่ 8 แต่ก็มีแผนที่จะค่อยๆเพิ่มจำนวนตัวเลขนี้อยู่ค่ะ
นอกเหนือไปจากความสามารถสื่อสารกับการ์ดแล้วก็ยังมีฟังก์ชันอีกหลากหลาย เช่น ฟังก์ชันวาดแผนที่อัตโนมัติในเขาวงกต, ฟังก์ชันส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือที่เทียบเท่ากับใบอนุญาต, และฟังก์ชันการสื่อสารกับผู้ครอบครองการ์ดเกียร์คนอื่นที่อยู่ภายในเขาวงกตเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่มีการใช้เครื่องจักรใดๆ เป็นอุปกรณ์เวทสังเคราะห์ชนิดใหม่ที่ไม่สามารถถูกทำลายด้วยทำลายเครื่องจักรของเกรมลินค่ะ』
อย่างงี้, นี่เอง…..เป็นงั้นเอง, สินะ
ฟังก์ชันวาดแผนที่อัตโนมัติในเขาวงกต, ฟังก์ชันส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ…..แล้วก็ คุณสมบัติที่ไม่ถูกทำลายโดยเกรมลิน
เห็นได้ชัดเลยว่า เป็นอุปกรณ์เวทที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีผลพวงมาจากเหตุการณ์ของผู้ใช้หมาล่าเนื้อ
บางทีแล้ว มันอาจจะไม่ได้ถูกพัฒนาโดยแค่บริษัทเอเมอรัลแท็บเล็ต แต่เบื้องหลังคงมีทางประเทศ…..เทคโนโลยีทางทหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
มาตรการรับมือทำลายเครื่องจักรของเกรมลินหรือจากสิ่งอื่นๆที่มีความคล้ายคลึงกันนั้น เป็นโจทย์ท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของทางทหารในแต่ละประเทศ
ถ้าหากว่าเป็นแค่เกรมลินแล้ว ก็แค่มองหาให้เจอแล้วทำลายมันไปก่อนก็ได้ แต่ทว่าในเขาวงกตแรงค์ C เป็นต้นไป เป็นเรื่องไม่แปลกที่ตัวชั้นเองจะมีส่งผลทำลายเครื่องจักรออกมา เพียงแค่มีผลทำลายเครื่องจักรขึ้นมาไม่กี่ชั้น ความยากในการพิชิตมันก็พุ่งทะยานแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าประเทศไหนก็ค้นคว้าหาวิธีที่จะเอาไว้ป้องกันการทำลายเครื่องจักร จัดให้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ที่มีแนวโน้มใกล้เคียงมากที่สุดในเรื่องนี้ ก็คือการสร้างอุปกรณ์เวทสังเคราะห์โดยไม่พึ่งพาการควบคุมจากเครื่องจักร
ในปัจจุบัน อุปกรณ์เวทสังเคราะห์ที่ถูกสร้างขึ้นนั้น โดยมีข้อยกเว้นเพียงแค่อุปกรณ์เวทที่ได้มาจากเขาวงกตแล้วนำมาปรับเปลี่ยนแก้ไขเล็กน้อย แทบทั้งหมดจะมีแผงวงจรและไมโครชิพเอาไว้เพื่อการควบคุม
ในตอนที่มีการประกาศว่า「ในที่สุดมนุษยชาติก็สามารถสร้างอุปกรณ์เวทขึ้นมาได้ด้วยตัวเองแล้ว!」เป็นข่าวใหญ่ครึกโครม แต่ก็น่าเสียดายที่ปัญหาสำคัญอย่างการป้องกันการทำลายเครื่องจักรไม่ได้ถูกแก้ไข
ไม่กี่ปีหลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าจะสามารถสร้างอุปกรณ์เวทสังเคราะห์โดยที่ไม่ใช่เครื่องจักรขึ้นมาได้ ณ จุดๆหนึ่ง
แล้วจนถึงตอนนี้ มันก็น่าจะถูกผูกขาดโดยทางกองทัพ แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์คดีขึ้นมา ทางรัฐบาลจึงมีแนวโน้มตัดสินใจนำมันออกมาสู่พลเรือน
นี่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์ผู้ใช้หมาล่าเนื้อมากแค่ไหน
แต่ว่า ไหนจะจ่ายค่าตัวในการเข้าร่วมคนละ 10 ล้านให้กับนักผจญภัย 100 คน แล้วยังมีของรางวัลสำหรับผู้ชนะมูลค่าเกือบ 1,000 ล้าน คิดอยู่ว่าถึงแม้จะเป็นแคทไฟท์ แต่ก็ออกจะใจป้ำน่าดู….. อย่างงี้นี่เอง มีรัฐบาลกับเอเมอรัลแท็บเล็ตเป็นสปอนเซอร์ช่วยหนุนหลังอยู่นี่เอง
เป็นไปได้ว่าการแข่งนี้ก็ด้วย เป็นการทดสอบขั้นสุดท้ายเพื่อดูว่าการ์ดเกียร์จะทำงานได้อย่างราบรื่นไหม และยังเป็นการโฆษณามันไปด้วย
『การ์ดเกียร์ที่ถูกมอบให้กับทุกท่านนี้ ยังเป็นตัวต้นแบบที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่ว่าฟังก์ชันต่างๆนั้นมีเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอ็นด์ ถ้าหากว่าชอบล่ะก็ ช่วยกรุณาอุดหนุนรุ่นที่จะออกเป็นทางการด้วยนะคะ』
ซากาว่าซังถอยกลับไป แล้วพิธีกรก็เดินขึ้นมาแทนที่อีกครั้ง
『การ์ดเกียร์ตัวต้นแบบนี้ จะสามารถใช้งานได้กับผู้ที่ลงทะเบียนเอาไว้ด้วยเลือดเท่านั้น ดังนั้นการ์ดเกียร์ที่ถูกมอบให้ภายในวันนี้ เป็นสิ่งสมนาคุณที่ทางเอเมอรัลแท็บเล็ตมอบให้ฟรีแก่ทุกท่านครับ』
โอ้~! เสียงเชียร์และเสียงปรบมือดังกระหึ่มถูกส่งไปทางซากาว่าซังบนเวที ส่วนเธอก็โค้งศรีษะให้อย่างเขินๆ
การที่ได้ของมาก่อนที่มันจะปล่อยวางขาย…..แค่นี้ก็ทำให้ดีใจมากแล้ว
『เช่นนั้นแล้ว จะขอกลับสู่การอธิบายส่วนที่เหลือของการแข่งครับ ในการแข่งนี้ จะสามารถใช้การ์ดเกียร์เพื่อทำการเลือก『สู้หรือหนี』รวมทั้งใส่จำนวนดาวที่ต้องการเดิมพันลงไปได้ อีกทั้งแอปแผนที่ยังช่วยแสดงระยะทางและทิศทางไปสู่จุดเช็คพ้อยท์กับจุดคำใบ้ ดังนั้นแล้วโปรดใช้มันเพื่อมุ่งสู่เส้นชัยด้วยครับ』
แล้วเขาก็อธิบายรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ในการใช้งานการ์ดเกียร์ จากนั้นก็พูดเกี่ยวกับสถานที่สำหรับการแข่ง
『ก่อนอื่น เกี่ยวกับเขาวงกต 2 แห่งที่ทุกท่านจะต้องทำการสำรวจ…..แห่งแรก คือเขาวงกตประเภททะเลตอนกลางวัน ลาคัวร์ ที่อยู่ใกล้กับโตเกียวโดมซิตี้แห่งนี้ ส่วนอีกแห่งนั้น จะอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ใกล้กับสถานีโตเกียว เป็นเขาวงกตประเภทชั้นใต้ดิน』
ขณะที่พูด ก็ลองดูข้อมูลสถานที่ซึ่งถูกส่งเข้ามาในแอปแผนที่…..เขาวงกตประเภทชั้นใต้ดิน ขาไปรวมเวลาทั้งรถไฟและเดินเท้า ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เจ้าเขาวงกต 2 แห่งนี้ ถึงแม้จะลองค้นหาจากในแอปของกิลล์ก็ไม่มีข้อมูลแนวทางในการพิชิตอยู่เลย หรือก็คือ พวกมันเป็นเขาวงกตลับที่ไม่เปิดให้แก่สาธารณะ
คงคาดการณ์ไว้ว่าถ้าเปิดเขาวงกตสู่สาธารณะแล้ว มันคงก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา แต่ตอนนี้คงตัดสินใจลงมาแล้ว
แถมด้วย นี่ไม่เหมือนเขาวงกตลับระดับล่างที่มีมูลค่าเล็กน้อยและเปิดเฉพาะกับนักผจญภัยมืออาชีพ แต่เป็นเขาวงกตลับขนานแท้ที่ถูกผูกขาดโดยทางประเทศ…..
รู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นของเหล่านักผจญภัยที่อยู่ในสถานที่กำลังพุ่งสูงขึ้น การที่สามารถลงสำรวจเขาวงกตลับที่ถูกซ่อนไว้อย่างสมบูรณ์ ถ้าหากเป็นนักผจญภัยแล้วล่ะก็ เป็นปกติที่จะรู้สึกตื่นเต้นถึงแม้จะไม่มีการแข่งมาเกี่ยวข้องก็ตาม
『เขาวงกตเหล่านี้มีค่อนข้างมีความพิเศษอยู่ ในเขาวงกตทะเลจะมีวีเวิร์น(Vouivre)*ปรากฏตัว และในเขาวงกตชั้นใต้ดินจะมีคาบังเคิลปรากฏหลายตัวในแต่ละชั้น』
โอ่ยโอ่ย…..! วีเวิร์นเนี่ยเอาจริงดิ!
วีเวิร์นนั้น ถ้าให้พูดอีกอย่างก็คือมอนสเตอร์ที่เป็นการอัพเกรดของคาบังเคิลทุกอย่าง เมื่อถูกจัดการลง จะช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ให้แก่มอนสเตอร์ที่เข้าร่วมต่อสู้ไปจนถึงขีดจำกัด และดรอปเพชรที่ที่อยู่บนหน้าผากให้อย่างแน่นอน
เจ้าเพชรนี้ถูกเรียกว่าเพชรวีเวิร์น มีมูลค่าแลกเปลี่ยนขั้นต่ำอยู่ที่ 100 ล้านเยน หากมอบให้แก่การ์ดจะสามารถเรียนรู้สกิลที่ช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ให้ได้
『เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางเราได้คาดการณ์ถึงความปั่นป่วนที่จะเกิดในการต่อสู้กับจ้าวเอาไว้ จึงจะทำการมอบเวลาโบนัสให้แก่ผู้เข้าแข่งขันท่านแรกที่มาถึงชั้นสุดท้ายของแต่ละเขาวงกตเป็นเวลา 1 ชม. ระหว่างช่วงเวลาโบนัสนี้ ผู้เข้าแข่งขันท่านต่อไปจะไม่สามารถเข้าไปยังชั้นสุดท้ายได้ ต่อให้จ้าวถูกจัดการลงก่อนเวลา 1 ชม. การปิดกั้นนี้ก็จะไม่ถูกยกเลิกไป ในทางกลับกันหากจ้าวยังไม่ถูกจัดการลงภายในเวลา 1 ชม. ผู้เข้าแข่งขันที่มาท่านแรกจะถูกเชิญให้ออกมาจากชั้นสุดท้าย แล้วปล่อยให้เป็นตาของผู้เข้าแข่งขันลำดับที่ 2 แทน』
หรือก็คือ ถ้าสามารถจัดการลงได้ภายในพริบตาเดียว ก็จะมีเวลานำหน้าคู่แข่งไปได้ถึง 1 ชม.
นับว่าเป็นข้อดีมหาศาลในการขึ้นนำ
มันคงไม่ต้องคิดถึงกรณีหลัง เพราะผู้เข้าแข่งขันที่สามารถมาถึงคนแรกได้นั้น จะต้องมีระดับที่เก่งกาจมากพอจะจัดการจ้าวลงอยู่แล้ว
『ทั้งนี้ ทางเราจะรับแลกซื้อเพชรวีเวิร์นด้วยดาว 100 ดวง, ส่วนคาบังเคิลโกเมนจะรับแลกซื้อด้วยดาว 2 ดวง แน่นอนว่า จะนำกลับบ้านโดยไม่แลกซื้อก็ได้เช่นกันครับ』
เพชรได้ดาว 100 ดวง, โกเมนได้ดาว 2 ดวง ถ้าคำนึงถึงเรื่องคาบังเคิลปรากฏหลายตัวในแต่ละชั้น และเขาวงกตมีมากกว่า 25 ชั้นแล้วล่ะก็ จำนวนดาวทั้งหมดที่ได้น่าจะมีมากกว่าในเขาวงกตชั้นใต้ดิน
แต่ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน การจะผูกขาดคาบังเคิลทั้งหมดก็คงเป็นไปไม่ได้
ควรจะตั้งเป้าที่เพชรวีเวิร์นเพื่อดาว 100 ดวงคนเดียวดี, หรือว่าจะไปเขาวงกตชั้นใต้ดินเพื่อเอาส่วนแบ่งบ้างดี…..
『นั่นคือทั้งหมดของคำอธิบาย การแข่งจะเริ่มต้นในอีก 5 นาที ที่เวลา 10.00 น. พอดีครับ』
เมื่อพูดจบ พิธีกรก็เดินถอยกลับไป เหล่านักผจญภัยก็ทำการตรวจเช็คความพร้อมครั้งสุดท้าย ส่วนที่จับกลุ่มกันก็ทบทวนกลยุทธ์ระหว่างกัน
โดยเฉพาะพวกที่จับกลุ่มกัน ที่เมื่อข้อมูลที่เปิดเผยออกมาทำให้เกิดความปั่นป่วนในกลยุทธพื้นฐานที่วางไว้ ดูจะเกิดอาการลุกลี้ลุกรนขึ้นมาเล็กน้อย
แต่ความปั่นป่วนนั้นก็ค่อยๆสงบลงเมื่อเวลาใกล้มาถึงเรื่อยๆ แล้วพอเหลือเวลาอีก 30 วินาที ทุกอย่างก็เงียบสนิท
…..10, 9, 8, 7, 6, 5, 4, 3, 2, —-1
『RACE! STAR—–T!』
เสียงระฆังดังก้องกังวาล เหล่าผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดเริ่มออกวิ่งอย่างพร้อมเพรียงกัน
【Tips】บริษัทเอเมอรัลแท็บเล็ต
บริษัทที่พัฒนาและจัดจำหน่ายอุปกรณ์เวทที่มีส่วนแบ่งการตลาดใหญ่ที่สุดในประเทศ อุปกรณ์เวทสังเคราะแทบทุกอย่างที่มาโร่ได้มาจากแพ็คในครั้งนี้นั้นก็ถูกสร้างโดยบริษัทนี้ นอกเหนือไปจากอุปกรณ์เวทแล้ว ยังจัดจำหน่ายสินค้าของนักผจญภัยอีกมากมาย
ด้วยสโลแกน『ทำโลกใบนี้ให้น่าอยู่ขึ้น』มุ่งเป้าที่จะสร้างอุปกรณ์ให้มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันอย่างใกล้ชิด ได้รับความไว้วางใจจากผู้คน แต่ก็มักจะมีข่าวลือมืดมนมากมายที่เกิดขึ้นอยู่เบื้องหลัง
มีการร่วมมืออย่างลับๆกับทางรัฐบาลมาได้ช่วงเวลาหนึ่งแล้ว เพื่อพัฒนาอุปกรณ์เวทที่ไม่สามารถถูกทำลายได้โดยทำลายเครื่องจักร และในครั้งนี้ก็ได้ประกาศเปิดตัวการ์ดเกียร์ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของความพยายามนั้น
การแข่งนี้นับว่าเป็นการโฆษณาให้กับสิ่งนั้นไปด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม
วีเวิร์น / Vouivre
https://amorerana.com/articles/detail/vouivre
MANGA DISCUSSION